Group Blog
 
All blogs
 

Preview: ทำความรู้จักกับสกินแคร์ Premedica มากัน6ชิ้นเลยจ้า




บล็อกวันนี้จะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับสกินแคร์แบรนด์ Premedica กันค่ะ เชื่อว่าคงจะเห็น
โฆษณาทางทีวีกันไปบ้างแล้ว วันนี้ทรายจะพาไปรู้จักกันเกือบหมดทั้งแบรนด์เลย
(เค้ามี8ผลิตภัณฑ์ ทรายหยิบมา6เกือบหมดละ) ให้ได้รู้จัก ได้เห็นกันเบื้องต้น เผื่อเป็น
ข้อมูลสำหรับการตัดสินใจซื้อของเพื่อนๆที่กำลังมองหาสกินแคร์สำหรับ ผิวที่ต้องการ
จะลดเลือนริ้วรอย และช่วยให้คลายความหมองคล้ำนะคะ


ส่วนตัวทรายเห็นแบรนด์นี้จำหน่ายในร้านวัตสันค่ะ ราคาน่ารักไม่เกิน600บาทค่ะ และ
แบรนด์นี้ยังเป็นแบรนด์ที่ผลิตในประเทศเกาหลี ผ่านมาตรฐานการผลิตของเกาหลีค่ะ
เค้าเคลมว่าสกินแคร์ของเค้า มีผู้ทดลองใช้แล้วเห็นผลจริง และได้รับการพิสูจน์แล้ว
โดยเครื่องมือจากสถาบันวิจัย และโดยแพทย์ผิวหนังว่าปลอดภัย ไม่ระคายเคืองผิว

จริงๆจากข้อมูลเค้ามีวางขายหลายที่แหละ ในท็อปส์ โลตัสใหญ่ๆ วัตสัน ร้านขายยาฟาสิโน่
P&F, Vitamin Club, Health Up, eXta ร้านขายยาในเซเว่นก็มีค่ะ ทรายไม่เคยไปดูนะ





Premedica เค้าจะแบ่งผลิตภัณฑ์ของเค้าออกเป็น 2 กลุ่มคือ

- กลุ่ม Preventiv™ กลุ่มนี้จะเป็นขั้นตอนสำหรับการดูแลปรนนิบัติผิว ฟื้นบำรุง ชะลอ
ปัญหาผิวที่กำลังจะเกิดขึ้น ดูแลถนอมรักษาผิวไว้ และช่วยลดปัญหาเล็กๆแรกเริ่ม
เรียกง่ายๆว่ากลุ่ม ดูแลปกป้องผิว
- กลุ่ม Corrective™ กลุ่มนี้จะเป็นขั้นตอนของการลดเลือนปัญหาผิวที่เกิดแล้ว ในระดับ
ล้ำลึก ด้วยการฟื้นบำรุงเต็มประสิทธิภาพ เรียกง่ายๆว่ากลุ่ม แก้ไขฟื้นฟูผิว


แบรนด์นี้จัดอยู่ในประเภทของ “เวชสำอางบำรุงผิว” นะคะ โดยการคิดค้นและพัฒนา
ร่วมกันระหว่างแพทย์ผิวหนัง เภสัชกร และผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ และสกินแคร์
โดยมีทั้งชาวเกาหลี และชาวไทย ร่วมกันคิดค้นขึ้นมา ทีนี้มาดู 6 ชิ้นที่ทรายบอกกันดีกว่า


Photobucket


สิ่งนี้คือ 6 ชิ้นผลิตภัณฑ์ Premedica ที่ทรายเอาข้อมูลมาให้เพื่อนๆได้ทำความรู้จัก
และเห็นของจริง เนื้อจริงก่อนจะดัดสินใจซื้อนะคะ จริงๆทางแบรนด์แจ้งว่าเค้าจะมี
พนักงานแนะนำสินค้าประจำอยู่ที่จุดขายด้วย แต่ไม่ได้มีทุกที่ๆขาย เค้าจะเวียนกันไป
ตามสาขาต่างๆ แต่ถ้าในวัตสันและร้านขายยาต่างๆ ที่มีวางจำหน่าย เค้าจะมีการอบรบ
พนักงานของทางร้านโดยเภสัชกรของเค้า ให้ทราบข้อมูลและสามารถแนะนำสินค้าได้
หรือหากไปซื้อตามร้านขายยา ตัวเภสัชกรเองก็จะได้รับข้อมูลที่เหมาะสมสามารถแนะนำ
ลูกค้าได้อย่างถูกต้องค่ะ

แต่สำหรับทรายที่เป็นสาวไซเบอร์มาหลายปี คิดว่าการจะเลือก ซื้ออะไรสักอย่าง
เราหาข้อมูลไปก่อนก็ดีนะคะ เป็นการตัดสินใจเบื้องต้น รวบรวมข้อมูล จากนั้นไปดู
ของจริง ไปขอข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ และตัดสินใจขั้นสุดท้าย ทรายคิดแบบนี้นะ
ดังนั้น หวังว่าข้อมูลที่รวบรวมมานี้จะเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆที่กำลังมองหาข้อมูลอยู่นะคะ


Photobucket


กลุ่มแรกที่เราจะมาพูดถึง จะเป็นตัวบำรุงผิวเช่น เซรั่ม มอยเจอร์ ไนท์ครีม ทรายแบ่งเป็นสีๆนะคะ


Photobucket


ตัวแรกนะคะ Premedica Anti- Wrinkle and Whitening Intensive Serum เซรั่มบำรุงผิว
สำหรับผิวที่มีริ้วร้อยและผิวหน้าหมองคล้ำ ขนาด 30g. ราคา 450 บาท (Corrective™)

เค้าบอกว่าคุณสมบัติเด่นของตัวนี้คือ เป็นเซรั่มที่เข้มข้นด้วยสารสกัดความเข้มข้นสูงที่จะ
ช่วยเสริมสร้างโปรตีนในผิว จะช่วยดูแลเรื่องริ้วรอย จุดด่างดำ ให้ผิวเปล่งปลั่ง กระจ่างใส


มีส่วนผสมหลักคือ ( ใส่ไว้สำหรับคนที่สนใจอ่านนะคะ ทรายอ่านส่วนผสมไม่เป็นนะ)

- Adenosine เป็นสารตั้งต้นในการสร้างโปรตีนในเซลส์ผิว ช่วยดูแลผิวที่เสื่อมสภาพ
หรือมีริ้วรอยให้กลับมาแข็งแรง ดูเรียบเนียนขึ้น
- Centella Extract ตัวนี้จะช่วยซ่อมแซมและบำรุงความชุ่มชื้นให้ผิวที่มีริ้วรอย
และมีสาเหตุมาจากการเสื่อมสภาพของผิวกลับมาดูแข็งแรง สุขภาพดี
- Olive Fruit Extract มีคุณสมบัติคือเป็นแอนตี้ออกซิแดนซ์ ที่ช่วยบำรุงผิวให้แลดู
กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

วิธีใช้ : ใช้ก่อนผลิตภัณฑ์บำรุงอื่นๆทุกประเภท (ก่อนมอยเจอร์/ก่อนไนท์ครีม)

เนื้อผลิตภัณฑ์ : ลักษณะเป็นเจลใสๆ ให้ความรู้สึกว่ามีน้ำเป็นส่วนผสมเยอะ พอนวดแล้ว
จะให้ความรู้สึกชุ่มๆเบาๆ ให้ความรู้สึกเย็นสบาย ซึมไว ไม่เหนอะ


Photobucket


ตัวที่สอง Premedica Collagen White Anti-Wrinkle and Whitening Moisturizer SPF15
มอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวกลางวัน คอลลาเจนไวท์ สูตรลดเลือนริ้วรอย และเพื่อผิวกระจ่างใส
ขนาด 65g. ราคา 475 บาท (Preventiv™)

คุณสมบัติเด่นของตัวนี้คือ เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับบำรุงผิวในตอนกลางวันโดยเฉพาะ
และมีสารบำรุงผิวเพื่อดูแลปัญหาริ้วรอยถึง 3 ประสิทธิภาพคือ คิวเท็น คอลลาเจน และ
สารสกัดโบท็อกซ์จากธรรมชาติ ซึ่งมีการทำงานคือช่วยลดริ้วรอยจากการเคลื่อนไหวบนใบหน้า
และจากการเสื่อมสภาพของผิว พร้อมทั้งป้องกันการเกิดริ้วรอยจากอนุมูลอิสระ ให้ผิวกระจ่างใส
ชุ่มชื้น และปกป้องผิวจากรังสียูวี

มีส่วนผสมหลักคือ

- Hydrolyzed Collagen ไฮโดรไลซ์คอลลาเจนจะช่วยให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น ชุ่มชื้นและบำรุง
ให้ผิวที่มีริ้วรอย กลับมาแลดูเนียนเรียบเปล่งปลั่งอีกครั้ง
- Coenzyme Q10 จะช่วยบำรุงผิวให้แลดูสดใส ผิวดูเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ
- Argiriline ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า ที่มีสาเหตุมาจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อที่หดตัว
- Poncirus Trifoliata Extract บำรุงผิวหมองคล้ำให้กลับมาดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

วิธีใช้ : ใช้บำรุงตอนกลางวัน (ลงหลังเซรั่ม)

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อครีมไม่ข้นมาก นวดแล้วแตกตัวให้ความรู้สึกนุ่ม ชุ่มชื้น ซึมเร็วดีค่ะ
แนะนำว่าใช้1หน้า แค่1ปั๊มก็น่าจะพอ เนื้อครีมนวดแล้วค่อนข้างกระจายตัวได้ดีเลย



Photobucket


ตัวที่สาม Collagen White Anti-Wrinkle and Whitening Night Cream ครีมบำรุงกลางคืน
คอลลาเจนไวท์ สูตรลดเลือนริ้วรอย เพื่อผิวกระจ่างใส ขนาด50g. ราคา595 บาท (Preventiv™)


คุณสมบัติเด่นของตัวนี้คือ ประกอบไปด้วยประสิทธิภาพจากคอลลาเจนวิตามินบี3 ที่จะช่วยดูแล
ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำบนใบหน้า และปรับผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใส มอบความชุ่มชื้นอย่าง
ล้ำลึกตลอดคืนและซ่อมแซมผิวระหว่างหลับ ด้วยเนื้อครีมที่นุ่ม เบา เนียนละเอียด

มีส่วนผสมหลักคือ

- Hydrolyzed Collagen จะช่วยให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น ชุ่มชื้นและบำรุงให้ผิวที่มีริ้วรอยกลับมา
ดูเนียน สดใส เปล่งปลั่ง
- Andenosine เสริมสร้างโปรตีนในเซลส์ผิว ดูแลผิวที่เสื่อมสภาพ มีริ้วรอย ให้กลับมาแข็งแรง
- Vitamin B3 ช่วยลดการสะสมของเม็ดสีผิว บำรุงผิวหน้าให้กระจ่างใส ขาวอย่างเป็นธรรมชาติ

วิธีใช้ : ใช้บำรุงตอนกลางคืน (ลงหลังเซรั่ม)

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อครีมเป็นสีครีมไข่ นุ่มมากกกกก เนื้อละเอียดใช้แค่นิดเดียว นวดแล้วแตกตัว
ให้ความรู้สึกเหมือนมีน้ำเป็นองค์ประกอบเยอะ เย็น ชุ่มชื้น รู้สึกถึงความเข้มข้นกว่าตัวอื่น แต่ว่า
ซึมลงสู่ผิวแล้วไม่เหนอะ ไม่หนัก ที่เห็นในรูปหลังทา ผิวไม่ได้มันเหนอะนะคะ มันคือความชุ่มชื้น


Photobucket


ต่อไปจะเป็นพวกที่กล่องสีเหลืองนะคะ มี2ตัว เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงรอบดวงตาทั้งคู่เลย


Photobucket


ตัวที่สี่ Premedica Anti-Wrinkle and Whitening Eye Cream ผลิตภัณฑ์เพื่อลดเลือนริ้วรอย
และรอยคล้ำบริเวณรอบดวงตา ขนาด 15g. ราคา 495 บาท (Preventiv™)

คุณสมบัติเด่นของตัวนี้ มี2ประการนะคะ คือช่วยลดริ้วรอยจากการเสื่อมสภาพของผิว
รอยหมองคล้ำรอบดวงตา ด้วยประสิทธิภาพการปรับผิวกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำ
จากวิตามินซีประสิทธิภาพสูงและกลูต้าไธโอน อีกประการคือ ช่วยลดเลือนริ้วรอยจากการ
เคลื่อนไหว (botox-like) ด้วยประสิทธิภาพจากคอลลาเจนจากพืชและโบท็อกซ์จากธรรมชาติ


มีส่วนผสมหลักคือ

- Extensin โปรตีนสกัดจากพืช ช่วยบำรุงฟื้นฟูผิวที่มีริ้วรอย และมีสาเหตุจากการเสื่อมสภาพ
ของคอลลาเจนในผิว
- Argiriline ช่วยลดเลือนริ้วรอยบริเวณหางตา ที่มีสาเหตุมาจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
รอบดวงตา
- High Performance Vitamin C & Glutathione ช่วยลดและชะลอการเกิดความหมองคล้ำ
บริเวณดวงตา ที่มีสาเหตุมาจากอนุมูลอิสระ

วิธีใช้ : ใช้บริเวณรอบดวงตา ควรใช้นิ้วนางในการทาอายครีม (เหมาะกับคนตาคล้ำ)

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อครีมนุ่ม ไม่เหนอะ ลักษณะคล้ายตัวอื่นๆคือให้ความรู้สึกว่านวดแล้ว
เป็นน้ำ เย็นชุ่มชื้น ซึมเร็วดี ตัวนี้กลิ่นหอมถูกใจทรายนะ แนะนำให้ใช้นิดเดียวเท่าเม็ดถั่วเขียว



Photobucket


ตัวที่ห้า Premedica Anti-Wrinkle and Whitening Eye Bag Serum ผลิตภัณฑ์เพื่อลดเลือน
ริ้วรอยและถุงใต้ตา ขนาด 15g. ราคา 495 บาท (Corrective™)


คุณสมบัติเด่นของตัวนี้คือ เป็นเซรั่มเข้มข้นที่บำรุงผิวรอบดวงตาช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจาก
การเสื่อมสภาพจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตา(botox-like) ด้วยคอลลาเจน
จากพืชและโบท็อกซ์จากธรรมชาติ นอกจากนี้ที่สำคัญคือลดถุงใต้ตาที่เกิดจากถุงไขมันใต้ตา
และเกิดจากการไหลเวียนที่ชะงักงันบริเวณรอบดวงตา และผิวไม่กระชับ


มีส่วนผสมหลักคือ

- Extensin โปรตีนสกัดจากพืนที่จะช่วยบำรุงฟื้นฟูผิวที่มีริ้วรอยโดยมีสาเหตุมาจากการเสื่อม
สภาพของคอลลาเจนในผิว
- Argiriline ช่วยลดเลือนริ้วรอยบริเวณหางตา ที่มีสาเหตุมาจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
รอบดวงตา
- Acetyl glucosamin & Adenosine ช่วยเสริมสร้างการสร้างโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบหลัก
ในเซลส์ผิว บำรุงดูแลริ้วรอยรอบดวงตา ให้ความชุ่มชื้น
- Carnitine, Caffeine, Coenz.A ช่วยเพิ่มการไหลเวียน ลดถุงใต้ตา

วิธีใช้ : ใช้บริเวณรอบดวงตา ควรใช้นิ้วนางในการทาอายครีม (เหมาะกับคนมีปัญหาถุงใต้ตา)

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นเนื้อเจลใสๆ ลักษณะคล้ายตัวอื่นๆคือให้ความรู้สึกว่านวดแล้ว
เป็นน้ำ ชุ่มชื้น ซึมเร็ว



Photobucket


สำหรับผลิตภัณฑ์ตัวสุดท้ายเป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด





ตัวที่หกนี้คือ Premedica UV Protection Extra light & Smooth SPF 50 PA+++
ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดด เอสพีเอฟ 50 พีเอ+++ ขนาด 30g. ราคา 395บาท


คุณสมบัติเด่นของตัวนี้คือ เป็นครีมกันแดดที่กันได้ทั้งรังสียูวีบี SPF50 และยูวีเอ PA+++
มีเนื้อที่เกลี่ยลงบนผิวหน้าแล้วจะกลายเป็นแป้ง ทำให้ผิวเนียนลื่น ทาแป้งติดผิวนานยิ่งขึ้น
แล้วก็มีสารบำรุงเพื่อปรับผิวให้ขาวใสขึ้นด้วย (ไวท์เทนนิ่ง พร้อมกันแดด)


มีส่วนผสมหลักคือ

- Titanium Dioxide สารกันแดด ช่วยสะท้อนรังสียูวี ไม่ให้ซึมสู่ผิว
- Octocrylene สารกันแดด ช่วยดูดซับรังสียูวีไม่ให้ซึมสู่ผิว
- Vitamin B3 ช่วยปรับผิวขาวกระจ่างใส

วิธีใช้ : ใช้ลงเป็นตัวสุดท้ายในขั้นตอนบำรุงผิวตอนเช้า ใช้ได้ทุกวันเป็นประจำ ก่อนเริ่มแต่งหน้า
แนะนำให้ทาในปริมาณที่เหมาะสม อย่าบีบทีเดียวเยอะ

เนื้อผลิตภัณฑ์ : ทรายมองว่ามันเป็นเนื้อมูสนะ เวลาบีบออกมา พอเกลี่ยแล้วมันจะเปลี่ยนเป็น
กึ่งๆเนื้อแป้ง ออกสีขาวนิดหน่อย สามารถปรับเฉดผิวขึ้นมาได้เฉดนึง แบบใสๆไม่ทึบนะคะ
พอซึมแล้วไม่เหนอะ ไม่ตกร่องผิว เกลี่ยง่ายค่ะ กลืนไวมาก


Photobucket


ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลของผลิตภัณฑ์ทั้ง6ตัวของ Premedica พร้อมลักษณะจริงนะคะ
ทรายกล้าพูดว่าเนื้อดีทุกตัวค่ะเท่าที่ได้ลองเทสดู แต่ทรายไม่ได้ลองบนหน้า ไม่ได้ลอง
ระยะยาว ดังนั้น เพื่อนๆลองมองสำรวจตัวเองก่อนว่ามีปัญหาผิวในเรื่องของอะไรบ้าง
ถ้าเป็นเนื้อครีมแบบนี้ชอบไหม? แล้วเหมาะไหม? ที่จะใช้ ถ้าต้องการมองหาสกินแคร์
ที่เป็นเวชสำอางอยู่ ก็ลองดูค่ะ เป็นทางเลือก เป็นข้อมูลนะคะ



Disclaimer : Sponsored Content by Premedica
Information : //www.facebook.com/PremedicaThailand





 

Create Date : 11 ตุลาคม 2555    
Last Update : 11 ตุลาคม 2555 0:15:18 น.
Counter : 116964 Pageviews.  

Review: เครื่องนวดหน้าไอออนโตKuron Micro Plus Ion




เครื่องนวดหน้าตัวนี้ทรายได้มาจากทางคิวรอนค่ะ ใช้มาได้พักใหญ่แล้วก็เลยจะพาเพื่อนมาทำความรู้จักกันว่ามันเป็นยังไง มีอะไรดี เหมาะกับใคร แล้วใช้อย่างไรบ้าง มาฟังกันนะคะ

Disclaimer : Sponsored content by Kuron
Information : //www.facebook.com/kuronskininnovation




 

Create Date : 04 ตุลาคม 2555    
Last Update : 4 ตุลาคม 2555 15:54:51 น.
Counter : 5319 Pageviews.  

Review : Dove Ultimate White Deodorant โรลออนและสเปรย์ดูแลผิวใต้วงแขน



รีวิววันนี้เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของการระงับกลิ่นกายใต้วงแขน (จุ๊กกุแร้แบร่ๆ :P) ค่ะ
น่าจะเห็นโฆษณาทางTV กันบ่อยๆนะคะตอนนี้ ชื่อไลน์ผลิตภัณฑ์ว่า Dove Ultimate White
Deodorant
มีด้วยกัน2แบบ ให้เลือกคือแบบ Roll On หรือลูกกลิ้ง และแบบสเปรย์ ฉีดๆ
ตามชื่อนะคะ ก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นกลุ่ม Ultimate White คือนอกจากจะระงับกลิ่นไม่พึง
ประสงค์แล้ว ยังจะช่วยดูแลให้วงแขนของเราขาวขึ้นแบบอัลติเมทอีกด้วย


Photobucket


ทรายเชื่อว่าปัญหารักแร้ดำ (เอาภาษาบ้านๆเลยนะ) เป็นอะไรที่กวนใจชาวเราๆมาก
ก็แหมแฟชั่นสมัยนี้ ออกแบบมาแต่ละชุดทำเอาคนที่หลังเป็นแผล รักแร้หมองอย่างทราย
ถึงกับต้องถอนหายใจ อดอีกแล้วT_T ขาดความมั่นใจอะไรก็ไม่กล้าใส่อ่านะคะ ถึงกล้าใส่
แต่จะยกมือแต่ละที ก็แอบกังวลแล้วกังวลอีก รถไฟฟ้านี่ไม่ต้องพูดถึง ไม่กล้าใส่แขนกุด
ขึ้นไปเลยจริงๆ ยิ่งถ้าใช้ชีวิตมาทั้งวันแล้วต้องไปตลบอบอวลกับแอร์ในรถไฟฟ้า โอ้ววว
คุณคะ ลองนึกถึงชีวิตคนที่รายล้อมเรา 5555

ทรายคนหนึ่งที่เป็นคนที่รักแร้ไม่ดำหมายถึงไม่คล้ำเป็นวงกว้าง แต่มีรอยดำๆจากการ
ใช้แหนบถอนมาตลอด ตั้งแต่วัยรุ่นๆไม่เคยใช้วิธีกำจัดขนวิธีอื่นเลย แหนบเท่านั้น
ผลคือ ขนคุด ผิวบางจุดคล้ำ บางทีเป็นแผล เป็นตุ่มหนังไก่ = =’ แต่มันยังขาวไง
พอเวลาผ่านไปแก่ขึ้น อีปัญหาที่มันสะสมๆมาหลายๆปี มันก็เริ่มแสยะยิ้มใส่เรา แฮ่!!!

วิธีที่จะทำให้ปัญหารอยดำใต้วงแขนหายไป หรือขนรักแร้เหี้ยนเตียน มันมีหลายวิธีมาก
อย่างที่เรารู้จัก เลเซอร์ แว็กซ์ ถอน ดึง แต่วิธีเหล่านี้ไม่ช่วยเรื่องกลิ่นกายที่ออกมาจาก
ต่อมในร่างกายเรา ทรายโชคดีนะ เกิดมาไม่มีกลิ่นตัว มีปัญหาเดียวคือชอบถอน แล้วก็
เป็นรอยดำๆด่างๆตามมา สำหรับเพื่อนๆที่มีกลิ่นตัว ทรายเชื่อว่าทุกคนต้องคุ้นชินกับ
การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นใต้วงแขนกันอยู่แล้ว และคิดว่าก็จำเป็นต้องใช้กันอยู่ประจำ

อย่างแฟนทรายเป็นคนมีกลิ่นตัว(ห้ามใครอ่านแล้วไปฟ้องนะ) ผู้ชายส่วนใหญ่เค้าจะชอบ
ไว้ขนรักแร้กันใช่ไหมคะ แล้วมันก็ยิ่งทำให้กลิ่นหอมเกินห้ามใจมากขึ้นไปอีกเวลาที่เหงื่อ
ไคล้มันไหลย้อยเยิ้มออกมา ยิ่งวันไหนอยู่กลางแจ้งหละ โอ้โหวววว เค้าก็ค่อนข้างที่จะ
ชอบทดลองผลิตภัณฑ์พวกนี้ เพราะมันจำเป็นกับชีวิตเค้าค่ะ

ทีนี้ย้อนกลับมาที่คนที่มีกลิ่นตัวด้วย มีปัญหาวงแขนคล้ำด้วย แทนที่เราจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์
ที่ให้ผลแค่คุมกลิ่น เราเลือกใช้ทั้งคุมกลิ่นและขาวเนียน ทำไมเราไม่เลือกใช้ตัวเดียวแต่ได้แก้
ทั้ง2 ปัญหาเลยล่ะ? วันนี้โดฟเค้าอยากแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ของเค้าที่เค้ามั่นใจว่าดีที่สุดกว่า
ใครๆในตอนนี้ เพราะส่วนผสมสุดพิเศษครั้งแรกในโลกที่นำ Omega-6 มาใช้กับผลิตภัณฑ์
ดูแลผิวใต้วงแขน


แล้วเจ้าโอเมก้า-6นี่ มันที่สุดยังไงล่ะ?

ปกติเราจะได้ยินคำว่าโอเมก้า-6 จากประโยชน์ด้านสุขภาพกัน แต่เราอาจจะยังไม่คุ้น
และหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าเจ้ากรดโอเมก้า-6นี่ยังมีประโยชน์ในด้านของผิวพรรณ
และความงามด้วยค่ะ เพราะว่ามันเป็นกรดไขมันจำเป็นที่จะช่วยเสริมการปกป้องผิว
ตามธรรมชาติ และแหล่งที่จะพบเจ้ากรดนี้ได้ก็คือ น้ำมันพืช และถั่วชนิดต่างๆ เช่น เมล็ด
รำข้าว จมูกข้าว

สำหรับเจ้าโอเมก้า-6 ใน Dove Ultimate White Deodorant นี้ได้มาจากน้ำมันเมล็ด
ดอกทานตะวันคุณภาพสูงจากทวีปยุโรปค่ะ ซึ่งนอกจากมีโอเมก้า-6แล้วก็จะมีวิตามินอีสูง
และมีสารสกัดลิคอริค ที่จะมาช่วยทำให้ผิวของเรากระจ่างใส บำรุงให้เรียบเนียน และลด
เลือนจุดด่างดำใต้วงแขนบริเวณที่เราใช้ผลิตภัณฑ์ค่ะ

นอกจากประโยชน์ข้างต้นแล้วแน่นอนว่าผลิตภัณฑ์นี้จะต้องระงับกลิ่นใต้วงแขนได้
ซึ่งทางโดฟก็มั่นใจว่าของเค้าสามารถระงับกลิ่นได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมงเลย


Photobucket


Photobucket



Photobucket


Photobucket


Photobucket


Photobucket


Photobucket


ในแง่ของทรายที่ทดลองใช้ดูไม่นานนะคะ ผลการใช้แน่นอนว่าย่อมเห็นต่างกันไปแต่ละคน
อยากรู้ว่าของตัวเองจะเป็นแบบไหน ทรายว่าก็คงต้องไปทดลองใช้กันดูนะ

ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า ทรายเกิดมาเป็นคนแทบไม่มีกลิ่นตัว เลยไม่ค่อย
จะคุ้นชินกับการใชผลิตภัณฑ์ดูแลใต้วงแขนพวกนี้ จะมีบ้างในวันที่ต้องอยู่กลางแจ้ง
ตลอดวัน แล้วใส่เสื้อแขนกุด มันจะมีกลิ่นตุๆออกมาจากเหงื่อบริเวณนั้น แต่การใช้
ชีวิตของทรายส่วนมากก็แทบจะไม่ได้เจอเหตุการณ์นั้น เลยไม่เคยลองใช้แบรนด์ไหนเลย
นี่เป็นครั้งแรกที่ลองค่ะ ก็ลองแบบตลกมาก ข้างนึงโรลออน ข้างนึงสเปรย์ แล้วก็พยายาม
ถามแฟนว่าเห้ยแก ใช้แบบนี้ถูกไหม แล้วมันรู้สึกแบบนี้หรอ? (ก็กล้าไปถาม-*-)

ทรายลองแล้วชอบตัวสเปรย์มากกว่า เพราะฉีดแล้วมันเป็นแป้งเลย เราไม่รู้สึกเหนอะ
หรือต้องรอจนกว่าจะแห้ง แต่ถามว่าตัวไหนทนกว่ากัน อันนี้ทรายเอาความเห็นแฟน
เค้าว่าสำหรับเค้าที่กลิ่นแรง เค้าชอบโรลออนมากกว่า กลิ่นอยู่ทนกว่า คุมได้ดีกว่า
เรื่องของกลิ่นทรายชอบนะ หอม ไม่ฉุนจัด แนะนำให้ไปแอบดม55

อยู่ได้ถึง 24 ชั่วโมงไหม? ต้องบอกว่ายังไม่เคยใช้ชีวิตเน่าขนาดนั้น 555555555
คือมันอาจจะมีโอกาสที่ไม่อาบน้ำถึง 24 ชั่วโมง แต่ยังไม่ใช่จังหวะนี้ เอาที่แรงสุด
ก็คงจะเป็นไปเที่ยวภูเก็ตกัน มีแดด มีลมทะเล มีเหงื่อ ทรายใช้แฟนที่เป็นคนมีกลิ่นตัว
อยู่แล้วทดลอง ผลมันโอเคมาก คือเช้ายันปาร์ตี้เลิกตี3 ก็ยังไม่เหม็น รักแร้ยังเป็น
กลิ่นโดฟอยู่ อาจจะมีเพี้ยนบ้างจากเหงื่อไคลผสม แต่ไม่ใช่กลิ่นเหม็นแน่นอน

วงแขนทรายไม่ได้ขาวเนียนนะ อย่างที่บอกไปข้างต้นๆ อาจจะเพราะเป็นคน
โชคดีเกิดมาผิวขาว แต่ไม่เนียนแน่ๆเพราะตั้งแต่วัยรุ่นทรายใช้วิธีกำจัดขนด้วยแหนบ
มาตลอด ไม่เคยใช้ครีมกำจัดขน ไม่เคยแว๊กซ์ ไม่เคยโกน หรือใช้เครื่องกำจัดใดๆ
แน่นอนว่ามีเป็นตุ่มหนังไก่บ้าง ที่แย่สุดคือ มันชอบเป็นขนคุดแบบขนแทงไม่ออกบ้าง
แทงออกมาแนวทะแยงบ้าง เราเห็นก็ทนไม่ได้เอาแหนบไปสะกิดๆมันขึ้นมา สรุปคือ
เป็นแผลสีน้ำตาลๆ = = แล้วมันก็หายยาก พอหายก็มีอันใหม่มาอีกละ เป็นแบบนี้
เวลาใส่แขนกุดมองผ่านๆไม่ค่อยเห็น แต่อย่ามาจ้องนะทุเรศเลย 5555 ทรายอ่าน
จากข้อมูลที่เค้าให้มา ก็คิดว่าตัวนี้ทำขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาความหมองคล้ำแบบ
ที่ทรายเล่าให้ฟังนี้ในระยะยาวนะ สำหรับคนที่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นใต้วงแขน
อยู่แล้ว เหมือนเป็นทางเลือกว่า ไหนๆก็ทาแล้ว คุณก็รักษาเรื่องนี้ไปด้วยเลย แต่จะ
หวังให้มันหายปึ๊ปปั๊ป เหมือนไปเลเซอร์ มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน มันคือการ บรรเทา
และต้องใช้ระยะเวลา แต่อย่างน้อยถ้าเลือกสูตรที่ช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุดมันก็ดีกว่า
ไม่ทำอะไรเลยอ่านะ และถึงต่อให้ไปยิงเลเซอร์มา แต่ถ้าเป็นมีกลิ่นตัวอยู่แล้ว
และรักแร้ยังต้องเสียดสีกับเสื้อผ้าและผิวเราไปเรื่อยๆ มันก็จำเป็นต้องใช้พวกนี้
เข้าช่วยชีวิตน้องรักแร้นะจ๊ะ

ก็ลองดูค่ะสำหรับใครที่ใช้อยู่แล้ว หรืออยากเริ่มใช้ มองก่อนว่าตัวเองต้องการอะไร
แล้วก็เลือกซื้อเลือกใชผลิตภัณฑ์้ให้เหมาะกับความต้องการ ^^ ของตัวเอง







วันนี้โดฟเค้าก็ใจดีอีกแล้วค่ะ ร่วมงานกับทรายทีไร ก็มีของขวัญมาแจกเพื่อนๆทุกที
แต่เหมือนเดิมนะคะต้องไปเล่นกันที่แฟนเพจของทราย ตามลิ้งค์นี้เลย "CLICK"
มาร่วมแชร์ประสบการณ์กับทราย แล้วลุ้นรับผ้าพันคอ Limited Edition ที่ออกแบบ
พิเศษจากดีไซเนอร์แบรนด์ดัง SENEDA และกิ๊ฟเซ็ทจากโดฟ ดีโอ อัลติเมท ไวท์
มูลค่า 2,500 บาท มอบให้ผู้อ่านBlogทรายที่โชคดี 20 ท่านเลยค่า ไปสนุกกันเยอะๆนะ






Disclaimer : Sponsored Content by DOVE Ultimate White Deodorant










 

Create Date : 21 กันยายน 2555    
Last Update : 21 กันยายน 2555 17:11:12 น.
Counter : 12276 Pageviews.  

[Review]: เล่าประสบการณ์ ทำเลเซอร์ผิวหน้าครั้งแรกในชีวิต eMatrix Sublative



วันนี้ทรายจะมาบอกเล่าประสบการณ์การทำเลเซอร์ครั้งแรกในชีวิตให้ฟังกันค่ะ หลายคน
อาจจะเห็นว่าทรายทำโน่นทำนี่กับหน้า น่าจะคุ้นชินดีกับเลเซอร์ อยากจะบอกว่าเกิดมาไม่เคย
ทำเลยค่ะ แม้แต่ไอออนโต อะไรที่เค้าฮิตๆกันสมัยก่อนก็ไม่เคย นี่เป็นครั้งแรกเลยจริงๆที่ลอง
ใช้วิธีการรักษาผิวหน้าด้วยเลเซอร์(ไม่นับเลเซอร์หลังเนอะ) วันนี้เลยจะมาเล่าให้ฟังค่ะ


eMatrix


เลเซอร์ eMatrix คุณสมบัติหลักคือ การรักษาหลุมสิวค่ะ ผลข้างเคียงสำหรับเลเซอร์ตัวนี้คือ
จะช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว และยังช่วยยกกระชับเล็กน้อยด้วย
นอกจากที่ว่ามา แน่นอนว่ามันต้องผลัดเซลส์ผิวทำให้สีผิวกระจ่างขึ้น เนื้อผิวดูเนียนขึ้นค่ะ

ปกติแล้วเลเซอร์จะมีการแบ่งระดับของความเป็นแผลไว้ 3 ระดับนะคะ คือแบบเป็นไม่เป็นแผลเลย
เป็นแผลมาก และเป็นแผลเล็กน้อย eMatrix จัดอยู่ในกลุ่มหลังค่ะ สามารถไปหาอ่านรายละเอียด
แบบเยอะๆเจาะลึกได้ที่นี่นะคะ ทรายคิดว่าอธิบายเองเดี๋ยวงง ไปอ่านจากข้อมูลหลักเอาเองดีกว่า

//www.theklinique.com/treatment-detail.asp?treatment_id=91

ทรายขอเล่าในส่วนประสบการณ์ของตัวเองแล้วกันนะคะ คุณหมอทำตัวนี้ให้เพราะว่าตอนนี้
eMatrix เป็นเลเซอร์ที่ดีที่สุดเจ๋งที่สุดแล้ว (ลองกูเกิ้ลดูได้ค่ะ) ทรายไม่มีปัญหาเรื่องหลุมสิว
แต่มีปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้าง คุณหมอใช้ตัวนี้รักษาเรื่องนี้ให้ค่ะ โดยไม่ได้ยิงทั้งหน้า ยิงเฉพาะ
จุดที่คุณหมอพิจารณาแล้วว่ามีปัญหา

*อ่อ ทรายไปทำหลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ปรับโครงกระดูกหน้า+ Botoxได้4-5วัน ก็จะยังมีรอยเขียว
ที่แก้มอยู่นิดหน่อยนะคะ ในวันที่ทำเลเซอร์ ทรายมีการฉีดLipoลดแก้ม+เหนียงเพิ่มด้วย อาจจะ
เห็นรอยแผลจากฝีเข็ม และหน้าดูบวมนิดหน่อยค่ะ



Photobucket


ก่อนอื่นเค้าก็คลีนหน้าให้ก่อนนะคะ คือใครที่จะไปทำเลเซอร์ไม่ต้องแต่งหน้าไปเลย
และถ้ากลัวว่าจะแพ้คลีนซิ่งที่ร้าน พกของตัวเองไปด้วยก็ได้ค่ะ ที่นี่เป็นคลีนซิ่งน้ำนม
ทรายไม่แพ้ก็เลยไม่ได้พกของตัวเองไป ให้เค้าคลีนตามสบาย จากนั้นเค้าก็จะแปะยาชา
แบบครีมให้เราทั่วใบหน้าแล้วแพ็คไว้ 45 นาทีค่ะ


eMatrix


หลังจากยาชาออกฤทธิ์แล้ว เค้าก็จะใช้สำลีเช็ดออก ในรูปทรายเช็ดเอง เช็ดไม่หมดติดจมูกอีก ว๊ากก
ระหว่างนั้นคุณหมอเค้าก็จะเตรียมเครื่องมือแล้วก็สำรวจดูว่าเรามีปัญหาตรงไหนบ้างนะคะ
ของทรายฉีดไลโปที่แก้มก่อนจะยิงเลเซอร์ หลังจากนั้นแล้วเค้าจะมีไดร์เป่าผม มาเป่าหน้าเราค่ะ
ไม่ใช่เป่าความเย็นเพื่อไม่ให้ผิวร้อนนะ เป็นเป่าเพื่อให้ผิวสัมผัสแห้ง เพราะถ้าไม่แห้ง หัวของเครื่อง
เลเซอร์จะไม่ยอมทำงานค่ะ ยิงไม่ติดเลย อะไรแบบนั้น อ่อ หัวเค้าทำจากทองคำนะคะ เพราะเป็นสื่อ
นำที่ดีที่สุดแล้ว แบบในรูปเลย ใช้1คน/1เพลทค่ะ


Photobucket


ตอนยิงเราจะรู้สึกร้อนนิดๆ ยิงเลเยอร์แรก ไม่เป็นไรค่ะ เจ็บธรรมดาเฉยๆ แต่พอเลเยอร์ที่2
ซ้ำไปที่เคยยิงไปแล้ว โอ๊ววจอร์ชชชชช!!!! เจ็บว่ะค่ะ เจ็บร้อนๆ ตรงไหนผิวบางหน่อยเช่น
ช่วงโหนกแก้มหรือหน้าผาก จะแบบว่า โอ๊ซซซซ จี๊ดๆๆๆๆ แต่ทั้งหมดยังไม่เท่าหลังทำเสร็จค่ะ


Photobucket


หลังยิงเลเซอร์เสร็จ หมอจะประคบเย็นทันที เพราะเราจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนผิวบริเวณ
ที่โดนเลเซอร์มากๆ พอโดนความเย็นประคบมันช่วยบรรเทาได้มาก สวรรค์เลยอ่ะ จากนั้น
ทรายก็ฉีดLipoสลายเหนียง อันตรงเหนียงนี่เป็นสูตรผสมเก่า มันจะบวมมากและใช้เวลา
ในการหายบวม7วัน ส่วนอันตรงแก้มเป็นสูตรใหม่ บวมนิดเดียวไม่เป็นหนูแฮมสเตอร์แล้ว
เวลาในการหายบวมก็ลดลงค่ะประมาณ4-5วัน (หมออยากให้เห็นความต่าง)


Photobucket


วันที่1 : หลังทำจะปวดแสบปวดร้อนผิวมาก ทรายถือประคบเย็นตั้งแต่บ่าย3 ไปจนถึง 6โมงเย็นเลย
หลังจากนั้น ผิวมันจะค่อยๆบรรเทาลง โดนก็จะรู้สึกแสบนิดหน่อยค่ะ หน้าจะแดงกำ่ๆ
วันแรกทรายอาบน้ำ ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า จากนั้นก็ทาครีมที่คิดว่าดีที่สุดเท่าที่ตัวเองมี
ประโคมลงไปเลย เพราะคุณหมอบอกว่า มันคือช่วงผิวเปิด เป็นผิวใหม่ ใส่ไปเต็มที่

วันที่2 : จะเห็นสะเก็ดสีน้ำตาลบนหน้า เป็นตารางๆหัวเลเซอร์ วันนี้ไม่แสบไม่เจ็บผิวแล้ว
แต่เวลาทาครีมจะรู้สึกแสบนิดหน่อยนะคะ เหมือนเราไปกวนแผล ทรายก็อัดบำรุง
เหมือนเดิม ถ้าให้แนะนำ ทรายแนะนำให้ใช้ครีมบำรุงผิวพวกม้อยเจอร์เยอะๆ
อย่าเพิ่งใช้แบบไวท์เทนนิ่งอะไรแรงๆอ่าค่ะ พวกเติมความชุ่มชื้นจะดีมาก

วันที่3 : ความแดงหายไปเยอะค่ะ เราจะเห็นสีของสะเก็ดน้ำตาลๆเยอะขึ้น แต่สีหน้าจะ
ไม่ดูเป็นสีคล้ำๆเหมือนในวันที่2ค่ะ ไม่เจ็บไม่แสบร้อนแผลแล้ว ปกติเลย วันนี้
ทรายต้องแต่งหน้าไปทำงาน ก็โอเคนะคะ แต่งได้แต่ผิวจะดูสากๆหน่อย อาบน้ำ
แล้วทรายใช้โฟมล้างหน้า ใช้ไบโอเดอม่าเช็ดเครื่องสำอางได้ปกติเลยค่ะ


Photobucket


วันที่4 : สะเก็ดบางส่วนเริ่มหลุดค่ะ ถ้ามองใกล้ๆสังเกตจากสายตาตัวเองที่เห็นผิวหน้าตัวเอง
มาทุกๆวันในชีวิต ทรายรู้สึกว่ารูขุมขนตื้นขึ้น ไม่ได้หายไปนะ มันตื้นขึ้นนิดหน่อย
เราจะมองเห็นตรงบริเวณที่สะเก็ดเริ่มหลุดอ่าค่ะ เป็นผิวใหม่ของเรา

วันที่5 : สะเก็ดลอกไปเกือบ 70%แล้ว ทรายชอบผิวตอนแต่งหน้ามาก มันดูเนียน เด้ง ดึ๋งๆ



สรุป :


สำหรับวันที่เขียนอยู่นี่วันที่ 7 ครบ 1 สัปดาห์แล้ว ไม่มีสะเก็ดเหลือบนหน้าแล้วค่ะ ตาราง
หายไปหมดแล้ว มีรอยเขียวๆจากไลโปอยู่บ้าง คุณหมอบอกว่าหลังจากเลเซอร์ให้ทราย
บำรุงเยอะๆ อะไรที่คิดว่าดีมากๆที่เรามีอยู่ ทาไปเลยมันจะลงไปได้ลึก จริงๆทรายก็ถาม
คุณหมอนะ เพราะทรายกูเกิ้ลดูหลายๆที่ แต่ละที่วิธีการดูแลแตกต่างกันไปไม่มีของใคร
เหมือนของใครเลย ทรายเลยยึดเอาคำแนะนำของหมอที่ทำให้ทรายดีกว่า คุณหมอบอก
ว่าผิวทรายคิดว่าต้องทำสัก 2-3 ครั้งแล้วมันจะเห็นผลแบบชัดเจน คือรูขุมขนตื้นเนียน
แต่อันนี้คือมันแล้วแต่ปัญหาผิวและความเป็นไปได้ของแต่ละคนนะคะ ต้องให้คุณหมอ
ประเมิณดู ของทรายทำไป 100 shotค่ะ ทำได้เดือนละ 1 ครั้ง คุณหมอบอกว่าผลจะเห็น
แบบชัดจริงๆคือ 1 เดือนหลังทำ ผิวใหม่จะสร้างคอลลาเจนใหขึ้นมาสะสมจนฟู เด้ง ก็เดี๋ยว
เอาไว้รอดู แต่ทรายกะว่าจะไปลองทำสัก 3 ครั้งนะ ไหนๆก็ไหนๆละ ช่วงนี้ต้องดูแลตัวเอง
อย่าไปโดนแดด พยายามทาครีมกันแดดตลอด ใส่หมวก เลี่ยงแดด ^^ ดูแลไม่ยากค่ะ



Disclaimer : Sponsored Content by The Klinique
Information : //www.theklinique.com
Information : //www.facebook.com/THEKLINIQUEinternational












 

Create Date : 12 กันยายน 2555    
Last Update : 12 กันยายน 2555 19:45:34 น.
Counter : 80195 Pageviews.  

Beauty Rescue: Liquid FaceLift เทคนิคการใช้ฟิลเลอร์ปรับโครงกระดูกหน้า

สวัสดีค่ะวันนี้ทรายจะมาเล่าถึงประสบการณ์ที่ไปปรับแต่งรูปหน้าด้วยเทคนิคใหม่ล่าสุด
Liquid Facelift มาค่ะ เหมือนเดิมคือ แรกเริ่มทรายมีนัดกับคุณหมอเติ้ล The Klinique
ว่าทรายจะไปฉีดโบท็อกซ์กราม เนื่องจากว่ามันถึงเวลาแล้ว (เกิน6เดือนแล้ว)และกราม
ก็ได้กลับมาเป็นก้อนปกติแล้ว และอยากจะฉีดไลโปที่แก้ม เพราะว่าผ่านมาหลายเดือน
แล้วอีกเหมือนกัน (พอๆกับโบท็อกซ์) ก็มีไขมันใหม่กลับเข้าไปสะสมแล้วเหมือนเดิม
จึงต้องนัดคุณหมอทำสวยให้หน้าเป๊ะๆอีกครั้ง (ที่เพื่อนๆเห็นหน้าเรียวๆเข้ารูปก็เพราะงี้นะ)

พอไปถึงแล้วแผนเปลี่ยนนิดหน่อย ทรายฉีดโบท็อกซ์กรามทั้ง2ข้างแล้ว จากนั้นคุณหมอ
บอกว่า หมอคิดแต่ยังไม่ได้บอกทราย ว่าหมอคิดว่าทรายน่าจะลองเทคนิคนี้ดู น่าจะโอเค
เทคนิค Liquid Facelift ทรายงง เพราะยังไม่เคยเห็นในเว็ปคุณหมอว่ามันคืออะไรยังไง?
สรุปได้ความว่ามันคือแบบนี้


“การฉีด Liquid Facelift เป็นการฉีด  Filler แบบ Advance จากเดิมที่จะฉีดในชั้น Dermis
เพื่อเติมเต็มร่องตื้นต่างๆ  แต่เทคนิคนี้จะเน้นฉีดเข้าไปในชั้น SMAS(ชั้นที่หมอศัลยกรรม
เข้าไปผ่าตัดเย็บเพื่อยกกระชับหน้าหรือคอ)เพื่อปรับโครงกระดูกหน้าให้สวยเหมือนนางแบบ
โดยไม่ต้องศัลยกกรรม โดยแพทย์จะประเมิณตามองศาความงามบนใบหน้าว่าส่วนไหน
ควรจะทำมุมกันกี่องศา ยกกระชับตรงไหนเพิ่มเติม เป็นต้น ผลจะอยู่ได้นานประมาณ 2 ปี”



Photobucket


ของใหม่เลยบอกคุณหมอว่า จัดมาเลยค่ะ อยากลอง คุณหมอก็เลยหยิบแผงฟิลเลอร์
ตัวใหม่ที่ทางคลีนิกเปลี่ยนมาใช้ให้ดู เปิดหยิบเข็มกันสดๆต่อหน้าเลย ฟิลเลอร์ตัวนี้
หมอบอกว่าลูกค้าใช้แล้วชอบกันเยอะ มันดีและไม่ค่อยเจ็บ (มันมียาชาผสมอยู่ในตัว)


Photobucket


คุณหมอฉีดฟิลเลอร์ไปที่2จุดบนหน้า คือหน้าแก้ม และเหนือคิ้วช่วงขมับ ทรายก็สอบถาม
แบบบ้านๆว่าตรงไหนช่วยเรื่องอะไร คุณหมอบอกว่า ตรงแก้มเนี่ย สำหรับทราย โครงหน้า
เป็นคนโครงเต็มอยู่แล้ว เนื้อเยอะ แต่หน้าแบน และมีกระดูกโหนกแก้มที่ค่อนข้างบานออก
ด้านข้างมันทำให้ทรายดูหน้าแบนและใหญ่ หมอจึงจะใช้ฟิลเลอร์เติมย้ายเอเป็กของหน้า
ให้มีโหนกแก้มกลมช่วงเกือบกึ่งกลางตา คล้ายๆโหนกแก้มดาราส่วนใหญ่ จะทำให้หน้า
เราดูเล็กลง ดูแคบลง ส่วนตรงขมับ ทรายเป็นคนที่ขมับเต็มอยู่แล้ว หมอไม่ได้ฉีดเยอะ
เสริมให้นิดหน่อย อาจจะไม่ค่อยเห็นผลอะไรมาก แต่มันจะช่วยยกช่วงคิ้วขึ้น ถ้าเป็นคนที่
ขมับโบ๋ เนื้อน้อย มันจะเห็นผลชัดเลยว่า ช่วงตายกขึ้น คิ้วยก และหน้าด้านข้างยกตามขึ้นมา

ถามว่าเจ็บไหม? ก็นิดหน่อย ไม่เจ็บเหมือนที่ฉีดคาง ยาตัวนี้ไม่ค่อยเจ็บจริงๆนะ แต่ก็ทราย
มีฉีดยาชาไว้ก่อนแล้วด้วย พอเสร็จคุณหมอก็ให้ประคบเย็นต่ออีกสัก 2 ชั่วโมงจะได้ไม่เป็น
รอยเขียว เพราะว่าผิวข้างในอาจจะมีการช้ำได้ แต่ทรายต้องขับรถกลับคนเดียวไม่มีคนขับให้
แล้วรถดันติด กลับถึงบ้านก็ชั่วโมงนึงไม่ได้ประคบเลย ผลคือวันต่อมาตื่นมาเขียว = =
ตรงแก้มก็ตึงๆหน่อย เวลาจะยิ้มลำบากนิดนึง แต่ที่เขียนอยู่นี่วันที่3แล้ว ไม่ค่อยรู้สึกอะไรแล้ว
หายเร็วกว่าที่ฉีดคางเยอะเลยค่ะ รอยเขียวแต่งหน้ากลบได้ ไม่มีปัญหา


Photobucket


สรุปแล้วที่ไป ทรายฉีดโบท็อกซ์และ Liquid Facelift เลยไม่ได้ฉีดไลโปแก้มเลย >//////<
ทรายมีนัดกับคุณหมออีกสัปดาห์นี้แหละ จะเข้าไปฉีดไลโปเอาไขมันที่แก้มล่างและเหนียงออก
แล้วก็จะลองทำเลเซอร์ E-Matrix ที่หน้าดู คือหน้าทรายดีอยู่แล้วไม่ค่อยมีแผลอะไร หลุมก็
ไม่มีให้เห็น แต่จะทำเพื่อแก้ปัญหารูขุมขนกว้าง อย่างที่เคยบอกไปเมื่อครึ่งปีก่อนว่า
คุณหมออยากรักษารูขุมขนให้นานแล้ว แต่ทรายไม่มีเวลามาสักทีเพราะมันต้องพักหน้า
นิดหน่อย แล้วก็ห้ามโดนแดดสักอาทิตย์ รอยาวมาจนป่านนี้ ตัดสินใจทำๆไปเลยดีกว่า
เพราะก็ไม่รู้ตารางงาน ตารางชีวิตตัวเองอีกอยู่ดี แล้วเดี๋ยวทรายจะมาเล่าให้ฟังค่ะว่า
ไปทำแล้วเป็นยังไงบ้าง เจ็บไหม จี๊ดจ๊าดไหม อ่อ มีเรื่องของรักษารอยแผลดำๆจากสิวที่หลัง
จะมาเล่าให้ฟังด้วย ตอนนี้ทำได้ 4 ครั้ง (4เดือน)แล้วที่นี่แหละ เดี๋ยวจะมาเล่าตอนทำครั้งที่5
ผ่านไปแล้วนะจะได้ผ่านไปสักครึ่งทาง ให้ดูผลกัน


Disclaimer : ทรายได้รับการรักษาฟรีนะคะ ถ้าอยากทราบค่าใช้จ่ายลองสอบถามที่ทางคลีนิกดูนะ
Information : //www.facebook.com/THEKLINIQUEinternational
Information : //www.theklinique.com




 

Create Date : 04 กันยายน 2555    
Last Update : 4 กันยายน 2555 3:24:11 น.
Counter : 14150 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  

feonalita
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 908 คน [?]




 photo icon_facebook_48_zpsb497412b.png photo icon_instagram_48_zps84436242.png photo icon_youtube_48_zpsfc801391.png photo icon_twitter_48_zps6e17cf8d.png photo icon_pinterest_48_zps16047ffb.png

FEONALITA: Beauty & LifeStyle Blog✰
คำว่า"สวย"ของแต่ละคน มีคุณค่าไม่เท่ากัน
∙•The Beauty of an Individual◀•∙

บล็อคนี้เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 22-11-2006 ค่ะ

feonalita@gmail.com feonalita@gmail.com





Golden Rose Liquid Matte Lipstick “London
“Citra THREE 4D-Plus Eye Palette พาเลทอายแชโดวซัมเมอร์ครบทุกสี
Canmake New Collection ฟรุ้งฟริ้งหลายสิ่งน่ารักจากญี่ปุ่น Winged Liner & Chocolate Lips Inspired by Kylie Jenner
No 7 Matte Lip Crayon & Precision Lips Pencil 9สี LANCOME Juicy Shaker Full Collection










New Comments
Friends' blogs
[Add feonalita's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.