เชื่อหรือไม่ ดื่มชาเขียววันละถ้วยช่วยให้หัวใจแข็งแรงขึ้นในชั่วเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
ผลศึกษาจากกรีซ พบว่า ชาเขียวช่วยขยายหลอดเลือดหัวใจได้ถึง 4% ภายใน 30 นาที ลดความเสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน
รายงานที่ตีพิมพ์ในวารสารยูโรเปียน เจอร์นัล ออฟ คาร์ดิโอวาสกูลาร์ พรีเวนชัน แอนด์ รีแฮบิลิเตชัน ระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกที่แสดงให้เห็นว่า ชาเขียวสามารถออกฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือดหัวใจได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น
ดร.นิโคลอส อเล็กโซปูลอส และนักวิจัยจากแผนกโรคหัวใจของเอเธนส์ เมดิคัล สกูล ใช้เครื่องอัลตราซาวด์วัดประสิทธิภาพการทำงานของหลอดเลือดที่ข้อพับแขน ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดการไหลเวียนของโลหิตทั่วร่างกายได้อย่างดี
อาสาสมัครสุขภาพดีจะถูกขอให้ดื่มชาเขียว กาแฟร้อนหรือน้ำร้อน 3 ครั้ง โดยหลังการดื่มทุกครั้งนักวิจัยจะวัดประสิทธิภาพการทำงานของหลอดเลือดดังกล่าว
ผลปรากฏว่า หลังจากที่อาสาสมัครดื่มชาเขียว 30 นาที หลอดเลือดที่ข้อพับแขนขยายกว้างขึ้น 4% ขณะที่การดื่มกาแฟร้อนหรือน้ำร้อนไม่ช่วยเรื่องนี้
การขยายตัวของหลอดเลือดแดงแสดงให้เห็นว่าผนังหลอดเลือดทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในการสกัดการเกิดการอุดตันในเส้นเลือด
งานวิจัยก่อนหน้านี้ บ่งชี้ว่า ชาดำช่วยให้เซลล์บุผิวหลอดเลือดทำงานดีขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พบว่าชาเขียวมีประสิทธิผลต่อเส้นเลือดใหญ่ภายในระยะเวลาอันสั้น
ผลวิจัยอีกฉบับแสดงให้เห็นว่า ชาเขียวบรรเทาภาวะเซลล์บุผิวหลอดเลือดทำงานผิดปกติในผู้สูบบุหรี่
ทั้งนี้ ชาเขียวเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในจีนและญี่ปุ่น โดยแตกต่างจากชาดำตรงที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการหมักก่อนทำให้แห้ง ซึ่งกระบวนการหมักนี้เองที่เชื่อว่าอาจทำให้สารประกอบฟลาโวนอยด์ที่มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดลงถึง 90% และนี่เป็นเหตุผลที่อธิบายว่า เหตุใดชาเขียวจึงมีคุณประโยชน์ต่างจากชาดำ
การค้นพบเหล่านี้มีนัยสำคัญในการบำบัดรักษา การดื่มชามีความเกี่ยวพันกับการลดลงของโอกาสที่จะป่วยหรือเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ การศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ยังแสดงให้เห็นประโยชน์ในการต่อต้านสารก่อมะเร็ง รวมทั้งลดคลอเรสเตอรอลเลวและความดันโลหิต รวมทั้งลดเอนไซม์ที่เป็นอันตรายต่อตับ ดร.ชาราลัมบัส วลาโชปูลอส หนึ่งในทีมนักวิจัยกรีกกล่าว
นอกจากนั้น การดื่มชาเขียวยังลดความเสี่ยงมะเร็ง โดยผลศึกษาชี้ว่า การดื่มชาเขียววันละ 4 แก้วทำให้เซลล์ที่ถูกทำลายในผู้สูบบุหรี่ฟื้นคืนสภาพ ลดโอกาสในการพัฒนาเป็นเนื้องอก
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
|