Mygazine : เก็บทุกสิ่งที่สนใจ

มองต่างมุมเรื่อง "ความรัก"...ชาย VS หญิง

การจีบ
หญิง : เขาเข้ามาคุยกะเราบ่อยๆ อย่างงี้กำลังจีบเราจีบเราอยู่แน่เลย
ชาย : บางครั้งการจีบก็เป็นแค่การทดสอบความสามารถของตัวเอง ไม่ได้รู้สึกจริงจังมากมายอะไรสักหน่อย

ตกหลุมรัก
หญิง : การก้าวขาหล่นลงไปในหัวใจของเขาลึกจนยากจะปีนขึ้นมาง่ายๆ
ชาย : การเดินสะดุดขาอ่อนของเธอ อาจจะเซไปบ้าง แต่ไม่ถึงกับเสียการ ทรงตัวนานแต่อย่างใด

เดทครั้งแรก
หญิง : เหตุการณ์ตื่นเต้นที่สุดอีกครั้งในชีวิต เขาจะพาเราไปนั่นกินอาหารร้านไหนนะ
ชาย : เหตุการณ์ผลาญเงิน หวังว่าเธอคงไม่เห็นแก่กินเลือกร้านแพงๆ เหมือนยายคนก่อนนะ

หัวใจ
หญิง : อวัยวะที่ยกให้ใครไปแล้วก็ไม่อยากให้เขาส่งคืน
ชาย : อวัยวะที่ใช้ในการหายใจอ่ะดิ ถามด้ายยย!

แฟนเก่า
หญิง : คนรักของวันวานที่ถ้าบังเอิญเจอหน้าในวันนี้ก็ทำให้ใจสั่น
ชาย : ใคร? เธอคือใครเหรอจำไม่ได้แล้วอ่ะ

แฟนใหม่
หญิง : คนรักของวันนี้ที่เราอยากให้เป็นคนรักของวันข้างหน้าไปนานๆ
ชาย : แฟนของวันนี้แต่วันข้างหน้าค่อยว่ากันอีกที<ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ!>

โทรศัพท์
หญิง : เครื่องมือสื่อสารที่ช่วยสื่อความคิดถึง, คำพูดตอนไม่ได้อยู่กะเขา
ชาย : เครื่องมือสื่อสารที่เธอมีไว้คอยโทรจิกตามตรวจสอบเราทุกที่ทุกเวลา

ความเหงา
หญิง : แค่ไม่มีเขาเราก็เหงาเหลือเกินแล้ว
ชาย : 365 วันไม่เหงาเพราะเราไม่ขาดเพื่อนสักวัน

ความคิดถึง
หญิง : เพิ่งแยกจากเขามาเมื่อครู่เดียวเองก็คิดถึงอยากเจอหน้าเขาอีกแล้วน่ะ
ชาย : ความคิดถึงก็เหมือนการได้ลงเตะฟุตบอลที่เราอยากเตะ พอได้เตะ แตะแล้วก็หายอยาก

ดอกไม้
หญิง : เดินผ่านร้านขายดอกไม้ทีไร อยากให้เขาซื้อให้เรา แค่ดอกเดียวก็พอ
ชาย : ก็ดอกไม้แค่ดอกเดียว ทำไม! เธออยากได้อะไรมากมายนะ

จูงมือ
หญิง : เป็นแฟนตอนแรกๆ เขาจูงมือเราไม่ยอมปล่อย เหมือนกลัวเราหลงทาง แต่ตอนหลังเราต้องเป็นฝ่ายจับมือเขาเสียเอง
ชาย : โอ๊ย! ผมไม่ได้เด็กแล้วนะต้องจูงมือข้ามถนนด้วย

หึง
หญิง : รักคือหึง...หึงคือรัก ไม่รักไม่หึง ไม่หึงถ้าไม่รัก
ชาย : ที่ผมเผลอลงมือลงไม้เธอนั้นเพราะผมหึงเธอน่ะ

น้ำตา
หญิง : เครื่องมือที่ช่วยเราลดความเครียดตามธรรมชาติ
ชาย : เครื่องมือเรียกร้องความสนใจของผู้หญิง

ชอปปิง
หญิง : กิจกรรมสุดโปรดได้ทำแล้งเหมือนมีสารความสุขหลั่งออกมา
ชาย : เครียดก็ชอป...มีสุขก็ชอป..อารมณ์ก็ชอป ผู้หญิงโรคจิต

การสารภาพรัก
หญิง : เป็นแฟนกันมาตั้งนาน แค่คำว่ารัก..คำเดียว เขายังไม่เคยพูดให้เราไดยินเล๊ย
ชาย : เป็นแฟนกันมาตั้งนาน คำว่า..รัก..คำเดียวจะสำคัญอะไรนัก

อกหัก
หญิง : ทำลายของๆ เขา, ฉีกรูปคู่ทิ้ง, เก็บตัวอยู่ในห้อง ฯลฯ เจ็บนี้...อีกนาน
ชาย : กินเหล้า,จีบดะ,เที่ยวกระจาย ฯลฯ 3 วันห๊ายยยย

งอน
หญิง : ดูเขาเถอะ! หาเรื่องให้เราต้องงอนอีกแย้ว
ชาย : ดูมัน! งอนได้ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ

ง้อ
หญิง : ดีใจจัง เขาง้อเรา แสดงว่าเขายังรักเราอยู่
ชาย : เซ็ง! แต่ต้องแกล้งง้อไปงั้นๆ ดีกว่าต้องทนเห็นหน้าที่เหมือนตูดของเธอ

หุ หุ เก็บตกเป็นอุทาหรณ์เตือนใจตัวเอง เอิ๊ก

ข้อมูลจากฟอร์เวิร์ดเมล์




 

Create Date : 11 ธันวาคม 2548    
Last Update : 11 ธันวาคม 2548 3:08:59 น.
Counter : 296 Pageviews.  

2 คนที่ควรคิดถึงมากที่สุดในโลก

เวลาไม่มีเงิน
คนแรกที่คิดถึง คือ พ่อและแม่
แต่พอมีเงิน
คนแรกที่คิดถึง คือ แฟนและเพื่อน

อยากได้รถ
คนแรกที่คิดถึง คือ พ่อและแม่
แต่พอมีรถ
คนแรกที่จะไปรับ คือ แฟนและเพื่อน

ร้านอาหารหรู ๆ บรรยากาศคลาสสิค
มีไว้สำหรับแฟนและเพื่อน
อาหารบนโต๊ะที่บ้าน
มีสำหรับพ่อและแม่

พ่อและแม่ คิดบัญชีค่าใช้จ่ายก่อนนอน
เพื่อความอยู่รอด
ลูกนอนคุยโทรศัพท์ เล่นเน็ตก่อนนอน
เพื่อให้หลับฝันดี

เวลาเรามีความสุข
มักจะมองหาแฟนและเพื่อน
เวลาเรามีความทุกข์
คนที่กังวล หดหู่และเศร้าสลดใจ คือพ่อและแม่

เวลาประสบความสำเร็จ
เรามักมองหาแฟนและเพื่อน
เพื่อนัดฉลองและสังสรรค์
แต่คนที่ดีใจที่สุดคือพ่อและแม่
แต่พ่อและแม่
กลับกลายเป็นคนที่เรามองข้ามไป

โรงหนัง ห้างสรรพสินค้า
มีไว้สำหรับแฟนและเพื่อน
ทีวี และสวนหน้าบ้าน
มีไว้สำหรับพ่อและแม่

ลูกไปรื่นเริงตามโรงหนัง
เธค ผับ โต๊ะสนุ๊ก ฯลฯ
พ่อและแม่กลับทำงาน หรือ
นอนหลับเก็บแรงไว้ทำงานหาเงินในวันรุ่งขึ้น
เพื่อแลกความสุขของลูก
อยากให้ลูกเรียนสูง ๆ

เวลาแต่งงาน
คนที่เป็นธุระหาสินสอดทองหมั้น คือ พ่อและแม่
คนที่มีความสุข คือ ลูก

พ่อและแม่ตำหนิ ตักเตือน บางครั้ง
เต็มไปด้วยอารมณ์ห่วงใย
เพื่อให้ลูกได้ดี
แต่ลูกคิดว่าสิ่งที่ พ่อและแม่พูดเป็นแค่เรื่องไร้สาระ

พ่อและแม่
คือผู้ฝ่าฟันปัญหาเป็นร้อยพันประการเพื่อลูก
แต่พอลูกมีปัญหา
มักคิดได้แค่ ท้อถอย หดหู่หรืออยากตาย

พ่อและแม่คือผู้ที่ปกป้อง
และยืนเคียงข้างลูกจวบจนชีวิตจะหาไม่
ลูกกำลังคิดถึงสิ่งใด

คำว่า “พ่อ” หรือ “แม่”
อาจเป็นคำแรกที่เราพูดได้ตั้งแต่เกิด
อาจเป็นคำง่ายๆ สั้นๆ ที่มีความหมาย
ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

เราอาจไม่ต้องคิดถึงท่านในทุกๆเวลาที่เราหายใจ
เพราะเรารู้ว่าท่านคงไม่ได้เรียกร้องมากมายขนาดนั้น
ขอแค่ 1 ใน 10 ของที่ท่านคิดถึงเราก็พอ
เพียงเท่านี้ ... ท่านคงจะดีใจ ...


ปล.ขอบอกว่าประทับใจสุดๆเลยกับกลอนเปล่าบทนี้ เข้ากับเทศกาลเป๊ะเช๊ะเลย

ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์




 

Create Date : 05 ธันวาคม 2548    
Last Update : 5 ธันวาคม 2548 12:21:12 น.
Counter : 359 Pageviews.  

กฏทอง 10 ข้อของคนรักกัน (รักษาสภาพรักแท้ๆ)

กฏทอง 10 ข้อถนอมรักแท้ให้อยู่กับเราไปชั่วกาลนาน)

กฎทองข้อที่ 1 เราจะไม่โกรธพร้อมกันทั้งสองคน อย่างที่คนโบราณเค้าว่า ถ้า....เขาร้อนเป็นไฟ คุณก็ต้องเย็นให้ได้ดั่งน้ำ (น้ำเปล่านะ ไม่ใช่น้ำมัน)

กฎทองข้อที่ 2 เราจะไม่ตะโกนใส่กันเด็ดขาด ยกเว้นตอนเกิดไฟไหม้บ้านกระทันหัน

กฎทองข้อที่ 3 จำไว้ว่าไม่มีใครชอบคำติ หากจะคุยถึงสิ่งที่คุณไม่ชอบให้เขาทำ อย่าลืมพูดให้หวานๆ เข้าไว้ (ไม่ใช่พูดว่าน้ำตาลๆๆๆนะ)

กฎทองข้อที่ 4 เราจะไม่มารื้อฟื้นเรื่องบาดหมางในอดีต ถ้าจะคุยเรื่องเก่าๆ เลือกเรื่องหวานๆ ของสองเราจะดีกว่า

กฎทองข้อที่ 5 ทำให้เขารู้สึกว่า เขาสำคัญสำหรับคุณเสมอ

กฎทองข้อที่ 6 สัญญากันนะว่าเราจะไม่โกรธกันข้ามคืน เพราะคุณนั่นแหล่ะจะนอนไม่หลับ คุยกันให้เข้าใจกันก่อนดีกว่าหันหลังให้กัน

กฎทองข้อที่ 7 คุยกันให้มากหน่อย จะช่วยให้ความรักระหว่างเราเข้าใจกันมากขึ้น จะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ที่คุณเจอะเจอ เรื่องงานของคุณ หนังสือที่คุณเพิ่งอ่านจบ ลองเล่าสู่กันฟัง แล้วคุณจะรู้สึกได้เลยว่าเราผูกพันกันมากขึ้นกว่าเดิม

กฎทองข้อที่ 8 ถ้ารู้ตัวว่าทำผิดก็ขอโทษซะ ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียฟอร์มหรอก

กฎทองข้อที่ 9 อย่าเข้าใจผิดว่าการอยู่ด้วยกันตลอดเวลา หมายถึงความเอาใจใส่อย่างแท้จริง เพราะการใส่ใจ คือการให้ความสนใจเต็มร้อยเวลาที่อยู่ด้วยกัน ไม่ใช่คุณนั่งฟังเขาพูด แต่ดูทีวีไปด้วย

กฎทองข้อที่ 10 อย่าลืมทำให้เขารู้ว่า เรายังรักกันเสมอ …

กฎข้อพิเศษสำหรับใครบางคน การที่จะได้รู้จักใครซักคนเป็นเรื่องที่วิเศษ อย่าให้เพียงแค่เรื่องเล็กน้อยชั่วไม่กี่นาที ตัดสินใจทำลายความสัมพันธ์ที่มีมา... มันคุ้มกันแล้วเหรอ!!

เพียงคำว่าอภัยและปรับตัวเข้าหากันใหม่ สิ่งดีๆ อาจมีขึ้นโดยที่คุณไม่รู้ตัว ปัญหาเกิดเพราะไม่คุย ปัญหาเกิดเพราะไม่คิดจะแก้ไข ปัญหาเกิดเพราะทิฐิ ปัญหาเกิดเพราะคิดว่าไม่รู้จะทำไปทำไม ปัญหาเกิดเพราะนึกถึงแต่ตัวเองคิดว่าทำอย่างนี้ดีที่สุด ...แล้วอีกฝ่ายคิดแบบเดียวกับคุณหรือเปล่า สุดท้ายก็มีแต่ความเสียใจ....

คุณเลือกที่จะยอมรับในสิ่งที่เค้าทำ แล้วรักษาสิ่งดีๆ ต่อไป หรือเลือกที่จะทำลายเมื่อคุณไม่ได้มา ซึ่งสิ่งที่คุณต้องการ!!!



ข้อมูลจาก Forward Mail




 

Create Date : 05 ธันวาคม 2548    
Last Update : 5 ธันวาคม 2548 0:37:23 น.
Counter : 304 Pageviews.  

เพราะชีวิตคือการเรียนรู้ (ที่ไม่รู้จบ)

หนึ่งในเนื้อเพลงที่ร้อยเรียงอย่างสวยงาม เต็มไปด้วยความหมายที่ประทับใจสุดๆ คือ "live&learn" ของบอย โกสิยะพงศ์ ที่ได้กมลา สุโกศลเป็นคนร้อง

โดยท่อนที่โดนใจสุดๆ คือ "อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด"

Live&Learn

เมื่อวันที่ชีวิต เดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน

จนบางครั้งคนเรา ไม่ทันได้ตระเตรียมใจ

ความสุขความทุกข์ ไม่มีใครรู้ว่าจะมาเมื่อไหร่

จะยอมรับความจริงที่เจอได้แค่ไหน

เพราะชีวิต คือชีวิต เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป

มีสุขสมมีผิดหวัง หัวเราะหรือหวั่นไหว เกิดขึ้นได้ทุกวัน

อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน

อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

สุขก็เตรียมไว้ ว่าความทุกข์คงตามมาอีกไม่ไกล

จะได้รับความจริงเมื่อต้องเจ็บปวดไหว

เพราะชีวิต คือชีวิต เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป

มีสุขสมมีผิดหวัง หัวเราะหรือหวั่นไหว เกิดขึ้นได้ทุกวัน

อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน

อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟังแล้ว ลูกฮึดมาอีกเป็นกองทัพเลย




 

Create Date : 30 พฤศจิกายน 2548    
Last Update : 12 มกราคม 2553 15:56:27 น.
Counter : 331 Pageviews.  

รักษาอาการปวดหลัง ปวดคอ ปวดประจำเดือน หอบหืด โรคกระเพาะด้วยแพทย์ทางเลือกใหม่ "Chiropractic"

Chiropractic เป็นศาสตร์ที่มีมาตั้งแต่ปี 2700 B.C โดยมีรายงานในประเทศจีนและกรีซ ประเทศอเมริกาเริ่มนำมาใช้เมื่อประมาณปี 1890

ปี 2000 ได้มีการยอมรับใน 55 รัฐและได้มีการรายงานถึงประสิทธิภาพของการรักษาด้วย Chiropractic แต่หากท่านอ่านหนังสือพิมพ์ซึ่งจะมีโฆษณาการจัดกระดูก หรือที่เรียกศัพท์ทางวิชาการว่า Chiropractic

ในต่างประเทศได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนมีการเปิดสอนกันอย่างแพร่หลาย

Chiropractic คืออะไร

Chiropractic เป็นการรักษาโรคโดยยึดหลักที่ว่าการที่คนจะเกิดโรคจะต้องประกอบไปด้วย โครงสร้าง ระบบกล้ามเนื้อ ระบบประสาท ระบบไหลเวียน อาหาร อารมณ์ และสิ่งแวดล้อมหากมีความสัมพันธ์ที่ผิดไปก็จะเกิดโรค ผู้ที่ทำการรักษาจะต้องได้รับการอบรมจากสถาบันที่ได้รับการรับรอง

นอกจากนั้นการรักษาจะต้องอาศัยการวินิจฉัยด้วย X-RAY เพื่อจะดูรอยโรค บริเวณที่มีการเสื่อมของ กระดูกหัก หรือเนื้องอก เพราะจะต้องมีการจัดข้อกระดูกโดยเน้นที่กระดูกสันหลังโดยใช้มือกดตามหลักวิชา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบประสาท การรักษาด้วยวิธีนี้จะไม่มีการใช้ยาหรือการผ่าตัด

แพทย์ Chiropractic ต้องเรียนอย่างไร

แพทย์จะต้องเรียนในสถาบันที่ได้รับการรับรองเป็นเวลา 4-5 ปีใช้เวลาประมาณ 90 ชั่วโมงในการเรียนพื้นฐาน ใช้เวลาเรียนเรียนในห้องเรียน 4200 ชั่วโมงและเรียนเกี่ยวกับการจัดกระดูกอีก 555 ชั่วโมง

ผู้ที่จะประกอบวิชาชีพต้องผ่านการสอบวิชาชีพ ในหลายรัฐเรียกผู้ที่ปฏิบัติงานว่า DCs หมายถึง chiropractic physicians

ปรัชญาของChiropractic

ปรัชญาของ Chiropractic เชื่อว่าโดยธรรมชาติของร่างกายจะสามารถมีกลไกที่ทำร่างกายหายจากการเจ็บป่วยโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาหรือการผ่าตัด

โดยแพทย์จะสนใจกลไกทางชีวะ biomechanics โครงสร้างและหน้าที่ของกระดูกสันหลังที่มีผลต่อกล้ามเนื้อ ระบบประสาท

ขอบเขตของ Chiropractic

ขอบเขตของงานจะเกี่ยวข้องกับระบบกล้ามเนื้อและประสาท เช่น ปวดศีรษะ ปวดข้อ ปวดคอ ปวดหลัง ข้อเสื่อม เอ็นอักเสบ และยังดูแลเกี่ยวกับโรค ภูมิแพ้ allergies, หอบหืด asthma, ระบบย่อยอาหาร digestive disorders, หูน้ำหนวกotitis media (non-suppurative)

ความปลอดภัย

หลายท่านอาจจะมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย แต่จากการศึกษาที่ประเทศแคนาดา พบว่าการรักษาโรคปวดหลังด้วยวิธี chilopractic นั้นปลอดภัยและคุ้มค่าเงินและที่สำคัญผู้ป่วยมีความพึงพอใจ

ข้อกระดูกหลังเคลื่อน VERTEBRAL SUBLUXATION COMPLEX

ข้อกระดูกเคลื่อน หมายถึง การที่ข้อเคลื่อนไปจากตำแหน่งทำให้กล้ามเนื้อรอบข้อเกิดการหดเกร็ง มีการฉีกขาดของเอ็น เนื้อเยื่อรอบข้อ

การจัดกระดูก

การจัดกระดูกเป็นวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลดีในมือผู้ที่ผ่านการอบรม การจัดกระดูกไม่ต้องผ่าตัดไม่ต้องใช้ยาเป็นการใช้ธรรมชาติเมื่อกระดูกเข้าที่ร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณกระดูกสัน กระดูกสะโพก การจัดจะทำโดยการใช้มือกดบริเวณที่มีการเคลื่อนของกระดูก

เมื่อกระดูกเข้าที่ดีก็จะลดอาการเจ็บปวด การอักเสบ ลดอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ทำให้หายปวด

การรักษาอย่างอื่นนอกเหนือจากการจัดกระดูก

การจัดกระดูกเป็นการรักษาหลักสำหรับ Chiropractic แต่ก็อาจจะต้องรักษาด้วยวิธีอื่นเช่น
+การนวดเพื่อความเกร็งของกล้ามเนื้อ
+การใช้ ultrasound
+การใช้ไฟฟ้ากระตุ้น
+การออกกำลังกาย
+การยืดกล้ามเนื้อ

Chiropractic กับโรคปวดหลัง

จากการสำรวจของประเทศอเมริกา พบว่า การรักษาโรคปวดหลังด้วยวิธีนี้กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง และยังสามารถเบิกประกันชีวิตได้อีก

นอกจากนั้นยังมีการศึกษาว่าได้ผลดีพอๆกับการรักษาด้วยแผนปัจจุบัน

การรักษาประกอบด้วยการจัดกระดูกสันหลังให้เข้าที่ ซึ่งจะต้องจัดหลายท่าบางท่าอาจจะต้องใช้กำลังดัน เมื่อกระดูกเข้าที่ การทำงานของข้อต่อกระดูกดีขึ้นอาการปวดจะดีขึ้น แต่หากท่านเลือกการรักษาด้วยวิธีนี้ท่านต้องคำนึงถึง
+ ปรึกษากับแพทย์ประจำของท่านว่าโรคนี้ผู้ที่เชี่ยวชาญที่สุดคือใคร นอกจากนั้นแพทย์ปัจจุบันบางท่านก็สามารถจัดกระดูกได้ แต่ท่านต้องเลือกแพทย์ที่ได้รับการฝึกและใบรับรองว่าผ่านการฝึกแล้ว
+ เลือกChiropractic ที่พร้อมจะทำงานร่วมกับแพทย์ของท่านในการแก้ไขปัญหาของท่าน
+ อย่าเลือก Chiropractic ที่ใช้รักษาทุกโรคเช่นโรคเบาหวาน มะเร็ง

Chiropractic กับเด็กสมาธิสั้น

เด็กสมาธิสั้นจะมีปัญหาเกี่ยวกับการเรียนรู้ ไม่สามารถทำงานที่ใช้ทักษะหรือใช้สมาธิ การวินิจฉัยทำได้โดยการตอบตามแบบสอบถาม

แต่แพทย์ทาง Chiropractic เชื่อไม่เพียงพอ เพราะเด็กเหล่านี้ มักจะมีอาการ กระตุกของกล้ามเนื้อใบหน้า มือสั่น การทรงตัวไม่ดี และอ่อนไหวต่อการกระตุ้นด้วย แสง สี เสียงหรือการสัมผัส การรักษาด้วยยาอาจจะทำไห้เด็กสงบ แต่ไม่สามารถทำให้เด็กหายได้

แพทย์ทาง Chiropractic จึงเสนอทางเลือกของการรักษาโดยไม่ต้องใช้ยาหรือการผ่าตัด โดยมีความเชื่อว่าการที่ร่างกายมีความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อทำให้การทรงตัวไม่ดี ซึ่งส่งผลให้การทำงานของสมองไม่เท่ากัน จึงทำให้เกิดโรคสมาธิสั้น

การรักษามุ่งที่จะกระตุ้นให้มีการพัฒนาของสมองโดยการดมกลิ่นแปลก ใส่แว่นตา สำหรับเด็กที่ไม่รู้จักการวางแผนหรือไม่สามารถเข้ากลุ่มได้ต้องมีการจัดแผนการรักษา

นอกจากนั้นแพทย์ทาง Chiropractic ยังแนะนำอาหารดังนี้
+ไม่รับประทานอาหารที่ใส่สี น้ำตาล สารปรุงรส หรือสารถนอมอาหาร
+รับประทานอาหารตามธรรมชาติไม่รับประทานอาหารสังเคราะห์
+หลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้
+ไม่ฉีดยาฆ่าแมลงภายในบ้าน
+ขณะตั้งท้องควรจะหลีกเลี่ยงยา บุหรี่ สุรา เพราะสิ่งเหล่านั้นอาจจะทำร้ายสุขภาพเด็ก
+ขณะตั้งครรภ์ต้องไม่เครียด
+เด็กควรจะได้รับนมแม่ในช่วงเดือนแรกๆ

โรคหรือภาวะที่ Chiropractic รักษาได้
+อุบัติเหตุ
+อุบัติเหตุทำให้ได้รับบาดเจ็บที่คอ
+ปวดหลังเนื่องจากยกของหนัก
+บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
+บาดเจ็บจากการลื่นล้ม
+บาดเจ็บเรื้อรัง
+โรคข้อและกระดูก
+ปวดหลัง
+ปวดต้นคอ
+ปวดศีรษะและไมเกรน
+ปวดเท้า ชาและอ่อนแรง
+ปวดแขนและอ่อนแรง

โรคอื่นๆ
+หอบหืด
+เด็กสมาธิสั้น
+มึนงง
+ปวดประจำเดือน
+โรคกระเพาะ
+หูอักเสบ

ลองพิจารณาและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมกันดูค่ะสำหรับผู้ที่สนใจ เพราะเป็นหนึ่งในแพทย์ทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจมากในขณะนี้

บ้านเรา แพทย์บอกว่า เข้ามาเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน และยังไม่ได้รับความนิยมเท่าทีควร

หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ด้านล่างนี้นะค่ะ

ที่มา : //www.siamhealth.net และ //www.thailandchiropractic.org




 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2548    
Last Update : 14 มกราคม 2553 12:02:42 น.
Counter : 432 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  

Never be Afraid to Dream
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]









หมายเหตุ :
1. ขอขอบคุณเจ้าของโค้ด รูป และของแต่งบล็อกที่รวมกันเป็นบล็อกนี้ทุกท่านและขออภัยที่ไม่สามารถเอ่ยชื่อได้ เนื่องจาก จขบ.เซฟมาเยอะจนไม่สามารถจำได้ว่าเอามาจากบล็อกของท่านใดบ้าง

2. ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้า ณ ที่นี้ สำหรับทุกท่านที่แวะมาเยี่ยม มาแสดงความเห็นค่ะ และขออภัยหากไม่ได้กลับไปเยี่ยม
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Never be Afraid to Dream's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.