 |
 |
 |
 |
 |
|
 |
 |
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
 |
18 มีนาคม 2554 |
|
 |
 |
|
 |
|
|
|
 |
 |
 |
 |
|
 |
 |
 |
 |
|
ถ้าบังเอิญน้องหมาพลัดตกบันไดแล้วกลัวจนหัวหด ....มีวิธีแก้ไหม เพื่อให้น้องหมากล้าขึ้นบันไดอีกครั้ง?
คนส่วนใหญ่แล้วเวลาน้องหมาเกิดพลาดอะไรขึ้นมา่เช่น น้องหมาลื่นล้ม น้องหมาสะดุด น้องหมาตกบันได ต่างๆนานา ก็มักจะตกใจ โวยวาย ใจแป้ว และโอ๋น้องหมา แสดงภาษากายอย่างโอเวอร์ราวกับฟ้าถล่ม ตึกทะลายต่อหน้าต่อตา นั้นเองจะทำให้เหตุการณ์เล็กๆน้อยๆ กลายเป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับน้องหมา แล้วจะทำให้น้องหมาที่ตกใจเล็กๆน้อยๆ กลายเป็นกลัวขี้หดตดหาย กลัวอย่างมากมายราวกับว่าเดินผ่านบันได เดินบนพื้นลื่น แล้วจะโดนเชือด โดนฆ่าทิ้ง สิ่งที่ทำให้น้องหมากลัวจนโอเวอร์ ก็เพราะเรานั่นเอง เรามักคิดว่า เราต้องโอ๋น้องหมาเหมือนโอ๋ลูกเล็กที่เดินพลาดตกบันได ต้องปลอบลูบไล้ เหมือนปลอบเด็ก อยากจะบอกว่า เราสามารถทำกับเด็กมนุษย์ได้ แต่ทำกับน้องหมาสี่ขาไม่ได้ เพราะจะทำให้หมากลัวและทำให้หมามีปัญหาพฤติกรรมตามมา
ธรรมชาติของสุนัขทั่วๆไป ถ้ามีตัวใดตัวหนึ่งพลาดสะดุดหกล้ม ก็จะไม่มีตัวไหนสนใจ พอไม่มีตัวไหนคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ ไม่มีอะไรต้องกังวล สุนัขที่ลื้นล้มก็จะคิดว่าเหตุการณ์ที่ตนเผชิญอยู่นั้นเป็นเรื่องที่จิ๊บๆไม่มีอะไรต้องวิตก เขาก็จะลุกขึ้นมาแล้วสะบัดตัวแล้วก็ดำเนินชีวิตประจำวันต่อๆไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าตัวใดตัวหนึ่งมีอาการเจ็บมากกว่าปกติ ตัวอื่นก็จะแสดงความห่วงใยเล็กๆน้อยๆเช่น เดินเข้ามาดู มาดมแผล มาเลียหูเลียแผลให้ แล้วก็เดินจากไปทำกิจวัตรของใครของมัน สุนัขตัวที่เจ็บก็จะดำเนินชีวิตต่อไป ถ้าเขาเจอเหตุการณ์เดิมที่เขาเคยพลาด สุนัขก็จะมีความระมัดระวังมากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ตัวเองต้องเจ็บตัวซ้ำสอง แต่จะไม่กลัวลนลาน กลัวตัวแข็งหัวหด น้ำลายยืดตัวสั่น ขี้แตกขี้แตงเหมือนสุนัขเลี้ยงตามบ้านที่มีแต่เจ้าของโอบอุ้มปลอบโยน
เรานั้นเองที่ทำให้สุนัขปกติทั่วๆไปกลายเป็นสุนัขมีปัญหาพฤติกรรมเพราะทำอะไรที่ฝืนธรรมชาติของสุนัข และ ไม่เข้าใจจิตวิทยาสุนัข เลยทำให้เรื่องเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่จนหาทางออกไม่เจอ เรานั้นเองทำให้หมา "เสียหมา"
ทางออก
-เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เช่นน้องหมาสะดุด น้องหมาล้ม สิ่งต้องทำอันดับแรกคือ ตั้งสติ ห้ามโวยวาย ห้ามวีดว้าย และห้ามโอ๋ ห้ามพูดเสียง baby talk ถ้าอยากจะช่วยให้น้องหมาของเราไม่เป็นน้องหมาขี้กลัวในอนาคต เราต้องทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นเืรื่องธรรมดาๆไม่มีอะไรน่ากลัวหรือต้องตกใจอะไร จำไว้ว่า สุนัขจะตอบสนองต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามภาวะอารมณ์ของเราที่มีต่อสิ่งนั้นๆ เขาจะ copy ภาวะอารมณ์ของเรา เช่น ถ้าเรากลัวน้องหมาตัวใหญ่กัด น้องหมาของเราก็จะกลัวน้องหมาตัวใหญ่ตาม ถ้าเราไม่ชอบเสียงดังของข้างบ้าน สุนัขก็จะไม่ชอบเหมือนกัน เขาก็จะเห่าวุ่นวายเมื่อเกิดเสียงดังนั้นๆขึ้น หรือ ถ้าเราคิดว่าการที่สุนัขตกบันไดเป็นเรื่องใหญ่โตคอขาดบาดตาย เราจะทำให้สุนัขคิดตามเราว่า บันไดเป็นสิ่งที่น่ากลัวคอขาดบาดตาย แล้วในครั้งต่อๆไปเขาจะไม่กล้ัาขึ้นบันไดเป็นต้น
-เมื่อตั้งสติได้แล้ว ก็เดินเข้าไปตรวจสอบน้องหมาว่ามีอะไรบาดเจ็บ มีแผลหรือไม่ จำไว้ว่า ต้องเงียบที่สุด ต้องนิ่งๆ ไม่ต้องพูดอะไรดีที่สุด เมื่อสำรวจแล้วไม่มีอะไรบาดเจ็บ เราก็ดำเนินชีวิตต่อไปตามปกติ อย่าแสดงกริยาโอเวอร์แอ๊ํคชั่นเด็ดขาด และไม่ต้องทำตัวเป็นนางเอกเจ้าน้ำตา เพราะน้ำตาไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ แต่ถ้าน้องหมามีบาดแผล เราก็เช็ดแผลใส่ยา และดำเนินชีิวิตตามปกติ
-ถ้าสถานการณ์ที่ทำให้สุนัขต้องตกใจ เราต้องพาสุนัขไปเจอสถานการณ์นั้นๆใหม่อีกรอบ(ถ้าเราสามารถทำได้) เพื่อให้เขารู้ว่า ไม่มีอะไรต้องกลัว ไ่ม่มีอะไรต้องกังวล เช่น ถ้าสุนัขพลัดตกบันได เราก็พาสุนัขเดินขึ้นบนไดใหม่ โดยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สุนัขอาจลังเลนิดหน่อย แต่ถ้าเรากระุุตุ้น ลองเอาขนมล่อ ของเล่นล่อ เพื่อให้เขาก้าวข้ามผ่านสิ่งที่เขาไม่มั่นใจมาได้ เขาก็จะกล้าขึ้นบันไดเหมือนเดิม และครั้งต่อๆไปหมาจะไม่กลัวบันไดอีกต่อไป
สมมติว่าน้องหมาตกใจที่ถังขยะล้ม เราก็จำลองสถานการณ์ทำถังขยะล้มขึ้นมาเอง เริ่มจากล้มเบาๆเสียงค่อยๆก่อน เพื่อให้สุนัขไม่ตกใจ แล้วก็ทำอย่างนั้นจนน้องหมาชินกับภาพและเสียงที่ถังขยะกระทบพื้น เมื่อสุนัีขเคยชินก็เพิ่มให้เสียงดังขึ้นในระดับที่สุนัขรับได้ ไม่ตกใจ แล้วก็ทำซ้ำจนสุนัขเคยชินคุ้นเคยกับเสียง ทำอย่างนี้จะทำให้สุนัขไม่กลัวถังขยะล้มในครั้งต่อๆไป นี่คือเคล็ดลับไม่ให้น้องหมากลายเป็นหมาขี้กลัว
------------ ทางออกสำหรับสุนัขที่มีปัญหากลัวสิ่งบางสิ่ง เช่น ไม่กล้าขึ้นบันได
-เราต้องรู้สึกดีำกับการขึ้นบันได ไม่ต้องคิดอะไร หัวโล่งๆเข้าไว้ อย่าลืมว่า ถ้าเรากังวลเรื่องการขึ้นบันได น้องหมาก็จะไม่ชอบบันไดตามเรา แต่ถ้าเราคิดว่าการขึ้นบันไดเป็นเรื่องสนุก น้องหมาก็จะกลัวบันไดลดลง เพราะเขาcopyความรู้สึกของเรา -ใส่สายจูง -พาเขาวิ่งเล่นเพลินๆโดยมีสายจูง พอเขาวิ่งเพลินๆก็พาเขามาที่บันได โดยอย่าให้ขาหยุดวิ่ง เหมือนเป็นการพาเขามาที่บันไดโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว ถ้าเขาหยุด เราก็จูงพาเขาย้อนกลับไปวิ่งเล่นเหมอืนเดิมแล้วพาเขามาที่บันได้อีกสักรอบสองรอบ โดยให้เขามาที่บันไดแบบไม่ทันตั้งตัีว -เมื่อเขาหยุดหน้าบันได เราก็ค่อยๆกระตุกสายจูงเล็กๆ แล้วผ่อน กระตุกแล้วผ่อน เพื่อปลดล็อกขาที่แข็งเกร็ง เพื่อกระตุ้นให้เขาก้าวขา เราอย่าให้เขาหย่อนก้นนั่งได้ พยายามควบคุมโดยสายจูงให้เขาไม่สามารถเอาก้นแหมะพื้นได้ ที่สำคัญห้ามดึง หรือ ลากเขาขึ้นขณะขายันพื้นติดเบรกเด็ดขาด เพราะยิ่งจะำทำให้เขากลัวมากกว่าเดิม -พยายามควบคุมสายจูง โดยการกระตุกแล้วผ่อน กระตุกแล้วผ่อนเหมือนเป็นการกระตุ้นให้ขาก้าวไปข้างหน้า เหมอืนแงะก้นเขาให้ลอยพ้นพื้น เราอาจใช้ขนมหรือของเล่นล่อตรงด้านหน้าสุนัขก็ได้ เพื่อให้เขาดมตามขนมแล้วก้าวขาขึ้นบันไดตามมา ถ้าเขาขึ้นตามมาได้สัก 2-3 ขั้นก็ให้ขนมชิ้นจิ๋วหนึ่งชิ้น แล้วทำอย่างนี้จนสุดบันได และฝึกให้เขาขึ้นบันไดซ้ำๆจนเขาขึ้นได้คล่องแบบไหลลื่น -บางรายถ้ากลัวมากๆ เราจะไม่สามารถกระุุ้ตุ้นโดยขนมหรือของเล่นได้ เราก็ต้องใช้การควบคุม ไกด์เขาผ่่านทางสายจูงอย่างเดียว ถ้าเขาขึ้นได้จนสุดบันได เราก็พาเขาขึ้นลงใหม่หลายๆรอบจนเขาขึ้นได้ไหลลื่น -ที่สำคัญอย่าให้สุนัขวิ่งหนีเราไปได้ ถ้าเขาวิ่งหนีได้ ครั้งต่อไปจะแก้ยากขึ้น -อย่ารีบ อย่าหงุดหงิด เราต้องมีเวลาในการปรับพฤติกรรม ถ้าจะทำต้องทำให้สำเร็จ แม้จะใช้เวลากี่ชั่วโมงก็ตาม -สุนัขที่กลัว ห้ามโอ่ ห้ามปลอบ ห้ามอุ้ม ห้ามตี เพราะไม่ได้ช่วยให้เขาหายกลัว มีแต่จะกลัวามากขึ้น สิ่งที่ทำให้เขาหายกลัวได้คือ การที่เราพาเขาไปเผชิญสิ่งที่เขากลัวแล้วกระตุ้นให้เขาก้าวข้ามผ่านความกลัวนั้นๆไปได้ด้วยตัวเขาเอง นั้นเองจะทำให้เขาหายกลัวได้ในทันที และสิ่งที่เราได้เป็นของแถมกลับมาคือ สุนัขจะเคารพเรามากขึ้น ถือเป็นการซื้อใจสุนัขได้อย่างมากทีเดียว
อ่านเพิ่มเติม
วิธีแก้พฤติกรรมสุนัขขี้กลัว //www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=27-05-2009&group=7&gblog=7
Create Date : 18 มีนาคม 2554 |
Last Update : 18 มีนาคม 2554 12:47:41 น. |
|
23 comments
|
Counter : 10205 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: tempopo วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:13:52:31 น. |
|
|
|
โดย: ไสทนกฟ IP: 125.24.116.169 วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:15:09:27 น. |
|
|
|
โดย: peepin (tangkaw ) วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:21:12:49 น. |
|
|
|
โดย: แก้วศกุลตลา วันที่: 22 มีนาคม 2554 เวลา:18:33:54 น. |
|
|
|
โดย: Beak IP: 124.122.214.115 วันที่: 2 เมษายน 2554 เวลา:11:09:25 น. |
|
|
|
โดย: Yoja&Jiji วันที่: 2 เมษายน 2554 เวลา:17:31:05 น. |
|
|
|
โดย: Beak IP: 124.122.33.223 วันที่: 3 เมษายน 2554 เวลา:8:24:05 น. |
|
|
|
โดย: Yoja&Jiji วันที่: 4 เมษายน 2554 เวลา:11:41:05 น. |
|
|
|
โดย: Beak IP: 58.11.194.136 วันที่: 4 เมษายน 2554 เวลา:21:12:21 น. |
|
|
|
โดย: patoo IP: 183.89.251.19 วันที่: 8 เมษายน 2554 เวลา:21:59:12 น. |
|
|
|
โดย: Yoja&Jiji วันที่: 10 เมษายน 2554 เวลา:19:46:37 น. |
|
|
|
โดย: FLROANCE IP: 182.53.18.115 วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:20:37:01 น. |
|
|
|
โดย: น้องapril IP: 180.183.120.244 วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:0:56:20 น. |
|
|
|
โดย: Yoja&Jiji วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:11:31:35 น. |
|
|
|
โดย: โบรี IP: 58.11.236.248 วันที่: 10 สิงหาคม 2554 เวลา:17:55:37 น. |
|
|
|
โดย: Yoja&Jiji วันที่: 10 สิงหาคม 2554 เวลา:20:56:36 น. |
|
|
|
โดย: โบว์ IP: 202.29.6.95 วันที่: 11 สิงหาคม 2554 เวลา:11:26:19 น. |
|
|
|
โดย: โบว์ IP: 202.29.6.95 วันที่: 11 สิงหาคม 2554 เวลา:11:34:53 น. |
|
|
|
โดย: Yoja&Jiji วันที่: 11 สิงหาคม 2554 เวลา:15:16:49 น. |
|
|
|
โดย: babababu IP: 124.122.228.27 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:01:40 น. |
|
|
|
โดย: Yoja&Jiji วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:01:59 น. |
|
|
|
โดย: โม IP: 94.210.172.116 วันที่: 4 เมษายน 2555 เวลา:15:14:13 น. |
|
|
|
โดย: พลอย IP: 27.145.130.54 วันที่: 11 มกราคม 2561 เวลา:23:01:36 น. |
|
|
|
| |
|
|
 |
 |
 |
 |
|
|
ตอนนั้น โกรธมันมาก (พาล) ฮ่าๆ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ คะ