สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
10 สิงหาคม 2554
 

Myanmar :: ตอนที่ ๔ มิง-กะ-ละ-บ่า พระธาตุอินทร์แขวน เพราะพลังแห่งศรัทธาจึงมา ณ แห่งนี้

ตอนนี้ดูจะขาดช่วงนานไปเสียหน่อยเนื่องจากมีเหตุกิจการงานต้องทำแน่นเอี๊ยด เบียนเวลาราชการมาทำงานราษฏร์ไม่ได้ เอาล่ะมาฟังกันต่อนะคะ

จากตอนที่แล้ว เมืองหงสา เล่าถึงการเดินทางมายังเมืองหาสาข้ามแม่น้ำสะโตงมายังพระธาตุอินแขวน นั่งรถกันยาวนาน นานๆ ทีก็มีวัวควายเดินตัดหน้าถนนต้องให้เบรกกันไปเป็นระยะๆ เรียกว่านั่งรถกันตูดบานเพราะนานจัดเกิ๊น อะไรจะไกลได้ขนาดนี้เนี่ย แต่เดอะแก๊งค์เราไม่หวั่นลุยไหนลุยกันอยู่แล้นน อิอิ



ประมาณบ่ายๆ พวกเราก็เดินมาถึงจุดขึ้นขนหมูที่จะขึ้นไปบนอินแขวน เป็นรถหกล้อ แล้วตีไม้เป็นที่นั่ง สามารถนั่งได้ถึง 50 คนเชียวแหละ





น้าเหี่ยวขอเดี่ยวด้วยคน แม่เจ้า.. โครตเนียน เหมือนสุดๆ ยิ่งแต่งตัวแบบนี้แล้ว ทริปนี้เราไม่ต้องเป็นห่วงน้าเหี่ยวเลย เพราะแกสามารถดำรงชีวิตอยู่ในดินแดนพม่าได้อย่างสบายๆ



ฝ่ายพม่าก็ไม่มีทีท่าว่าจะออกรถ รอแล้วรอเล่ารถเจ้าก็ยังไม่ออก เอ้ย.. ทำไมไม่มีคนขึ้นเลยฟ่ะเนี่ย ทำไงได้ก็ต้องรอต่อไป เพราะถ้าจะเหมาคันต้องเสียค่าใช้จ่าย 80,000 จ๊าด ตกเป็นเงินไทยก็ราวๆ สามพันกว่าบาท รอล่ะกัน







สิ่งที่พวกเราทำได้นั่นก็คือนั่งรอเวลา ถ่ายรูปกันทุกทีแล้ว เข้าห้องน้ำก็แล้ว รถก็ยังไม่มีทีท่าว่าล้อจะหมุน อ้อ .. ลืมเล่าเรื่องห้องน้ำ อย่าเข้าห้องน้ำที่นี่เด็ดขาดให้เข้าที่ร้านอาหารจะดีกว่า เพราะสภาพสุดๆ อ่ะ แบบว่าเสียตังค์ค่าเข้าแล้วยังต้องไปตักน้ำล้างห้องน้ำอันสุดๆ ยังกะเมืองจีนประมาณนั้นอีกอ่ะ แค่คิดแล้ว อี้...



หลังจากที่พวกเรารอแล้วรอเล่า เก็บของใส่รถเตรียมขึ้นอินแขวน นั่งกดดันมันก็แล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววว่ารถมันจะออก จนมีไกด์ของนักท่องเที่ยวชาวไทยอีกกลุ่มหนึ่งมาถามว่าสนใจจะหุ้นกับพวกเค้าหรือเปล่า จ่ายคนละครึ่งก็ 40,000 จ๊าด

เอาวะดีกว่ามานั่งรอ พอรถจะออกเท่านั้นล่ะก็มีชาวพม่าขอติดสอยห้อยขึ้นมาด้วยซะงั้น ตอนรถไม่เต็มละไม่ยอมปรากฏด้วย ไม่เป็นไรคนไทยเราน้ำใจดี มีพม่าคนหนึ่งเค้าคงเกรงใจมั้งให้พวกเรามา 5,000 จ๊าด เอาล่ะพวกเราจะขึ้นอินแขวนแล้นนน

มองจากมุมทางขึ้นแล้วดูเหมือนอยู่ไม่ไกลแต่ที่ไหนได้ โอ้.. แม่เจ้า นอกจากจะไกลเอาเรื่องแล้ว ยังขึ้นๆ ลงๆ เขาอยู่หลายลูกทีเดียว ที่สุดๆ กว่านั้น ฝนดันตกงานเข้ากันเลยทีเดียว แถมรถก็มีน้ำขังแบบสีชาเย็นเลยอ่ะ ต้องยกเท้าหลบกันไปมา สนุกสนาน งานเข้า กันไปตามๆ กัน





นี่เป็นภาพจากกล้องเอ็มมี่ที่ถ่ายไว้ก่อนฝนตก เรียกว่าทุลักทุเลเอาการ นี่ขนาดนั่งกันแค่ไม่ถึงสามสิบคนนะ ยังปลากระป๋องขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดหน้าเทศกาลที่ต้องอัดให้ได้ 50 คนเลยว่าจะนั่งกันยังไง เรียกว่าแทบได้เสียกันเลยดีกว่า เพราะมันเบียดจริงๆ อ่ะ



จากจุดขึ้นรถมายังจุดลงรถใช้เวลาราวๆ หนึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ พอมาถึงฝนก็เบาลงแล้ว ณ จุดทางเดินขึ้นนี้ มีพม่ายืนรอกันเพียบเลย ทั้งเสลี่ยงทั้งลูกหาบเยอะไปหมด แต่เสียใจไม่ได้กินเงินช้านหรอกย่ะ









พวกเราเดินขึ้นกันทั้งคณะ แต่อย่าคิดว่าจะได้เดินชิวๆ สบายใจนะคะ เพราะพี่พม่าเค้าไม่ละความพยายามแบกเสลี่ยงตามพวกเราอีกเรียกว่ามาเท่ากับจำนวนคนเลยดีกว่า



ไม่สน .. พวกเราก็เดินต่อไป จากราคาเริ่มต้นคนละ 600 บาท ก็มีการลดราคาให้เป็นระยะ ตอนนี้ฝนเริ่มตกจริงจังขึ้นมาล่ะ ไม่ต้องถามเรื่องอากาศตอนนี้เริ่มเย็นแล้วล่ะ เพราะที่นี่อยู่สูงน้องๆ เก๊นติ้งเลย









จากตอนแรกที่มีเอ็มมี่ทิ้งท้าย ก็กลายเป็นป้ากะลุงแก่ๆ เดินกันรั้งท้ายอยู่สี่คนแทน ไม่อยากจะเม้าส์แต่ขอเม้าส์น้องหน่อย ทริปนี้ต้องบอกว่าผู้ชายเดินตามเอ็มมี่เยอะมากล้อมหน้าล้อมหลัง สาเหตุก็เนื่องมาจากดูลักษณะโครงร่างแล้ว น่าจะขึ้นไม่รอด ยังไงก็ต้องเรียกใช้เสลี่ยงแน่นอน

แต่เสียใจประมาทน้องตรูเสียแล้ว น้องตรูเนี่ยภูสอยดาวยังเดินขึ้นชิวๆ มาแล้นน เหอๆ งานนี้พี่พม่าผิดหวังกันเป็นแถวๆ (แอบเม้าส์พอขึ้นไปถึงสัมภาษณ์น้องเอ็มมี่ว่าเป็นอย่างไรมีผู้ชายมาล้อมหน้าล้อมหลัง เอ็มบอกว่า จริงๆ นะ อยากบอกว่า "เหม็นมากอ่ะ" ที่พี่พม่าเดินล้อมหน้าล้อมหลัง วินาทีนี้ตรูอยากได้อากาศบริสุทธิ์มากกว่า อิอิ)

พอเดินกันมาถึงจุดทางเข้าหมู่บ้าน ช่วงนี้เป็นช่วงที่พี่พม่าประเมินแล้วว่า ถ้ามาถึงโค้งนี้ได้พวกนี้คงไม่ขึ้นแล้วล่ะ ถึงเลิกตามอ่ะ



ณ จุดตรงนี้มีสองทางให้เลือกเดิน จะเดินตามทางขึ้นไปหรือยังเดินผ่านหมู่บ้านซึ่งเป็นทางลัด พวกเราเลือกทางหมู่บ้านทางอาจจะทุลักทุเลหน่อยแต่ใกล้ ซึ่งเป็นช่วงที่ เฮ้ย.. เอ็มมี่หายไปไหนฟ่ะ เดินมาด้วยกันหายไปแล้นน

พวกเราก็เดินตามทางไปเรื่อยๆ เพราะถ้าน้องเดินมาทางนี้ยังไงก็ต้องเจอ แล้วก็มาเจอพร้อมกับเพื่อนๆ ที่รออยู่ก่อนหน้านี้




จากนั้นก็เดินต่อไปเรื่อยๆ จนผ่านโรงแรม Mountain Top Hotel ไปจะเจอกับ Ministry of Culture ต้องเสียค่าเข้าคนละ 6 เหรียญ โดยเค้าจะให้เราลงชื่อด้วย มีบริการขายธูปพร้อม





จากนั้นเดินไปอีกไม่ไกลก็เจอที่พักของพวกเราคือ Kyaik Hto Hotel ซึ่งจองไว้ในราคา 45$ ต่อห้อง ทั้งหมด 5 ห้อง





พอเข้าเช็คอินมีชามาคอยให้บริการพวกเราด้วยล่ะ แหม อากาศเย็นๆ ได้ดื่มชาร้อนๆ แล้วรู้สึกดีจังอ่ะ ตามไปดูห้องพักของพวกเราดีกว่า







ภายในห้องนอนไม่มีแอร์เพราะบนอินแขวนอากาศเย็น ห้องน้ำมีน้ำอุ่นพร้อม ด้านหลังห้องเป็นระเบียงยาวติดกันทุกห้อง โชคดีที่พวกเราได้ห้อง C1-C5 ฝั่งนี้มองเห็นวิวพระธาตุอินแขวนด้วยล่ะ





สักพักก็ไปรวมตัวกันวางแผนและเคลียเงิน นี่ขนาดอยู่กันหนาแน่นขนาดนี้อากาศยังไม่แออัดเลยอ่ะ เรียกว่ากำลังสบายๆ เลยแต่อย่าออกข้างนอกนะ เพราะมันหนาวมากกก นี่ก็จะหกโมงเย็นแล้ว ไม่ได้การแล้วไปไหว้พระธาตุก่อนพระอาทิตย์ตกดินกันก่อนดีกว่า





โชคดีที่ จขบ. เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี มีเสื้อหนาวติดมาด้วย งานนี้เลยรอด อากาศข้างนอกตอนนี้เย็นมากๆๆๆ น่าสงสารที่สุดก็คงเป็นป้าคนนี้



หนาวๆ ได้อีกอ่ะ เอาล่ะไว้มาตอนหน้า มาดูกันสิว่าพวกเราจะโชดดีได้เห็นพระธาตุกันหรือเปล่า เพราะดูจากหมอกแล้วงานนี้มีลุ้นแฮะ .. เอาล่ะได้เวลาไปสักการะพระธาตุอินแขวนแล้ว ตอนนี้อากาศข้างนอกเย็นมากกกก ฝนก็ตกเล็กน้อย







แรงศรัทธาจริงๆ นะเนี่ยหนาวก็หนาว แล้วเราต้องไม่พลาด เอาล่ะไปจุดแรกกันเลย เสียดังมาเลย "ทำบู้น ทำบุญ" เจ้าหน้าที่ให้เข้าไปไหว้ขอพรพระ โอ้ว .. เยอะเชียว จะไหว้ตรงไหนก่อนล่ะเนี่ย









ก็ไหว้ตามลำดับเลย จุดธูปไหว้พระก่อน แล้วก็มาแตะนำในรอยพระพุทธบาท จากนั้นก็ไปต่อที่หิน โดยเอาแบงค์ม้วนๆ เสียบตรงรู แล้วก็อธิษฐาน แล้วเอาศีรษะแนบหิน เป็นอันเสร็จพิธี ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่กำลังศรัทธา



ระหว่างที่ จขบ. กำลังอธิษฐานอยู่นั้นก็มีมือจากไหนฟ่ะ จับหัวโขกกะหิน เอ้ย.. หินนะเฟ้ยไม่ใช่โฟม จับเบาๆ ก็ได้ อันนี้นึกในใจ แอบเคืองเจ้าหน้าเล็กน้อย หัวโนเลยตรู





และฝั่งตรงข้ามที่พวกเราเข้าไปไหว้นั้นก็มีเจ้าแม่โรคภัยอะไรสักอย่างนี่แหละ เค้าให้เอาโรคภัยไปฝากไว้กับนาง เค้าว่ากันว่าส่วนใหญ่จะหาย แต่พวกเราไม่ได้เข้าไป ก็เลยเดินต่อไปไหว้พระธาตุเดี๋ยวไม่ทัน





ณ จุดนี้เดินสวนกับคนไทย เค้าบอกว่าให้รีบไปพระธาตุยังเปิดอยู่ ใกล้จะปิดแล้ว เท่านั้นล่ะจ้ำกันใหญ่เลย





พวกเรามากันทันเวลาพอดี โดยผู้ชายสามารถเข้าไปข้างในได้ ส่วนผู้หญิงให้ไหว้อยู่ด้านนอก แต่ต้องบอกว่าเห็นแล้วศรัทธาจังอ่ะ คือหินแขวนอยู่ได้อย่างไงเนี่ย ไม่ใช่ก้อนเล็กๆ เลยอ่ะ ก้อนใหญ่มาก



พอหามุมถ่ายกันได้เสร็จก็เริ่มแยกย้ายออกไปทำบุญกันตามอัธยาศัย จขบ. เลยเดินไปไหว้เทพทันใจ แม้จะรู้ว่าไม่ใช่องค์จริงแต่ก็นะซะหน่อย ค่าของไหว้ 5000 จ๊าด ค่าผูกผ้า 2000 จ๊าด อันนี้แล้วแต่ช่วงเทศกาล เพราะขนาดเดินไปด้วยกันราคายังไม่เท่ากันเลยอ่ะ



เพราะสองคนนี้โดนต่าผูกผ้าไปคนละ 4000 จ๊าดล่ะ เหอๆๆ ทำบูน ทำบุญ เสียงนี้รับรองว่าใครได้มาก็จะคุ้นหูกับ "ทำบูนทำบุญ" ภาษาไทยด้วยเหอะ บ่งบอกว่าพี่ไทยเรามากันเยอะอ่ะ



แต่มีสิ่งหนึ่งที่แปลกอ่ะ วันนี้บนพระธาตุอากาศปิดมากถ่ายยังไงก็ไม่เห็นพระธาตุแบบชัดๆ มีแต่หมอก รูปนี้เป็นรูปหมู่ที่พวกเราตั้งกล้องถ่าย เป็นรูปเดียวที่พระธาตุชัดแจ๋ว โดยไม่มีการปรับภาพแต่ประการใด ภาพนี้จากกล้องเพื่อนแก้ว ที่ดูแล้ว อืม..



ตอนนี้บนนี้อากาศ 19 องศา ถามว่าหนาวไหมก็ไม่หนาวเท่าไหร่ ถ้าไม่มีฝน ดันมีฝนตกนี่ดิ ยิ่งอากาศเย็นเข้าไปอีก ตอนแรกว่าจะนั่งสวดมนต์ เปลี่ยนใจกลับที่พักแล้วค่อยมาใหม่ตอนเช้าดีกว่า

พอมาถึงที่พักก็สั่งอาหารกันเลย ตอนแรกว่าจะสั่งแบบเหมาคนละ 9$ โชคดีที่เจอคนไทยบอกพวกเราว่า ไข่เจียวอร่อยสุดแล้วน้อง ที่เหลือไม่อร่อย เอ้า.. บอกมาอย่างงี้ ยิ่งหิวๆ ด้วยแล้ว ไข่เจียว ต้มยำ ผัดผัก สั่งต่างหากทุกอย่าง อย่างล่ะสองชุด







ขอย้ำว่าทุกอย่างอร่อยหมด (แหม ..เล่นสั่งเบสิคขนาดนี้ อิอิ) กวาดเรียบกันไม่มีเหลือ หรือว่าหิวกันหว่า ไม่น่านะ ของเค้าอร่อยๆ จริงๆ โดยเฉพาะน้ำปลาพริกที่นี่อ่ะ สุดยอด ต้องเข้าใจคนไทยมาเยอะ น้ำปลาพริกเนี่ยของคู่กัน



ที่สำคัญอย่าลืมลองเบียร์มันดาเลย์นะ อร่อยจริงๆ รสชาติดีกว่าทุกเบียร์ที่ลองในพม่า ทำให้ชักอยากไปเที่ยวมันดาเลย์แล้วสิ น่าจะมีแต่ของอร่อยนะเนี่ย ทั้งหมดค่าเสียหายมื้อนี้ก็ 32,000 จ๊าด คิดเป็นเงินไทยพันกว่าบาทนิดๆ



พอท้องอิ่ม หนังตาก็หย่อนถึงห้องก็แยกย้ายกับไปนอนดีกว่า แต่ลงมติกันว่าจะไปไหว้พระธาตุตอนตีห้า โอ้ว .. ตอนแรกจะไปตอนเที่ยงคืนไม่ไหวแล้วข้างนอกหนาวเกิ๊น ฝนก็ตกไม่หยุด เลยเปลี่ยนแผนมาตีห้า เอานะมาเที่ยวไม่ได้มานอนวุ้ย สู้ๆๆ



เช้าวันใหม่ด้วยใจศรัทธา เดินงัวเงียๆ กันออกมาไหว้พระธาตุรอบสอง (จริงๆ เค้าให้ไหว้สามรอบล่ะ ก่อนพระอาทิตย์ตก, สองทุ่มครึ่ง, ตีห้า) อากาศตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงนอกจากเย็นแล้วฝนยังตกอีกต่างหาก โปรดสังเกตุใช้ผ้าห่มของโรงแรมคลุมกันออกมาเลยทีเดียว





สำหรับเช้านี้พวกเราตั้งใจมาสวดอิติปิโสเท่าอายุกันล่ะ พอสวดไปสวดมาฝนก็ไม่หยุดตกเลยสวดมนต์บทอื่นไปเรื่อยๆ ไปๆ มาๆ จะหมดเล่มล่ะ ฝนยังไม่หยุดไม่ไหวล่ะ ลุยฝนกลับกันเลยดีกว่า

พอเดินกลับมาที่พักก็ได้เวลาอาหารเช้าเจ็ดโมงเช้าพอดี กำลังอยากได้อะไรร้อนๆ เลย แล้วอาหารที่พวกเราเลือกกันไว้เมื่อคืนว่าจะเอาอาหารเช้าแบบไหนก็มาเสริฟ์ มีข้าวผัดและไข่ดาว







ข้าวเหมือนผัดมานานล่ะ เย็นได้ที่เชียว ส่วนคนที่เลือกไข่ดาวมีสลัดหน้าตาอย่างที่เห็นให้ด้วยล่ะ พอทานกันเสร็จก็เตรียมตัวเก็บของเตรียมเดินลงจากพระธาตุอินแขวนล่ะ







และแน่นอนทริปนี้ลุยฝนจริงๆ ขากลับฝนตกตลอดเลย แต่ทางลงเดินได้เร็วกว่าตอนขึ้นแฮะ แป๊บเดียวสิบโมงก็ลงมาถึงข้างล่างแล้วอ่ะ แต่เรื่องมันยังไม่จบแค่นั้น เหอๆๆ ไว้มาเม้าส์ต่อตอนหน้านะ


Create Date : 10 สิงหาคม 2554
Last Update : 25 สิงหาคม 2554 18:54:35 น. 5 comments
Counter : 3765 Pageviews.  
 
 
 
 





สวัสดีจ้า เข้ามาเยี่มชม มาทักทายกัน





แวะไปทักทายกันบ้างนะค่ะ
 
 

โดย: ellebesttobest วันที่: 10 สิงหาคม 2554 เวลา:0:32:03 น.  

 
 
 








สวัสดีคาบ เข้ามาเยี่มชม มาทักทายกัน แวะไปทักทายกันบ้างนะคาบ
 
 

โดย: 2hackbestforyou วันที่: 10 สิงหาคม 2554 เวลา:0:37:23 น.  

 
 
 
อยากไปค่ะ
 
 

โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 10 สิงหาคม 2554 เวลา:14:02:46 น.  

 
 
 
เข้ามารำลึกถึงพม่าค่ะ
 
 

โดย: Maeboon วันที่: 10 สิงหาคม 2554 เวลา:16:27:25 น.  

 
 
 
ขอให้ตัวเราได้กลับไปอีกครั้งค่ะ
 
 

โดย: อมรปุระ IP: 223.206.127.173 วันที่: 11 สิงหาคม 2554 เวลา:16:51:51 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com