70. ความเกิดแห่งกองทุกข์ และ ความดับแห่งกองทุกข์ ตอนที่ 11
การทำความดับแห่งกองทุกข์ ที่พระพุทธองค์ทรงให้มุ่งทำ คือ การทำความดับแห่งตัณหา การทำความดับแห่งตัณหา คือ การทำให้เกิด “วิราคะ” หรือ การทำให้เกิด “ความปราศจากราคะ” ***************
ราคะและตัณหา มีลำดับของการเกิด ดังนี้ ลำดับที่ 1 มีอายตนะภายนอก คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส (โผฏฐัพพะ) และ ธรรมารมณ์ มากระทบสัมผัสอายตนะภายใน คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ (รูป)
ลำดับที่ 2 เกิดสุขเวทนา ตามอุปาทานที่มีอยู่ในความทรงจำ (เวทนา)
ลำดับที่ 3 เกิดความจำได้หมายรู้ ในสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นตามอุปาทาน ที่มีอยู่ในความทรงจำ (สัญญา)
ลำดับที่ 4 เกิดการปรุงแต่งไปตามสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นตามอุปาทาน ที่มีอยู่ในความทรงจำ (สังขาร)
ลำดับที่ 5 เกิดความรับรู้ได้ ในสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นตามอุปาทาน ที่มีอยู่ในความทรงจำ (วิญญาณ)
ลำดับที่ 6 เกิดการกระทบสัมผัสที่บริบูรณ์ ครบองค์ 3 (ผัสสะ)
ลำดับที่ 7 เกิดอารมณ์สุข หรือ สุขเวทนาที่รับรู้ได้ (เวทนา)
ลำดับที่ 8 เกิดความกำหนัด ความยินดี ความชอบใจ ในอารมณ์สุข ที่เกิดขึ้นจาก อุปาทานขันธ์ 5 (ราคะ)
ลำดับที่ 9 เกิดความทะยานอยาก ไปตามอารมณ์สุข ที่เกิดขึ้นจาก อุปาทานขันธ์ 5 (ตัณหา) หมายเหตุ:
1. ลำดับที่ 1 – 5 คือ อุปาทานขันธ์ 5 2. ถ้าเราไม่เพียรพยายาม ระงับดับตัณหาที่เกิดขึ้น จะทำให้เกิด การสั่งสมพอกพูนของอุปาทานในความทรงจำ *************** การทำให้เกิด “วิราคะ” หรือ การทำให้เกิด “ความปราศจากราคะ” คือ
การทำให้เกิด การละหน่ายคลายในอุปาทานขันธ์ 5 หรือ การทำให้เกิด การละสักกายทิฏฐิได้
และ การทำให้เกิด การปล่อยวางอุปาทานขันธ์ 5 หรือ การทำให้เกิด การละอัตตานุทิฏฐิได้ ***************
เวทนา ที่เกิดขึ้นตามอุปาทาน ที่มีอยู่ในความทรงจำ หลักๆแล้ว มีอยู่ 3 ประการ คือ
1. สุขเวทนา หมายถึง ความรู้สึกสุข
2. ทุกขเวทนา หมายถึง ความรู้สึกทุกข์
3. อทุกขมสุขเวทนา หมายถึง ความรู้สึกไม่ทุกข์ไม่สุข หรือ มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ เวทนา ที่ทำให้เกิด ราคะและตัณหา คือ สุขเวทนา เวทนาทั้ง 3 ประการ เป็นสิ่งที่ต้องทำให้เกิด การละหน่ายคลาย และ การปล่อยวางได้ ดังข้อความใน “สักกายทิฏฐิปหานสูตร” และ “อัตตานุทิฏฐิปหานสูตร” ที่ได้กล่าวไปแล้ว ในตอนที่แล้ว *************** ความหมายจาก พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย อ.เปลื้อง ณ นคร ธรรมารมณ์ [ทำ-มา-รม] น. ความคิดคำนึงในใจ เช่น เวลาเห็นรูปที่ชอบใจ แม้รูปนั้นผ่านพ้นไปแล้ว จิตใจก็ยังคำนึงนึกอยู่ ในความสุขใจอันเกิดจากการได้เห็นรูปนั้น, ในทางตรงกันข้ามก็เหมือนกัน จิตคำนึงนึกอยู่ ในความเศร้า ก็เรียกว่า ธรรมารมณ์. *************** ความหมายจาก พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน ธรรมารมณ์ [ทํามา] น. อารมณ์ที่ใจรู้ อารมณ์ที่เกิดทางใจ. (ป. ธมฺมารมฺมณ). ชาญ คำพิมูล
Create Date : 04 ตุลาคม 2563 |
Last Update : 4 ตุลาคม 2563 7:09:56 น. |
|
0 comments
|
Counter : 599 Pageviews. |
|
|
|
| |