เรื่องราวผู้หญิงกับการเดินทางด้วยหัวใจ 2 ล้อ (มอเตอร์ไซด์) รวมถึงการท่องไปในโลกกว้างด้วยวิธีการอื่นๆ คลอเคล้าด้วยคนตรีไพเราะหลากหลายรูปแบบ เรามาผจญภัยด้วยกันนะคะ
1 หนุ่มแสบ 3 สาวซ่าส์ ... พาตะลุย Australia และ New Zealand ตอน 2 Melbourne

1 หนุ่มแสบ 3 สาวซ่าส์ ... พาตะลุย Australia และ New Zealand ตอน จุดเริ่มต้นและการหาข้อมูล

วันแรกของการเดินทาง
บินจากสนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบินราวๆ 9 โมงเช้า จากบ้านเราไป Melbourne ใช้เวลา 9 ชม. ปกติการบินไทยจะมีเที่ยวบินไป Melbourne ทุกวัน วันจะ 2 เที่ยว คือ เช้ากับกลางคืน ทำไมไม่บินกลางคืน? แหะๆ ... ก็อยากอยู่ค่ะ แต่ตอนจองมัวแต่โอ้เอ้ ไอ้วันที่อยากได้ก็เลยเต็มๆ ไปหมด T_T เอ้า...บินกลางวันก็ได้ ข้อดีของมันก็มีอยู่ พรุ่งนี้เราจะได้เริ่มเที่ยวแบบสดใสร่าเริงไง

ไฟลท์ของเราถึง Melbourne ราว 3 ทุ่ม เวลาเร็วกว่าบ้านเรา 3 ชั่วโมง สนามบิน Tullamarine International Airport จะอยู่ห่างจากตัวเมืองราวๆ 20 km รับรถเช่าแล้วขับไปยังที่พัก เราพักกันนอกเมือง ไปทางตะวันออกของเมือง เพราะบ้านญาติเพื่อนอยู่แถวๆ นั้น

Tip & Trick ในการขับรถ
- ถนนโดยส่วนใหญ่จะจำกัดความเร็วที่ 100 km/hr แถมกล้องยุ่บยั่บ อึดอัดไม่น้อย แถมโดนจับค่าปรับราวๆ 200 AUD
- ทางด่วน (Toll) จะไม่มีป้อมเก็บเงินเหมือนบ้านเรา สามารถขับเข้าไปได้เลย โดยสามารถจ่ายเงินทางอินเตอร์เน็ทได้ไม่เกิน 3 วันหลังจากที่ใช้เส้นทาง หรือจะจ่ายผ่านตู้อัตโนมัติก็ได้
- ค่าจอดรถใน CBD แพงมากๆ
- ในการเข้าเขต CBD จะมี Tram หรือรถรางวิ่งเต็มไปหมด การ "เลี้ยวขวา" ในแยกที่มี Tram บางแยกจะเป็น "Hook Turn" ต้องดูป้ายให้ดีๆ


# เดือนมีนาคม ที่ออสเตรเรียเป็นปลายฤดูร้อน ย่างเข้าฤดูใบไม้ร่วง อากาศกำลังสบายๆ กลางวัน 20 กว่าๆ กลางคืน 10 กว่าองศาเซลเซียส แต่ถ้าอยากมาเห็นใบไม้เปลี่ยนสี จริงๆ ต้องมาปลาย มีค. หรือ เม.ย เลยค่ะ

# ทั้งที่นี่และนิวซีแลนด์ เช็คเวลาทำการของโรงแรมหรือที่พักให้ดี บางที่ไม่ได้เปิด 24 ชม. เพราะถ้าไปแล้วเกิดปิด มีสิทธิ์ได้นอนในรถแน่ๆ ^^ ถ้าไปถึงหลังเวลาทำการ ให้โทรแจ้ง เขาจะมีวิธีส่งมอบห้องให้คุณสามารถเข้าพักได้

# การใช้จ่าย จะว่าไปเงินสดก็ดีที่สุด แต่จะให้พกกันเป็นฟ่อนก็ไม่ไหว ถ้าจะใช้บัตรเครติด บางที่ก็มี Surcharge บางที่ก็ไม่ สามารถบอกพนักงานให้ปริ้นท์สลิปออกมาเซ็นต์เหมือนบ้านเราก็ได้ แต่ถ้าจะให้สะดวกที่สุด จำ PIN กด ATM 4 ตัวไปด้วยก็จะดีมาก เพราะตู้จ่ายอัตโนมัติทั้งหมด แม้กระทั่งตั๋วจอดรถ สามารถใช้บัตรเครดิตได้หมด แถมบางตู้รับแต่บัตรเครดิตเท่านั้นน่ะสิ

Photobucket

การแลกเงิน จริงอยู่สามารถนำเงินไทยไปแลกที่นั่นได้ แต่จากเรทในภาพจะเห็นว่าถ้าทำแบบนั้น...ขาดทุนย่อยยับ ให้แลกเงินดอลล่าหรือยูโรไปสำรองดีกว่าค่ะ ^^

# Public Transport Ticket มีหลายแบบ บางแบบสามารถขึ้น Public Transport ได้ทุกรูปแบบ คือ รถไฟ, Tram, และ Bus ศึกษารายละเอียดให้เหมาะกับรูปแบบการท่องเที่ยวของคุณ เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้

วันที่ 2 ของการเดินทาง เนื่องจากพวกเรามาครั้งแรก ยังไม่เคยขับรถเข้าเขต CBD  ญาติเพื่อนจึงแนะนำให้นั่งรถไฟเข้าเมืองก่อน รวมทั้งตั๋วรถไฟเข้าเมืองวันนี้จะถูกกว่า เพราะเป็นวันอาทิตย์ พวกเราจึงนั่งรถไฟไปลงที่ Flinder Station ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวจุดหนึ่งด้วยพอดี

Photobucket

มองจากหน้า Flinder Station ไปฝั่งตรงข้ามก็เจอ St Paul's Cathedral

แยกนี้ (จากมุมนี้) ทางขวามือจะมี Tourist Information Center  อยู่ ตึกถัดไปคือ Federal Square ภายในก็จะมีโรงหนัง หอศิลป์ แล้วก็ร้านอาหาร ด้านหลังติดแม่น้ำ Yerra ทริปนี้ตัวเองไม่ได้แวะจำพวก Museum เพราะไม่ชอบ ^^



Flinder Station อาคารสีเหลืองเด่นเป็นสง่า

สถานที่ท่องเที่ยวหลัก แหล่งชอปปิ้ง ส่วนใหญ่จะอยู่ในเขต Central Business District (CBD) เกือบทั้งหมด หรือ รอบนอกไม่ไกลนัก โดยจะมีรถรางโบราณ สาย Circle วิ่งวนรอบ CBD ให้บริการฟรี แต่รถรางไม่มีแอร์ แล้วก็วิ่งหวานเย็นนิดหน่อย นั่งชมเมืองสักรอบก่อน ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.



แหล่งท่องเที่ยวจะอยู่ในระยะเดินถึง แต่ก็เดินกันขาลากนิดนึง
ระหว่างเดินก็ชมเมืองไปเรื่อยๆ มีตึกโบราณและตึกเก่าๆ สวยๆ เป็นระยะ

Photobucket

รถราง...วิ่งขวักไขว่อยู่เต็มเมือง (สีขาวนี่เสียตังค์นะคะ)
เป็นที่มาของการขับรถว่าทำไมต้องทำ Right Hook Turn

Photobucket

มีรถม้าสำหรับบริการนักท่องเที่ยวนั่งชมเมืองด้วยล่ะ

Photobucket

ห้องน้ำสาธารณะชายแบบโบราณ  ยังใช้งานได้จริง แต่กลิ่นต้องปรับปรุง

Photobucket

ภายในรถรางสาย Circle (ฟรี) เป็นรถรางรูปทรงโบราณ ไม่มีแอร์ วิ่งหวานเย็นๆ นิดนึงนะ

Photobucket

Photobucket

แวะตลาด Queen Victoria Market แต่ไปช้าเกิน ตลาดเริ่มวายแล้ว

Queen Victoria Market มีเหมือนลักษณะจตุจักรของบ้านเรา ประมาณว่ามีทุกอย่างและขนาดใหญ่มาก ต้องเช็คเวลาให้ดี เพราะแต่ละวันเปิดปิดไม่เท่ากัน ขนาดไปถึง 4 โมงเย็นตลาดก็เริ่มวายแล้ว เก็บของกันไปเยอะแล้ว อดช็อปเลย

ใช่แต่ตลาดจะปิดไม่ตรงกันในแต่ละวันแล้ว แม้กระทั่งแหล่งช๊อปปิ้งต่างๆ ก็เช่นกัน บางวัน 6 โมงเย็นห้างต่างๆ ก็เริ่มปิดแล้ว เล่นเอาคนเริ่มชีวิตหลังพระอาทิตย์ตกดินอย่างเราเป็นงง ทั้งๆ ที่ข้อดีของที่นี่คือกว่าจะมืดก็ปาไปหลัง 2 ทุ่มแท้ๆ

Photobucket

หลังจากเดินชมเมือง ช๊อปปิ้งกันจนขาลากแล้ว ท้องก็ร้องประท้วง ได้เวลาชิวแล้ว

Photobucket

ตะวันเริ่มจะลาลับขอบฟ้า

กลุ่มตึกในภาพ คือ Southbank (ข้ามแม่น้ำ Yerra ไปอีกฝั่ง) ส่วนตึกที่สูงที่สุดใน Melbourne คือ ตึก Eureka สามารถขึ้นไปชมวิวได้ (Sky deck ชั้น 88) และมี Outlet Mall อยู่ด้วย รู้เมื่อกลับมาแล้ว T_T เพื่อนบอกว่าถูกมาก (ทำไมไม่บอกก่อนไปละเนี่ย)

วันที่ 3 ของการเดินทาง วันนี้เราวางแผนขับรถไปเที่ยว Great Ocean Road (GOR) เป็นเลียบชายฝั่งทะเล ความพิเศษอยู่ตรงที่บางช่วงเป็นเลาะหน้าผาที่ติดทะเล เรียกว่าเป็นถนนสายโรแมนติกติดอันดับ Top ของโลก ที่ครั้งนึงในชีวิตควรจะได้มากันเลยทีเดียว

อย่างที่บอกว่าที่ Melbourne กำหนดความเร็วการใช้ถนนไว้ที่ 100 km/hr  จากที่พัก ไปจนถึง Port Campbell (325 km.) บวกกับช่วงเข้า GOR ถนนคดเคี้ยว ไหนจะจุดแวะต่างๆ ทำให้ต้องออกกันแต่เช้า (เช้ามากแค่ไหนก็ไม่เร็วกว่า 8 โมงไปได้สำหรับอิช้าาาน)

Photobucket

จุดแวะแรก คือ Bell Beach เป็นจุดเล่น Surf ขึ้นชื่อ

Photobucket

ที่เห็นจุดดำๆ นั่่น คือ คนนะ ... ไม่ใช่แมวน้ำ
แต่จะว่าไปที่นี่ไม่ว่าจุดไหนๆ ก็มีคนเล่น Surf เต็มไปหมด คลื่นแรงซะขนาดนั้น น่าเล่นน้ำเฉยๆ ซะที่ไหนกัน

Photobucket

Photobucket

จุดแวะที่ 2 Split Point Lighthouse

เราแวะทานข้าวกันที่เมือง Lorne เป็นเมืองติดทะเล มีชายหายกว้าง พอที่จะเล่นน้ำปกติเหมือนบ้านเราได้ มีโรมแรมสวยๆ ริมหาดมากมาย ขับผ่านๆ ยังเปรยๆ กันเลยว่าน่าแวะนอนที่เมืองนี้จัง

Photobucket

จุดแวะที่ 3 Erskine Falls ในเมือง Lorne

ขับต่อไปเรื่อย เจอป้าย Cape Oteway จากการหาข้อมูลมาก็รู้ว่าเป็นจุดแวะอีกจุด คือ มีประภาคาร แต่พอไปถึงพบว่าต้องเสียตังค์ค่าเข้า และก็เดินไกลพอสมควร จึงขอบาย แต่ระหว่างทางที่ขับเข้ามา จะผ่านป่ายูคาลิปตัสใน Oteway national park สงสัยอยู่เหมือนกันว่าจะเจอตัวไหม พอดูให้ดีๆ ก็เห็นหมี Koala ตัวเป็นๆ เกาะอยู่ตามยอดไม้เต็มไปหมด

Photobucket

ดง  Koala ดง Koala ใน Great Otway National Park

ตอนนี้เป็นเวลา 5 โมงกว่าแล้ว ต้องขับอีกเกือบ 100 โล เพื่อไปดู Highlight  ของถนนเส้นนี้

Photobucket

Photobucket

นั่นคือ Twelve Apostles
ปัจจุบันผุพังไปตามกาลเวลา เหลือไม่ถึง 12 แล้ว อีกหน่อยคงพังหมดไม่เหลือ

Photobucket

จุดเก็บ RC สุดท้ายของวัน ก่อนสิ้นแสง London Bridge

London Bridge Scenic View จะเลย Port Campbell ไปไม่ไกลนัก หลังจากแวะจุดสุดท้ายก็ย้อนกลับไปกินข้าวที่นั่น จนถึงเวลา 3 ทุ่ม แล้วก็ขับกลับโดยเส้นทางสายใน ให้ตั้ง GPS ไป Colac เพราะเส้นทางจะไม่คดเคี้ยว ถึงที่พักก็ราวๆ เที่ยงคืน (แต่ขอบอกว่าเส้น Local Road เหยียบกระจายเลยนะคะ ^^ ช่วงถนนใหญ่หรือผ่านเมืองห้ามเหยียบเด็ดขาดนะ เด๋วจะมีใบสั่งตามส่งถึงบ้าน)

วันที่ 4 ของการเดินทาง
ช่วงเช้าเราวางแผนไปนั่งรถไฟไอน้ำ Puffing Billy กัน จริงๆ แล้วควรไปขึ้นตั้งแต่ต้นสาย คือ Belgrave Station จะมีจุดที่เป็นสะพานไม้ข้ามถนนอยู่ ซึ่งถือเป็น Highlight แต่เราดันตาม GPS ไปผิดสถานี จึงไปขึ้นที่ Menzies Creek ซึ่งเป็นสถานีที่ 2 เลยพลาดจุดนั้นไปอย่างน่าเสียดาย แต่อย่างไรก็ตาม วิว 2 ข้างทางตลอดเส้นทางจนไปถึงสถานี Lake Side ก็ยังสวยงามไม่น้อย ผ่านดงต้นไม้ใหญ่ มองเห็นวิวเมือง (รถไฟเที่ยวแรกคือ 10:30)

Photobucket

Photobucket

ถัดจากรถไฟไอน้ำ ตามแผนคือ จะไปหา Winery นั่งชิวๆ แต่ลองเปิด GPS ดูแล้วต้องขับรถขึ้นเหนือไปอีกว่า 50 km กลัวว่าจะไป Phillips Island ไม่ทัน เพราะต้องขับรถจากตรงนี้ไปอีกกว่าร้อยกิโล และบนเกาะ นอกจาก Penguin Parade  แล้วก็ยังมีจุดให้เที่ยวชมอีกหลายแห่ง (ลองเข้าไปดูในเวปที่ให้ไว้นะคะ)

เราแวะที่ i-site เพื่อซื้อตั๋วเข้า Phillips Island Nature Park เราเลือกซื้อตั๋ว 3 Park Pass + Penguin Plus คือ เข้าดู Penguins Parade, Koalas Conservation Center and Churchill Island

- Churchill Island เป็นเกาะเล็กๆ ที่เข้าเกาะได้โดยผ่าน Phillips Island อีกที มีโชว์ตัดขนแกะ รีดนมวัว ตัวอย่างฟาร์มในอดีต มีสัตว์ต่างๆ มากมาย มีโชว์อย่างละ 1 รอบต่อวันเท่านั้น ถือว่าเพลินๆ ดีค่ะ

Photobucket Photobucket

Sheep Shade Shearing
เขาว่าคนตัดขนแกะ เป็นอาชีพที่มือนุ่มที่สุด เพราะขนแกะมี Lanolin เยอะ

- Koalas Conservation Center อันนี้ผิดหวังอย่างแรง นึกว่าจะมีเยอะ ที่ไหนได้มีไม่กี่ตัว และไม่ได้อยู่อย่างธรรมชาติ เป็นการจัดฉาก แต่ถ้าไม่มีเวลาไปศูนย์อื่น ก็ถือว่าดีกว่าไม่ได้ดู เพราะจริงๆ ที่นี่มีศูนย์ Koala เยอะแยะมากมาย ได้ยินมาว่ามีอยู่ศูนย์นึงแถวๆ ทางไป Blue Mountain ที่ Sydney หรือไม่ก็ที่ Maru koala park อยู่บนเส้นทางที่จะไป Phillips Island นี่แหละ มี Encounter ด้วย

Photobucket

Photobucket

Wallaby จิงโจ้พันธุ์เล็ก

เห็นหมีแล้ว ก็ขับรถไปต่อ วันนี้เจ้าหน้าที่บอกว่าน้องกวิ้นจะกลับบ้านราวๆ 2 ทุ่ม จึงพอมีเวลาเหลือ เราจึงไปที่ The Nobbies ซึ่งอยู่เลยที่ซุ่มโป่งดูน้องกวิ้นไปเล็กน้อย ตรงจุดนี้มีสะพานให้เดินชมวิว ซึ่งเนินหญ้าใต้สะพานไม้นี้ จริงๆ ก็มีรังเพนกวินอยู่ด้วย ก้มดูใต้สะพาน จะเห็นเพนกวินขนอ่อนๆ หลายตัวทีเดียว และเป็นจุดลงเรือไปดูแมวน้ำที่ Seal Rock

Photobucket

Seal Rock คือ เกาะเล็กสุดที่อยุ่ลิบๆ ทางซ้ายมือ

Photobucket

Photobucket

- Penguins Parade คือ ไปดูนกเพนกวิน (หน้าตาเหมือนรูปข้างบน) ที่ออกไปหาอาหาร เดินทางกลับบ้าน มีจำนวนเป็นร้อยๆ ตัว เราเลือกซื้อตั๋ว Penguin Plus อัตถจรรย์ที่นั่งชม จะแยกออกมา และมีขนาดเล็กกว่า แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าเพนกวินจะเดินมาทางนี้มากกว่า น่ารักมากๆ และก็มีเยอะมากจริงๆ ปัจจุบันห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด แม้จะไม่ใช้แฟลชก็ตาม

น้องแพนกวินกลับบ้านตรงเวลาแป๊ะ 3 ทุ่มกว่าก็ยังพากันกลับบ้านไม่หมด บางตัวก็ดูงงๆ หารังไม่เจอ จะมีบ้างไหมนะที่กลับบ้านไม่ถูก หน้าตากริยาท่าทางน่ารักชะมัด ^^ ไม่มีรูปตอนที่นั่งดู เพราะอย่างที่บอกห้ามถ่ายรูป ออกจากเกาะกว่ากลับถึงบ้านก็เที่ยงคืนพอดี แต่คืนนี้ฝันดีแน่ๆ เพราะแพนกวินน่ารักจริงๆ ค่ะ

วันที่ 5 ของการเดินทาง
สายๆ กลับเข้าไปในเขต CBD อีกครั้ง เพื่อไปเก็บตก (จริงๆ เข้าไปช็อปกันมากกว่า) บ่ายๆ ว่าจะไป Winery แต่ช็อปกันเพลินมากจนไม่สนใจจะไปไหนต่อแล้ว 555+

Photobucket

Photobucket




พรุ่งนี้...เราจะไป Sydney แล้ว ติดตามเป็นตอนต่อไปนะคะ




Create Date : 01 เมษายน 2555
Last Update : 10 เมษายน 2555 18:17:11 น. 0 comments
Counter : 4090 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

blue passion
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




มีหัวใจไว้เดินทาง ค้นหาความหมายของชีวิต เพื่อเติมเต็มให้กับคำถามที่เกิดขึ้นมากมายระหว่างการเติบโต วิธีการในการเดินทางมีมากมาย แต่ ณ วันนี้ ขอเลือกสองล้อเป็นพาหนะในการนำพาไปสู่จุดหมายปลายทาง

Site Meter

Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add blue passion's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.