|
ครั้งแรกของฉัน
ติดเกาะแล้ว
หลังจากที่นั่งมาตามถนนลาดยางอันแสนจะสะดวกสบาย (แต่อยากจะร้องไห้อยู่ในใจจัง ถนนลาดยางมาเมื่อไหร่ธรรมชาติบรรลัยที่นั่น) ฉันก็มารายงานตัวที่รีสอร์ตจนได้สภาพในรีสอร์ต ที่ฉันเห็นมันไม่ได้แตกต่างไปกับตอนแรก ที่ฉันมาสมครทำงานเลยเนินดิน เป็นอยู่ยังไงก็ยังเป็นอยู่อย่างนั้น เรื่องของเรื่องรีสอร์ตเค้ายังไม่ได้เปิดให้บริการ มันก็เลยยังก่อสร้างไม่เสร็จในบางส่วน รวมไปถึงยังตกแต่งไม่เสร็จในหลายๆส่วนด้วย เมื่อมาถึงแล้วก็มีคนพาฉันเอาของไปเก็บยังบ้านพัก ฉันคิดไปเองว่าบ้านพักพนักงาน ก็คงเหมือนหอพักทั่วไปที่เค้าซอยเป็นห้องๆมาให้ อย่างที่ฉันเห็นที่รีสอร์ตอื่นเค้าเป็นกัน แต่เมื่อรถมาจอดตรงบ้านหลังที่เค้าบอกว่า เป็นบ้านพักแล้วนั้น ฉันก็งงและงงอีกว่าฉันจะไปนอนตรงไหน เพราะมันเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ แต่พอมองจากข้างนอกเข้าไป มันเหมือนจะมีห้องแค่ 2 3 ห้อง และแล้วมันก็มากระจ่างเมื่อตอนที่เปิดประตูห้อง ให้เข้าไปฉันพบว่าเค้าให้ทุกคนนอนรวมกันที่ห้องโถง นอนบนที่นอนที่อีกเดี๋ยวเค้าจะเอามาแจก ให้มันเป็นที่นอนที่พับเก็บได้แต่ยังดีกว่า ให้ฉันนอนที่นอนปิคนิคน่ะแหละ ฉันมองไปที่ๆตัวเองจะนอนในคืนนี้ด้วยหน้าตาที่งงๆ ฉันหันไปมองพี่ฉันที่มาส่งซึ่งเค้าก็งงไม่แพ้ฉันเหมือนกัน ส่วนห้องที่มองเห็นนั้นสำหรับพวกหัวหน้าแม่บ้านหัวหน้าฝ่ายต่างๆ สำหรับไอ้ลูกกระจ๊อกอย่างฉันนั้นนอนรวมกันข้างนอกอย่างนี้ก็ดีเหลือเกินแล้ว ถ้าไม่มีที่นอนจริงๆฉันว่าฉันจะออกไปซื้อเต๊นส์มานอนเล่นที่หน้าหาดแทน น่าจะได้บรรยากาศริมทะเลไปอีกอย่างนึงแฮะ พี่ฉันยืนมองหน้าเหมือนจะสมเพชเวทนาฉันอยู่แวบหนึ่งก่อนที่เค้าจะกลับบ้านกันไป และแล้วฉันก็ได้เริ่มงานเมื่อฉันถามคนที่พาเอาของมาเก็บว่า ต้องเปลี่ยนเป็นเครื่องแบบไหมเค้าบอกว่าไม่ต้อง เพราะตอนนี้เครื่องแบบยังไม่มีไอ้ฉันเองก็ไม่น่าที่จะโง่ไปถามเค้าเล้ย ก็ตั้งแต่ตอนที่ฉันมาสมัครงานแล้ว ฉันมองไปทางไหนก็เห็นแต่คนใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์กันทั้งรีสอร์ต ว่าแล้วฉันก็ร่ำลาพี่ฉันแล้วก็เดินตรงไปยังห้องครัวทันที เค้าพาฉันเดินข้ามเนินดินไปบางช่วงก็ไม่น่าเรียกว่า เดินน่าจะเรียกว่าตะกายเอาซะมากกว่า ตะกายเดินลอดใต้ถุนห้องพักทีละหลังๆ แต่ละหลังก็ยังตกแต่งไม่เสร็จทั้งนั้น ระหว่างที่ตะกายไปฉันก็ฝันหวานไปเรื่อยเปื่อย โอ้.....ว๊าวอุแม่เจ้า นี่ฉันจะได้เป็นกุ๊กโรงแรมเต็มยศก็คราวนี้ละว๊า ห้องครัวก็มีแอร์มีเตาอุตสาหกรรมเตากิลให้ฉันเล่นอย่างที่บ้านฉันไม่มี งานก็แบ่งออกเป็นฝ่ายๆไปใครทำอาหารก็ทำไป ใครเสิร์ฟก็เสิร์ฟไปใครใคร่ล้างของล้างจานก็ล้างไป ฉันอยากจะรู้นักว่าที่นี่จะมีห้องเย็นให้ฉันเข้าไปเดินเล่นหลบร้อนด้วยรึเปล่าหนอ และแล้วฉันก็ได้มาถึงที่โล่งๆมันเป็นใต้ถุนของบ้านพักหลังหนึ่ง ที่ตรงนั้นมันมีเตาแก๊ส 2 หัวที่เป็นเตาอุตสาหกรรมตั้งอยู่เตาหนึ่ง โต๊ะไม้เก่าๆเหลาเหย่อีก 1 หม้อหุงข้าวลูกยักษ์ 1 ใบ กะละมังสีดำใบใหญ่ 2 ใบ เขียงอันใหญ่ๆอีก 1 ตะหลิวกับทัพพีแล้วก็กระบวยอันยักษ์ (ภาษาคนครัวเค้าเรียกว่าเชี๊ยะ เชฟดุๆนิยมใช้เป็นเครื่องระบายอารมณ์ตีหัวกุ๊กงี่เง่าเล่นได้) อีกอย่างละอัน เอ่อ.....อ่ะหมดแว๊ว ส่วนรอบๆข้างนั้นก็เป็นเนินดินที่สูงเกือบเท่าเอวของฉัน ตอนที่ฉันมองไปก็มีป้าอยู่คนนึงกำลังยืนหั่นหมูอย่างอย่างสนุกสนาน ฉันว่าหน้าตาของเค้าน่ะสนุกกับการหั่นหมูซะจริงๆ คุณแม่คะ กุ๊กใหม่มาแล้วค่ะ เอ้า ว่าไงกุ๊กใหม่เหรอเราน่ะมาแล้วก็ดีเลยมานี่มาหั่นหมู เดี๋ยวจะได้ผัดข้าวผัดเลี้ยงพนักงาน ฉันมองตามไปที่หมูก้อนใหญ่คะเนแล้วไม่น่าจะต่ำกว่า 3 โล นี่ฉันต้องมาหั่นไอ้ซากหมูนี่ตั้งแต่วันแรกเลยเหรอไงเนี่ย บ่นไปอย่างงั้นแหละจริงๆแล้งฉันก็มายืนหั่นมันเหยงๆ ระหว่างที่หั่นๆหมูอยู่ ก็มีคนแวะเวียนมาเมียงๆมองๆฉันเป็นระยะๆ เค้าคงสงสัยว่าอีหมวยหน้าจืดอย่างฉันมันจะอยู่ได้กี่วัน กว่าฉันจะหั่นหมูเสร็จก็โน่นเป็นชั่วโมงมาวันแรกฉันก็โดนซะแล้ว ก็บอกแล้วว่าอยู่บ้านฉันได้ทำอะไรที่ไหนนอกจากลอยไปลอยมาไปวันๆนึงก็แค่นั้น เมื่อหั่นหมูจนหมดฉันก็เมื่อยจนแขนแทบจะหลุดจากเบ้า คุณแม่กลับมาอีกครั้งเพื่อมาผัดข้าวผัดให้พนักงาน ฉันนึกว่าเค้าจะใช้หมูที่ฉันอุตส่าห์ยืนหั่นอยู่ทั้งหมด แต่คุณนายเธอหยิบออกมาเพียง 1 ส่วน 5 แล้วบอกให้ฉันเอาหมูที่เหลือไปเก็บเอาไว้ทำอาหารพรุ่งนี้แทน ว่าแล้วคุณเธอก็เดินไปตักข้าวมากะละมังใหญ่ๆกะละมังนึงต่อจากนั้นก็เอาซีอิ๊ว + น้ำตาล + น้ำปลา + ผงชูรส ใส่ลงไปต่อด้วยการเอามือลงไปขยำๆๆๆและขยำๆๆๆๆๆคลุกๆให้ข้าวมันเข้ากันกับซีอิ๊ว อุแม่เจ้า........... นี่ครัวของโรงแรมเค้าทำกันอย่างนี้เหรอเนี่ย ฉันยืนมองจนคุณนายเธอขยำข้าวจนมันเข้ากันจนทั่ว เมื่อเสร็จแล้วเธอก็เอามือป้ายกับกางเกงที่เธอใส่อยู่ก่อนที่เธอจะเดินไปล้างมือ กว่าฉันจะรู้ว่าคุณแม่ครัวเอามือป้ายตูดนี้ไม่ใช่แม่ครัวแต่เป็นหัวหน้าแม่บ้านนั้นก็ตอนที่ได้กลับไปถึงบ้านพักแล้ว ต่อไปนี้ฉันสาบานได้เลยว่าจะไม่ให้แม่บ้านมาทำกับข้าวให้กินอีกแล้ว ฉันไม่อยากกินขี้มือ แอะ................ ตกลงข้าวผัดวันนั้นไม่มีอะไรเลย แต่มันเป็นข้าวใส่วิญญาณสุกรดีๆนี่เอง หมูไม่ถึงกิโลผัดเลี้ยงพนักงานในรีสอร์ตเกือบๆ 20 คน แต่ก็ยังดีที่มันมีวิญญาณไข่ปนมากับเศษผักอยู่อีกนิดหน่อย ก็ช่วยกันไม่ให้วิญญาณหมูนั้นมันเฮี้ยนจนเกินไปนัก อาหารมื้อแรกของที่นั่นเป็นข้าวผัดแฉะๆ ที่ฉันกินไม่ค่อยจะลงแต่คนอื่นๆดูเขาก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อยกันดีเหลือเกิน อย่างนี้แล้วมันก็แสดงว่าอาหารพนักงานของทีนี่มันเป็นอย่างนี้เองเหรอนี่ โอย.......อยากตาย ฉันนับได้กว่า 20 ชีวิตฉันก็เลยยังงงๆว่าคืนนี้ฉันจะมีที่นอนแน่เหรอคิดแล้วก็กลุ้ม
Create Date : 26 มิถุนายน 2550 |
Last Update : 26 มิถุนายน 2550 5:31:13 น. |
|
4 comments
|
Counter : 514 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: TooNew วันที่: 26 มิถุนายน 2550 เวลา:13:33:35 น. |
|
|
|
โดย: Nisasa วันที่: 26 มิถุนายน 2550 เวลา:18:51:35 น. |
|
|
|
โดย: หมวยเคี้ยง วันที่: 27 มิถุนายน 2550 เวลา:16:40:45 น. |
|
|
|
โดย: wikato วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:19:25:44 น. |
|
|
|
|
|
|
|