Brownie Fudge
มาดูสูตรกันเลย แอบ Adapt อีกแระ เพราะบางอันก็หาไม่ได้ Serves 8 ingredients 75 g unsalted butter, softened, plus extra for greasing 175 g golden caster suger 3 eggs, beaten 3 tbsp golden syrup 40 g ground almonds 175 g self raising flour pinch of salt 40 g cocoa powder icing 225 g plain chocolate, broken into pieces 55 g dark muscovado sugar 225 unsalted butter, diced 1/2 tsp vanilla extract วิธีทำมาค่ะ 1 Preheat the oven to 180 celsius/ Gas Mark 4. grease and line two 20-cm/ 8-inch sandwich tins. 2. For the icing, place the ingredients in a heavy-based saucepan. Heat gently, stirring constantly, until melted. 3. Pour into a bowl and leave to cool. Cover and chill for 1 hour, or until spreadable. 4. For the cake, place the butter abd sugar in a bowl and beat together until light abd fluffy. Gradually beat in the eggs. Stir in the golden syrup and almonds. 5. Sift the flour, salt and cocoa powder into a separate bowl, then fold into the mixture. Add a little water, if necessary, to make a dropping consistency. 6. Spoon the mixture into the prepared tins and bake in the preheated oven for 30-35 minutes, or until springy to the touch and a skewer inserted in the centre comes out clean. 7. Cool in the tins for 5 minutes, then turn out onto a wire rack to cool completely 8. when the cake are cold, sandwich them together with half the icing. Spread the remaining icing over the top and sides of the cake, swirling it to give a frosted appearance. วันนี้ลงสูตรเป็นภาษาอังกฤษเพราะเผื่อมีคนอยากลองทำมั้ง จะได้เอาข้อมูลที่ถูกต้อง กลัวแปลผิดอันนี้นุชปรับสูตรไปบ้างสำหรับเค้กนุช เพราะบางอย่างแอบหาซื้อไม่ได้ก็ปรับๆไป ออกมาก็โอเคอยู่เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปตอนแต่งหน้าเค้ก เพราะน้องสาวอาเฮียมั่วแต่จะเอาไปอวดเพื่อน เหอๆๆๆ พี่มันจะตายแระ 5555 ดีนะที่ยังออกมาเป็นเค้ก ม่ายงั้นเทรนเนอร์จะเหนื่อย+อายด้วย Lemon Cheese Cake
ส่วนเค้ก ฟินลาเดเฟีย 250g.+Cottage cheese ของโฟโมสต์ อีก 170 g เปลี่ยนเอง ไข่ไก่ ๓ ฟอง นมกระป๋องคาร์เนชั่น 3/4 ถ้วยตวง เปลี่ยนเองอีก น้ำตาลใช้ 2/4 ถ้วย เพราะหนูนุชเอาครีมโอริโอใส่ไปด้วย มันแอบหวานอยู่แล้ว แล้วกะจะเอาบลูเบอร์รี่มาใส่ด้านบนด้วย ก็หวานอีก หนูนุชเลยลดน้ำตาลลง (มโนไปเองอีกแล้ว) น้ำเลมอนคั้นสด 1/4 ถ้วยตวง ผิวเลมอนขูดจากเลมอน 1 ผล เจลาติน 7 กรัม หนูนุชไปซื้อแบบแผ่นมา ไม่มีแบบผง หาซื้อไม่ได้ในประเทศเชียงราย วานิลา ๑ ช้อนชา เลมอนสำหรับตกแต่ง ๑ ผล ส่วนครัส หนูนุชใช้โอริโอ้ 1 หลอดถ้วนๆ เนยจืดละลาย ๓ ช้อนโต๊ะ ขอเกลือนิดหน่อย โรยใส่โอริโอ ย้ำว่านิสเดียวเท่านั้น มาทำส่วนฐานก่อนนะคะ ก็เอาโอริโอ้มาแกะครีมออก หนูนุชเพิ่งงย้ายบ้านยังไม่เข้าที่เข้าทาง หาเครื่องปั่นไม่เจอ ก็เลยเอาใส่ถุงทุบๆมันซะเลย 555 รวดเร็วทันใจดีแท้ (แล้วก็ลายเป็นดินสีดำๆ) แล้วก็เอาเนยที่ละลายมาใส่ (รถน้ำต้นไม้ใส่ดิน) ทำให้มันเข้ากัน ใส่เกลือไปอีกนิด (ใส่ปุ๋ย) กดใส่พิมพ์ อารมณ์เหมือนปลูกต้นไม้เลย หนูนุชแอบเอาฐานไปอบนิสหนึ่ง 10 นาทีกลัวมันไม่แข็งติดกัน ต่อมาก็มาทำส่วนเค้ก ปั่นชีสให้มันเข้ากันเนียนๆ หนูนุชใส่ครีมโอริโอ้เข้าไปด้วย ปั่น....ปั่น....ปั่น แล้วก็ทิ้งไว้ คั้นน้ำเลมอนแล้วเอาเจลาตินแช่ไว้ มันจะข้นๆเหนี่ยวๆเหมือนวุ้นเลย ลงใส่เป็นตัวทำให้ชีสเค้กนิ่มเด้งดึ๋งดั๋ง (ทำตามสูตรคุณแม่ปูไปเถอะ) พักไว้อีกเช่นกัน จากนั้นก็ตีไข่ผสมกับน้ำตาลให้เข้ากัน เสร็จแล้วเอาไปตั้งไฟอ่อน ควรใช้กระทะที่เป็นเทบล่อนนะคะ หนูนุชแอบโง่ทำไหม้ด้วยหม้อธรรมดา 555 เลยต้องทำใหม่นะคร๊า ที่ต้องเอาตั้งไฟเพื่อให้ไข่สุกคะ เพราะเราทำชีสเค้กแบบไม่อบคะ แต่เอาไปอบในตู้เย็นแทน 5555 ต่อด้วยการใส่ผิวเลมอนขูดลงไปในไข่ที่เรากำลังทำให้มันสุก คาดว่า...คิดเองนะว่า ผิวเลมอนมีน้ำมัน คงทำให้เค้กหอมขึ้น มีผิวเลมอนให้เคี้ยวเล่นนิดหน่อย พอไข่สุกก็เอาไปผสมกับชีสที่เราทำทิ้งไว้ เติมน้ำเลมอนที่ผสมเจลาตินลงไป แอบชิมได้ถ้ายังไม่ได้รสชาติดั่งใจก็แต่ส่วนที่อยากได้เข้าไปนะคะ อย่างชอบเปรี้ยวก็ใส่เพิ่มได้ ผสมให้เข้ากัน จากนั้นก็เอาากรอง เพื่อให้เนื้อเนียนนุ่ม ขาวจั๊วะ น่าเจี๊ยะ ตักใส่พิมพ์ อบในตู้เย็น 4-5 ชม. หนูนุชทิ้งไว้คืนหนึ่ง แอบห่อพลาสติกตอนแช่ เพราะในตู้เย็นหนูนุชมีสิ่งอื่นที่แช่ไว้ด้วย กลัวกลิ่นมันกวนกัน และอีกอย่างที่ความโ่ง่ไม่เคยปราณีหนูนุช พิมพ์ที่ใช้ดันเป็นพิมพ์ฐานแคบ ด้านบนกว้้าง พอเวลาเอาออกมันก็จะทรงแปลกๆ ต้องตัดขอบชีสด้านบนออก ให้เท่ากับด้านล่างเพื่อความสวยงาม อีกซักรูปสำหรับ Lemon Cheese Cake ราด Blueberry Strawberry VS Whipping Cream
|
translucent
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |