เมืองไทยเค้าเปลี่ยนไปใช้ สนามบินสุวรรณภูมิ มาตั้งนานแล้ว บล็อคเรายังอยู่ที่ดอนเมืองอยู่เลย เช้ย เชย เนอะ วันนี้เลยขอถือโอกาสปรับปรุงข้อมูล พร้อมกับเอาบล็อคที่เกี่ยวเนื่องมารวม ๆ กันเลยค่ะ ขอบอกก่อนว่า บล็อคนี้จะยาวมาก ๆ และหวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อน ๆ หลาย ๆ ท่านค่ะ ใครมีอะไรเพิ่มเติม เชิญได้เลยนะคะ เริ่มการเดินทางที่ สนามบินสุวรรณภูมิ นะคะ ใครจะไปสายการบินไหน ก็ดูป้ายเช็คอินให้เรียบร้อย สำหรับสายการบินนอร์ทเวสต์ เช็คอินได้ที่เค้าท์เตอร์ N ค่ะ นอร์ทเวสต์ปิดเค้าท์เตอร์เช็คอินตอนตี 5 นะคะ (เครื่องออก 6 โมงเช้า) ดังนั้นเริ่มไปเช็คอินได้ตั้งแต่ตี 3 ค่ะ เที่ยวบินที่มีปลายทางที่สหรัฐ ฯ จะโหลดกระเป๋าได้ 2 ใบ ๆ ละ 50 ปอนด์ (หรือราว ๆ 23 กิโลฯ) อาจจะมีสายการบินเอเชียบางสาย ที่ยังอนุญาตให้ขนได้ 70 ปอนด์ (หรือ 35 กิโล) นอกจากนี้ยังสามารถถือกระเป๋า Carry On ขึ้นเครื่องได้อีกหนึ่ง บวกกับกระเป๋าถือ หรือ กระเป๋าใส่โน๊ตบุค อีกหนึ่งใบค่ะ ขณะเช็คอิน จนท.จะออกบัตรโดยสาร (Boarding Pass) ทั้งหมดจนถึงปลายทาง จะได้กี่ใบ ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณต้องไปต่อเครื่องกี่ต่อ นอกจากนี้เค้าจะทำการเช็คกระเป๋าไปจนถึงปลายทาง หรือที่เรียกกันว่า “Check Thru” นั่นเองค่ะ หางตั๋วกระเป๋า (Claim Ticket) จัดการเก็บไว้ให้เรียบร้อย เกิดกรณีกระเป๋าหายที่ปลายทาง จะได้นำไปแจ้งได้ถูกต้องค่ะ หลังเช็คอินเรียบร้อย คุณก็พร้อมที่จะออกเดินทางค่ะ สมัยนี้ไม่ต้องจ่ายค่าภาษีสนามบินอีกแล้ว ดังนั้นก็เดินเข้าด่านตรวจหนังสือเดินทางได้เลย แนะนำว่าให้รีบ ๆ เข้าไปค่ะ เพราะแถวจะยาวมาก ๆ เจ้าหน้าที่ ต.ม อาจจะถามคำถามนิดหน่อย เช่นว่า จะเดินทางไปที่ไหน แต่ส่วนมากก็ไม่ได้ถามอะไร เค้าปั้มหนังสือเดินทางให้แล้ว เดินออกมา ก็จะเป็นร้านค้าปลอดภาษีค่ะ สำหรับท่าน ๆ ทั้งหลาย ที่ต้องไปต่อเครื่องไปอเมริกา รัฐบาลสหรัฐมีกฎห้ามนำของเหลวขึ้นเครื่อง ซึ่งเราจะกล่าวถึงในตอนท้าย ๆ ค่ะ ส่วนมากการเดินทางไปอเมริกา คุณจะต้องไปเปลี่ยนเครื่อง (Transit) ที่ไหนซักแห่ง ยกเว้นแต่จะไปเที่ยวบินตรง กรุงเทพ- แอลเอ หรือ กรุงเทพ - นิวยอร์ค ของการบินไทย แหล่งเปลี่ยนเครื่องใหญ่ ๆ ในเอเชีย ก็เช่น กรุงโซล, ไทเป, หรือโตเกียว ฯลฯ ขั้นตอนการเปลี่ยนเครื่อง ที่สนามบินโตเกียว (นาริตะ) ประเทศญี่ปุ่น จากกรุงเทพมาถึงโตเกียว จะใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง เวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น จะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง ดังนั้นเพื่อน ๆ ที่ไม่ค่อยถนัดเรื่องการปรับเวลา ให้หมุนเข็มนาฬิกาตามเวลาท้องถิ่นได้เลยค่ะ กันตกเครื่องบิน เมื่อมาถึงโตเกียว แม้ว่าคุณจะไปอเมริกาด้วยเครื่องบินลำเดิม คุณต้องขนสัมภาระออกมาจากเครื่อง เพื่อไปผ่านด่านตรวจความปลอดภัยของญี่ปุ่นค่ะ เดินออกมาจากเครื่องบินแล้ว ก็เดินตามป้าย “Connecting Flights” ป้ายจะสีเขียว ๆ ค่ะ ที่ด่านตรวจ จะต้องโชว์บัตรโดยสาร (Boarding Pass) ให้เจ้าหน้าที่ดู พร้อมกับนำสัมภาระเข้าเครื่องเอ็กซ์เรย์ ที่จุดนี้จะนำของเหลวชนิดต่าง ๆ ผ่านไปไม่ได้นะคะ (ยกเว้นของเหลว เจล หรือครีม ที่มีขนาดไม่เกิน 4 oz. และต้องบรรจุอยู่ในถุงพลาสติคใสเท่านั้น) เมื่อผ่านด่านนี้แล้ว ก็ลงบันไดเลื่อนลงไปสู่ห้องโดยสารขาออกค่ะ ที่นี่คุณจะสามารถตรวจดูได้ว่า เครื่องบินของคุณจะออกที่ประตูไหน อย่าลืมว่าเวลาที่นี่เร็วกว่า 2 ชั่วโมงนะคะ สำหรับผู้โดยสารของนอร์ทเวสต์ แนะนำให้รีบ ๆ ไปที่เกทเลย เพราะเค้าจะเรียกขึ้นเครื่องเร็วมาก ๆ เมื่อขึ้นเครื่องบินอีกครั้งที่โตเกียว คราวนี้ไม่ว่าปลายทางคุณจะเป็นที่ใดในอเมริกา คุณจะต้องนั่งไปจนปวดก้น เป็นเวลาอย่างน้อย ๆ 8 ชั่วโมง หลังเครื่องไต่ระดับได้ที่แล้ว พนักงานจะนำใบเข้าเมืองมาแจก สำหรับคนไทยที่ถือวีซ่าของสหรัฐ จะต้องกรอกเอกสาร 2 ใบดังนี้ค่ะ (ลิ้งค์ด้านล่าง จะเป็นวิธีกรอก พร้อมคำแปลภาษาไทยค่ะ) (1) I-94 Arrival/Departure Record //www.bloggang.com/mainblog.php?id=lilacgirl&month=07-08-2006&group=2&gblog=1 (2) Custom Declaration Form //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=lilacgirl&month=08-2006&date=07&group=2&gblog=2 บนเครื่องบิน แนะนำให้นอนพักมาก ๆ ดื่มน้ำมาก ๆ และถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้ลุกขึ้นมาเดินบ่อย ๆ ค่ะ ลืมบอกไปว่า ตอนเช็คอินพนักงานจะถามว่า จะนั่งริมหน้าต่าง (Window) หรือ ริมทางเดิน (Aisle) ส่วนตัวแล้วเราชอบนั่งริมทางเดิน เพราะสามารถลุกไปเข้าห้องน้ำได้อย่างสะดวกค่ะ เมื่อเครื่องลงจอดที่อเมริกา แนะนำว่าไม่ต้องเอาพาสปอร์ตออกมาถือไว้ค่ะ เพราะจะมีเจ้าหน้าที่ของศุลกากรมายืนคอย และดึงพาสปอร์ตเราไปกาหัว (อันนี้เคยโดนบ่อย โดยเฉพาะที่สนามบิน Minneapolis) ถ้าใครโดนกาหัว A/X หมายความว่า ต้องโดนตรวจกระเป๋าเป็นพิเศษ หากเราไม่มีอะไร ก็ไม่ต้องตกใจค่ะ แต่สำหรับคนที่แอบเอาอะไรแปลก ๆ เข้ามา อันนี้ก็ตัวใครตัวมันนะคะ ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ถ้าเราไม่มีเจตนามาทำอะไรผิด เช่น มาแล้วจะโดด ก็ไม่ต้องไปกังวลอะไรค่ะ เจ้าหน้าที่จะทำหน้าดุ ๆ เสียงดุ ๆ ไปยังนั้นเอง สาว ๆ ทั้งหลายสามารถใช้ “ยิ้มสยาม“ เป็นการปูทางให้เรียบร้อยกว่าเดิมได้ ***คำถามหลัก ๆ ที่เค้าจะถาม ได้แก่*** (1) Q: How long do you intend to stay in the U.S? : จะมาอยู่ที่อเมริกานานเท่าไร ? A: # Days/Weeks/Months : จำนวนวัน/สัปดาห์/หรือเดือน (2) Q: Where will you stay? : จะไปพักที่ไหน ? A: บอกบ้านเลขที่ หรือที่อยู่ของโรงแรมที่จะไปพัก (3) Q: Who will you stay with? : จะไปพักกับใคร? A: A friend/ A relative : เพื่อน หรือว่า ญาต (4) Q: What is the purpose of your stay/trip? : จุดประสงค์ของการเดินทางนี้คืออะไร ? A: Sightseeing/ Visiting friends/family : ท่องเที่ยว หรือเยี่ยมญาต (5) Q: Did you bring in any food items? : คุณนำอาหารอะไรเข้ามาหรือไม่ ? A: Yes/No (ถ้าตอบว่า “ใช่“ เค้าก็จะถามต่อไปว่า เอาอะไรเข้ามา ก็บอกเค้าไป) (6) Q: May I see your return ticket? : ขอดูตั๋วขากลับได้ไหม ? A: Sure/Certainly : ได้ซิ (แล้วก็ยื่นตั๋วขากลับให้เค้าดู) เมื่อผ่าน ต.ม เรียบร้อยแล้ว ก็ไปรับกระเป๋าได้ที่สายพานค่ะ หลาย ๆ สนามบิน เช่นที่ Minneapolis จะต้องเสียค่ารถเข็น 3 เหรียญ ดังนั้น เตรียมเศษแบงค์ดอลล่าร์ไว้บ้างก็ดี ส่วนที่สนามบินแอลเอ กับซานฟราน ไม่ต้องเสียค่ะ ขออนุญาตนอกเรื่องนิดค่ะ เนื่องจากเคยมีคนมาแขวะว่า เดี๋ยวนี้ที่อเมริกา เค้าไม่เรียกแยกระหว่าง ต.ม กับ ศุลกากรแล้ว อันนี้เรื่องจริงค่ะ เพราะว่าปัจจุบันนี้เค้าเรียกตัวเองว่า “US Customs and Border Protection : CBP” แล้วค่ะ แต่ที่เรายังเรียกแยกแบบเก่า เพราะพยายามจะเขียนบล็อคให้เข้าใจง่าย สำหรับคนที่ไม่เคยเดินทางมาก่อนนะคะ เนื่องจากมีคนเคยแย้งว่า “โอ้ย ที่ต.ม ถามแต่เรื่องคน ไม่ถามเรื่องของ เค้าทำกันแบบนี้มาเป็นร้อย ๆ ปี“ เดี๋ยวนี้ที่ 2 ด่านเค้าทำงานร่วมกันแล้วค่ะ ด่านแรก (ต.ม) จะช่วยตรวจสอบให้ด่านที่สอง (ศุลกากร) ว่าใครมีพิรุธอะไรหรือเปล่า ขณะที่ผ่านศุกกากร ใครที่โดนกา A/X ไว้ล่วงหน้า ก็ต้องไปเข้าแถวตรวจกระเป๋าเป็นพิเศษล่วงหน้า เมื่อผ่านออกมาเรียบร้อย หากปลายทางของคุณ คือ เมืองนั้น ก็เดินตามป้าย “Arrival” ได้เลยค่ะ สำหรับคนที่ต่อเครื่องอีก ต้องเอากระเป๋าไปเช็คกลับเข้าใต้ท้องเครื่อง สายการบินจะมีเค้าท์เตอร์สำหรับการณ์นี้โดยเฉพาะ (มองดูป้าย Re-check Luggage) เห็นแล้วก็เอากระเป๋าโยนขึ้นสายพานได้เลยค่ะ เพราะว่าที่กรุงเทพเค้าทำ Tag กระเป๋าไปถึงปลายทางของคุณแล้ว เมื่อจัดการกับกระเป๋าเรียบร้อย ให้เดินตามป้าย “Connecting Flights” หรือ “To Gates” เพื่อไปยังเที่ยวบินถัดไปค่ะ ต่อเครื่องที่สนามบิน Minneapolis, รัฐ Minnesota เมื่อผ่านศุกกากร เค้าท์เตอร์เช็คกระเป๋า จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ โยนกระเป๋าขึ้นสายพานเรียบร้อยแล้ว ให้เดินผ่านด่านตรวจความปลอดภัย เพื่อเข้าไปยังห้องผู้โดยสารขาออก ที่สนามบินนี้ศุลกากรจะอยู่ที่ G Concourse หากคุณต้องต่อเครื่องกับสายการบินนอร์ทเวสต์ ที่มีเลขเที่ยวบิน 4 หลัก (ทำการบินโดย Airlinks) โดยมากต้องไปที่ C Concourse แต่ยังไงก็ตาม ดูมอนิเตอร์ให้ดี ๆ เพราะว่าเค้าเปลี่ยนเกทบ่อยมาก ต่อเครื่องที่สนามบิน Detroit, รัฐ Michigan เมื่อโยนกระเป๋าเรียบร้อย คุณจะโผล่ออกมาที่ตัวอาคารหลัก (A Concourse) มองไปเหนือศีรษะจะมีรถไฟฟ้าให้บริการ จากหัวไปถึงท้ายอาคาร เที่ยวบินของ Airlinks จะอยู่ที่อาคาร C (ต้องลงบันไดเลื่อนไป แล้วเดินผ่านอุโมงค์อีกหน่อย ที่ท้ายอุโมงค์ก็ขึ้นบันไดเลื่อนไป จากนั้นก็เดินไปที่เกทของเราได้) ต่อเครื่องที่สนามบิน Los Angeles, รัฐ California เมื่อโยนกระเป๋าแล้ว คุณจะออกมาที่บริเวณที่เค้าท์เตอร์เช็คอินเลย ดังนั้น จะออกไปยืนสูดอากาศด้านนอกก่อนก็ได้ จากนั้น ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นบน และผ่านด่านตรวจความปลอดภัยอีกครั้ง เพื่อกลับเข้าไปยังห้องโดยสารขาออก ที่นี่แถวจะยาวมาก ๆ ดังนั้น อย่ามัวสูดอากาศนานเกินไปนะคะ ต่อเครื่องบินที่สนามบิน San Francisco, รัฐ California เมื่อผ่านด่านศุกกากรเรียบร้อย จะมีประตูเลื่อนอัตโนมัติ เดินออกมาแล้วจะเห็นป้าย Re-check Luggage จัดการเสร็จเรียบร้อยให้เดินออกมายังเค้าท์เตอร์เช็คอิน เนื่องจากสนามบินนี้ แยกอาคารภายในประเทศไว้อีกปีกหนึ่งค่ะ W E L C O M E T O U S A เกร็ดเล็ก ๆ ระหว่างการเดินทางที่น่่าสนใจค่ะ เก็บตกการเดินทาง ตอน มือใหม่หัดนั่งเเรือบิน At the airport เป็นเกร็ดเล็ก ๆ พร้อมคำศัพท์ทางการบินง่าย ๆ นับตั้งแต่การเช็คอินที่กรุงเทพค่ะ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=lilacgirl&month=09-2006&date=10&group=13&gblog=9 เก็บตกการเดินทาง ตอน มือใหม่หัดนั่งเรือบิน : How to Dress แต่งตัวอย่างไรดี ให้ดูแล้วยัง “เริ่ด“ แต่เครื่องไหวได้คล่องตัว ขณะที่ต้องไปนั่งจนก้นด้าน อีกเกือบ ๆ หนึ่งวันเต็ม ๆ ? //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=lilacgirl&month=09-2006&date=11&group=13&gblog=7 เก็บตกการเดินทาง ตอน มือใหม่หัดนั่งเรือบิน : On the Plane เกิดมาไม่เคยขึ้นเครื่องบิน ขึ้นไปแล้วจะสั่งอาหารกินได้มั้ย แล้วจะใช้ห้องน้ำ หรืออุปกรณ์ความปลอดภัยบนเครื่องได้หรือไม่ ? ลองไปอ่านลิ้งค์นี้ค่ะ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=lilacgirl&month=09-2006&date=12&group=13&gblog=5 <ul> เก็บตกการเดินทาง ตอน มือใหม่หัดนั่งเรือบิน (5) : Jet Lag Jet Lag คือ อะไร ? หาคำตอบได้ที่นี่ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=lilacgirl&month=09-2006&date=14&group=13&gblog=1 เก็บตกการเดินทาง ตอน ความใจดีเป็นเหตุ “เห็นหน้าไม่รู้ใจ“ ประสบการณ์ช่วยคนแปลกหน้า จนตัวเองเกือบซวย อ่านแล้วระวังกันให้ดีค่ะ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=lilacgirl&month=11-2006&date=29&group=13&gblog=6

Create Date : 16 มีนาคม 2551
Last Update : 9 กันยายน 2552 8:39:06 น.		85 comments
Counter : 98454 Pageviews.
Share Tweet