ไม่โฆษณา ไม่สื่อสารออกมา แล้ว ใครจะรู้ว่าเรามีสินค้าใหม่... สินค้าเราดีเพียงใด...

การทำให้สินค้าใหม่ติดตลาดนั้น ต้องทำให้คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้เห็นโฆษณาของสินค้า เป็นจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่การเห็นเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่ตอบโจทย์ว่า คนเห็นจะสามารถจำได้ แต่ต้องมีการตอกย้ำให้เห็นโฆษณาหลายๆครั้ง จากการวิจัยพบว่า การเห็นโฆษณาตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป จะสามารถจำสินค้าได้หากโฆษณานั้น โดนใจกลุ่มเป้าหมาย แต่หากโฆษณาที่เรียบง่าย คงต้องให้คนในกลุ่มเป้าหมายเห็นอย่างน้อย 4-10 ครั้ง เพื่อให้จำสินค้าที่จะโฆษณาได้... ความสามารถในการจำสินค้า ขึ้นอยู่กับการโดนใจของกลุ่มเป้าหมาย

ทำโฆษณาให้โดนใจทำอย่างไร...

1. ทำให้ซาบซึ้งกับเนื่อเรื่อง ซึ่งบางโฆษณาทำให้เรามีความรู้สึกว่า เนื้อเรื่องที่ออกมานั้น กินใจมาก จนบางครั้งต้องร้องไห้ หรือ ตรงใจกับความรู้สึกของคนบางกลุ่ม ผมเองก็ได้ดูเรื่องนึงน้ำตาไหลเลยเวลาดูจบ..

2. ทำให้เป็นเนื่อเรื่องน่าติดตาม ทำเหมือนหนังเป็นภาคๆ เลย เช่นโฆษณาขายตรงสินค้าหนึ่ง ทำให้ต้องติดตาม.. ไม่รู้ว่ายังจำกันได้หรือเปล่า..

3. ผู้นำเสนอเป็นคนที่คนรู้จักกันดี หรือเป้นคนที่ ใครเห็นแล้วชอบ ถูกใจ ถูกเสปก.. อันนี้ดารามาเพรียบ หากดาราค่าตัวแพงไป ก็ใช้เด็กหน้าใส หรือ ดูดี มาเป็น ผู้นำเสนอ เพื่อให้เพศตรงข้ามสนใจ สาวๆสวยๆ เยอะมาก.. เอาเป็นว่า ตามดูหน้าตา แต่ไม่ได้ตามดูสินค้า แล้ว โฆษณาก็จะจัดการฝังสินค้าในหัวสมองของคนรับสารเอาเองเลย..อิอิ หลงกลแล้วรู้ไม๊...

4. แสดงคุณสมบัติของสินค้าอย่างเต็มที่ อันนี้ตอนดึกๆมีเยอะ และ แสดงซ้ำไปซ้ำมา เพราะตค่าโฆษณาที่พิเศษ บางสื่อก็มีเช่นวิทยุ แต่ส่วนใหญ่วิธีนี้น้อยลงแล้ว ยกเว้นเรื่องต้องการให้ลองใช้เท่านั้นถึงพยายามสื่อแนวนี้ เมื่อใช้แล้วรับรองว่าจะติดใจ.. เป็นต้น..

5. ให้ข้อมูลที่ตรงใจ.. และ ตรงกับความต้องการ บางครั้งข้อมูลที่ให้แค่ให้ตรงใจก็ได้ เช่น หากคุณเกิดอุบัติเหตุ มีมือถืออยู่สามารถตามตัวได้เลยว่า อยู่ที่ไหน.. ตามทฤษฎีก่อนโฆษณาทำได้ แต่ได้ตำแหน่งจริงๆหรือคร่าวๆ ก็ต้องมาดูอีกทีหนึ่ง ทำได้จริงหรือไม่ในตอนโฆษณา.. 555 ไม่มีใครรู้ใช่ไม๊.. ถ้าไม่ใช่วงใน..

6. สร้างเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ทำให้เป็นไปได้ในโฆษณา บางเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เราก็สร้างให้มันเกิดขึ้นมา เป็นขึ้นมา เพื่อให้คนดูได้คิด และ ติดในความคิดสร้างสรรที่ผู้สร้างทำขึ้น เช่น Unif Green Tea เรื่องหนอนญี่ปุ่น กินใบชา เป็นต้น

7. ทำให้มันฮ่วยสุดๆกันไปเลย.. บางโฆษณาฮ่วยมาก แต่ก็สามารถทำให้เราได้จดจำถึงความทุเรศเหล่านั้นก็มี อาจจะจำสินค้าได้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่แน่ๆจำโฆษณาได้



ทำไมสินค้าเก่ายังต้องโฆษณา

เคยสงสัยไม๊ว่า ทำไมเป๊ปซี่ และ โค้ก ยังต้องโฆษณากันทุกเดือนๆ ทั้งที่เป็นสินค้าที่ติดตลาดแล้ว.. ไม่มีการพัฒนา แล้ว..

การแข่งขันระหว่างสินค้าทดแทนกันได้มีส่วนเป็นอย่างยิ่งครับ การใช้โฆษณาเป็นการใช้เพื่อแย่งกลุ่มลูกค้า และ สร้างกลุ่มลูกค้าให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น ใครสามารถฝังความจำให้กับลูกค้าได้มากกว่ากัน ก็จะเป็นผู้ประสบความสำเร็จในการขายครับ...

การโฆษณาแนะนำว่า ต้องมีการย้ำเตือนกลุ่มเป้าหมายบ่อยๆ เพื่อเป็นการสร้างความยึดมั่นในสินค้าของเรา และ ให้เขารู้สึกว่า สินค้าของเรายังไม่ตกยุคสมัยไป เช่น นกแก้วที่เมื่อก่อนโฆษณาได้ระดับหนึ่ง แล้วหายไป คิดว่าตัวเองเป็นที่รู้จัก พอกลับมาโฆษณาอีก ก็ไม่สามารถทำยอดขาดได้แล้ว เพราะทุกคนคิดว่าเป็นสบู่โบราณตกยุคสมัย ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนรูปทรงภายนอก และภายใน ใหม่หมด แทบเป็นสินค้าใหม่ที่ทำตลาดกันเลยทีเดียว หากได้ส่วนแบ่งตลาดแล้ว หายไปอีกก็จะเข้าสู้วัฐจักรเดิมเช่นกัน...