BlogGang.com : : patthanid : Singapore Ver.2 :: Fragrance Hotel Oasis in Singapore

Rate วันนี้ซื้อ 26.07 บาท มีเงินไป 5,000 แลกได้ 191 SGD$ สามวันพอแหละคิดในใจ แบบว่าทริปนี้เน้นเที่ยวไม่เน้นกินอะนะ ส่วนช็อปปิ้งบัตรเครดิตโลด พอแลกตังค์เสร็จก็เดินเข้า ตม. ปรากฏว่าเค้าให้ไปเอาในกรอกขาออก เดินไปถามที่เคาเตอร์ดูแลเก้าอี้คนพิการเค้าให้ไปเช็คอินผ่านเคาเตอร์ไอ้เราก็งง เดินไปต่อแถวยาวด้วย แต่ด้วยความที่แปลกใจมันเช็คอินมาแล้วไม่น่าจะมาต่อแถวรอเช็คอินอีกนะ เลยไปถามคนโหลดกระเป๋าเค้าให้ไปเอาใบขาออกที่เคาเตอร์ได้เลย เดินกลับไปถามคนเดิมอีกเค้าก็ยื่นใบขาออกให้ เอ้า..แล้วให้เมื่อกี้ให้ไปต่อแถวฟ่ะ งงนะนี่ เริ่มแรกก็เอาเลยตรู จากนั้นก็กรอกเอกสารแล้วก็เข้า ตม.ไปรอใน Gate

เช้ามากอ่ะมีแต่เก้าอี้ว่างๆ เลยมานั่งรอขึ้นเครื่องระหว่างนี้ก็อัพเตตัสกันไปพลางๆ รอขึ้นเครื่อง นั่งได้แป๊บเดียวแหละเพื่อนร่วมทริปก็เดินทางมากันเต็มไปหมด ซึ่งเป็นไฟล์ที่คนบินเยอะมากเรียกว่าที่นั่งเต็มเลยเหอะ จากนั้นก็ได้เวลาอำลาประเทศไทยไปพักผ่อนกันแล้วววว ไฟท์ FD2941 เดินทางถึงประเทศสิงค์โปร์เวลา 09.40 เวลาในประเทศสิงค์โปรเร็วกว่าประเทศไทยหนึ่งชั่วโมง ใช้เวลาบินประมาณสองชั่วโมงล่ะ

ระหว่างที่อยู่บนเครื่องบอกได้คำเดียวว่าหิวข้าวมาก รอแล้วรอเล่าพนักงานทำไมไม่ขายอาหารฟ่ะ รอบแรกเดินเข็นของที่ระลึกแล้วก็หายไป รอบสองเห็นเข็นเครื่องดื่มแล้วก็หายไป ไม่น่าพลาดเลยเราไม่ได้จองข้าวมาล่วงหน้า อย่างหิวอ่ะพนักงานก็ไม่ได้เดินขาย รอแล้วรอเล่าก็ไม่เห็นมีพนักงานเดินมาขายอาหาร เอาวะไม่กินก็ได้วะแต่เข้าใจอารมณ์คนหิวข้าวป่ะนอนก็นอนไม่หลับอ่ะ หิวอ่ะนั่งทนไปก็มาถึงสนามบิน Changgi Airport

มารอบนี้ดูกว้างใหญ่กว่ารอบที่แล้วแฮะ สนามบินที่ออกแบบโดยคนไทย มาแล้วก็แบกป้ายเสียหน่อยให้รู้นะว่า
"อีชั้นมาถึงแล้วค่ะชางกีแอร์พอร์ต อิอิ"

ระหว่างทางก็คุยกับเพื่อนเล่นๆ ว่านี่ถ้าพาสปอตหายทำไงวะ แล้วก็เดินลงลิฟต์ไปกรอกเอกสารเข้าเมือง
ที่นี่เค้าทำเป็นมาตรฐานมากคือมีตัวอย่างให้ดูดังนั้นกรอกสบายๆ ตามรายละเอียดที่เค้าบอกไว้

จากนั้นก็เดินไปต่อแถวเพื่อเข้าตรวจคนเข้าเมือง ระหว่างนี้ก็หาสัญญาณ Wifi เจอด้วยล่ะ แต่เอ่อพาสปอตตรูหายไปไหนวะ นั่นไง.. เพิ่งพูดอยู่หยกๆ พาสปอตหายทำไงฟ่ะ หายมันจริงๆ เลยที่นี่ ค้นกระเป๋าก็ไม่มีงานเข้าตรูแล้นนน หายไปไหนฟ่ะ จำได้ได้ว่าเอาวางไว้ที่โต๊ะเอกสารเนี่ยแหละ ออกจากแถววิ่งตาตื่นเลยมาหาที่โต๊ะ แล้วเหมือนทุกคนที่กรอกเอกสารรู้เลยอ่ะว่าพาสปอตตรูหาย วิ่งเข้าไปชะโงกดูตามโต๊ะ ทุกคนจับพาสปอตตัวเองหมดเลยอ่ะ (จะว่าไปก็ขำดีนะ แต่เพลานี้ขำไม่ออก)

แล้วก็มีเสียงเรียกจากผู้ชายชาวจีน (หล่อวะ แต่เพลานี้ใช่ไหมเนี่ย) สื่อสารกับเราว่า "พาสปอต์ยู่อยู่นู้น" โอ้ว .. สวรรค์รอดตายแล้วตรู จากนั้นก็วิ่งกลับมาต่อแถวโล่งใจเลยอ่ะ หายมาเนี่ยโคตะระยุ่งเลยทีเดียว จากนั้นก็เข้าสู่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสิงค์โปร์เนี่ยถือว่าเข้มมากเลยล่ะ ผ่านได้เนี่ยค่อยโล่งใจหน่อย

ภารกิจต่อไปก็นั่งรถไฟฟ้าเข้าเมืองค๊า โดยไปที่ City Line ต่อโมโนเรลเข้าไปยังสถานีรถไฟฟ้าเส้นหลัก ไปลงที่ Tanah Merah จากนั้นก็ไปเข้าแถวซื้อบัตร Ezlink โดยบัตรเนี่ยจะมีสองแบบปกติกับแบบนักท่องเที่ยว พวกเราตัดสินใจซื้อแบบปกติเพราะคิดว่าน่าจะใช้ไม่เยอะ จ่าย 12 เหรียญ มีมูลค่าในบัตร 7 เหรียญ บัตรอยู่ได้ 5 ปี หากใครไม่คิดจะมาอีกซื้อแบบนักท่องเที่ยวก็ได้ค่ะ

พอได้ตั๋วแล้วก็นั่งรถไฟฟ้าต่อไปยังสถานี Lavender
ตาม Agoda Review บอกว่าไปโรงแรมใกล้สุดล่ะ
แต่ใช้ว่าจะนั่งโรงไฟฟ้าแล้วจะถึงนะ ต้องต่อรถเมล์
ด้วย พอออกจากสถานี lavender ออกมาทางห้าง
ก็จะเจอกับป้ายรถเมล์

โดยจากตรงนี้เค้าให้นั่งรถเมล์สาย 145 แล้วมันฝั่ง
ไหนหว่า แต่ตอนนี้หิวอ่ะในห้างที่ขึ้นมาเจอมีร้าน
Old Chang Kee ด้วย จัดก่อนเลยลูกชิ้นปลาอร่อย
จำได้ครั้งที่แล้วมากิน จขบ.จัดไปหนึ่งไม้คลายหิว

เอ่อ.. ทำไมมันไม่อร่อยแล้วอ่ะ มารอบนี้ธรรมดา
มากเลยอ่ะ แต่เอาวะแก้หิวกินไปก่อนแระกัน แล้วก็
เนียนๆ ถามทางคนขาย จากที่เค้าชี้พิกัดคิดว่าน่า
จะขึ้นมาฝั่งถูกแล้วล่ะ

ก็เลยไปยืนรอเมล์ตรงหน้าห้างเนี่ยแหละ แอบเห็น
คนกวาดขยะ โห..กวาดขยันมากอ่ะ มิน่าล่ะห้างนี้
สะอาดมากไม่มีใบไม้หล่นเลย เอาล่ะนั่งรถรถเมล์
แล้วสาย 145 ก็มา ก็ใช้บัตร Eylink แตะเลย ชอบ
ระบบคมนาคมของประเทศนี้ก็ตรงนี้แหละ สะดวก
แล้วจะรู้ได้ไงเนี่ยว่าจะลงตรงไหน ??

โชคดีมากที่มีนักเรียนไทยเค้าได้ยินพวกเราสองคนคุยกันเลยถามว่า "จะไปที่ไหน" ไม่อยากจะบอกว่าเลยว่าน้องที่ถามนอกจากจะสวยแล้วจิตใจงามมาก ก็เลยบอกเค้าไปเค้าก็ค้นอินเทอร์เน็ตหาให้ แต่ก่อนขึ้นรถแอบได้ยินน้องเค้าจะไปกินข้าวมันไก่ จขบ.เลยคิดว่าน้องเค้าน่าจะลงป้ายเดียวกันกับ จขบ.แหละเพราะในรีวิวบอกว่าที่พักของพวกเราเนี่ยอยู่ติดกับร้านข้าวมันไก่ชื่อดัง บุญท่องกี่ ล่ะ ซึ่งก็เป็นไปตามคาดหมายป้ายเดียวกันเลย ตอนลงน้องเค้าจะเดินมาเรียก รอดแล้วพวกเราไม่เลยป้ายแน่นอน อิอิ ขอบคุณน้องคนสวยกะเพื่อนนะคะ

โรงแรมที่พวกเราจองอยู่ติดป้ายรถเมล์เลยล่ะ พวกเรามาถึงราวๆ เที่ยงพนักงานบอกว่าต้องรอประมาณครึ่งชั่วโมง
ก็เลยไปหาข้าวกินกันก่อน พวกเราเดินไปร้านบุญท่องกี่ โอ้ว.. คิวยาวเชียวไม่ไหวแล้วอ่ะหิวไม่อยากรอ
เลยเดินกลับมาหาอะไรกินกันตรงฟู้ดคอร์ตที่อยู่ใกล้ๆ โรงแรม

ข้าวปลาซาบะย่าง 5.50$ น้ำแข็งเปล่า น้ำเปล่าและโค้ก 2.60$ ข้าวเนื้อย่าง 5.50$ ทั้งหมดนี่ก็ตก 338 บาท
จานใหญ่มาก รสชาติก็ใช้ได้เลย โดยเฉพาะเนื้อเนี่ยเห็นจานแล้วตกใจเลย แต่เหลือไหมไม่เหลือเหอะ หิวเว่อร์
ทานกันเสร็จก็ได้เวลาเช็คอินแล้วล่ะ ตามไปดูห้องกันเลยค่ะ

ราคาห้องปกติคืนละ 200 $ ตอนนี้มีโปรโมชั่นลดเหลือ 98 $ แต่พวกเราจองมาราคาสุดพิเศษ 35$ เหลือพันนิดๆ เองหารสองก็คนละ 500 กว่าบาท ถือว่าถูกมากเลยเหอะ โดยส่วนตัว จขบ.ไม่ค่อยซีเรียสกับห้องพักเท่าไหร่ ในการเดินทางมาต่างประเทศเพราะส่วนใหญ่ใช้เวลานอนน้อยมาก เรียกว่าออกเช้ากลับดึกเลยดีกว่า ห้องที่พวกเราได้แคบไปหน่อยแต่ก็ไม่ซีเรียสค่ะเพราะจองมาถูก จขบ.ชอบโรงแรมนี่ตรงพนักงานอัธยาศัยดีมากที่สำคัญพูดภาษาไทยได้ด้วย และอีกอย่างที่ต้องบอกว่า "ฟินมาก" คือฝักบัวที่นี่น้ำแรงอ่ะ อาบน้ำแบบไม่อยากออกมาเลยเหอะ ชอบๆ เอาล่ะหลังจากอาบน้ำอาบท่ากันเรียบร้อยก็ได้เวลาออกตะลุยกันแล้วล่ะ

Photo and Story By
Patthanid C.
www.patthanid.bloggang.com
Facebook : Patthanid FC