Paris 2013 ตอน เดินดูไฟคริสต์มาส
สวัสดีอีกครั้งค่ะเพื่อน ๆ สืบเนื่องจากบล็อคที่แล้ว ที่บอกว่า หายไปนาน เพราะไปผ่าตัดมา 2 รอบ สุดเซ็งมากเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีอาการเครียดมาก อยู่ดี ๆ อยากจะเป็นนางเอกน้ำเน่า ก็ร้องไห้น้ำหูน้ำตาตกขึ้นมาเฉย ๆ โดยไม่มีสาเหตุ ช่วงวันขอบคุณพระเจ้า ได้หยุดงานยาว 6 วัน แทนที่จะได้สนุกสนาน กลับต้องนอนซมอยู่บนที่นอน เนื่องจากไปติดเจ้าโรค ไอกรน มาจากใครก็ไม่รู้ กว่าจะหายก็โน้นเลย เลยคริสต์มาสไปแล้ว
เฮียเห็นใจในความเครียดของเมีย จึงมีการเซอร์ไพร์สด้วยการพาไปส่งท้ายปี 2012 ที่เมืองปารีสแทน เนื่องจากเห็นเมียนอนซม กินข้าวเคล้าน้ำตามาเกือบ ๆ 1 ปีครึ่ง ด้วยอาการเจ็บป่วย ที่ไม่ยอมหายซะที
ทริปนี้ จะเป็นอะไรที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก เราไปกันแค่ 2 คืนเท่านั้นค่ะ ไปติดตามกันเลยค่ะ
เราออกเดินทาง ตอนเย็นของวันที่ 28 ธันวาคม ใช้เวลาบินข้ามบึงใหญ่ มหาสมุทรแอตแลนติค ประมาณ 8 ชั่วโมงเศษ ๆ เฮียแกทานอาหารเย็นปุ๊ป ก็หลับกรนคร่อก ๆ เลย ไอ้เราก็นอนไม่หลับ ทั้ง ๆที่ตั้งใจว่าจะหลับให้มากที่สุด เพราะเครื่องบินจะเข้าถึงปารีสแต่เช้า จะได้มีแรงเที่ยวเลย ปรากฎว่าไม่ได้หลับจนกระทั่งจะถึงปลายทางอยู่แล้ว เหนื่อยมาก ง่วงด้วย ยิ่งเห็นไอ้คนข้าง ๆ หลับอย่างสบายใจ ก็ยิ่งอยากเอาอะไรยัดปากมาก หมั่นไส้ !
เครื่องบินแตะรันเวย์ที่สนามบินชาร์ล เดอ กอลล์ ประมาณ 8 โมงเช้า วันที่ 29 ธันวาคม แต่โห้แม่เจ้า
แท๊กซี่นานเวอร์ เกือบ ๆ ครึ่งชั่วโมงค่ะ กว่าจะไปถึงเกท แถมจอดปลายนามากเลย กว่าจะเดินมาถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ขาแทบลาก เดินก็ไม่ค่อยจะไหวอยู่ด้วย
นอกจากนี้ เห็นแถวตรวจคนเข้าเมืองแล้วจะเป็นลมเลย คนเป็นล้านอ่ะ แล้วแถมก็เคลื่อนตัวช้ามากด้วย แม้จะต่อแถว Premium Class แล้ว ก็ยังนานเวอร์อยู่ดี กว่าจะผ่านด่านมาได้ ใช้เวลาเกือบ ๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง มาถึงตรงนี้ เริ่มจะอารมณ์เสียมากเลย ยิ่งพอเห็นมีเจ้าหน้าที่อยู่ 2 คน ผู้โดยสาร 5 ล้านคน ยิ่งยากด่ามากที่สุด
อ่ะค่ะ ยังไม่ทันไปไหนเลย เริ่มจะเพลียล่ะ ง่วงด้วย เพราะมันกลางดึกที่อเมริกาแท้ ๆ นึก ๆ ในใจ ไม่น่าหาเรื่องเลยตรู นอนอยู่บ้านก็ดีอยู่แล้ว มาลำบากลำบนทำไมเนี่ย ?
เราไม่ต้องรอรับกระเป๋า เพราะถือทุกอย่างขึ้นเครื่องไป เลยประหยัดเวลาไปได้โข เดินมุ่งหน้าไปขึ้นรถไฟเข้าตัวเมืองปารีสได้เลย สถานีเค้าแน่นเสมือนหัวลำโพงบ้านเรา แต่ละคนลากกระเป๋ากันใบใหญ่มาก สงสัยเตรียมเครื่องทรงมาแต่งกันเต็มที่
จากสนามบิน นั่งรถไฟสาย RER เข้าสู่ตัวเมืองปารีส ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีค่ะ คนแน่นมาก แม้อากาศจะหนาว แต่เห็นทุ่งหญ้าเขียว ๆ ข้างทาง ก็ดูสบายตาดี เมื่อเทียบกับทุ่งหิมะที่เพิ่งจากมา เฮียแกหลับปุ๊ย ทั้ง ๆ ที่หลับมาตลอดทาง
เราพักกันที่โรงแรมเล็ก ๆ ในย่านชอปปิ้งหรู Champs Elysee ตอนเดินผ่านร้านหลุยส์ ติงต๊อง คนต่อแถวเข้าร้านยาวมากค่ะ เราเห็นแล้วก็เมินผ่านไป ไม่มีปัญญาซื้อ ถึงโรงแรม ก็จัดการเก็บของ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พักสายตานิดหน่อย ก่อนจะเตรียมออกเดินเล่นบ่ายนี้ค่ะ
เปิดกระเป๋าตรวจดูทุกอย่างให้เรียบร้อย แต่หากล้องถ่ายรูปไม่เจอ แทบกรี๊ด ลืมเอากล้องมาอ่ะ ทริปนี้เลยไม่ค่อยมีรูป เพราะโทรศัพท์มันกินแบตมาก มีแบต 2 ก้อน แต่ต้องใช้อย่างประหยัดทั้งวัน เลยถ่ายภาพได้แค่นิดหน่อยเท่านั้นค่ะ
เป้าหมายแรกสำหรับบ่ายนี้ คือ ตลาดคริสต์มาสที่ ถนนช็องเซลิเซ จากโรงแรมเดินถึงปากซอยถนนที่ว่านี่แล้ว ซึ่งทางเมืองปารีส มีการตกแต่งไฟทั้งสองฝั่งของถนน จากประตูชัย (Arc de Triumph) ไปจนถึง Place de la Concorde ไปชมภาพกันเลยค่ะ
ออกจากโรงแรม เดินถึงปากซอยปุ๊ป ก็เจอประตูชัยค่ะ แต่แม่เจ้า
ฝูงคนเยอะมากกกกกก (ลองมองขึ้นไปบนประตูชัยดี ๆ คนเยอะมากค่ะ)
เดินไปเรื่อย ๆ ลมเริ่มแรง แดดก็ไม่มี ไม่รู้เป็นไง ไปเที่ยวทีไร อากาศมาคุทุกที รูปที่ถ่ายมาทั้งหมด เลยมืด ๆ มัว ๆ มาก เดินไปเดินมา หนาวด้วย หิวด้วย พอดีได้กลิ่นอาหารลอยมาแต่ไกล เลยรีบตามไปดูซิ ก็ไปเจอร้านนี้ล่ะค่ะ ขายกันข้างถนน คนยืนต่อแถวกันเพียบ
อาหารราคาย่อมเยาว์นะ แต่น้ำเปล่าแพงชิบเป๋ง ขวดน้อยหนึ่ง ตั้ง 3 ยูโร แต่มาคราวนี้เริ่มฉลาดแล้วว่า ต้องไม่ซื้อน้ำอัดลม (เพราะมันแพง )
บรรยากาศที่ตลาด คนเยอะมาก
ร้านนี้ขายขนมหวาน เห็นเครื่องแบบคนขายแล้ว สงสารผู้ชายอ่ะ ชุดหวานแว๋วมาก
ร้านนี้ขายช็อคโกแลต ขายกันเป็นดุ้น ๆ นี่แหละค่ะ ชั่วกิโลขาย
ถ่ายรูปกับป้ายถนนหน่อย เดี๋ยวใครหาว่า ไม่ได้มาจริง ๆ
พอเริ่มค่ำหน่อย ไฟถนนก็เริ่มออกมาค่ะ ไฟจะเปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ
เราเดินไปที่ Place de la Concorde เพื่อจะไปขึ้นชิงช้าสวรรค์ โดยไม่ทันคิดว่า แถวจะยาวแค่ไหน พอเดินไปถึง ครั้นจะเดินกลับ ก็คิดว่าเดินมาตั้งไกลล่ะ ต่อคิวไปเรื่อย ๆ ล่ะกัน เฮียเลยเดินไปซื้อไวน์ร้อน หรือ Vin Chad ซึ่งเป็นเครื่องดื่มในช่วงเทศกาลค่ะ กว่าจะถึงคิวเราขึ้นชิงช้า ทั้งผัวทั้งเมียก็เริ่มมึน ๆ นิด
Place de la Concorde นี้ เป็นจตุรัสที่พระเจ้าหลุยส์ กับพระนางมารี อังตัวเน็ท โดนประหารชีวิตด้วยเครื่องกิโยตินค่ะ
จากจตุรัส สามารถมองเห็นหอไอเฟลได้
ภาพนี้จากบนชิงช้าสวรรค์ ที่ความสูง 60 เมตรค่ะ ภาพนี้มองกลับไปยังประตูชัย
จากชิงช้า เห็นแม่น้ำและหอไอเฟลได้อย่างชัดเจน
เสียตังค์ไปคนละ 10 ยูโร ยืนรอคิว 1 ชั่วโมง ได้นั่งชิงช้าประมาณไม่ถึง 10 นาที คุ้มมั้ยเนี่ย ?
กว่าจะลงจากชิงช้าได้ ง่วงมากเลยค่ะ นึก ๆ โห้ ต้องเดินกลับโรงแรมอีกเหรอเนี่ย ? ไกลเหมือนกันนะ เดินไม่ไหวแล้วจ้า สุดท้ายต้องโบกแท็กซี่ค่ะ วันแรกในปารีส เหนื่อย และปวดหลังมาก ๆ กลับถึงโรงแรมหลับเป็นตายเลย ไว้บล็อคหน้าจะพาไปเดินเที่ยวต่อค่ะ
ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมาเยี่ยมนะคะ
Create Date : 25 มีนาคม 2556 |
|
24 comments |
Last Update : 25 มีนาคม 2556 8:31:59 น. |
Counter : 14102 Pageviews. |
|
|
|