bloggang.com mainmenu search

หากเอ่ยชื่อ l-carnitine หลายคนคงจะร้องอ๋อ! รู้จักเป็นอย่างดี เพราะเป็นวิตามินลำดับต้นๆที่ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมัน หรือ ลดน้ำหนัก นั่นเอง

การสังเคราะห์ l-carnitine โดยธรรมชาติในร่างกายจากการสังเคราะห์ทางชีวเคมีภายในเซลล์ เกิดขึ้นในตับและไต จากกรดอะมิโน ไลซีน ( lysine ) เมไทโอนิน ( methionine ) มีหน้าที่เปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน สำหรับการเต้นของหัวใจ การทำงานของสมองและการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ ถูกเก็บไว้ในกล้ามเนื้อ,กระดูก,หัวใจ,สมองและ สเปิร์ม ส่วนเกินที่ร่างกายไม่ต้องการจะถูกขับออกทางปัสสาวะ พบมากที่สุดในเนื้อแดง ผลิตภัณฑ์นม ปกติเมื่อร่างกายมีการใช้พลังงานอย่างหนัก l-carnitine จะถูกดึงเข้าสู่ไมโตคอนเดรียเพื่อเปลี่ยนเป็น acetyl-L-carnitine และ coenzyme A จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการเผาผลาญไขมันและน้ำตาลเต็มรูปแบบ มิน่า !! คนที่ทำงานหนักและใช้สมอง แต่กินอาหารน้อย จึงได้ผอมบาง เป็นเพราะเหตุนี้เอง

l-carnitine แบ่งออกเป็น 3 ชนิด ดังต่อไปนี้
1.l-carnitine ใช้อย่างแพร่หลายทั่วไป แต่มีราคาค่อนข้างแพง
2.acetyl-L-carnitine เป็นรูปแบบที่ใช้ศึกษาวิจัยโรคอัลไซเมอร์และความผิดปกติของสมอง
3.propionyl-L-carnitine มักใช้ในการศึกษาการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

l-carnitine จะถูกแปลงเป็น acetyl-L-carnitine หลังจากการบริโภคในร่างกายมนุษย์

acetyl-L-carnitine จะดูดซึมได้ดีกว่า l-carnitine โดยเทียบกลไกการดูดซึมเดียวกันในลำไส้ และมีประสิทธิภาพในการข้าม Blood Brain Barrier ( ความสามารถในการแทรกซึมผ่านหลอดเลือดฝอยขนาดจิ๋วในสมอง ) มีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญกรดไขมันในไมโตคอนเดรียเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานให้กับเซลล์สมอง จึงเสมือนทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์สมองจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ซึ่งจะพบคุณสมบัติเช่นนี้ได้ในวิตามินคุณภาพสูงเท่านั้น

มีประโยชน์อย่างไร
1.มีผลในการลดน้ำหนักและส่วนเกินในร่างกาย ควบคู่กับการงดอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต หากออกกำลังกายร่วมด้วยจะเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น
2.บางงานวิจัยพบว่า ลดมวลไขมัน เพิ่มมวลกล้ามเนื้อและลดความเมื่อยล้า
3.บรรเทาอาการซึมเศร้า ภาวะสมองเสื่อม และเพิ่มหน่วยความจำในผู้สูงอายุ
4.ปกป้องหลอดเลือดส่วนปลายและการแข็งตัวของหลอดเลือดแดงจากคราบ plaque ที่เกิดขึ้นในหลอดเลือดแดง มักทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยล้า เป็นตะคริวที่ขาในขณะที่เดินหรือออกกำลังกาย
5.บางงานวิจัยพบว่า อาจเป็นประโยชน์ต่อเซลล์ประสาทในการรักษาโรคพาร์กินสัน
6.เพิ่มการเคลื่อนไหวของอสุจิ ลดภาวะมีบุตรยากในเพศชาย
7.เพิ่มความสามารถในการออกกำลังกาย ส่งผลให้ร่างกายมีความทนในการออกกำลังกายมากขึ้น ลดการคั่งของกรดแลกติก ตัวการที่ทำให้เราปวดเมื่อยเวลาออกกำลังกายใหม่ๆนั่นเอง
8.ชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์สมองและหัวใจ


แป้งได้ทดลองกิน l-carnitine 500 mg ยี่ห้อ Jarrow formulas ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า พบว่า มีเรี่ยวแรงในการทำงานที่ต้องใช้สมองอย่างหนักมากขึ้น โดยไม่รู้สึกว่าเพลียหรือชำรุดทรุดโทรมแต่อย่างใด อีกทั้งชอบมากตอนที่ออกกำลังกาย วันรุ่งขึ้นหรือวันต่อๆมาไม่รู้สึกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเลยสักนิด เปรียบเทียบกับตอนที่ไม่ได้กิน ขนาดซิทอัพแค่ 50 ครั้ง วันถัดมา เจ็บหน้าท้องไปหมด เลยพาลหยุดไม่ออกกำลังกายเลยค่ะ ก็มันระบมนี่นา แค่หัวเราะนิดเดียว ไม่ได้อ้าปากกว้างเท่าไหร่นัก ยังปวดซะจนน้ำตาเล็ด

Create Date :13 สิงหาคม 2556 Last Update :23 ตุลาคม 2558 18:03:13 น. Counter : 9406 Pageviews. Comments :27