เคซะกาตาเมะ
3จุดสำคัญ หนึ่ง-ขาหลังอย่ายืดจะโดนกิดได้ง่าย สอง-ใช้รักแร้ช่วยคุมแขนของอีกฝั่งเอาไว้ แต่ถ้าหลุดก็ไม่ต้องตกใจเพราะเรายังง่ายในการปรับเปลี่ยนได้เป็นคันเซ็สสึวาซะหรือว่าใช้เป็นคุสุเรเคซะกาตาเมะ สาม-สำคัญสุด แขนที่อยู่ใต้คอต้องไม่หยุดการเคลื่อนไหวของตนเอง โดยการเอานิ้วไปคล้องคอเสื้อ หรือกลายเป็นการตรึงตนเองให้แขนตาย เพราะตอนโดนพลิกเราจะได้ขยับออกมายันได้ กลับกันตอนที่เราจะพลิกกลับ เราสามารถใช้คอกดแขนคู่ซ้อมในการหยุดการเคลื่อนไหวของแขนคู่ซ้อมได้
คาตะกาตาเมะ
- ต้องสร้างสามเหลี่ยมโดยเข่าข้างนึงติดสะโพก ส่วนขาอีกฝั่ง อีกข้างยืดออก ก้มหัวลงต่ำ ถ้าอีกฝั่งขยับเข่าก็ต้องตามแทะเข้าไป เพิ่มค่าเข้าไปอีกหน่อยโดยใช้มือของฝั่งที่แขนคล้องคอหุ่นมาจับคอเสื้อของเราเอง เราจะได้มีอิสระในแขนอีกฝั่งเพื่อช่วยรักษาสมดุลย์ขณะกดโอไซโกมิเอาไว้
- วิธีหนี ตีศอกสร้างระยะ พออีกฝั่งดันกลับใช้แรงตรงนั้นช่วยในการส่งม้วนตัวตีลังกาโดยใช้ไหล่เป็นแกน หรีได้อย่าเสียของโต้กลับจากจุดนั้นทันที ไม่จำกัดตายตัวว่าเป็นท่าไหนเพราะขึ้นอยู่กับการฝึกซ้อมของตัวเราเองว่าถนัดท่าไหน
ทัตเตชิโฮกาตาเมะ
- ไม่ถนัดกับท่านี้ ส่วนใหญ่จะเน้นที่ขา เรื่องขาการล๊อคมีสองแบบ เป็นแบบฝ่าเท้าติดกันเหมือนพนมมือไหว้ หรือแบบการใช้ข้อเท้าในการแยกขาของหุ่นออก ท่านี้ผมไม่แน่น ไม่มั่นใจส่วนใหญ่ผมใช้ท่านี้แล้วจะเตรียมพร้อมเพื่อที่นำต่อไปเป็นจูจิกาตาเมะ
- ถึงผมไม่ถนัดในการใช้ แต่การหนีของท่านี้ผมถนัดมาก ใช้มือข้างที่แขนเป็นอิสระดันเข่าของคู่ซ้อมพร้อมๆกับเอาขากอดขาเอาไว้ เวลาก็จะหยุด
โยโกชิโฮกาตาเมะ
เข่าติดเอว เพิ่มให้ออกยากขึ้นมือคล้องแขนมาจับสาย ส่วนอีกฝั่งเหลือแขนไว้คอนโทรลสมดุลย์ ต้นแบบการกดของท่านี้มาจากการซ้อมท่าวากิชิเมะ ไอ้ที่ไถ่ๆพื้นนั้นแหละ โดยการเอาน้ำหนักกดลงที่ท้องของเราดึงหุ่นเข้าหาตัว เรื่องหัวสำคัญอย่าทิ้งน้ำหนักลงไปด้านหัว สามารถแก้ไขปัญหาที่หัวได้ดีขึ้น ถ้าหากเราเอาหัวเลียดต่ำทำเหมือนกับเอาหูไปแนบท้องของหุ่น เข่าติดเอวหุ่นดิ้นขยับไปไหนก็เขยิบตามเข้าไปด้วยตลอด
คามิชิโฮกาตาเมะ
ล๊อกแขนกับเสื้อ ไม่ก็เปลี่ยนเป็นคุสุเรจะปลอดภัยและแน่นกว่าปกติ ถึงจะเป็นคามิที่แปลว่าหัวกับหางก็ตาม อย่าทำตัวให้เป็นเส้นตรงเหมือนกับนาฬิกาตอน 6 โมง เพราะมันพลิกง่ายและถ้าพลิกแล้วเวรกรรมตามสนองเลย พยายามแยกขาเอานิ้วขาจิกพื้นไว้ เอาน้ำหนักทิ้งลงพุง ใกล้เคียงกับโยโกชิโฮกาตาเมะนั้นแหละ