สำหรับ  สาระน่ารู้ทั่วไป วันนี้ได้นำเรื่องดีๆของ  หม้อหุงข้าว มาฝาก ทราบหรือไม่คะว่าหม้อหุงข้าวนั้นได้ประดิษฐ์ในครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของประชาชนในประเทศ  ซึ่งในอดีตสำหรับสตรีของชาวญี่ปุ่นนั้นพวกเขาต้องหุงข้าวแบบลำบากโดยพวกเขา จะใช้เตาถ่านมาใช้ในการหุงข้าวทำให้เสียเวลาที่จะทำอะไรหลายๆอย่าง เมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สตรีชาวญี่ปุ่นนั้นจะต้องใช้แรงในการเกิดสงครามครั้งนี้ด้วย เพราะฉะนั้นจะต้องมีความสะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลาในการหุงข้าว และความสำเร็จในการประดิษฐ์หม้อหุงข้าว นั้นได้มีการจำหน่ายขึ้นเมื่อ ค.ศ.1956 ซึ่งได้มีการตอบรับมาเป็นอย่างดีและเป็นที่นิยมกันมากในยุคนั้น

วันเวลาได้ผ่านไปหม้อหุงข้าวได้มีการพัฒนามาเรื่อยๆ แต่เดิมนั้นหม้อหุงข้าวมีชื่อว่า คามาโดะ ถูกสร้างขึ้นเมื่อค.ศ. 300-710  ซึ่งคามาโดะนั้นเป็นเตาดินชนิดหนึ่งที่มีส่วนประกอบของอิฐหักเพื่อทำให้ เพิ่มความแข็งแรง  ทนทานต่อความร้อน  นอกจากนี้แล้วหม้อหุงข้าวยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการต้มน้ำซุบต่างๆ มเพียงข้อเสียอยู่เรื่องเดียวก็คือไม่สามารถที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนได้

เมื่อปีค.ศ.710-794 หม้อหุงข้าวได้ถูกพัฒนาขึ้นมาอีกครั้งเป็น โอกิ-คามาโดะ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อที่จะนำไปใช้งานกลางแจ้ง แถมยังมีภาชนะที่แยกส่วนสำหรับเก็บอาหาร ซึ่งมีชื่อเรียกว่าฮากามะ เหมาะสำหรับเอาไว้หย่อนลงไปในหลุมด้านล่างที่มีกองฟืนเตรียมไว้สำหรับหุงต้มนั่นเอง

เวลา ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนมาถึงวัน 10 ธันวาคม 1956 ทางบริษัทโตชิบาได้นำหม้อหุงข้าวแบบอัตโนมัติมาวางจำหน่ายจำนวน 700 ใบ และผลก็คือได้รับความประสบความสำเร็จและไดรับกระแสตอบรับที่ดีมาก โตชิบาได้เริ่มผลิตหม้อหุงข้าวอีกครั้งในจำนวน 200,000 ใบ  ในเวลาต่อมาหม้อหุงข้าวได้เริ่มมีการแพร่หลายออกไปเกือบครึ่งประเทศการที่ บริษัทโตชิบาได้ประสบความสำเร็จในครั้งนี้นั้นเนื่องมาจากความรวดเร็ว ความแม่นยำในการหุงข้าวที่ใช้เวลาไม่นานเพียงแค่ 20 นาที เท่านั้นไม่ต้องรอคอยให้เสียเวลานาน  สำหรับหม้อหุงข้าวในสมัยนั้นมี 2 ชั้น สำหรับชั้นนอกมีไว้บรรจุน้ำ ส่วนชั้นในมีไว้บรรจุ  ข้าว   ซึ่งรูปแบบนี้ใช้ได้เพียงไม่นานนักอยู่ได้เพียง 9 ปี จึงได้มีการพัฒนาแบบใหม่อย่างที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ค่ะ


ขอบคุณข้อมูลจาก pre-rsc.ricethailand.go.th