ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
ตุลาคม 2563
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
30 ตุลาคม 2563
 
 

Last Promise บทที่ ๑๓ (YURI)

๑๓

 

สองวันต่อมา หลังได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากหล่อน อาการของเธอค่อยยังชั่วขึ้นมาก จนสามารถออกไปทำงานปกติ หลังทานข้าวเช้ากับครอบครัวหล่อน พิจิตราก็ขับรถออกไปก่อน

“หายดีแล้วเหรอจิต?” พรรษาถาม ขณะเจอกับรุ่นน้องที่ลานจอดรถไม่ไกลจากที่ที่จอดรถของตน จึงเดินไปทักทาย หลังไม่เห็นหน้าสาวหน้าคมหลายวัน

“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ” อาจารย์สาวตอบเสียงแหบ จึงกระแอมเบาๆ

“อย่าใช้เสียงมากนักล่ะ” รุ่นพี่เตือนอย่างเป็นห่วง

“ค่ะ”

“วันนี้สอนเยอะไหม?” พรรษาชวนคุย ขณะเดินไปด้วยกัน

“สอนแค่เช้าค่ะ”

“ก็ดี บ่ายถ้าไม่ไหวก็กลับบ้านไปพักนะ อย่าฝืนตัวเอง” อีกคนเอ่ยเตือน

“รับทราบค่ะ”

พิจิตราไม่รู้เลยสักนิดว่า เมทินีที่นั่งอยู่ในรถตู้ ขณะแวะส่งมธุรินที่มหา’ ลัย บังเอิญเห็นสองอาจารย์เดินคุยกันไปพอดี

สาวสวยสลายยิ้มจากใบหน้า หลังเห็นเธอไปกับคนอื่น ได้แต่กำหมัดที่วางบนตักแน่น ก่อนคลายออกอย่างเร็ว

พี่ไว้ใจน้องจิต...อย่าทำให้พี่ผิดหวังนะคะ

นิตาซึ่งเป็นสารถีเห็นภาพเดียวกับเจ้านาย แต่ไม่พูดอะไร แค่เหลือบมองสาวสวยผ่านกระจกหลัง ก่อนวนรถออกจากมหา’ ลัย เพื่อไปบริษัทควีนจิวเวอรี่

ยังไงก็เพื่อนร่วมงาน จะไปห้ามคบ ห้ามคุยคงไม่ได้...ยากชะมัด!

เลขาสาวบ่นในใจ กับสถานการณ์ที่ยากเกินจะควบคุมได้ ด้วยสาวร่างสูงมีหน้าที่การงาน จะไปจู้จี้วุ่นวายมากก็ไม่ได้

ยายอาจารย์ดูจะรั้นมากเสียด้วย ขืนพูดมากคงตะแบงแน่

นิตาพอเดาอุปนิสัยของพิจิตราออก หลังเห็นอีกฝ่ายออกอาการพยศกับเมทินีในช่วงไม่สบายอยู่สองสามครั้ง ไม่ยอมกินยา ทว่าหล่อนใช้ไม้อ่อน ใช้วาทศิลป์อ่อนหวานเข้าลูบ พูดไม่กี่คำก็กล่อมอาจารย์สาวเสียอยู่หมัด

น่าจะแพ้ทางแค่คุณเมสินะ...เหมือนมีลูกสาวเพิ่มอีกคน

นิตาแอบขำการแสดงออกของสองสาว ที่เห็นเมทินีเดินเข้าเดินออกห้องเบอร์ 4 ไม่ต่างจากห้องตัวเอง ตลอดช่วงที่พิจิตราไม่สบาย สาวสวยคอยอยู่ดูแลไม่ห่าง ยกเว้นช่วงที่อาจารย์สาวหลับ ชนิดที่ป้าแมวก็ยังสังเกตเห็น

“ตกลงคุณเมไม่ไปทำงาน?” แม่นิตาถามลูกสาว หลังเห็นเจ้านายกลับมาในช่วงก่อนเที่ยง

“แวะไปดูแล้ว ช่วงนี้ไม่มีงานด่วน” เลขาสาวตอบเสียงเรียบ แล้วเปิดตู้เย็นหาน้ำดื่ม

“ท่าทางจะสนิทกันมากนะเนี่ย”

“ตอนนี้ยังไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ แต่อีกไม่นานคงสนิทแน่” ลูกสาวพูดยิ้มหน้าตาย ก่อนยกน้ำขึ้นจิบ

พูดหน้าตาเฉยจริงๆ ลูกฉัน

ป้าแมวกระแอมเบาๆ ตีไหล่ลูกสาว

“ทำเป็นรู้ดี แกไปอยู่ใต้เตียงคุณเขาหรือไง?” คนเป็นแม่ประชดอย่างหมั่นไส้

หืม?

นิตาเลิกคิ้วเล็กน้อย

“ไม่เอาหรอกแม่” อีกฝ่ายส่ายหัว แล้วเดินเอาแก้วน้ำไปล้างที่อ่างล้างจาน “ขี้เกียจเป็นตากุ้งยิง”

แม่ถลึงตาใส่

“ทะลึ่งนะแก!”

“ทะลึ่งตรงไหนอ่ะแม่ ถ้าสองคนรักกัน คงไม่พ้นทำเรื่องอย่างว่า ไม่ช้าก็เร็ว”

ทำเป็นรู้ดีนะแก แฟนยังไม่มีสักคน

“เออๆ จะไปไหนก็ไปเถอะ พูดกับแกนานๆ ฉันชักปวดหัว” ป้าแมวโบกมือไล่ลูกสาว ที่ชอบพูดจาขัดหูเป็นประจำ

“ซะงั้น”

นิตายักไหล่น้อยๆ เดินออกจากห้องของเจ้านาย เพื่อกลับไปห้องตัวเอง

เลขาสาวเงยหน้ามองเจ้านายสาวผ่านกระจกหลังเป็นระยะ แล้วอมยิ้มในหน้า

อีกไม่นานคุณต้องทำอะไรแน่ เล่นเฝ้าไข้ทั้งวันแบบนี้ จะอดใจได้นานแค่ไหนกัน

 

วันนี้ทั้งวัน เมทินีแทบไม่มีสมาธิกับการทำงานสักเท่าไหร่ ภาพพิจิตรากับพรรษาผุดขึ้นมาในสมองเป็นระยะ ทำให้ใบหน้าสวยไร้รอยยิ้มประดับตั้งแต่เช้า

เมื่อไหร่จะเย็นซะที เฮ้อ!

ร่างบางมีอาการเหม่อลอย และถอนใจบ่อยๆ แทบไม่สนใจฟังรายงานของลูกน้องนัก พออีกฝ่ายรายงานจบ ก็พยักหน้าไม่ถามต่อ จนลูกน้องพากันสงสัย แต่ไม่กล้าถามเจ้านาย ก่อนขอตัวออกมา

“วันนี้คุณเมเป็นอะไร ไม่สบายรึเปล่า?” ผู้จัดการฝ่ายขายกระซิบถามกับนิตาที่นั่งอยู่ที่โต๊ะประจำด้านนอก หลังก้าวพ้นห้องทำงานเจ้าของบริษัท

มาอีกคนแล้ว เฮ้อ!

เลขาสาวได้ยินคำถามนี้มาหลายครั้ง นึกดีใจที่พนักงานส่วนใหญ่รักและห่วงหล่อน จึงได้แต่ยิ้มอ่อน

“นิดหน่อยค่ะ เห็นคุณเมบ่นว่าปวดหัว”

“อ๋อ! เหรอ แล้วทำไมไม่บอกก่อน ผมจะได้ไม่พูดยาว” เขาบ่นพร้อมทำหน้าโล่งใจ “ยังไงดูแลคุณเมดีๆ นะนิตา ถ้าคุณเมไม่ไหวก็พาไปหาหมอล่ะ เข้าใจไหม?”

“ค่ะ”

หมอที่ไหนรักษาโรคใจได้...มีแค่หมอพิจิตราเท่านั้นแหละ

เลขาสาวคิดตอบในใจ ก่อนก้มหน้าลงทำงานตรงหน้าต่อ หลังเขาคนนั้นออกไปจากตรงนั้น

 

เมทินีจูงมือเล็กของมณีวรรณ มีมธุรินเดินเคียงคู่มาอีกข้าง ก้าวมาถึงหน้าประตูยัวร์คอนโด

ลุงชายามสูงวัยยิ้มกว้าง ดีใจที่เห็นสามคนแม่ลูก ซึ่งเป็นเจ้านายของตน

“สวัสดีครับคุณเม คุณริน คุณวัน กลับมาแล้วเหรอครับ” เขาทักทายอย่างสุภาพ จดจำชื่อผู้พักที่นี่ได้อย่างแม่นยำ ช่างสังเกต และเป็นมิตรกับคนทั่วไป

“สวัสดีค่ะลุงชา” หล่อนทักตอบ หันไปทางมธุริน “เอาขนมให้ลุงชาด้วยลูก”

“ค่ะแม่” เด็กปีหนึ่ง ยื่นถุงขนมเบื้องที่มารดาซื้อส่งให้ยามอาวุโส “นี่ค่ะลุงชา”

“ขอบคุณครับ” ลุงชาพูดอย่างอ่อนน้อม แล้วเอ่ยบอกข้อมูลที่สาวสวยน่าจะสนใจ “คุณพิจิตรายังไม่กลับครับ”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” หล่อนพยักหน้ารับรู้

“เอ่อ มีคนมารอพบคุณเมที่โถงชั้นล่างนะครับ มาได้สักพักแล้ว” ยามสูงวัยบอกต่อ

“ใครคะ?”

“บอกว่าชื่อ ‘วรยุทธ์’ ครับ”

จะมาทำไม!

เมทินีหรี่ตาลงเล็กน้อย ใบหน้าสวยสลายรอยยิ้มไปจนสิ้น พยักหน้ารับรู้ หันไปทางลูกสาวคนโตที่ทำหน้าเครียดขึ้น

“ริน”

“คะ?” เจ้าของชื่อขานรับเบาๆ

“พาน้องขึ้นห้องไปก่อนนะ”

ไม่อยากให้เขาเจอวันสินะ

“ค่ะ” มธุรินรับคำเบาๆ เข้าใจเจตนาของมารดาทันที คว้าข้อมือน้องสาว แล้วคลี่ยิ้ม “ไปวัน เดี๋ยวพี่สอนการบ้านให้ ถ้าเสร็จเร็วเรามาเล่นเกมกัน ดีหรือเปล่า?”

“จริงนะพี่ริน?” มณีวรรณทำหน้าดีใจ ไม่บ่อยนักที่อีกฝ่ายจะยอมเล่นกับตน ช่วงหลังจึงไปเล่นกับพิจิตราแทน

“จริงสิ”

“งั้นรีบไปเลย” เด็กน้อยพูดอย่างร่าเริง

สองพี่น้องเดินไปที่ลิฟท์ ปล่อยให้มารดารับมือกับแขกไม่ได้รับเชิญเพียงลำพัง

จู่ๆ เขาบุกมาที่นี่ ครอบครัวเราคงไม่สงบสุขแน่

มธุรินอดคิดไปในทางลบไม่ได้ หุบยิ้มลงจนกลายเป็นขรึม

หลายปีที่ผ่านมา สามีของแม่หายหน้าไปตั้งแต่หย่าขาด วรยุทธ์ไม่มีโอกาสได้ใกล้น้องสาวอีกเลย ซึ่งมณีวรรณก็ดูจะไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจสักเท่าไหร่ ไม่ได้เป็นเด็กมีปัญหาขาดความอบอุ่น และอาจจะจำหน้าพ่อไม่ได้ด้วยซ้ำ

หลายปีที่ผ่านมา เมทินีเป็นทั้งพ่อและแม่ได้เกือบจะสมบูรณ์แบบ ประกอบกับมีตายายและพี่สาว แถมมีนิตากับป้าแมว เด็กน้อยจึงไม่รู้สึกว้าเหว่ หรือขาดแคลนความรัก กลับกันมณีวรรณอาจจะมีมากกว่าเด็กทั่วไปด้วยซ้ำ

หากผู้ชายคนนี้กลับมา แม่คงไม่พ้นต้องเสียใจอีก...หวังว่าแม่จะไม่ใจอ่อนหรอกนะ

เด็กสาวไม่อยากเห็นแม่เศร้าซึม เสียใจเพราะผู้ชายเฮงซวยคนนั้นอีก พอคิดถึงตรงนี้ก็กำมือข้างที่ถือกระเป๋าแน่น นึกเจ็บใจที่ตัวเองช่วยอะไรมารดาไม่ได้

 

“ยืนทำอะไรเหรอคุณเลขา?” พิจิตราที่เพิ่งกลับมา เห็นนิตายืนพิงเสาอยู่แถวห้องโถงชั้นล่างยัวร์คอนโด จึงเดินไปทักทาย

นิตาเหลียวหน้ามองอาจารย์สาว

“รอคุณเมน่ะ” เลขาสาวตอบ ก่อนหันกลับไปมองเมทินีที่กำลังนั่งคุยกับผู้ชายคนหนึ่งที่เก้าอี้รับแขกของคอนโด

“นั่นใคร?” สาวหน้าคมอดถามไม่ได้

“วรยุทธ์สามีเก่าคุณเม” น้ำเสียงเย็นเยียบ

นิตาไม่ชอบผู้ชายคนนี้ มองว่าเขาเป็นคนที่เห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ ไม่เคยเห็นอกเห็นใจใคร ไม่แม้แต่คนในครอบครัว คิดถึงแต่เรื่องของตัวเองเท่านั้น

สามี!

เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย หลังได้ยินว่าเป็น ‘คนในอดีต’ ของสาวสวย จึงเพ่งมองวรยุทธ์ อยากรู้ว่าหมอนั่นไม่ปกติหรือเปล่า ถึงได้นอกใจเมทินีที่เพียบพร้อมซะขนาดนี้

หน้าตาหล่อเหลาทีเดียว

“เขามาทำไม?”

นิตาจ้องหน้าคนถาม หลังสบโอกาสลองใจ

“หึงเหรอ?”

ฉึก!

พิจิตราสะดุ้งหลังโดนอีกฝ่ายถามจี้ใจดำ หันขวับไปมองคนพูด

“ฉะ ฉันจะไปหึงทำไม” รีบตอบรัวเร็ว จนลิ้นแทบพันกัน

เลขาสาวหัวเราะเยาะเบาๆ กับคนปากแข็ง

“ถ้าชอบคุณเมก็อย่าท่ามากนัก ชวดไม่รู้ด้วย คนรอคิวเยอะนะ”

อาจารย์สาวทำหน้าประหลาดใจเล็กน้อย

“นิตาเชียร์ฉันเหรอ?”

“แล้วอยากให้เชียร์รึเปล่าล่ะ” อีกฝ่ายย้อนถาม แล้วพูดต่อ “บอกก่อนนะว่า ถ้านอกใจคุณเม ฉันเอาเธอเดี้ยงแน่”

ขู่เก่งจริงๆ

สาวหน้าคมหัวเราะเบาๆ ไม่ได้รู้สึกกลัวคำขู่นั้นเลย

“ฉันมีสิทธิ์รึไง?” สาวร่างสูงถามอย่างลังเล

เชื่อเขาเลย

เลขาสาวทำหน้าเบื่อหน่าย

“ไม่รู้ตัวรึไง ว่าคุณเมให้ความสำคัญเธอขนาดไหน”

“ไม่” พิจิตราส่ายหน้าน้อยๆ

“ซื่อบื้อ” นิตาหลุดต่อว่าออกมา

อะไรฟ่ะ

คนโดนว่ามองหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ แต่เลขาสาวไม่สนใจยังคงพูดต่อ

“คนดีๆ แบบคุณเมไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆ ถ้าคุณเมชอบเธอ ฉันว่าเธอคงเป็นหนึ่งในล้านคนที่โชคดีมากๆ รู้ใช่ไหมว่าควรทำตัวยังไง”

มาแปลก

สาวหน้าคมนิ่งคิดตาม แล้วผงกหัวเข้าใจเจตนาดีของนิตา ที่คิดจะส่งเสริมตน

“ฉันรู้แล้ว” เธอตกตะกอนความคิดบางอย่าง ก่อนพูดขึ้น “เดี๋ยวมานะ”

“จะไปไหน?” นิตาถามอย่างสงสัย

“ไปหาเครื่องดื่มมาปลอบใจคุณ” อาจารย์สาวหมุนตัวเดินไปทางร้านค้าเล็กๆ ที่ตั้งอยู่อีกด้านของชั้นเดียวกัน

เลขาสาวได้แต่ยืนงงเป็นไก่ตาแตก

เครื่องดื่มอะไร?

 

อาหารเย็นมื้อนี้เงียบเหงากว่าปกติ หลังเมทินีไม่ค่อยมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้ามากนัก สาวสวยยังคงหงุดหงิดที่ปะทะคารมกับวรยุทธ์เมื่อเย็น สามีเก่าต้องการจะพบกับมณีวรรณลูกสาวคนเล็กบ้าง เดือนละครั้งก็ยังดี ซึ่งเป็นสิ่งที่หล่อนยอมไม่ได้ จึงปฎิเสธไป แต่เขายังตื้อไม่ยอมเลิกรา

จนสุดท้ายสาวสวยเรียกให้นิตาไปจัดการ พอวรยุทธ์เห็นนิตา ก็ชะงักไป หลังก่อนหน้านี้เคยโดยกำปั้นแข็งๆ ตะบันหน้ามาแล้ว จึงยอมถอยทัพไปตั้งหลัก

ร่างบางใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะสงบอารมณ์ให้เย็นลง ก่อนขึ้นมายังชั้นบน แต่ยังทำได้ไม่ปกตินัก

...เรื่องลูกๆ คือเรื่องใหญ่ที่สุดของหล่อน

ใครจะไปอยากให้ลูกเจอพ่อแย่ๆ แบบวรยุทธ์ ไม่อยากให้ลูกสาวต้องเสียใจผิดหวังที่มีพ่อแบบเขา โลกความเป็นจริงบางทีก็โหดร้าย และในฐานะแม่ เมทินีต้องการที่จะปกป้องโลกสวยๆ ของเด็กน้อยเอาไว้

หลังอดีตสามีใช้เงินเป็นเบี้ยไปกับการพนัน และปรนเปรอผู้หญิง ส่วนบริษัทของเขาไม่ต้องพูดถึง ขาดทุนเพราะโดนลูกน้องยักยอกเงินไปใช้ส่วนตัว สุดท้ายก็ปิดตัวลง

จริงๆ คงอยากได้เงิน ไม่ได้อยากได้ลูก...ทุเรศที่สุด

สาวสวยต่อว่าเขาในใจอีกชุดใหญ่

หล่อนเบนตามองพิจิตราที่ช่วยสอนการบ้านให้มณีวรรณ บางทีเธอก็หันไปพูดยิ้มกวนกับมธุริน แม้ลูกสาวคนโตจะทำหน้าหงิกเหมือนไม่ชอบอีกคน แต่เมทินีรู้ว่า ใจจริงมธุรินไม่ได้รังเกียจอาจารย์สาว แค่อยากเอาชนะพิจิตราตามประสาเด็กมากกว่า

คนเป็นแม่ไม่คิดห้ามปรามลูกสาว เชื่อมั่นว่าพิจิตราน่าจะรับมือได้สบายๆ รวมถึงคิดว่า การต่อยตีจะช่วยให้มธุรินได้รู้จักนิสัยใจคออีกฝ่ายดีขึ้นอีกด้วย

คิดชกข้ามรุ่นกับน้องจิต ยังห่างชั้นนะลูก

อาจารย์สาวเงยหน้ามองมาที่สาวสวย แล้วส่งยิ้มบางๆ เมทินีอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนยกยิ้มตอบ ไม่รู้ทำไมความเครียดขึ้งในอกถึงได้เบาบางลงมาก เหมือนมีน้ำฝนหลั่งรินมารดหัวใจที่แห้งเหี่ยวให้ชุ่มฉ่ำ

ยิ้มหวานแบบนี้ พี่คิดไปไกลนะคะ

 

สาวสวยหลังอาบน้ำเสร็จอยู่ในชุดนอน เห็นข้อความที่พิจิตราเขียนมาหาเมื่อห้านาทีก่อน เชิญให้ตนมาหาที่ห้องบอกว่า มีอะไรจะคุยด้วย จึงคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวสวมทับมาอีกชั้น ใช้คีย์การ์ดเปิดประตูห้องเบอร์ 4

น้องจิตมีอะไร?

หล่อนเดินห้องรับแขกอย่างคุ้นเคย เห็นเธอในชุดเสื้อยืดกางเกงวอร์ม นั่งดูโทรทัศน์ บนโต๊ะกระจกมีกระป๋องเบียร์วางอยู่ครึ่งโหล มีชามใบโตใส่ถั่วทอดกับมันฝรั่งทอดตั้งใกล้ๆ

“น้องจิตคะ” เรียกชื่อเธอเสียงอ่อนโยน

หอมมาเชียว

พิจิตราได้กลิ่นสบู่หอมๆ ของคนมาใหม่ ตบเบาะข้างตัวเอง หน้าคมขึ้นสีเรื่อหลังดื่มหมดไปแล้วหนึ่งกระป๋องกว่า

“มาค่ะ นั่งก่อน”

หล่อนถามหลังนั่งข้างกายอย่างว่าง่าย

“จะคุยอะไรกับพี่คะ?”

“อยากหาคนดูหนังกับดื่มเป็นเพื่อนค่ะ พรุ่งนี้ฉันไม่มีสอน อู้ได้” เธอเอื้อมมือเปิดฝา แล้วยื่นให้แขกหนึ่งกระป๋อง “ฉันเอามาโหลนึง หวังว่าคงพอ”

โธ่เอ๊ย! นึกว่าอะไร

คนฟังหัวเราะคิกคัก ไม่คิดว่าอีกคนจะชวนมาทำอะไรแบบนี้ ผิดจากที่คิดเอาไว้มาก

ฉันชอบเวลาคุณยิ้มนะ สวยกว่าตอนขรึมตั้งเยอะ แต่จริงๆ คุณก็สวยตลอดเวลานั่นแหละ...อ๊าย! บ้าไปแล้วใช่ไหมพิจิตรา

คิดต่อว่าตัวเองในใจ ที่เหมือนจะเคลิ้มไปกับรอยยิ้มสวยๆ ของอีกฝ่าย ที่ไม่ได้เห็นเลยตั้งแต่เย็น

“กะดื่มให้เมากลิ้งเลยรึไงคะ เยอะขนาดนี้?” เมทินีพูดติดตลก รับกระป๋องน้ำเมามาถือไว้ จิบเล็กน้อยไม่ชินกับรสชาติขมนัก เพราะส่วนใหญ่ดื่มแต่ไวน์ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจ ใบหน้าสวยขึ้นสีเรื่อ

ขมจัง!

หล่อนไม่ได้เป็นพวกคอทองแดง แต่ดื่มเพราะต้องเข้าสังคมบ่อย จึงรู้ว่าขีดจำกัดของตนอยู่ตรงไหน

“เบียร์ไม่ช่วยให้ลืมอะไร แต่ฉันพร้อมจะฟังคุณ และอยู่เป็นเพื่อนเวลาที่คุณต้องการ” อาจารย์สาวกล่าวเสียงจริงจัง มองหล่อนด้วยสายตานิ่งๆ แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นห่วงใย

ตาน้องจิตสวยจัง แต่จะดีมากๆ ถ้ามองแค่พี่คนเดียว

เมทินีนึกชม เข้าใจทันทีว่าพิจิตราต้องการจะสื่ออะไร หลังนิตาบอกว่าเธอเห็นตอนหล่อนนั่งคุยกับอดีตสามี ซึ่งหล่อนก็แอบกังวลว่า อีกฝ่ายจะคิดอย่างไรกับเรื่องนี้

แต่เท่าที่สังเกตตอนทานข้าว ไม่เห็นเธอแสดงอาการผิดปกติ ทำให้สาวสวยไม่แน่ใจว่า พิจิตรารู้สึกอะไรกับตนกันแน่?

ถ้าน้องจิตไม่ออกอาการหึงหวงเลย ก็เป็นไปได้มากว่าไม่ชอบฉันแบบนั้น

หล่อนสันนิษฐานไปในเชิงลบ แต่ไม่อยากด่วนสรุปเกินไป

“น้องจิตเป็นห่วงพี่เหรอคะ?”

อาจารย์สาวผงกหัวน้อยๆ จิบเบียร์ไปสองอึก

“ห่วงสิ”

เธอวางกระป๋องเบียร์ แล้วเอื้อมไปหยิบถั่วเข้าปาก

“ในฐานะไหนคะ เพื่อนหรือมากกว่านั้น?” เสียงหวานถามต่อ

สาวสวยคิดว่า ไม่มีอะไรดีไปกว่าการตัดสินใจถามออกไปตรงๆ อย่างน้อยได้รู้จากปาก ย่อมดีกว่าการเดาเรื่อยเปื่อย ในใจแอบลุ้นคำตอบไม่น้อย

...ขอเพียงมีโอกาส หล่อนก็จะไม่ลังเลใจอีก

พี่ได้ไปต่อไหมคะ?

ตอบยังไงดี?

สาวหน้าคมยิ้มอาย เขินที่จะพูดออกมาตรงๆ ตามประสาคนที่ไม่เคยมีแฟน หลบสายตาต่ำ หน้าแดงร้อน

“คะ คุณไม่รู้จริงๆ เหรอคะ?”

น่ารัก...ไปแล้วค่ะ

เมทินียกยิ้มมุมปาก ซดเบียร์อีกหนึ่งจิบ แล้ววางกระป๋องที่โต๊ะ โน้มตัวไปหาคนข้างกาย ประกบริมฝีปากเย้ายวนของเธออย่างถือวิสาสะ

...เบียร์มีส่วนทำให้ใจกล้า และหน้าด้านมากขึ้น

หืม!

พิจิตราเบิกตากว้างตกใจ ก่อนหลับตาพริ้ม ยอมรับจุมพิตแสนหวานของอีกฝ่าย

...หัวใจของเธอรู้ชัดเจนว่า ตนต้องการอะไร?

สาวสวยจูบช้าๆ อ้อยอิ่ง ก่อนแทรกลิ้นเข้าไปทักทายอย่างลึกซึ้งมากขึ้น อาจารย์สาวจูบตอบอย่างเงอะงะ เรียวลิ้นตวัดรัดรึงกันอย่างแนบแน่น

หล่อนยอมผละออกห่างหลังลมหายใจใกล้หมด เว้นระยะห่างแค่เล็กน้อย ลมหายใจหอบหนักกว่าปกติ แล้วเอ่ยเสียงหวานออกมา

“พี่รักน้องจิตนะคะ...คบกับพี่นะคะคนดี”

OoXoO

ฉับ!!

พี่เมรุกอีกแล้วค่ะ...คราวนี้จะของจริงรึเปล่านะ? แล้วน้องจิตจะเซย์เยสไหมนะ? ต้องลุ้นตอนหน้าค่ะ...ไรท์ไม่ได้แกล้งนะคะ อิอิ ^^

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ทั้งฝนทั้งหนาว รักษาสุขภาพกันด้วยนะ

ขอบคุณที่กรุณาติดตาม ขอบคุณทุกคอมเมนท์ ทุกหัวใจ และทุกการทวงถามค่ะ

พบกันตอนหน้านะคะ

นาง ^^

OoXoO




 

Create Date : 30 ตุลาคม 2563
0 comments
Last Update : 30 ตุลาคม 2563 18:00:43 น.
Counter : 700 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com