ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

เขาคิชฌกูฏ 2560 นมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง



เขาคิชฌกูฏ2560
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เขาพระบาทพลวง จันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ 2560 ประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ จันทบุรี ระหว่างวันที่ 28 มกราคม ถึง 28 มีนาคม 2560 ซึ่งได้รับความนิยมจากพุทธศาสนิกชน ประชาชน และนักท่องเที่ยวเป็นประจำทุกปี

นับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ หลายคนเตรียมวางแผนสำหรับทำโน่นทำนี่กันแล้ว บ้างก็ไปเที่ยวต่างจังหวัด บ้างก็เดินทางกลับบ้านเกิด บ้างก็เดินสายทำบุญกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และหนึ่งในสถานที่ที่หลายคนแวะเวียนกันไปทุกปี ก็คือ "ประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ จันทบุรี ประจำปี 2560" ที่จะจัดทุกขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 และในปี 2560 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มกราคม ถึง 28 มีนาคม 2560 ซึ่งถึงแม้ว่าการเดินทางจะยากลำบากหรือต้องแออัดเบียดเสียดผู้คนมากขนาดไหน แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่มีใครท้อถอยกันเลยทีเดียว

เขาคิชฌกูฏ
ภาพจาก isarescheewin / shutterstock.com

อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ หรือเขาคิชฌกูฏ เป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทที่อยู่สูงที่สุดในประเทศไทย และเป็นประจำทุกปี ที่จะเปิดให้มีการขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาท ซึ่งจะมีพุทธศาสนิกชนเป็นจำนวนมากเดินทางมาจาริกแสวงบุญยังยอดเขาแห่งนี้ เพื่อสักการะรอยพระพุทธบาท ที่เชื่อกันว่าพระพุทธองค์ทรงมาประทับเอาไว้ การเดินทางมานมัสการรอยพระพุทธบาทที่นี่จึงถือเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว


เขาคิชฌกูฏ
ภาพจาก isarescheewin / shutterstock.com

โดยประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ จันทบุรี ประจำปี 2560 ทางจังหวัดจันทบุรี ได้มีกำหนดเปิดให้พุทธศาสนิกชนทั่วไป ได้ขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทวันที่ 28 มกราคม ถึง 28 มีนาคม 2560 เริ่มบวงสรวงเปิดงาน วันที่ 26 มกราคม 2560 และบวงสรวงปิดงาน วันที่ 28 มีนาคม 2560 โดยมีรถยนต์บริการรับ-ส่ง ขึ้น-ลงเขา หรือเดินเท้าขึ้น-ลงเขาได้ตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 083 782 1688 หรือ เฟซบุ๊ก เขาพระบาทพลวง จันทบุรี

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เฟซบุ๊ก เขาพระบาทพลวง จันทบุรี

ที่มา //travel.kapook.com/view163275.html




 

Create Date : 06 มกราคม 2560    
Last Update : 6 มกราคม 2560 18:40:25 น.
Counter : 1193 Pageviews.  

เที่ยวท้าลมหนาวกับ 5 ชุมชนวัฒนธรรม อบอุ่นหัวใจเมื่อไปเยือน





เที่ยว 5 ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ยลที่เที่ยวหน้าหนาวในไทยในมุมมองที่แตกต่าง เยี่ยมชมชุมชนเล็ก ๆ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมและธรรมชาติที่งดงาม ไปนอนโฮมสเตย์กินอาหารพื้นเมือง สัมผัสวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายในชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเหล่านี้กัน

          อากาศเย็นสบายในช่วงนี้ บวกกับวันหยุดยาวที่จะถึงในปีใหม่ช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าออกไปท่องเที่ยวมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ แต่พอนึกว่าจะต้องไปเจอกับฝูงชนมากมาย แย่งกันกิน แย่งกันใช้ก็ทำเอาใจฝ่อไม่อยากออกไปไหนเสียแล้ว แต่ถ้าคุณอยากออกไปพักผ่อนจริง ๆ วันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวปีใหม่ที่คนไม่เยอะให้ค่ะ ไปอยู่กับธรรมชาติและสัมผัสกับวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายของชาวบ้าน พร้อมกับสร้างมิตรภาพใหม่ ๆ กับคนท้องถิ่นกันดีกว่า ซึ่งเราก็ได้คัด 5 ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสุดน่ารักมาแนะนำกัน เผื่อเป็นตัวเลือกให้นักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาที่เที่ยวสักแห่งเพื่อไปพักผ่อนแบบชิล ๆ ในหน้าหนาวนี้
1. ชุมชนเขมราฐ บ้านลาดเจริญและบ้านเจียด จังหวัดอุบลราชธานี









          ถ้าพูดถึงจังหวัดอุบลราชธานี จะคิดถึงอะไรกันบ้างคะ? แน่นอนว่าหลายคนคงจะนึกถึงที่เที่ยวธรรมชาติสุดอัศจรรย์อย่างสามพันโบก และอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ซึ่งจริง ๆ แล้วที่นี่ก็มีดีที่ธรรมชาตินั่นล่ะค่ะ แต่เชื่อไหมว่าจังหวัดนี้ก็ยังมีที่เที่ยวที่จะทำให้คุณตกหลงรักเมืองอีสานอีกมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ การเที่ยวชมชุมชนเขมราฐ, นาแวง และเจียด ใครที่อยากพักผ่อนกับบ้านเมืองเล็ก ๆ บรรยากาศชิล ๆ ต้องลองมาเยี่ยมชมที่อำเภอเขมราฐกันค่ะ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของบ้านไม้ตึกแถวเก่าแก่ ยามเช้าอากาศจะเย็นสบายบรรยากาศเงียบสงบ จะมีชาวบ้านมานั่งรอใส่บาตร เป็นภาพที่ไม่ซับซ้อน แต่ดูแล้วสบายตาและทำให้มีความสุขได้โดยไม่รู้ตัวเลยทีเดียว

จุดเช็กอินห้ามพลาดในเขมราฐ

- กลุ่มทอผ้าแม่ติ๋ว







          งานนี้ใครที่หลงรักงานทอผ้าไทยต้องไม่พลาดไปเที่ยวชมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายแท้ทอมือที่บ้านกลุ่มทอผ้าแม่ติ๋ว ในตำบลเขมราฐ ที่มีการสืบทอดการทอผ้าจากสายตระกูลเก่าแก่ ด้วยกรรมวิธีโบราณ ย้อมผ้าด้วยน้ำย้อมจากสีธรรมชาติ เช่น ย้อมจากใบหนาด, กันเกรา, น้ำหมักเปลือกมะพร้าว, ต้นกาสะเลา ฯลฯ เป็นต้น อีกทั้งผ้าทอแต่ละผืนยังมีตำนาน มีการลงคาถาเพื่อให้ผู้ซื้อรู้สึกสบายใจ ปลอดภัย ตามความเชื่อในตำนานจากพินัยกรรมของบรรพบุรุษป้าติ๋ว ซึ่งชาวบ้านจะทอกันอย่างประณีต จึงทำให้ผ้าทอของที่นี่งดงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สำคัญราคายังย่อมเยาอีกด้วย

- บ้านลาดเจริญ

          หากอยากพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศของเมืองสุดเงียบสงบบ้านลาดเจริญ ตำบลนาแวง ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลยค่ะ ตัวหมู่บ้านเป็นชุมชนเล็ก ๆ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นประเทศลาว หมู่บ้านแห่งนี้จึงมีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทยอีสานและลาวเข้าด้วยกัน กลายเป็นเสน่ห์ของชุมชนที่ไม่เหมือนที่ไหน การมาลองนอนพักผ่อนโฮมสเตย์ ชิมอาหารพื้นเมืองแบบพาแลง ชมการฟ้อนรำอันสวยงามที่นี่ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการชาร์จแบตเตอรี่ในร่างกายเลยเชียว

- หาดทรายสูง





          ตั้งอยู่บริเวณบ้านลาดเจริญ ตำบลนาแวง มีลักษณะเป็นทะเลทรายกว้างใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่เกิดจากการสะสมของทรายที่ถูกพัดพามากับน้ำและลมจนกลายเป็นเนินทะเลทรายสูง ซึ่งในช่วงหน้าแล้งก็จะมีแก่งหินโผล่ขึ้นมาจากน้ำมากมาย มีการค้นพบภาพเขียนโบราณในบริเวณนี้ด้วย เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่น่าไปเยี่ยมเยือนยิ่ง ในช่วงเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน บรรยากาศจะเงียบสงบ แสงอาทิตย์จะสะท้อนกับเม็ดทรายเป็นสีเหลืองทอง ถ้าได้เสื่อสักใบหมอนสักผืน ก็คงจะฟินไม่น้อยเลยล่ะค่ะ ^^

- บ้านเจียด







          อีกหนึ่งชุมชนที่มีความน่าสนใจของอำเภอเขมราฐ อันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ชุมชนวัดภูถ้ำพระศิลาทอง แหล่งรวบรวมโบราณวัตถุในพื้นที่ ซึ่งเป็นโบราณวัตถุที่มีการสันนิษฐานว่าอยู่ในช่วงก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย สิ่งที่ค้นพบ เช่น ภาชนะดินเผาบรรจุโครงกระดูกมนุษย์โบราณขนาดใหญ่, เครื่องมือเหล็ก, เครื่องประดับสำริดหรือเครื่องประดับหินและแก้ว เป็นต้น ใครที่สนใจประวัติศาสตร์บอกเลยว่าจะต้องหลงรักที่นี่อย่างแน่นอน

- วัดโขงเจียมปุราณวาส



          ตามรอยพระบาทในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปเที่ยวยังวัดโขงเจียมปุราณวาสกันค่ะ วัดนี้เป็นเก่าแก่ภายในตำบลนาแวง มีอายุมากกว่า 200 ปีตั้งอยู่ติดกับริมแม่น้ำโขง ที่นี่จึงมีทัศนียภาพที่สวยงาม ซึ่งเมื่อปี พ.ศ.2519 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ก็เคยมาทรงประทับที่นี่เมื่อครั้งเสด็จฯ มาเยี่ยมบ้านนาแวง ปัจจุบันวัดแห่งนี้จึงเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านมาก ๆ

- ถนนคนเดินเขมราฐ





          เที่ยวอย่างเดียวไม่ได้มันต้องช้อปปิ้งด้วยค่ะ ซึ่งที่นี่ก็มีถนนคนเดินให้เราไปเดินเลือกซื้อสินค้าแฮนด์เมดด้วยเหมือนกัน โดยถนนคนเดินเขมราฐจะจัดขึ้นบริเวณถนนวิศิษฐ์ศรี ในทุกคืนวันเสาร์ที่ 2 และ 4 ของเดือน ชาวบ้านจะนำสินค้าและอาหารพื้นเมืองพื้นเมืองมาจำหน่ายในราคาย่อมเยา อีกทั้งยังมีการแสดงพื้นบ้านให้ได้ชมกันอีกด้วย

ศูนย์ประสานงานชุมชน

ที่อยู่ : เลขที่ 23 หมู่ที่ 10 บ้านลาดเจริญ อำเภอเขมราฐจังหวัดอุบลราชธานี

โทรศัพท์ : 08 1718 6904, 08 9642 6881 (นางนุศรี  วิชัยศร ประธานชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเขมราฐ นาแวง เจียด), 08 7460 7988, 08 9934 7689

เฟซบุ๊ก : ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเขมราฐ นาแวง เจียด

2. ชุมชนบ้านปากโสม และบ้านลำภูพาน จังหวัดหนองคาย















          ถ้าคุณเป็นคนที่หลงใหลในทะเลหมอก บอกเลยค่ะว่าหนาวนี้ต้องรีบพุ่งตัวไปเที่ยวชุมชนบ้านปากโสม และบ้านลำภูพาน ตำบลผาตั้งอำเภอสังคมกัน ซึ่งที่นี่จะเป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ล้นเหลือเป็นแหล่งขุมทรัพท์ธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่ทำให้ทั้งชาวบ้านในท้องถิ่นและผู้มาเยือนต่างตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่งดงามมากมายให้ได้ไปสัมผัส

          ลองจินตนาการดูนะคะว่ามันจะฟินแค่ไหนที่ได้ไปนอนพักผ่อนในชุมชนที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และเงียบสงบ อากาศเย็นสบายและสดชื่น ตื่นเช้ามาก็ได้นั่งรถอีแต๊กของชาวบ้านไปสูดอากาศบริสุทธิ์กันบนภูเขา พร้อมทั้งยังจะได้ชมภาพความงดงามของทะเลหมอกสีขาวละมุนยามเช้าเหนือลำน้ำโขง ได้กินอาหารท้องถิ่นสุดอร่อยแบบสุขภาพดี ได้ร่วมทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ เช่น ชมการทำขนมจีนโบราณ,การทำขนมเทียนสูตรดั้งเดิม หรือการทำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากผลไม้ท้องถิ่นอย่างหมากหลอด ฯลฯ อื้อหือ...แค่หลับตาฝันก็ฟินแล้วค่ะ หนาวนี้ต้องพาเพื่อนไปเช็กอินด่วน ๆ จุดเช็กอินห้ามพลาดในบ้านปากโสม และบ้านลำภูพาน

จุดเช็กอินห้ามพลาดบ้านปากโสมและบ้านลำภูพาน

- ผาชมหมอก







ไปยืนกรี๊ดกับวิวสวย ๆ ของทะเลหมอกสุดอลังการบนผาชมหมอกในตำบลผาตั้งกันค่ะ ยิ่งช่วงฤดูหนาวบริเวณนี้จะสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา อากาศเย็นฉ่ำสุดใจ พอเข้าช่วงสาย ๆ หน่อยสายหมอกจะเริ่มจางหายแต่จะปรากฏภาพของทุ่งหญ้ากว้างและป่าเขาสีเขียว โอ๊ย !แบบนี้สิ...แม่ปลื้ม

- จุดชมวิวสกายวอร์ค วัดผาตากเสื้อ







          เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวสุดอันซีนแห่งหนึ่งของภาคอีสานเลยทีเดียวค่ะ เพราะที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์การชมทะเลหมอกที่แตกต่างไม่เหมือนที่ไหน ด้วยทางเดินกระจกที่ยื่นออกไปริมหน้าผาสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 500 เมตร ถ้ามาเที่ยวชมในช่วงเช้าจะได้เห็นวิวของทะเลหมอกสุดตระการตาที่คลอเคลียขุนเขาและสายน้ำโขงอยู่เบื้องล่าง ราวกับการเดินลอยอยู่บนสายหมอกเลยล่ะ เสียวก็เสียว แต่เชื่อเถอะว่าความสวยงามของทะเลหมอกที่นี่จะทำให้คุณลืมการกลัวความสูงไปเลย

- ภูผาดัก

          อีกหนึ่งจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงาม นักท่องเที่ยวจะได้นั่งรถอีแต๋นของชาวบ้านขึ้นไปยังจุดจอดรถ ก่อนที่จะต้องออกกำลังกายเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 40-50 นาที ซึ่งก็คุ้มค่าต่อการเดินผ่านป่าเขาขึ้นไป เพราะด้านบนสามารถมองเห็นภูเขาน้อยใหญ่และสายหมอกได้แบบงดงามสุด ๆ ไม่แพ้จุดอื่น ๆ ในเภอสังคมเลยเชียว

- วัดถ้ำดินเพียง







          เป็นถ้ำที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี โดยชาวบ้านเชื่อกันว่าที่นี่คือเมืองบาดาลของพญานาค ด้านในจะแบ่งเป็นหลายห้อง มีก้อนหินรูปร่างแปลกตาคล้ายโลงศพ ซึ่งชาวบ้านบอกว่าเป็นโลงศพของพญานาค

- วัดภูนกกระบา



ตั้งอยู่แนวเทือกเขาที่ทอดยาวจากจังหวัดอุดรธานี จนถึงอำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ด้วยความที่ที่นี่มีนกกระบาหรือนกโพระดกอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของชื่อวัดนั่นเอง

- วัดผาใหญ่วชิรวงศ์

          เสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตพร้อมทั้งได้ชมวิวสวย ๆ กันที่วัดผาใหญ่วชิรวงศ์ ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาสูงในเขตบ้านห้วยไซงัว มองเห็นวิวได้ไกลสุดลูกหูลูกตา และยังมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี

- วัดพระพุทธบาทผาจ่อง



อีกหนึ่งวัดที่สำคัญของที่นี่ เพราะมีรอยพระพุทธบาทให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้มาเคารพกราบไหว้ใครมาเที่ยวชุมชนนี้ก็อย่าลืมไปทำบุญเสริมสิริมงคลให้กับตัวเองและครอบครัวกันนะคะ

- หาดทรายแสงทอง

เมืองสังคม จังหวัดหนองคาย เขาก็มีทะเลทรายด้วยเช่นกัน ชาวบ้านที่นี่จะเรียกกันว่าหาดทรายแสงทอง ตั้งอยู่บริเวณกลางแม่น้ำโขงบ้านปากโสม ตำบลผาตั้ง โดยในช่วงเดือนมกราคม-เมษายนของทุกปี น้ำในลำน้ำโขงจะลดลงจนปรากฏหาดทรายขึ้นกลางแม่น้ำเป็นบริเวณกว้าง นักท่องเที่ยวสามารถลงไปเดินเล่นเสพบรรยากาศอันสวยงามกันได้ ยิ่งถ้าได้อยู่จนถึงช่วงพระอาทิตย์ตกก็จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศสุดโรแมนติกของที่นี่ เพราะแสงพระอาทิตย์จะสาดส่องลงสู่ผืนทรายเป็นสีทองอร่าม มีลมเย็น ๆ พัดตลอด บรรยากาศเงียบสงบ ลองนั่งลงบนผืนทรายแล้วหลับตาฟังเสียงธรรมชาติกันดูนะคะ บอกได้คำเดียวว่ารักมาก

ศูนย์ประสานงานชุมชน

ที่อยู่ : หมู่ที่ 3 บ้านลำภูพาน ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย

โทรศัพท์ : 08 9245 2149 (คุณนวลละออง วิภูษณะ), 08 1964 6441 (ดร.อรุณศรี อื้อศรีวงศ์), 09 3546 9348 (เรือตรีอำนวย วิภูษณะ), 081060 6841 (คุณสาคร แก้วนอก)

3. ชุมชนไตลื้อเมืองลวงเหนือ จังหวัดเชียงใหม่







          ลองเปลี่ยนจากการเที่ยวชมวัฒนธรรมแบบล้านนาในเชียงใหม่ไปเที่ยวชมวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวไตลื้อหรือไทลื้อกันดูบ้างดีกว่าค่ะ กับชุมชนไตลื้อเมืองลวงเหนือ ตั้งอยู่ที่ตำบลลวงเหนืออำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมของชาวไทลื้อแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมการใช้ชีวิต การกิน การแต่งกาย ฯลฯ รวมทั้งการสืบทอดนามสกุลอักษร “บ”

          การมาเที่ยวในชุมชนไตลื้อเมืองลวงเหนือแห่งนี้จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมที่แปลกใหม่ได้ลองทำกิจกรรมที่ไม่มีที่ไหน เช่น การเยี่ยมชมบ้านตุ๊กตาไม้นายโถ,การทำกระดาษสา, การอีดฝ้าย, การทำและชิมลิ้มรสข้าวแคบ,การปรุทะลุลายลื้อลงบนถุงย่ามหรือชมบ้านสวนพอเพียง ฯลฯ ซึ่งกิจกรรมที่หลากหลายเหล่านี้นี่เองที่จะทำให้คุณได้เข้าถึงกับวัฒนธรรมไทลื้อดั้งเดิมได้อย่างง่ายดาย และไม่ต้องไปเบียดเสียดกับผู้คนมากมายในสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่อื่น ๆ รับรองได้เลยว่าหนาวนี้จะได้เก็บความสุขจากที่นี่กลับบ้านเต็มกระเป๋าแน่นอน

จุดเช็กอินห้ามพลาดบ้านไตลื้อเมืองลวงเหนือ

- เสื้อบ้าน



          ก่อนจะไปตะลุยเที่ยวในหมู่บ้านไตลื้อเมืองลวงเหนือ ก็มาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองกันสักนิด ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเสื้อบ้านจะคุ้มครองปกปักรักษาชาวบ้านและผู้มาเยือน พร้อมทั้งยังจะเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับผู้ที่เคารพนับถืออีกด้วย

- ศูนย์การศึกษาภูมิปัญญาไทยไตลื้อบ้านใบบุญ





          การจะไปเที่ยวหมู่บ้านแห่งนี้ให้ครบถ้วนไม่มีขาดเหลือก็ต้องมาที่นี่กันก่อนค่ะ เพราะเป็นศูนย์แสดงวัฒนธรรมประเพณีของชาวไทลื้อ ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวเข้าใจในวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้รวดเร็วและง่ายมากขึ้น อีกทั้งยังจะได้รับคำแนะนำดี ๆ ว่าเที่ยวอย่างไรให้แฮปปี้สุด ๆ ในหมู่บ้านแห่งนี้อีกด้วย

- วัดศรีมุงเมือง

          อีกหนึ่งจุดบนเส้นทางปั่นจักรยานที่ต้องไปเยี่ยมชมกันให้ได้เพราะวัดนี้เป็นวัดสำคัญประจำชุมชนมีเจดีย์ที่สำคัญคือพระธาตุเจดีย์พีสีพิศาลมงคล รวมทั้งพระมหาวิหารไทลื้อปุญมากโรวิหารที่ชาวบ้านร่วมกันบูรณะ ให้ได้ชมความสวยงาม

- บ้านเฮือนปอกระดาษสา



          ใครที่หลงใหลงานประดิษฐ์สวย ๆจากกระดาษาสารีบพุ่งตัวไปช้อปปิ้งสินค้าแฮนด์เมดจากกระดาษสากันได้ที่นี่เลย มีงานผลิตภัณฑ์จากกระดาษสาให้เลือกซื้อหลากหลายแบบ และยังมีการสาธิตวิธีทำกระดาษสาให้ได้ชมกันอีกด้วย

- บ้านตุ๊กตาไม้นายโถ









          ลบภาพของตุ๊กตาไม้แบบเดิม ๆ ทิ้งไปได้เลยค่ะ เพราะที่นี่เป็นศูนย์การเรียนรู้การทำตุ๊กตาไม้แบบประยุกต์มีการทำตุ๊กตาไม้ในรูปแบบต่าง ๆ ที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงมีกลิ่นอายของความเป็นไทยซ่อนอยู่ ซึ่งก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมการผลิตตุ๊กตาไปจนถึงการเลือกซื้อสินค้าในราคาย่อมเยา

- ชมการทอผ้าแบบชาวไทลื้อ

          ถ้าได้เข้ามาเยี่ยมชมชุมชนแห่งนี้จะสังเกตได้ว่าเกือบทุกบ้านจะมีอุปกรณ์การทอผ้าแบบโบราณ ไม่ว่าจะเป็นอีดฝ้าย, ปั่นฝ้าย, กวักหรือกี่ทอผ้าเป็นต้น โดยจะตั้งไว้ใต้ถุนบ้านให้ได้เยี่ยมชมซึ่งผ้าทอของชาวไทลื้อจะมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยใช้เส้นดายยืนพื้นสีดำและตามด้วยฝ้ายสีแดง แซมสีขาว สีเขียวและสีเหลืองบ้างเล็กน้อย

ศูนย์ประสานงานชุมชนชุมชน

ที่อยู่ : หมู่ที่ 4 ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่

โทรศัพท์ : 08 1952 0177 (ร้อยตรีณัฐนัยวิฑิต ใบสุขันธ์ประธานกลุ่มท่องเที่ยวไตลื้อบ้านเมืองลวงเหนือ), 08 6919 1915 (คุณพชรนันท์ บัวมะลิ ผู้ประสานกลุ่มฯ)

เฟซบุ๊ก : หมู่บ้านวัฒนธรรมล้านนาเพื่อการท่องเที่ยวโดยชุมชนไตลื้อเมืองลวงเหนือ

4. ชุมชนบ้านต่อแพ จังหวัดแม่ฮ่องสอน









          หลายคนเดินทางมาเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็อาจจะเลยผ่านขุนยวมเข้าไปเที่ยวยังตัวเมือง แต่อยากจะบอกว่าที่นี่ได้ซ่อนความสวยงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมเอาไว้มากมายค่ะ โดยเฉพาะที่หมู่บ้านต่อแพ ตำบลแม่เงา หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติของป่าเขาที่งดงาม มีชาวไทใหญ่และชาวกะเหรี่ยงเป็นเจ้าบ้านที่น่ารัก คอยต้อนรับผู้มาเยือนอย่างเป็นมิตร ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่จัดงานปอยส่างลองหรืองานบรรพชาสามเณร(บวชลูกแก้ว) สุดสนุกสนาน ยิ่งถ้าใครอยากสัมผัสกับอากาศหนาวแบบควันออกปากคุณมาถูกที่แล้วค่ะ ^^

          หน้าหนาวเป็นฤดูกาลที่เหมาะมาก ๆ สำหรับการไปนอนโฮมสเตย์ท่ามกลางธรรมชาติในหมู่บ้านแห่งนี้ คุณจะได้ฟินไปกับอากาศที่หนาวเย็นฉ่ำใจตื่นเช้ามาก็ได้นั่งจิบกาแฟมองขุนเขาและท้องนาสีเขียว บางวันยังมีไอหมอกบาง ๆ ให้ได้เดินฝ่าเล่น ๆ กลางท้องนาอีกต่างหาก นอกจากนี้ยังจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและประเพณีของชาวบ้านทั้งการทำมาหากิน, การใช้ชีวิต, อาหารพื้นเมือง หรือการทำหมวกกุ๊บไต ฯลฯ ท่ามกลางบรรยากาศสุดเงียบสงบ ในทุก ๆ เดือนที่นี่จะมีงานประเพณีที่สำคัญให้ได้เที่ยวชม เรียกได้ว่าเป็นชุมชนที่น่าเที่ยวตลอดทั้งปีเลยทีเดียว

จุดเช็กอินห้ามพลาดบ้านต่อแพ

- วัดต่อแพ





          มาถึงชุมชนแห่งนี้แล้วถ้าไม่ได้มาเที่ยวที่นี่ก็เหมือนกับมาไม่ถึงค่ะ เพราะวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ของหมู่บ้าน ภายในวัดมีศาลาการเปรียญที่สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมไทใหญ่ เป็นไม้สักทั้งหลัง หลังคามีหลายชั้น สร้างลดหลั่นกันลงมาอย่างสวยงาม ที่ใกล้ ๆ กันนั้นเป็นเจดีย์สีเหลืองทองอร่าม สร้างตามแบบศิลปะพม่าผสมกับไทใหญ่ สูงประมาณ 20 เมตร สวยงามโดดเด่นเหมาะแก่การมาไหว้พระขอพร นอกจากนี้ยังมีผ้าม่านประดับทับทิมอายุกว่า 150 ปี เก็บรักษาไว้ด้วย

- บ้านชาวไทใหญ่โบราณ (เฮินไต)







          เป็นสิ่งที่หาดูได้ยากมาก ๆ สำหรับบ้านชาวไทใหญ่โบราณซึ่งภายในชุมชนนี้ก็ยังคงมีการรักษาไว้อย่างดี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

- ท่องเที่ยวเดินป่าชมธรรมชาติ

          หมู่บ้านแห่งนี้ห้อมล้อมไปด้วยป่าเขาที่สวยงาม การได้เดินเที่ยวตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก โดยเส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านหมู่บ้านทุ่งนา ลำธาร เชิงเขา ไล่ไปจนถึงสันเขา มีระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร หรือถ้าใครฟิตหน่อยจะเดินเที่ยวไปยังตาดมรกต ก็จะมีระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร

ศูนย์ประสานงานชุมชน

โทรศัพท์ : 08 1980 7743 (นายชัยเดช สุทินกรณ์ประธานกลุ่มท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านต่อแพ), 08 4803 2561 (นายณัฐพล สุวรรณสังข์ ประธานกลุ่มโฮมสเตย์)

5. ชุมชนบ้านผาบ่อง จังหวัดแม่ฮ่องสอน











          ถ้ากำลังมองหาสักสถานที่ท่องเที่ยวที่เงียบสงบเพื่อพักผ่อนอย่างแท้จริงในช่วงหน้าหนาวนี้ ชุมชนบ้านผาบ่องอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ อีกแห่งหนึ่งค่ะ ด้วยจุดภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาโอบล้อมไปด้วยขุนเขาสีเขียวน้อยใหญ่ มีสายน้ำปายและแม่สะมาดไหลผ่านหล่อเลี้ยงชีวิตและให้ความชุ่มฉ่ำแก่หมู่บ้านแห่งนี้มาอย่างยาวนาน







          ไปสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านสองชนเผ่าคือชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงขาวและชาวไทใหญ่ที่อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ด้วยการใช้ชีวิตตามวิถีเกษตรพอเพียง และยังคงรักษาประเพณีวัฒธรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ผู้มาเยือนจะได้ลิ้มลองกับอาหารพื้นเมืองสุดอร่อย ได้เที่ยวชมบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมแบบพื้นเมืองแบบไทใหญ่ พร้อมทั้งดื่มด่ำกับธรรมชาติป่าเขาที่อยู่รายล้อมรอบ ๆ หมู่บ้าน

จุดเช็กอินห้ามพลาดบ้านผาบ่อง

- หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว



          ใครที่อยากเห็นวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยงต้องไปเที่ยวชมชุมชนบ้านห้วยปูแกงกันค่ะ เป็นชุมชนใกล้ ๆกับบ้านผาบ่อง ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวกะเหรี่ยงคอยาว (กะยาน)และกะเหรี่ยงหูใหญ่ (กะยอ)เราจะได้ชมบ้านเรือนและวิถีชีวิตของชาวบ้านอย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ ๆ กับชาวบ้านอีกด้วย

- ชมการต้องลายแผ่นโลหะ

          ซึ่งเป็นการทำเครื่องประดับตกแต่งอาคารบ้านเรือนชาวไทใหญ่อันวิจิตรงดงาม ที่บ้านท่าโป่งแดง

- บ่อน้ำพุร้อน



          แหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวบ้าน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถไปคลายความเมื่อยล้า นั่งกินกาแฟ ณ ร้านกุ๊บลายข่าน ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ กันได้

- กาดพีด



          ตลาดย้อนยุคของชาวไทใหญ่ ที่มีสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกมาจำหน่ายมากมายอีกทั้งยังมีการแสดงและการทานอาหารค่ำแบบ “เผินข้าวไต”ให้ได้เที่ยวชมด้วย

ศูนย์ประสานงานชุมชน

โทรศัพท์ : 09 3134 9181 (นายอมร ศรีตระกูล กำนันตำบลผาบ่อง), 05361 4417 (สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน)

          ทั้งนี้สามารถดูและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เว็บไซต์ culture.go.th และเฟซบุ๊ก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม

ทำงานหนักหน่วงกันมาทั้งปีถึงเวลาแล้วค่ะที่จะไปเติมพลังงานให้กับชีวิตกัน และเราเชื่อว่าทั้ง 5ชุมชนนี้จะทำให้ทั้งพลังใจและพลังกายของคุณเพิ่มขึ้นได้อีกหลายเท่าตัวแน่นอน เที่ยวไปพร้อมกับเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ คุ้มค่าขนาดนี้จะนอนอยู่บ้านเฉย ๆ หรือคะ :)


ที่มา  //travel.kapook.com/view163289.html




 

Create Date : 06 มกราคม 2560    
Last Update : 6 มกราคม 2560 18:39:11 น.
Counter : 1388 Pageviews.  

จัดเต็ม 30 สถานที่กางเต็นท์ทั่วไทย อากาศเย็นฉ่ำใจ ปักหมุดว่าต้องไป



สถานที่กางเต็นท์

สถานที่กางเต็นท์ทั่วไทย ให้ไปสัมผัสกับธรรมชาติป่าเขากันอย่างจุใจ หน้าหนาวนี้ใครวางแผนไปเที่ยวพักผ่อนชิล ๆ ลองมาดูสถานที่กางเต็นท์เหล่านี้กันได้เลย

ช่วงวันหยุดยาวนี้ใครที่กำลังมองหาสถานที่กางเต็นท์ บรรยากาศดี แบบใกล้ชิดธรรมชาติ เรามีสถานที่กางเต็นท์ทั่วไทยมาแนะนำกันค่ะ เอาแบบให้อิ่มใจกับหน้าหนาวกันไปเลย จะมีที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง...ตามเราไปดูกันได้เลย

1. ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่

สถานที่กางเต็นท์

          เรียกได้ว่าเป็นจุดกางเต็นท์สุดฮิตของเชียงใหม่เลยทีเดียว ในปีหนึ่งที่นี่จะได้ต้อนรับผู้มาเยือนไม่ขาดสาย ยิ่งในหน้าหนาวที่อากาศช่างเย็นฉ่ำใจ และมีทะเลหมอกให้ได้ยลกันแบบอลังการ ก็จะยิ่งน่าท่องเที่ยวแบบสุด ๆ ดูรายละเอียดลานกางเต็นท์ดอยอ่างขางได้เลยที่นี่ "5 จุดกางเต็นท์ดอยอ่างขาง ไปนอนนับดาวสัมผัสอากาศหนาวกัน"

2. ดอยชัวร์ญ่า อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

          สำหรับใครที่ไปเที่ยวในเส้นทางของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ หากไม่พักบ้านพักของอุทยานหรือรีสอร์ทต่าง ๆ ที่นี่ก็มีลานกางเต็นท์ไว้บริการ ซึ่งจุดหลัก ๆ ที่สามารถกางเต็นท์ได้จะมีทั้งลานสน และดอยชัวร์ญ่า โดยจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกางเต็นท์กันจะอยู่ที่ดอยชัวร์ญ่า เพราะที่นี่เป็นที่กางเต็นท์กลางแจ้ง ตั้งอยู่บนเนินเขา ซึ่งสามารถมองเห็นวิวสวย ๆ ของน้ำตกสิริภูมิได้อย่างชัดเจน เป็นอีกหนึ่งจุดกางเต็นท์ที่โรแมนติกมากทีเดียว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทรศัพท์ 0 5335 5728

3. ม่อนแจ่ม ม่อนตะวัน จังหวัดเชียงใหม่

สถานที่กางเต็นท์

          ม่อนแจ่ม และม่อนตะวัน นอกจากเป็นจุดชมวิวห้ามพลาดของอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่แล้ว ที่นี่ก็ยังเป็นจุดกางเต็นท์รับลมหนาวสุดฮิตด้วยเช่นกัน ด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามของม่อนแจ่มและม่อนตะวัน ที่สามารถมองเห็นทะเลหมอก ยอดดอยน้อยใหญ่ รวมทั้งมีแปลงดอกไม้สวย ๆ ให้เชยชม ก็ทำให้ที่นี่ดูน่าหลงใหล น่าไปเที่ยวมาก ๆ สำหรับลานกางเต็นท์ ทางเจ้าหน้าที่ที่ม่อนแจ่มจะจัดเต็นท์ไว้ให้นักท่องเที่ยว ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำเต็นท์ไปกางเอง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 08 1806 3993 ส่วนม่อนตะวันสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์ 08 0123 1609

4. สถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ จังหวัดเชียงใหม่

สถานที่กางเต็นท์

          สถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ เป็นศูนย์วิจัยเกษตรที่สูงของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ในเขตอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,560 เมตร ที่นี่เป็นทั้งจุดชมวิวระดับ 10 ดาว และเป็นสถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย

          จากจุดชมวิวของสถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ จะสามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาวได้อย่างชัดเจน และมีความสวยงามมาก ๆ ยิ่งในฤดูหนาว บริเวณนี้ก็จะสามารถชมทะเลหมอกได้แบบตระการตา อากาศหนาวเย็นฉ่ำใจ มีลานกางเต็นท์และที่พักไว้รองรับนักท่องเที่ยว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0 5322 2014, 0 5394 4052

5. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน

สถานที่กางเต็นท์

          อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง สถานที่ชมทะเลหมอกที่สวยงามอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย นักท่องเที่ยวมากมายต่างใฝ่ฝันว่าต้องมานอนชมดาว เฝ้าทะเลหมอกที่นี่กันให้ได้สักครั้งในชีวิต โดยบ้านพักและจุดกางเต็นท์จะอยู่ไม่ไกลจากจุดชมวิวมากนัก จึงสะดวกสบายต่อนักท่องเที่ยว ที่สามารถตื่นนอนมาก็ชมทะเลหมอกสุดอลังการได้เลย

          ใครที่ไม่อยากแบกเต็นท์ให้ยุ่งยาก ทางอุทยานก็มีให้เช่าด้วยเช่นกัน โดยเต็นท์นอนขนาด 3 คน ราคา 225 บาท/หลัง หมอน ราคา 10 บาท/ใบ แผ่นรองนอน ราคา 20/แผ่น ถุงนอน ราคา 30 บาท/ผืน สอบถามข้อมูลอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง โทรศัพท์ 08 2187 7834 จองบ้านพักและเต็นท์ โทรศัพท์ 0 2561 0777 ต่อ 1743-4

6. อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า จังหวัดเชียงใหม่

          ถ้าใครอยากไปนอนกางเต็นท์ที่เชียงใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ แต่ไม่อยากไปไกลจากเมืองเชียงใหม่มากนัก เราขอแนะนำที่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าค่ะ เป็นพื้นที่อ่างเก็บน้ำไม่ใหญ่มากนัก ด้านหลังเป็นภูเขา อากาศเย็นสบาย บรรยากาศดีใช่เล่นเลยทีเดียว และยังมีแพอาหารรสชาติอร่อยให้ได้ลิ้มลองกันอย่างจุใจอีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า มณฑลทหารบกที่ 33 โทรศัพท์ 0 5312 1119

7. หน่วยจัดการต้นน้ำดอยสามหมื่น จังหวัดเชียงใหม่


          ดอยสามหมื่น เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ตำบลเมืองคอง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ไฮไลท์ของที่นี่ก็อยู่ที่ทะเลหมอกสุดปังและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ใครที่ชอบผจญภัยก็จัดไปเลยค่ะ

8. ดอยช้าง ดอยกาดผี ดอยวาวี จังหวัดเชียงราย

สถานที่กางเต็นท์

          ดอยช้าง ดอยกาดผี และดอยวาวี เป็นยอดดอยในอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้กันเลยทีเดียว หากอยากเห็นทะเลหมอกสวย ๆ แบบอลังการ ก็มุ่งหน้าไปกันที่ดอยกาดผี หากอยากสัมผัสวิถีชีวิตชาวเขาและชิมลิ้มรสกาแฟสุดอร่อย แนะนำให้ไปที่ดอยช้าง ส่วนถ้าอยากเห็นไร่ชาบนสันเขา พร้อมชิมชาคุณภาพดี และกินอาหารพื้นเมืองแบบจีนฮ่อ ก็ตรงดิ่งไปเลยที่ดอยวาวี

9. ภูชี้ฟ้า ภูชี้เดือน ภูชี้ดาว จังหวัดเชียงราย

สถานที่กางเต็นท์

          ภูชี้ฟ้า ภูชี้เดือน และภูชี้ดาว เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามมากที่สุดของจังหวัดเชียงราย โดยทั้ง 3 ยอดดอยนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ใครชอบทะเลหมอกก็ต้องไปจัดกันสักครั้งค่ะ สำหรับลานกางเต็นท์แต่ละสถานที่จัดไว้ให้แตกต่างกันออกไป อย่างที่ภูชี้ฟ้าจะมีลานกางเต็นท์อยู่ด้านล่าง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดชมวิวระยะหนึ่ง ส่วนภูชี้ดาวและภูชี้เดือนจะมีลานกางเต็นท์ใกล้ ๆ กับจุดชมวิว

10. ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย

สถานที่กางเต็นท์
ภาพจาก saiko3p / shutterstock.com

          ดอยแม่สลอง ดินแดนแห่งไร่ชาคุณภาพของเมืองไทย หากอยากนอนกางเต็นท์ท่ามกลางอากาศสุดเย็นฉ่ำ กับบรรยากาศสุดเงียบสงบ ได้ชิมชาอู่หลงรสชาติอร่อย ก็ต้องไปกันที่ดอยแม่สลองนี่ล่ะ

11. ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

สถานที่กางเต็นท์

          ปางอุ๋ง เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่เที่ยวหน้าหนาวที่ไม่อยากให้พลาด โดยลานกางเต็นท์จะตั้งอยู่ในลานต้นสนริมอ่างเก็บน้ำ ซึ่งรายล้อมไปด้วยบรรยากาศของป่าเขาที่งดงาม ยามเช้ามีไอหมอกลอยละล่องอยู่เหนือน้ำ เป็นภาพที่อยากให้มาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง

12. ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

สถานที่กางเต็นท์

          อำเภอปาย เป็นอำเภอที่มีธรรมชาติของป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีท้องทุ่งนาสุดกว้างใหญ่ มีสายน้ำปายไหลผ่านเมืองอย่างสวยงาม การได้มานอนเต็นท์ สูดอากาศบริสุทธิ์ริมน้ำปาย จึงเป็นการเติมพลังให้กับร่างกายได้อย่างดี

13. ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน

สถานที่กางเต็นท์

          ดอยเสมอดาว ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน เป็นยอดดอยที่มีบรรยากาศสวยงามระดับ 10 ดาวของเมืองไทย และยังเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนที่นี่อย่างไม่ขาดสาย ยามเช้ามีทะเลหมอก ยามกลางคืนก็มีดาวนับล้านให้ชม สามารถดูรายละเอียดดอยเสมอดาวเพิ่มเติมได้ที่ "ข้อควรรู้ก่อนไปเที่ยวดอยเสมอดาว นอนดูดาวพราวฟ้า"

14. สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน จังหวัดน่าน

สถานที่กางเต็นท์

          นอกจากจะเป็นสถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทยแล้ว ในหน้าหนาวที่นี่ยังมีทะเลหมอกให้ได้ชมกันอีกด้วย อากาศก็เย็นสบาย บรรยากาศเงียบสงบมาก ๆ สามารถขับรถขึ้นไปได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน โทรศัพท์ 08 1602 3199

15. บ่อเกลือ จังหวัดน่าน

          อำเภอบ่อเกลือ เป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ อากาศที่นี่จึงเย็นสบาย บรรยากาศเงียบสงบมาก ๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการอยู่กับธรรมชาติ มีหลายรีสอร์ทที่ให้บริการลานกางเต็นท์


16. ม่อนครูบาใส จังหวัดตาก

สถานที่กางเต็นท์

          ม่อนครูบาใส ตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติแม่เมย จังหวัดตาก เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของไทย บรรยากาศเงียบสงบ และอากาศก็หนาวเย็นสุด ๆ ด้วยเช่นกัน รถสามารถเข้าถึงได้ สอบถามรายละเอียดอื่น ๆ ได้ที่อุทยานแห่งชาติแม่เมย โทรศัพท์ 08 8290 7964

17. อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จังหวัดลำพูน

สถานที่กางเต็นท์

          อุทยานแห่งชาติแม่ปิง เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ มากมาย อีกทั้งยังมีกิจกรรมล่องแพลำน้ำปิง 3 จังหวัด คือ จังหวัดตาก จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน ไว้รองรับนักท่องเที่ยวด้วย บริเวณกางเต็นท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมจะอยู่บริเวณทุ่งกิ๊กและจุดชมวิวแก่งก้อ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง โทรศัพท์ 09 3130 8439 หรือเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติ แม่ปิง

18. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์

สถานที่กางเต็นท์

          ภูทับเบิก สถานที่ชมทะเลหมอกที่สวยงามมาก ๆ อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย ตั้งอยู่บนภูเขาสูง มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี สามารถชมทะเลหมอกได้ตั้งแต่ในช่วงหน้าฝนไล่ไปจนถึงปลายฤดูหนาวเลยทีเดียว สำหรับสถานที่กางเต็นท์จะมีไว้รองรับนักท่องเที่ยวทั้งบริเวณอาคารหอดูดาวและที่วัดอุณหภูมิ ภูทับเบิก และรีสอร์ทต่าง ๆ

19. เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

สถานที่กางเต็นท์

          สำหรับอำเภอเขาค้อ เป็นอำเภอที่รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงใหญ่มากมาย ที่นี่จึงมีจุดชมทะเลหมอกหลายจุด อาทิ จุดชมวิวตะเคียนโง๊ะ, จุดชมวิวไปรษณีย์เขาค้อ, จุดชมวิวฐานยิงสนับสนุนอิทธิ เป็นต้น บางจุดยังสามารถนอนพักกางเต็นท์ได้อีกด้วย อีกทั้งบางรีสอร์ทยังมีลานกางเต็นท์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวมากมาย หรือใครจะเลยเข้าไปเที่ยวและนอนพักกางเต็นท์ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงก็ได้เช่นกัน

20. วนอุทยานภูลังกา จังหวัดพะเยา

สถานที่กางเต็นท์

          วนอุทยานภูลังกา เป็นผืนป่าที่ยังคงอุดมสมบูรณ์สวยงาม มีภูเขาหินปูนสูงใหญ่เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนแห่งทะเลหมอก จุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามมาก ๆ จะอยู่บริเวณภูลังการีสอร์ท ซึ่งที่นี่ก็มีลานกางเต็นท์ไว้บริการด้วย

21. อุทยานแห่งชาติภูเรือ จังหวัดเลย

สถานที่กางเต็นท์

          อยากสัมผัสกับความหนาวแบบเย็นเจี๊ยบ เราขอแนะนำให้ไปนอนกางเต็นท์กันที่นี่เลยค่ะ เป็นอีกยอดดอยที่มีอากาศเย็นจับใจ และยังมีทะเลหมอกให้ได้ชมกันแบบอลังการงานสร้าง สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการกางเต็นท์ได้ที่อุทยานแห่งชาติภูเรือ โทรศัพท์ 0 4280 1716, 08 8509 5299

22. ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย

          ภูห้วยอีสัน ตั้งอยู่ภายในอำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสาน สามารถมองเห็นทะเลหมอกเหนือลำน้ำโขงได้แบบไกลสุดลูกหูลูกตา สอบถามรายละเอียดได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านม่วง โทรศัพท์ 0 4241 4871

23. อ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

          อ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวสวย ๆ ในอำเภอวังน้ำเขียว ซึ่งนอกจากจะมีบรรยากาศสวยงาม อากาศเย็นสบายแล้ว ก็ยังสามารถที่จะกางเต็นท์ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและลงได้ที่นี่อีกด้วย

24. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

          อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นสถานที่กางเต็นท์สุดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกันมากที่สุด เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก มีจุดกางเต็นท์บริการหลายจุด ซึ่งแต่ละจุดก็จะมีบรรยากาศที่สวยงามแตกต่างกันออกไป และยังสามารถขับรถขึ้นไปเที่ยวกันได้อย่างสะดวกง่ายดาย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โทรศัพท์ 08 6092 6527

25. มอหินขาว จังหวัดชัยภูมิ

สถานที่กางเต็นท์

          มอหินขาว แหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนของเมืองไทย และยังเป็นจุดชมวิวสวย ๆ ในจังหวัดชัยภูมิ ในช่วงหน้าหนาวที่นี่จะมีอากาศที่หนาวเย็นมาก ยามค่ำคืนมีดาวให้ชมกันอย่างจุใจ บรรยากาศโรแมนติกสุด ๆ ลานกางเต็นท์ก็มีไว้รองรับมากมาย มีห้องน้ำ ร้านค้า ให้บริการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติภูแลนคา โทรศัพท์ 0 44 810 903

26. บ้านแก่นมะกรูด จังหวัดอุทัยธานี

          บ้านแก่นมะกรูด เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัดอุทัยธานี ที่ในช่วงหน้าหนาวจะมีดอกไม้เมืองหนาวให้เที่ยวชมมากมาย อากาศเย็นสบายและสดชื่น บรรยากาศเงียบสงบมาก ๆ มีลานกางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก แก่นมะกรูด บ้านไร่ อุทัยธานี

27. จุดชมวิวป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี

สถานที่กางเต็นท์

          จุดชมวิวป้อมปี่ ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในภาคตะวันตกของไทย ภาพของพระอาทิตย์ดวงกลมโต เลื่อนคล้อยลอยลับลงหลังเขา สะท้อนแสงสีทองสุดอบอุ่นลงสู่ผืนน้ำ ซึ่งเป็นภาพที่สามารถมองเห็นได้ในจุดกางเต็นท์อีกด้วย สอบถามรายละเอียดได้ที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม โทรศัพท์ 0 3451 0431, 08 9228 7612

28. แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

สถานที่กางเต็นท์

          ถ้าชอบบรรยากาศวิวอ่างเก็บน้ำสวย ๆ อากาศเย็นสบายและหนาวเย็น แก่งกระจานก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีทีเดียวค่ะ การมากางเต็นท์นอนที่นี่นอกจากจะมาง่ายดายแล้ว ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันอีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โทรศัพท์ 0 3277 2312 และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 0 3277 2311 หรือดูรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊กอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (Kaeng Krachan National Park)

29. จุดชมวิวเสม็ดนางชี จังหวัดพังงา

สถานที่กางเต็นท์

          เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ชมวิวท้องทะเลพังงาที่สวยที่สุดเลยก็ว่าได้ สำหรับจุดชมวิวเสม็ดนางชี อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาสูง สามารถมองเห็นอ่าวพังงาได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดิน ที่นี่ก็มีความงดงามเกินคำบรรยายจริง ๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ "เสม็ดนางชี ที่เที่ยวอันซีนพังงา" และเฟซบุ๊ก ชมรมคนรักจุดชมวิวเสม็ดนางชี

30. อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง จังหวัดสุพรรณบุรี

สถานที่กางเต็นท์

          วินาทีนี้ต้องยกความฮอตให้กับอ่างเก็บน้ำหุบเขาวงแห่งนี้ค่ะ เพราะเป็นอ่างเก็บน้ำที่มีบรรยากาศดีเทียบเท่ากับปางอุ๋งเลยทีเดียว และยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วย ไม่มีรถก็ไปเที่ยวได้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ suphan.biz

          อื้อหือ...เห็นบรรยากาศของแต่ละที่แล้ว แทบอยากจะเก็บกระเป๋า แบกเต็นท์ขึ้นหลังไปเที่ยวเสียวันนี้เลยทีเดียว ใครที่มีแผนเดินทางไปเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว ก็อย่าลืมเช็กข้อมูลและตรวจสอบยวดยานพาหนะก่อนการเดินทางนะคะ :)

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2559

ที่มา //travel.kapook.com/view163639.html




 

Create Date : 06 มกราคม 2560    
Last Update : 6 มกราคม 2560 18:37:45 น.
Counter : 2584 Pageviews.  

10 หูฟังที่ดีที่สุด 2016 รุ่นไหนน่าโดน ไปดูกัน !



หูฟัง 2016

รวมสุดยอดหูฟังที่ดีที่สุดในปี 2016 มาพร้อมคุณภาพเสียงขั้นเทพ ดีไซน์เท่ ๆ ที่คนรักเสียงเพลงไม่ควรพลาดหามาใช้

ช่วงท้ายปีแบบนี้ เชื่อเลยว่าหนุ่ม ๆ ที่รักการฟังเพลงจำนวนไม่น้อย ต่างก็กำลังมองหาหูฟังอันใหม่ไว้เป็นของขวัญให้ตัวเองกันอยู่แน่ ๆ เพราะดูเหมือนว่าปีนี้จะมีหูฟังดี ๆ จากหลากแบรนด์ชั้นนำออกมาให้เลือกใช้กันเต็มไปหมด จนอาจทำให้บางคนยังตัดสินใจไม่ถูกว่าควรเลือกรุ่นไหนมาใช้งานดี ว่าแล้วกระปุกดอทคอมเลยคัดเอาหูฟังขั้นเทพประจำปี 2016 มาแนะนำกันด้วยครับ

1. Sony MDR-1000X

หูฟัง 2016

          Sony มาพร้อมหูฟังไร้สายรุ่น MDR-1000X ที่ไม่เพียงแค่มีงานออกแบบสวย ๆ และให้เสียงคมชัดครบทุกย่านแล้ว จุดเด่นของหูฟังรุ่นนี้ยังอยู่ที่ระบบตัดเสียงรบกวน ซึ่งทำออกมาได้ดีมาก ๆ สามารถปรับความดังของเสียงได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัส อีกทั้งยังพับเก็บง่าย โดยใช้เชื่อมต่อฟังเพลงกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth บิวท์อิน วางขายแล้วในราคา 15,990 บาท

2. NuForce HEM6

หูฟัง 2016

          HEM6 หูฟัง In Ear ตัวเทพของ NuForce มาพร้อมไดรเวอร์ประสิทธิภาพสูงข้างละ 3 ตัว ซึ่งให้รายละเอียดของเสียงที่คมชัด ขณะที่สายหูฟังที่ถักเป็นเกลียวพร้อมเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมียม จึงมีความทนทานและความยืดหยุ่นสูง ไม่ขาดง่าย รวมถึงออกแบบมาให้สวมใส่กระชับหูด้วย โดยวางขายแล้วในราคาประมาณ 15,300 บาท

3. Oppo PM-3

หูฟัง 2016

          PM-3 หูฟังสุดเท่ของ Oppo มาพร้อมไดรเวอร์ประสิทธิภาพสูงแบบ Planar Magnetic ให้เสียงที่คมชัดทุกรายละเอียดและสเตจที่กว้าง ป้องกันเสียงรบกวนได้ดี ตัวหูฟังทำจากวัสดุคุณภาพเยี่ยม มีน้ำหนักเบา พร้อมงานออกแบบที่ช่วยให้สวมใส่กระชับหู โดยสนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 15,000 บาท

4. Beyerdynamic T51i

หูฟัง 2016

          Beyerdynamic มาพร้อมหูฟังรุ่น T51i ที่เน้นงานออกแบบเท่ ๆ มีไดรเวอร์ที่ให้คุณภาพเสียงที่ชัดแจ๋ว ใช้ฟังเพลงแนวไหนก็ฟิน โดยสามารถแยกเสียงร้องและเสียงเครื่องดนตรีได้ชัดมาก ตัวหูฟังทำจากวัสดุอย่างดีที่ให้ความยืดหยุ่นสูง ช่วยให้สวมใส่สบาย วางขายแล้วในราคาประมาณ 10,500 บาท

5. Bang & Olufsen BeoPlay H2

หูฟัง 2016

          หูฟังรุ่นนี้ของ Bang & Olufsen เป็นหูฟังที่มีงานดีไซน์สวยหรูตามสไตล์ของแบรนด์ ตัวหูฟังใช้วัสดุอย่างดีในการผลิต มีความยืดหยุ่นสูงและน้ำหนักเบา แผ่นรองหูทำจากหนังแกะ จึงให้ความรู้สึกสบายขณะสวมใส่ แถมสายหูฟังยังถอดเปลี่ยนได้ ส่วนเรื่องคุณภาพเสียงก็ระดับเทพเลยทีเดียว ได้ยินเสียงเครื่องดนตรีและเสียงร้องที่ชัดเจน มีรีโมทและไมโครโฟนบิวท์อิน สนนราคาขายที่ 8,990 บาท

6. Audio-Technica ATH-SR5BT

หูฟัง 2016

          ATH-SR5BT หูฟังดีไซน์สวยแบบเรียบง่ายจากแบรนด์ Audio-Technica ให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม ชัดเจนครบถ้วนทุกรายละเอียด รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และ NFC ในตัว มีให้เลือก 2 สีด้วยกัน คือ สีดำและสีขาว วางขายแล้วในราคาประมาณ 7,000 บาท

7. RHA T10i

หูฟัง 2016

          RHA T10i หูฟัง In Ear สุดเท่ที่ใช้สเตนเลสสตีลเกรดพรีเมียมในการผลิต จึงมีความแข็งแรงทนทานและน้ำหนักเบา ภายในมีไดรเวอร์ประสิทธิภาพสูง ให้รายละเอียดของเสียงที่ชัดเว่อร์ ทั้งยังออกแบบมาให้สวมใส่กระชับหู มีรีโมทและไมโครโฟนในตัว โดยวางขายแล้วในราคาประมาณ 6,500 บาท

8. Bose SoundSport Wireless

หูฟัง 2016

          หูฟังไร้สายรุ่นนี้ของแบรนด์ Bose ทำจากวัสดุอย่างดี โดยออกแบบมาให้กันเหงื่อได้ ใส่แล้วกระชับหู สามารถใส่ออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องห่วงว่าหูฟังจะหลุด รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth และ NFC ในตัว ซึ่งให้เสียงที่ฟังแล้วสบายหู เบสไม่หนักจนเกินไป และให้รายละเอียดครบ โดยมีราคาขายอยู่ที่ประมาณ 5,300 บาท

9. Plantronics BackBeat FIT

หูฟัง 2016

          BackBeat FIT หูฟังไร้สายจาก Plantronics ผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน พร้อมเคลือบสาร P2i Nano ช่วยให้กันน้ำและเหงื่อได้สบาย สวมใส่กระชับหู จึงเหมาะกับการใส่ฟังเพลงขณะออกกำลังกาย โดยรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ในตัว ใช้ฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทั้งยังให้เสียงที่ชัดแจ๋ว โดยวางขายแล้วในราคา 4,790 บาท

10. Sennheiser Momentum In-Ear

หูฟัง 2016

          หูฟัง In Ear รุ่นนี้จากซีรีส์ Momentum ของ Sennheiser เน้นงานดีไซน์เท่ ๆ ที่สวมใส่สบายและกระชับหู ส่วนคุณภาพเสียงต้องบอกเลยว่าคุ้มค่าเกินราคา ทั้งเสียงเบสที่แน่นกำลังดี สเตจกว้าง ให้เสียงที่คมชัดทุกตัวโน้ต รวมถึงมีรีโมทในตัวสำหรับควบคุมการทำงานด้วย โดยวางขายแล้วในราคา 4,190 บาท

  เห็นอย่างนี้แล้ว ต้องบอกเลยว่าหูฟังแต่ละรุ่นที่เราคัดมาฝากกันนั้น ไม่เพียงแค่มีงานดีไซน์สวยน่าใช้ แต่ยังให้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมอีกด้วย เอาเป็นว่าใครชอบหูฟังรุ่นไหน ก็ไปจัดมาใช้งานได้เลยยยยย



หมายเหตุ : ราคาดังกล่าวเป็นราคาโดยประมาณ แนะนำให้เช็กราคากับร้านตัวแทนจำหน่ายอีกครั้ง

ภาพจาก optoma.co.uk, sennheiser-momentum.com, hearphones.net, sony.co.uk, bose.com, rha-audio.com, audio-technica.com, oppoth.com, beyerdynamic.com

ที่มา //men.kapook.com/view163097.html




 

Create Date : 06 มกราคม 2560    
Last Update : 6 มกราคม 2560 18:31:40 น.
Counter : 1420 Pageviews.  

ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง



หากใครก็ตามที่หลงรักการเล่นเกมแบบเป็นชีวิตจิตใจ เอาจริงเอาจังจะต้องใฝ่ฝันอยากมีห้องพัก ห้องเล่นเกมแบบเหล่าเกมเมอร์ที่ได้เห็นอย่างแน่นอน เรียกได้ว่าจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบ ให้เล่นทั้งวันก็ไม่มีเบื่อเลยทีเดียว


เครดิตจาก : //piximus.net/others/the-coolest-gaming-rigs-and-gaming-rooms-from-around-the-world


ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง
ขั้นเทพ! ส่องห้องพักเกมเมอร์ทั่วโลก มันคือสวรรค์ของคนรักเกมตัวจริง


ที่มา //world.kapook.com/pin/586f459b4d265a36678b4567






 

Create Date : 06 มกราคม 2560    
Last Update : 6 มกราคม 2560 18:28:56 น.
Counter : 3614 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.