Last Promise บทที่ ๑๖ (YURI)
๑๖ “คุณเชื่อใจฉันเหรอคะ?” พิจิตราอดถามขึ้นไม่ได้ ขณะที่หล่อนกำลังดูดเลียยอดอกของตนอยู่บนเตียงนุ่ม ขณะที่เราเปลือยเปล่าเริ่มอุ่นเครื่องก่อนทำกิจกามในค่ำคืนนี้ ทำไมถามแบบนั้น? เมทินีชะงัก เงยหน้าขึ้นสบตาคู่คม “เชื่อค่ะ น้องจิตไม่ใช่คนโลภมาก ไม่ใช่คนทะเยอทะยาน ถ้าบอกว่าเอาข้อสอบไปขายเพื่อเงิน พี่ไม่มีวันเชื่อแน่นอน” สาวสวยขยับมือลูบอกซ้ายของคนรัก “หัวใจดวงนี้มีความเป็นครูมากกว่าหลายคน ที่เรียกตัวเองว่าครู พี่ไม่ได้พูดยกยอนะคะ พี่พูดความจริง” หล่อนสังเกตเห็นความสุขเวลาที่พิจิตราสอนลูกสาวของตน ทุกคำพูดเต็มไปด้วยความปรารถนาดี ผิดกับอาจารย์หลายคนในปัจจุบันที่วางตัวไม่เหมาะสม ไม่คู่ควรกับอาชีพที่ควรเคารพนี้ ทำตัวไม่ต่างจากครูรับจ้าง ไร้ซึ่งจิตวิญญาณที่สูงส่งของครูบาอาจารย์ที่ดีงามแบบสมัยก่อน “คะ คุณ...” เธออึ้งงัน พูดไม่ออก “พี่ไม่มีวันปล่อยให้ใคร มารังแกเมียของพี่หรอกนะคะ หวังว่าน้องจิตคงไม่โกรธ ที่พี่จะยื่นมือช่วยเรื่องนี้” แม่ลูกสองกล่าวเสียงนุ่มนวล เหมือนขออนุญาตกลายๆ “ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เชื่อใจกัน” ร่างสูงสบายใจขึ้นมาก หลังได้ยินคำพูดจาที่หวานล้ำกว่าน้ำผึ้งชโลมหัวใจ ...มีความสุขยิ่งกว่าตอนที่พรรษาพูดเป็นร้อยเป็นพันเท่า เมทินีขยับมือปลุกเร้ายอดอกของร่างสูงเล่นต่อ แล้วเปลี่ยนเรื่องคุย หลังห้ามใจไว้ไม่ไหว “พี่ว่าตอนนี้เราหยุดคุยเรื่องเครียดๆ มารักกันดีกว่า” คนสวยยิ้มเจ้าเล่ห์ “พี่อยากทำให้น้องจิตถึงสวรรค์แล้วล่ะ” หื่นจริงๆ อาจารย์สาวหน้าเห่อร้อน “ถึงฉันปฏิเสธ คุณก็คงไม่ยอมหยุดหรอก” “ก็น้องจิตน่ากินนี่คะ อร่อยที่สุด” หล่อนเลียปาก แล้วดูดยอดอกของผู้หญิงตรงหน้าต่อ ขณะที่มือซนข้างหนึ่งเลื่อนต่ำลง สัมผัสเนินสาวที่พรั่งพร้อม นิ้วเรียวลูบไล้กลีบดอกไม้ที่เปียกปอน ให้ตายสิ! เธอแทบคลั่งกับการยั่วเย้าของอีกคน ลมหายใจหนักแรงขึ้น “คะ คุณ...” “รักนะคะ” เมทินีพึมพำ สอดแทรกนิ้วเรียวไปยังช่องทางรักที่คับแน่นของอีกคน “ถ้าเจ็บบอกพี่นะคะ” แน่นมากค่ะที่รักขา สาวหน้าคมทำหน้าบิดเบี้ยว กัดปากตัวเอง เสียวซ่านที่ช่องท้องจนเผลอแอ่นตัวโดยอัตโนมัติ หลังสติแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว จิกเล็บเข้าที่ไหล่ของอีกคนเพื่อเป็นที่ยึด แค่อึดใจนิ้วเรียวยาวก็เข้าไปจนสุดโคน “อื้อ...” น่ารักจริงๆ ...เมียใครเนี่ย นึกชื่นชมในใจ รอจนอีกคนผ่อนคลายมากขึ้น จึงเริ่มขยับนิ้วเข้าออก พร้อมๆ กับพรมจูบไปทั่วใบหน้าคม ก่อนเม้มยอดอกของเธออันเป็นจุดอ่อนสำคัญของอีกฝ่าย “อ๊า...” เพียงไม่นาน พิจิตราก็ส่งเสียงครางลั่นเสร็จสมอารมณ์หมาย บทรักที่เร่าร้อนได้ดำเนินต่อไปอีกหลายยก โดยคนสวยเป็นผู้ควบคุมเกมรัก ก่อนเสร็จสมพร้อมกันในยกสุดท้าย แล้วเข้านอนไปพบกันต่อในฝัน เช้าวันรุ่งขึ้น พิจิตราเดินจากลานจอดรถไปยังห้องพักครู พลันเห็นสายตาหลายสิบคู่มองตนแบบแปลกๆ แต่ก็เก็บอาการเอาไว้ เธอรู้ว่าเรื่องข้อสอบรั่วคงแพร่ออกไปแล้ว ...และเธอก็คือคนเลวในสายตาเกือบทุกคน เป็นอะไรที่ไม่ชินเอาเสียเลย อยู่เฉยๆ ก็กลายเป็นคนเลว บ้าชะมัด! สาวร่างสูงสบถในใจ กำหมัดแน่นแล้วเดินเร็วขึ้น พยายามปั้นหน้านิ่งซ่อนความรู้สึกเอาไว้ แวะซื้ออาหารกล่องที่ร้านสะดวกซื้อในมหา’ ลัยที่เป็นทางผ่านก่อนขึ้นห้องพักชั้น 4 ตั้งใจว่ามื้อกลางวันจะนั่งทานในห้องคนเดียว พอหย่อนตัวนั่งเก้าอี้ได้ไม่ทันหายเหนื่อย เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ก๊อก! ก๊อก! ใครอีก? หญิงสาวถอนใจเบาๆ ก่อนเอ่ยอนุญาต “เชิญค่ะ” ประตูถูกเปิดเข้ามาโดยคนที่พิจิตราไม่อยากเจอที่สุด...วิทยา ซวยแต่เช้าเลยฉัน! อาจารย์สาวบ่นในใจ มองอีกฝ่ายอย่างเบื่อๆ “มีธุระอะไรคะ?” น้ำเสียงเย็นเฉียบ อยากคุยกับเขาให้จบเร็วๆ จะได้ออกไปให้พ้นสายตาของตน ...หากฆ่าคนได้ด้วยสายตา เธอคงทำไปแล้ว “ก็ไม่มีอะไรมาก แค่แวะมาบอกว่า คณบดีจะขอคุยด้วย ช่วงสิบโมงที่ห้องชั้นสอง อย่าลืมไปล่ะ” วิทยาบอกวัตถุประสงค์ที่มา ห้องประจำตำแหน่งของคณบดีที่อยู่ชั้น 2 หมอนี่มันกะจบเรื่องนี้เร็วสินะ...เหมือนที่คุณบอกไว้เลย พิจิตราจำได้แม่น เมื่อเช้ามืดเมทินีได้แนะนำอะไรเอาไว้ กลยุทธ์ที่จะแก้เกมกับฝ่ายตรงข้าม คือต่อรองขอเวลาออกไปให้ยาวที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อจะได้มีเวลาหาหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ...ซึ่งหล่อนได้ติดต่อกับใครบางคนให้ช่วยเหลือไว้แล้ว “เข้าใจแล้วค่ะ” วันนี้ใจเย็นชะมัด ดีแล้วจะได้จบง่ายๆ วิทยาคิดกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ มองอีกฝ่ายเป็นเหยื่อ เป็นแพะรับบาปที่เหมาะสมที่สุด “งั้นผมไม่รบกวนแล้ว” หัวหน้าภาคบอก แล้วเอ่ยอวยพรแบบไม่จริงใจนัก “โชคดีนะ” เจ้าของห้องมองวิทยาที่ออกไปด้วยสายตาหงุดหงิด ถ้าไม่ติดว่าเขาอาวุโสกว่าเป็นสิบปี เธอคงปาแจกันดอกไม้กระแทกศีรษะให้เป็นของที่ระลึก เป็นไม่กี่ครั้งที่หญิงสาวรู้สึกรังเกียจใครสักคน...เข้ากระดูก วิทยาเป็นคนแรกที่เต็มใจยกตำแหน่งนี้ให้เขา เป็นผู้ชายที่ทุเรศได้โล่จริงๆ ยิ่งกว่าหน้าตัวเมียซะอีก หญิงสาวด่าเขาในใจเป็นชุด แล้วถอนหายใจยาวๆ เพื่อตั้งสติไม่ให้หลุด หยิบมือถือกดส่งข้อความหาคนรัก เพื่อรายงานความคืบหน้า ตามที่อีกฝ่ายได้กำชับเอาไว้ Pijittra : คณบดีขอพบตอน 10.00 ค่ะ Queen : พยายามทำตามที่พี่บอกนะคะ Pijittra : เข้าใจแล้วค่ะ Queen : ไม่ต้องกังวลนะคะที่รัก มีอะไรคืบหน้าก็บอกพี่ด้วย Pijittra : ค่ะ Queen : ถ้าอยากให้พี่ไปอยู่ข้างๆ ก็ได้นะคะ เดี๋ยวพี่ออกไปหาที่มอ Pijittra : ไม่ต้องค่ะ คุณทำงานไปเถอะ Queen : พี่อยากปลอบโยนน้องจิตทุกที่ ไม่ว่าจะที่ข้างเตียง บนเตียง โซฟา พรม หรือแม้แต่เคาน์เตอร์ อ๊าย! อาจารย์สาวหน้าแดงเรื่อ เมื่อคิดถึงวิธีปลอบโยนของคนสวย ที่แสนจะดูดพลังชีวิตเหลือเกิน ทำเอาหมดเรี่ยวแรงไม่น้อย ไม่กี่วันก่อนเพิ่งมีอะไรกันบนเคาน์เตอร์ ...หล่อนรักเธอเกือบทุกที่ในห้องเบอร์ 4 Pijittra : คุณนี่ ยังจะมีอารมณ์คิดเรื่องลามกอยู่ได้ Queen : ล้อเล่นค่ะจะได้ไม่เครียด พยายามทำตามแผนที่พี่บอกนะคะ Pijittra : อือ แค่นี้นะ ตั้งใจทำงานล่ะ Queen : OK Love U พิจิตราวางเครื่องมือสื่อสาร แล้วยิ้มกว้างกับตัวเอง อารมณ์ดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ...ดูเหมือนว่า ‘หล่อน’ จะปลอบโยนเก่งมากจริงๆ เธอนั่งอ่านหนังสือไม่กี่นาที ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูอีกครั้ง ก๊อก! ก๊อก! อาจารย์สาวเงยหน้าขึ้น ไม่ชอบใจนักที่เช้านี้มีแขกเยอะเกิน “เชิญค่ะ” พรรษาเปิดเข้ามา ด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก เหมือนคนนอนไม่พอ “พี่ษา ทำไมหน้าซีดๆ?” เจ้าของห้องถาม “ไม่เป็นไรหรอก แค่นอนไม่พอน่ะ คิดอะไรเพลินๆ” รุ่นพี่ไม่กล้าบอกว่า คิดฟุ้งซ่านเรื่องผู้หญิงตรงหน้าไปไกลขนาดไหน กว่าจะข่มตาหลับได้ก็ปาเข้าไปเกือบตี 1 ...เช้านี้พรรษาจึงกลายเป็นหมีแพนด้า แม้จะพยายามแต่งหน้า แต่ก็ซ่อนได้ไม่หมด “ไม่ไหวก็อย่าฝืนตัวเองนะคะ” สาวหน้าคมเตือนอย่างเป็นห่วง “อือ” คนอายุมากกว่าพยักหน้า ทรุดนั่งเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะทำงานอีกคนแบบไม่ต้องเชิญ สายตาเพ่งมองเธออย่างพินิจพิจารณา พลันเห็นรอยแดงจางที่ซอกคอของพิจิตรา ให้เจ็บจี๊ดที่หัวใจ สรุปคือมีคนรักแล้วเหรอเนี่ย...เจ็บใจเฟ้ย! พรรษานึกหัวเสีย ไม่คิดว่าจะโดนคนอื่นตัดหน้าคว้าอีกคนไปกิน ทั้งที่อุตส่าห์เฝ้าทะนุถนอมมาตั้งหลายปี รุ่นพี่ขมวดคิ้วนิ่วหน้า ตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตน ลังเลที่จะถามออกไปดีหรือไม่? แฟนจิตใคร? “เมื่อกี้หัวหน้าเพิ่งมา บอกว่าสิบโมง คณบดีขอคุยด้วย” “หา!” พรรษาทำหน้าตื่น ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดคนใหญ่คนโตเข้ามายุ่งด้วย “ละ แล้วจะทำยังไงดี!” รุ่นพี่เดาออกว่า หากงานนี้พิจิตราโดนกล่าวหาเป็นคนร้าย คงจบได้ไม่สวยนัก ผลลัพธ์ร้ายแรงที่สุดคือ โดนไล่ออกจากราชการ และอาจมีคดีอาญาตามมาอีกต่างหาก โห ดูตกใจยิ่งกว่าฉันอีก พิจิตราอมยิ้ม ซาบซึ้งใจกับความห่วงใยของอีกฝ่าย “ไม่เป็นไรค่ะ จิตพอมีวิธีรับมือไว้บ้างแล้ว” “จริงอ่ะ?” “ค่ะ” เธอยืนยัน พรรษาถอนใจเบาๆ แต่ก็ไม่ได้วางใจทั้งหมด “ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกนะ พี่ช่วยเต็มที่” “ขอบคุณค่ะ” ร่างสูงรับรู้ได้ถึงความจริงใจของคนตรงหน้า สาวรุ่นพี่มองเวลา แล้วเอ่ยขอตัว “ต้องไปสอนแล้ว ไว้เที่ยงๆ ค่อยคุยกัน” “ค่ะ” หลังแขกออกไป พิจิตรารวบรวมสมาธิอ่านหนังสือต่อ ก่อนลงไปหาคณบดีก่อนเวลานัดเล็กน้อย โดยแจ้งกับเลขาสาวหน้าห้องของเขา ก็ได้รับเชิญเข้าไปในห้องคณบดี เธอนั่งตัวเกร็งไม่น้อย การสนทนากับสุชาติเป็นอะไรที่ไม่ชินเอาเสียเลย ส่วนใหญ่แค่ยกมือทำความเคารพตอนเดินผ่านเสียมากกว่า อีกฝ่ายคงจำหน้าตนไม่ได้ด้วยซ้ำ “ผมไม่คิดจะรวบรัดตัดสินเรื่องนี้เร็วเกินไปหรอกนะครับ” ชายวัย 50 เศษดูภูมิฐาน พูดด้วยท่วงท่าสบายๆ เหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่โต ข้อสอบรั่วลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว แต่ส่วนใหญ่มักจะจบลงแบบเงียบๆ ด้วยการไกล่เกลี่ย เพื่อไม่ให้สถานศึกษาต้องชื่อเสียงด่างพร้อย และอาจารย์ก็ทำหน้าที่ต่อไป ดูเหมือนวิน-วิน ผู้บริหารส่วนใหญ่มักใช้วิธี ‘เอาหูไปนา เอาตาไปไร่’ ผ่านไปสักระยะ ค่อยจัดการเขี่ย ‘คนร้าย’ ให้พ้นจากสถาบันไป หรือเก็บไว้ใช้งานต่อ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ คณบดีได้คุยกับวิทยาเมื่อวาน หลังหัวหน้าภาคยืนยันหนักแน่นว่า อาจารย์สาวคือคนร้าย สุชาติตัดสินใจจะใช้ไม้อ่อนกับพิจิตรา อย่างน้อยก็จนกว่าจะผ่านการเลือกตั้งคณบดี ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ไม่อยากให้กระทบกระเทือนกับฐานคะแนนของตน สุชาติชอบเล่นบทผู้บังคับบัญชาผู้แสนใจดี เพราะง่ายกับการที่จะให้คนอื่นเชื่อใจ และไว้ใจเขา หืม? พิจิตราเลิกคิ้วเรียวเล็กน้อย แต่ซ่อนความรู้สึกแปลกใจเอาไว้ “คะ?” “ผมเป็นพวกไม่ชอบความยุ่งยาก” คณบดีบอกยิ้ม แปลว่าอะไร? เธอไม่เข้าใจความหมายของเขา “หมายถึงให้เราปล่อยเรื่องนี้ไปครับ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น” คณบดีวัยห้าสิบเฉลย หลังเห็นเครื่องหมายคำถามอยู่บนใบหน้าคมสวย “ท่านจะไม่ให้สอบใหม่เหรอคะ?” พิจิตราถาม หลังเข้าใจเจตนาของอีกฝ่าย ทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะคุณใจดีกับฉัน แต่กลัวไม่ได้เป็นคณบดีสมัยหน้าสินะ “ไม่จำเป็น” สุชาติโบกมือห้าม “ถ้าสอบใหม่ เรื่องนี้ต้องรู้ไปถึงตึกหน้า คุณนั่นแหละที่จะลำบาก” ‘ตึกหน้า’ ที่เอ่ยถึงคือ ตึกอธิการบดี ซึ่งเป็นตึกที่ผู้บริหารสูงสุดของสถาบันแห่งนี้นั่งทำงาน เหมือนเป็นดินแดนสูงสุดของเหล่าอาจารย์ และพนักงานส่วนใหญ่ เขาพูดเหมือนเข้าข้างเธอ ทว่าอาจารย์สาวไม่เห็นด้วย นัยน์ตาคู่คมฉายประกายแรงกล้า ไม่สบอารมณ์ที่ได้ยินแบบนั้น คิดจะขู่ฉันรึไง “ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องกลัวด้วยคะ?” คำตอบของหญิงสาวทำให้คณบดีต้องขมวดคิ้วหนา ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะปฎิเสธข้อเสนอของเขา “แล้วคุณอยากให้ผมทำอย่างไร?” “ฉันอยากให้จัดสอบใหม่ค่ะ เพราะไม่เช่นนั้น ท่านต่างหากที่จะโดนนักศึกษาส่วนใหญ่ไม่พอใจ และหากเรื่องนี้ไปถึงท่านอธิการบดี ฉันเชื่อว่า ฉันจะได้รับความยุติธรรมค่ะ” พิจิตราเอ่ยอย่างมั่นใจ แม้จะไม่คุ้นเคยกับผู้บริหารสูงสุด แต่หญิงสาวรู้ดีพอๆ หลายคนที่ทำงานที่นี่ว่า...ท่านอธิการบดีเป็นคนมือสะอาดขนาดไหน ฉึก! เธอกล่าวได้แทงใจเขาอย่างมาก สุชาติกำหมัดที่วางบนโต๊ะแน่น บ้าเอ๊ย! ชายวัยกลางคนสบถในใจ หงุดหงิดที่โดนหญิงสาวอายุคราวลูกคราวหลานขู่กลับ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เขาหรี่ตาแล้วมองอีกฝ่ายอย่างพินิจพิจารณา เพื่อเพ่งหาถ้อยคำโป้ปด แต่ไม่พบอะไรผิดปกติ จึงกลอกตาไปมา หรือว่าวิทยาจะโกหก? “แปลว่าคุณไม่ยอมรับว่า คุณเป็นคนบอกข้อสอบนักศึกษา” เขาถามเสียงเรียบกว่าเดิม “ฉันไม่ได้ทำ ฉันโดนใส่ร้าย” พิจิตรากล่าวหนักแน่น ก่อนถามต่อหน้าตาเฉย “หรือว่าแค่คำพูดลอยๆ ท่านก็เชื่อเหรอคะ?” ฉึก! คณบดีหน้าชาอีกรอบ ไม่คิดว่าอาจารย์สาวที่ดูไร้พิษสง จะกล้าด่าเขาว่า ‘โง่’ ซึ่งหน้า ปากร้ายนะยายนี่ “ฉันขอเวลาหาหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตัวเอง สองอาทิตย์ก็พอค่ะ” อาจารย์สาวบอกความต้องการออกไปตรงๆ “แต่ท่านควรจะจัดสอบวิชาคณิตศาสตร์ 1 ใหม่ ไม่เช่นนั้นฉันจะเป็นคนแจ้งไปยังตึกหน้าเอง” ให้ตายสิ! สุชาติถอนใจเบาๆ ที่ผลการเจรจาไม่เป็นไปตามต้องการ แต่ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจัดสอบใหม่ เพื่อปกป้องชื่อเสียงและความอยู่รอดของตัวเอง “ได้ ผมจะจัดสอบใหม่” เขาพูดเสียงเรียบ จ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง “ส่วนเรื่องของคุณ ผมจะตั้งกรรมการสอบสวนอีกสองอาทิตย์” “ขอบคุณค่ะ ฉันขอตัวนะคะ” เธอยกมือไหว้เขาอย่างอ่อนน้อม ก่อนลุกจากเก้าอี้ ใบหน้าคมผุดยิ้มขึ้น แค่นี้ก็เรียบร้อย “เชิญครับ” คณบดีมองตามหลังหญิงสาวจนก้าวพ้นประตู เอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยท่าทางผ่อนคลายกว่าเดิม เท่าที่ดูยายเด็กนี่ไม่ได้ทำ แปลว่าวิทยาโกหก แบบนี้มีหวังได้เลือกตั้งหัวหน้าภาคเร็วกว่าคาดแน่ สุชาติคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ มองเห็นโอกาสบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงคว้าโทรศัพท์ กดโทรไปหาใครบางคน พออีกฝ่ายรับสายก็พูดไปว่า “นี่ฉันสุชาตินะ เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ อีกไม่นานอาจมีการเลือกตัวหัวหน้าภาคใหม่ เร็วกว่าเดิม” เขาพูดอีกไม่กี่คำก็วางสาย กระหยิ่มยิ้มย่องอย่างผู้กำชัยชนะไว้แล้ว หลังพิจิตรากลับไปยังห้องพักของตนก็ทิ้งตัวนั่งเก้าอี้ แล้วถอนใจเฮือกอย่างโล่งอก คิดไม่ถึงว่าวิธีการเจรจาแบบที่เมทินีแนะนำไว้ จะใช้ได้ผลดีเกินคาด ตอนฟังตนยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าจะได้ผล นึกดีใจที่ตัวเองตีบทแตก ไม่หลุดเองเสียก่อน คุณนี่เดาใจคนเก่งจริงๆ สมแล้วที่เป็นนักธุรกิจพันล้าน เธออดที่จะนึกชี่นชมคนรักในใจไม่ได้ หรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อคิดถึงแผนการสำคัญขั้นต่อไปที่อาจารย์สาวมองว่าไม่ง่ายนัก จึงปั้นหน้าเครียดขึ้นอีกครั้ง อยากรู้จริง คุณจะใช้วิธีไหนลากคอคนร้ายตัวจริงออกมา? OoXoO มาลุ้นกันค่ะว่า น้องจิตจะรอดจากปัญหานี้ได้อย่างไร? แล้วพี่เมจะช่วยได้จริงๆ หรือเปล่า? แล้วใครคือคนร้ายตัวจริง? เรื่องนี้ยังมีอุปสรรคอีกหลายด่านค่ะ ต้องลุ้นกันยาวๆ 5555 ตอนนี้กำลังรีไรท์รอบสุดท้ายนะคะ กำลังเร่งเต็มที่ค่ะ คาดว่าอาทิตย์หน้าจะคลอด E-book ได้ ถ้าชอบก็อุดหนุนไรท์ด้วยนะคะ ...ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ หลังวางขายจะอัพอีก 1-2 ตอนนะคะ ขอบคุณนักอ่านที่แวะมาทักทายกันเสมอ ขอบคุณค่ะ ป.ล.วันนี้วันเกิดไรท์ แต่ฉลองไปตั้งแต่เมื่อวาน เขียนอวยพรได้ ทวงนิยายได้ค่ะ พบกันตอนหน้าค่ะ นาง ^^ OoXoO
Create Date : 20 พฤศจิกายน 2563 |
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2563 18:51:13 น. |
|
2 comments
|
Counter : 892 Pageviews. |
 |
|