นักวิจัยแนะคู่รักไม่ต้องกลุ้มใจไปหากไฟสวาทมอดไหม้ แจงฮอร์โมนในร่างกายจะทำให้ความดึงดูดทางเพศในตัวคนรักหายไปภายในเวลาอย่างช้าที่สุดไม่เกินสองปี และเปลี่ยนแปลงอารมณ์ปรารถนากลับกลายเป็นความผูกพันแทน
วารสารเคมิสทรี เวิลด์ ที่ตีพิมพ์โดยรอยัล โซไซตี้ ออฟ เคมิสทรีรายงานโดยอ้างอิงผลการศึกษาของทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยปิซาในอิตาลี ที่อธิบายว่า เมื่อคู่รักพัฒนาเข้าสู่ สัมพันธภาพที่มั่นคง ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนใหม่ขึ้นมาทดแทนฮอร์โมนที่เกิดขึ้นตอน แรกรัก
การค้นพบดังกล่าวมาจากการวัดระดับปัจจัยสร้างการเติบโตให้เส้นประสาท (nerve growth factor NGF) หรือฮอร์โมนนิวโทรฟินส์ในเลือดของอาสาสมัคร ซึ่งผลปรากฏว่าพบฮอร์โมนชนิดนี้ในกลุ่ม แรกรัก สูงกว่าระดับปกติ ขณะที่กลุ่มที่คบหากับแฟนมาเนิ่นนาน โมเลกุลรัก จะจืดจางหายไป แม้ความสัมพันธ์ยังดีอยู่ก็ตาม
อย่างไรก็ดี นักวิจัยพบว่า โมเลกุลรักถูกแทนที่ด้วย ฮอร์โมนแห่งการสวมกอด หรือออกซิโทซิน ในหมู่คู่รักที่คบกันยืดยาวหลายปี โดยฮอร์โมนนี้ว่าเกี่ยวข้องกับการคลอดบุตรและการผลิตน้ำนม
คู่รักอาจสาบานว่า ความรู้สึกจะยืนยงชั่วฟ้าดินสลาย แต่ถ้าดูจากฮอร์โมนจะเป็นคนละเรื่องกันเลย โดนาเตลลา มาราซซิติ ผู้นำการวิจัย อธิบาย
อนึ่ง ก่อนหน้านี้มีผลงานการวิจัยของเอนโซ เอมานูเอลแห่งมหาวิทยาลัยปาเวีย ซึ่งระบุว่าระดับฮอร์โมนที่เรียกว่า NGF เพิ่มสูงขึ้นขณะที่อารมณ์โรแมนติกกำลังเข้มข้น แต่หลังจากสองปีผ่านไป ฮอร์โมนนี้จะลดลงสู่ระดับปกติ
กระนั้น นักวิจัยชี้ว่า ยังต้องศึกษากันต่อไปว่า ที่ร่างกายหลั่งฮอร์โมน NGF ออกมาเป็นเพราะสมองได้รับประสบการณ์แปลกใหม่ในช่วงแรกรัก หรือเป็นเพราะฟังก์ชันการทำงานที่ยังไม่มีคำตอบของสารเคมีแห่งรักในสมองกันแน่
ไมเคิล กรอส นักเคมี-ชีววิทยาและนักเขียนแนววิทยาศาสตร์ที่ร่วมอยู่ในการวิจัยครั้งล่าสุด กล่าวว่า ผลการวิจัยชี้ว่า มีฮอร์โมนต่างชนิดกันปรากฏในเลือดของคนที่เพิ่งตกหลุมรัก กับคนที่คบหากับแฟนมานานหลายปี
จริงๆ แล้วฮอร์โมนรักจะหายไปอย่างเร็วที่สุดภายใน 12 เดือนหลังจากความสัมพันธ์เริ่มต้น โดยถูกแทนที่ด้วยฮอร์โมนอีกประเภทที่ทำให้คู่รักอยู่ร่วมกันต่อไป และการค้นพบว่า มีสารเคมีที่เป็นเสมือนพ่อสื่อนำสารแห่งความโรแมนติกระหว่างคู่รัก ก็อาจเป็นสิ่งที่เดียวที่บ่งชี้ว่า วิทยาศาสตร์สามารถให้ข้อเปรียบเทียบในโลกแห่งความเป็นจริงของศรรักของกามเทพ
กระนั้น ดร. เปตรา บอยน์ตันแห่งบริติช ไซโคโลจิคัล โซไซตี้ แสดงความเป็นห่วงว่า การที่นักวิจัยสามารถแยกแยะฮอร์โมนเหล่านี้ออกมา อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดๆ และทำให้บางคนพยายามหาฮอร์โมนทดแทน เพื่อให้ตัวเองและคู่รักกลับมารู้สึกเสียวซ่านซาบซ่ากันอีกครั้ง
ข้อมูลจากผู้จัดการออนไลน์ |
เวลานี้ไม่มอดก็เหมือนมอดเลยค่า