ซัวซไดย ขแมร์ ตอนที่ 3 มนต์เสน่ห์บายน....สตั้น 3 นาที บ่ายอันแสนระอุวันนี้ น้องวินของเราเริ่มต้นทริปของเราด้วยการขับเลย นครวัดไป.... เห้......ไม่จอดเหรอ ฮีบอกว่า " no..no..no...it big...tomorrow today Bayon..&^*$)(#)(*^%$.." (ฟังไม่ทัน ฮีแร๊พแขมร์แลงเกว็จ) แล้วก็ขับเลยไป งงสิคะ....งง...คืออัลไล เอาน้องว่าตามฮีไป ฮีก็แว๊นเกวียนไปเรื่อยๆ จนไปถึงจุดที่เป็นสะพานนาคราช เรียกว่าซากอารยธรรมที่คงหลงเหลือผ่านกาลเวลามาหลายร้อยปีจะดีกว่า สะพานนาคราชเป็นสะพานที่สลักรูปเทวดาฉุคนาคราชด้านหนึ่ง อีกด้านเป็นยักษ์ฉุดนาคราช มาจากพิธีกวนเกษียรสมุทรตามความเชื่อทางศาสนานั้นเอง จากสะพานจะเชื่อมต่อกับซุ้มประตูสุดอลังการ เป็นนัยว่า ท่านกำลังเดินทางเข้าสู่เขตตัวเมือง ความตื่นเต้นเริ่มมากขึ้น ตอนนี้กำลังสมุมติว่าตัวเองจ้าว...มีทหารแบกเสลียงกำลังเดินลอดซุ้มประตูนี้ ตัดภาพมาที่ความจริง....แทด...แทด...แทด...เสียงรถแมงกาไซด์สีแดงเทียมเกวียนให้ต่างด้าว 3 คน กำลังแว๊นผ่านซ่ากประตูไป....สลายมโน..(และเชื่อว่า นังชะนีกางเกงลายดอก คงมโนจนไปเจอเจ้าชายแล้วม่ะนะ หน้าตานางเคลิบเคลิ้มมาก) จากแผ่นที่ที่หยิบยืมคนอื่นมาอีกที จะเห็นว่า อังกอร์นั้นถูกแยกเป็น 2 ส่วน คือ อังกอร์วัด และ อังกอร์ธม ซึ่งการไม่ทำการบ้านมานั้น ทำให้เข้าใจผิดว่า อังกอร์ธม มันคงเป็นวัด วิหาร อะไรสักอย่างเถือกๆนั้น ซึ่งมันไม่ใช่.....อังกอร์ธม หรือ นครธม หมายถึง เมืองใหญ่ สร้างขึ้นโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่เลื่อมใสพุทธศาสนานิกายมหายาน ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 มีศูนย์กลางคือปราสาท บายน ที่ถือเป็นสุดยอดของปราสาทขอม หมายความว่าวันนี้เราจะเที่ยวในส่วนของเมืองโบราณนั้นเอง น้องวินสุดเลิฟของเราก็เอาต่างด้าว 3 ตัว ไปปล่อยไว้ที่ปราสาทบายน แล้วฮีก็บอกว่า "This Bayon Temple...*&%&_*&^#@$%^!@&.... after you see i wait you near bus" บัสไหนของมันหว่ะ เจ็บปวดกับภาษาอังกฤษน้องนางมาก ฮีก็ชี้ไปโน้นนนน.............ไกลหา _'องงงงงเลย เห็นแบบลิบๆเลย แล้วฮีก็แว๊นเกวียนจากไป...........ไว้อาลัย 3 นาที มุดซอกนั้นออกซอกนี้ เดินวนไปวนมา อลังการกับกองหิน นี้มัน "กองหินแห่งอารยธรรมชัดๆ" มหากาพย์สิ่งก่อสร้าง กษัตริย์แต่ละองค์ก็จะฝากความยิ่งใหญ่เอาไว้ จากรุ่นสู่รุ่น จนกระทั่งอาณาจักรล่มสลาย เหลือเพียงร่องรอยแห่งอารยธรรมที่งดงาม ปราสาทบายน เป็นปราสาทหินใจกลางนครธม เป็นวันที่สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ซับซ้อนทั้งโครงสร้างและความหมาย ปราสาทบายนถูกสลักเป็นรูปพระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ผินพระพักตร์ออกไปทั่วทั้งสี่ทิศ เพื่อสอดส่องดูแลทุกข์สุขของประชาชนให้อยู่เย็นเป็นสุข รอยยิ้มบนพระพักตร์ที่เห็น เราเรียกว่า "ยิ้มแบบบายน" ใบหน้านั้นนับได้ 54 ปรางค์ปราสาท ปรางค์ปราสาทละ 4 หน้า จะมีใบหน้าอวโลกิเตศวรรวม 216 หน้า (ข้อมูลจากเวป และหนังสือคะ) ในปราสาทบายน ก็จะมีเด็กน้อยกัมพูชาแอบอิงตามมุมต่างๆ คอยถ่ายรูปให้นักท่องเที่ยว เค้าจะบอกว่ามุมนั้น มุมนี้สวย มาถ่ายให้ "ma' ladyyyyyy is very beautiful i take photo to you..^@%#$*$ " (ประโยคที่ไม่เข้าใจ แต่รับรู้ได้ว่าเด็กน้อยต้องการอะไร ) ซึ่งโปรดทราบโดยทั่วกันว่า ของฟรีไม่มีในโลกนี้ ฉันบอกและถ่ายรูปมุมสวยๆให้เธอ ก็จะจ่ายค่าเหนื่อยฉันมาดีๆ มุขนี้เห็นกันบ่อยๆ แต่ชะนีกางเกงลายดอก นางรู้ว่าเด็กต้องการอะไร นางลองของ (อีป้ารักเด็ก) และภาพที่ได้ ก็เป็นฉะนี้แล........ ค่าเสียหาย 100 บาท เก็บภาพกันอย่างเมามันส์ ดูนาฬิกาอีกที ตาย_่า สามโมงกว่า ยังวนเวียนไม่ไปไหน ได้ข่าวว่าต้องเดินอีกไกลกว่าจะถึงจุดนัดพบ คลื่นความร้อนส่งมาทักทายเป็นระยะ อา....ร้อนสาดดดดด นี้เดือนกันยานะ ถ้ามาเมษา รับรอง "เกรียมแดด" ส่งท้าย ปราสาทบายนด้วยรูปสวยๆกันหน่อย ต้องไปที่อื่นต่อแล้ว สุดท้ายและท้ายสุด ใครได้มาเยือนบายน ทำการบ้านกันสักนิด จะเข้าใจเรื่องราวของเขมรโบราณที่ถูกถ่ายถอดลงบนกำแพงหินทั้ง 4 ด้านรอบปราสาท กำแพงถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่วง จารึกภาพนูนต่ำทั้งหมด 8 เรื่องราว เมื่อต่างด้าว 3 คนไม่ทำการบ้านมา ฉะนั้นเราจะมีทริปซ่อมเสียมราฐกันอีกรอบนะฮาฟ กลับมาดื่มด่ำอารยธรรม กลับมาตามหาร่องรอยที่ขาดหาย และกลับมาตามหาเจ้าชายสุริยวรมัน... |
translucent
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog Friends Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |