Viral Marketting หรือ V-Marketting การตลาดแบบนี้เป็นการตลาดแบบพื้นๆ แต่เป็นคำที่สร้างขึ้นมาใหม่ ให้ทันยุคสมัยกับ ไวรัสคอมพิวเตอร์ และ การส่งต่อๆกันไปแบบ Junk mail ในกลุ่มของผู้ใช้ Internet ก็เหมือนกับเป็นการกระจายข้อมูลข่าวสารโดยการบอกต่อ ปากต่อปาก (Word-of-Mouth marketing)

คำที่มีคุณสมบัติเหมือนกันกับคำนี้ก็คือ “Pass-it-on Marketing”, “Tell-A-Friend Marketing”, “Pyramid Marketing” เป็นต้น

การเผยแพร่ข่าวสารทางการตลาด นอกจากจะโฆษณาให้กลุ่มเป้าหมายได้เห็น และ รับรู้แล้ว การให้กลุ่มเป้าหมายได้เป็นคนแจ้งสิ่งที่ตนเองสนใจ ประทับใจ สิ่งที่มีประโยชน์ และ มีคุณค่า ทั้งกับตนเอง และ ผู้อื่นเพื่อให้รับทราบ เป็นการยืนยันในคุณภาพของ ข่าวสารนั้นๆ เพื่อดึงดูดให้เพื่อนๆ หรือ คนที่รู้จัก ให้รับทราบข่าวสาร คนที่จะกระจายข่าวสาร ก็มักจะวิเคราะห์ แล้วว่าจะมีประโยชน์กับคนที่รับแจ้งข่าวสารนั้นๆ ซึ่งก็คือเป็นกลุ่มเป้าหมายของการตลาดด้วยเช่นกัน มันเป็นการแพร่กระจายแบบ หนึ่งไป 2 และ 2 ไป 4 ทวีคูณไปเรื่อยๆ เหมือน ติดไวรัสคอมพิวเตอร์ ที่ไวรัสจะส่งตัวเองออกทางเมล์ เพื่อไปยังเครื่องอื่นๆ เป็นจำนวนทวีคูณ ไปเรื่อยๆ

เราจะใช้ Viral Marketing ก็ต่อเมื่อจุดเด่นของเรานั้นเป็นจุดเด่นที่เป็นจุดเด่นจริงๆ

ของที่ได้ ฟรี เพราะ ในจิตใต้สำนึกของคนทุกคน ต้องการได้ของฟรี โดยเฉพาะ ของฟรีๆ ที่มีคุณค่า ก็ย่อมทำการตลาดทางด้านนี้ได้ดีมากยิ่งขึ้น

เมล์ฟรีต่างๆ ใช้หลักการนี้ในจุดเริ่มต้น โดยมีการให้ใช้บริการฟรี มีโฆษณาเขาไปท้ายเมล์ เมื่อคนรู้จักมากๆ ก็จะมีโฆษณาเข้าแอบแฝง มีการส่งโฆษณาเฉพาะกลุ่มเป้าหมายในรายชื่อที่ต้องการรับ เมื่อคนเข้าเมล์ฟรีนั้นมากขึ้น ก็จำทำให้ค่าเช่าพื้นที่โฆษณาในหน้าจอก็เริ่มมีมูลค่าเพิ่มตามขึ้นเป็นอันดับ เป็นสิ่งที่ทางคนทำเมล์ฟรืทั้งหลายต้องการ

จะเห็นว่า คนทำเวป ที่เน้นกลยุทธ์นี้ จะมีปุ่มพิเศษ เพื่อให้ส่งข้อความ ข้อมูลที่กำลังอ่านอยู่ ให้กับเพื่อนๆ เป็นการแนะนำเพื่อนๆให้เข้ามาดู มาชม เมื่อเห็นว่ามีประโยชน์ สามารถใช้งานได้จริง ก็จะเข้ามาบ่อยครั้งขึ้น จนเป็นขาประจำ หรือ ไม่อย่างน้อย ก็เห็น ก็รู้จักเวป มากขึ้นด้วย.. ลองดูที่ข้างบนและข้างล่างของเวปที่เป็น กระทู้ หรือ บอร์ด ต่างๆดูสิ คุณจะเห็นคำว่า “ส่งต่อกระทู้” ซึ่งเป็นการให้ผู้อ่าน ผู้เข้าชม ทำการตลาดแบบ Viral Marketing ให้....

บางคนชอบ ส่งเมล์ต่อให้กับเพื่อนๆ เพราะเห็นว่าดี มีประโยชน์ ก็เป็นการทำ Viral marketing ด้วยโดยไม่รู้ตัว ผมก็เคยทำเช่นกัน ทำจนเพื่อนๆใช้เราให้ส่งข้อมูลต่อให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เรามี เป็นการใช้ประโยชน์โดยตรงกับฐานข้อมูลที่เรามี


บางครั้ง การมีสิ่งจูงใจให้บอกต่อๆกันไป จะทำการตลาดลักษณะนี้ได้ดีเหมือนกัน

การเสนอให้ ส่งเมล์ต่อ เพื่อจะให้เงินเป็นค่ารักษาพยาบาล ลูกของผู้ติดต่อ ก็เป็นการตลาดแบบวางเงื่อนไข ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว จะเจาะเข้ามาทางจิตใจอันดีงานของคนว่า หากส่งต่อนั้น จะทำให้ได้ช่วยเหลือคนอื่นๆได้ จะได้ผลกับคนไทยอย่างมาก เพราะ คนไทยเป็นคนที่มีจิตใจเมตตา โอบอ้อมอารีย์ ด้วยสิ...

คนที่เชื่อโชคลาง ก็มักจะโดนเมล์ลักษณะ ลูกโซ่บ่อยๆ ถึงการให้ ส่งเมล์ต่อ จำนวนนั้น จำนวนนี้ แล้วจะโชคดี ประสบความสำเร็จ เป็น กลอุบาย อย่างหนึ่ง ที่พยายาม กระจายแนวความคิดของตนออกไป คนที่เชื่อเรื่องเหล่านี้ หรือ กำลังอยู่ในเหตุการณ์เหล่านั้น ก็จะส่งเมล์ต่อ...


เรื่องที่ไม่ดี ย่อมเป็นเรื่องที่พูดกันมากกว่า เรื่องที่ดี

การตลาดลักษณะนี้ ต้องแน่ใจว่า คนตัดสินใจบอกต่อนั้น จะบอกต่อในสิ่งดีๆ เพราะ มันเป็นดาบสองคม ที่สามารถกระจายได้ทั้งสิ่งที่ดี และ สิ่งที่ไม่ดี ถ้ากระจายในสิ่งทีดีๆ ก็ดีไป หากกระจายในจุดอ่อนของเรา บอกแต่ข้อเสีย มันก็เหมือนกับไฟไหม้ป่า ที่ควบคุมยากเหมือนกัน บางครั้งกว่าจะรู้ตัวอาจจะกลายเป็น เถ้าถ่าน หรือ ตอไม้โดนเผาไปแล้ว.. ดังนั้น ถ้าคิดว่า สิ่งที่กำลังทำการตลาดลักษณะนี้นั้น ดีจริงๆแล้ว ถึงจะทำ แต่ถ้าทำโดยยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เสนอนั้นดีมากน้อยเพียงใด อาจจะส่งผลเสียอย่างมาก กลับมาด้วยเช่นกัน...