bloggang.com mainmenu search
วิตามินที่เรากลืนกินทุกวันนี้ มีหลากหลายรูปแบบเหลือเกิน เลือกแทบไม่ถูกเพราะไม่รู้ข้อมูลที่ถูกต้องว่า วิตามินรูปแบบไหนดีกว่ากัน เยอะแยะไปหมด บางคนถึงกับงงเลยทีเดียว แป้งคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการคัดสรรและเลือกเฟ้นวิตามินในรูปแบบต่างๆได้ดียิ่งขึ้น รูปแบบวิตามินทั้งหมดมีดังนี้ 1.เม็ดอัด ( tablet ) ประกอบด้วยส่วนของสารออกฤทธิ์,สารเพิ่มปริมาณ,สารหล่อลื่น เพื่อให้แตกตัวในระบบทางเดินอาหาร เป็นรูปแบบที่พบได้บ่อยและสะดวกที่สุด ง่ายต่อการพกพา สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานกว่าแบบผงหรือแบบน้ำ 2.แคปเลต ( caplet ) เป็นเม็ดเคลือบที่มีรูปร่างเหมือนแคปซูล มีการเคลือบด้านนอกอีก 1-3 ชั้นเพื่อให้แตกตัวในลำไส้เล็ก โดยที่จะไม่แตกตัวในกระเพาะอาหารซึ่งมีความเป็นกรดสูง ตัวอย่างเช่น ยาแก้ปวด-ลดไข้ ชื่อ ไทลินอล ที่มีรูปทรงยาวรี สีขาว นั่นแหละเรียกว่า caplet ค่ะ 3.แคปซูล ( capsules ) แคปซูลมีลักษณะเหมือนเป็นภาชนะ ที่บรรจุวิตามินอยู่ภายในและเป็นภาชนะที่รับประทานได้เพราะผลิตจากคอลลาเจนของผิวหนังหรือกระดูกสัตว์เรียกว่าเจลาติน ( Gelatin ) แคปซูลแบ่งเป็น 3 ชนิดคือ 3.1 แคปซูลแข็ง ( Hard Gelatin Capsules ) จะผลิตแคปซูลออกมาก่อนมี 2 ส่วนคือตัวแคปซูลและฝาปิดเมื่อบรรจุวิตามินแล้วก็จะนำตัวและฝามาเชื่อมต่อกัน เช่น ALA, grape seed pycnogenol ฯลฯ ควรเก็บให้พ้นแสง ในที่เย็นและแห้งเพื่อป้องกันการออกซิเดชั่น ( โมเลกุลของออกซิเจนที่ไม่เสถียร เรียกว่าอนุมูลอิสระ เช่น เหล็กเมื่อทิ้งไว้นานๆจะเป็นสนิม นั่นเอง ) 3.2 แคปซูลนิ่ม ( Soft Gelatin Capsules ) เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า soft gel แคปซูลประเภทนี้จะผลิตเปลือกแคปซูลและบรรจุยาไปพร้อมกันเลย แคปซูลที่ได้มีลักษณะเป็นเฮอร์มาติกซีล ( Hermatic Sealed ) ซึ่งมีลักษณะพิเศษคือ เป็นสูญญากาศ น้ำและอากาศผ่านไม่ได้ ซอฟต์เจล ( soft gel ) เป็นแคปซูลเจลาตินแบบนุ่มซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกกลืนง่ายกว่าแคปซูลปกติ ต้องผ่านกระบวนการในระบบย่อยอาหาร จึงออกฤทธิ์ได้ช้ากว่าแบบน้ำหรือแบบผง แต่มีราคาสูงกว่าแบบเม็ดหรือแคปซูลแข็งเนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเฉพาะอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในกระบวนการผลิตเพื่อให้ดูดซึมสารอาหารได้ดีในลำไส้เล็กอีกทั้งทนทานต่อสภาพอากาศและความชื้นได้ดี ตัวอย่างแคปซูลประเภทนี้ได้แก่ lyc-o-mato ,Q10 วิตามิน เอ ดี อี เค ฯลฯ  3.3 แคปซูลมังสวิรัตน์ ( veggie capsules ) ปราศจากส่วนประกอบที่เป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แป้ง น้ำตาลและสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ทำมาจากเซลลูโลสและเส้นใยอาหารจากพืชซึ่งมีความทนทานต่อปัญหาการติดเชื้อราและแบคทีเรีย สามารถเก็บในห้องที่มีอุณหภูมิสูงได้ โดยไม่ละลายหรือเกาะติดกัน ไม่มีผลกระทบจากอากาศเย็นและแห้ง ซึ่งส่งผลให้แคปซูลแบบเจลาตินเปราะ มีราคาแพงกว่าแคปซูลปกติมาก จึงส่งผลให้วิตามินที่ผลิตจากแคปซูลชนิดนี้มีราคาสูงกว่าแบบอื่น 4.แบบผง ( powder ) จะมีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์เพียงอย่างเดียว ไร้สิ่งอื่นใดเจือปนและมีปริมาณของวิตามินสูงกว่าทุกแบบ เช่น 1 ชช.ของวิตามินซีหลายยี่ห้อ มีปริมาณวิตามินซีถึง 4000 มิลลิกรัม รวมถึงข้อได้เปรียบของการปราศจากสารปรุงแต่ง ตัวนำยาหรือสารอื่นๆที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้ มีข้อเสียคือ โดนอากาศและความชื้นง่ายที่สุด จะต้องรีบรับประทานต่อเนื่องให้หมดโดยเร็ว มิฉะนั้นผงจะเกาะกันเป็นก้อน แต่ถ้าบรรจุในขวดแก้ว จะเก็บรักษาคุณภาพวิตามินได้นานขึ้นกว่าขวดบรรจุพลาสติก 5.แบบของเหลว ( liquid ) ใช้สำหรับชงผสมกับเครื่องดื่มต่างๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถกลืนเม็ดแคปซูลหรือเม็ดยาได้ มีข้อดีคือ มีความเข้มข้นสูง ใช้เพียงไม่กี่หยด ปริมาณวิตามินที่ได้รับจะมากกว่าแบบเม็ดหลายเท่าตัวแต่วิตามินส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเป็นลักษณะนี้มากนัก 6.สเปรย์ในปาก ( mouth spray ) ส่งผ่านสารอาหารความเข้มข้นต่ำเข้าสู่ช่องปากส่วนกระพุ้งแก้มโดยตรง สารอาหารจะไม่ผ่านระบบย่อยอาหารและถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดผ่านทางเยื่อบุภายในเวลาประมาณ 15 นาที 7.เม็ดอมใต้ลิ้น ( sublingual ) เป็นแบบเม็ดละลายใต้ลิ้น เนื่องจากบริเวณใต้ลิ้นมีหลอดเลือดฝอยเล็กๆมากมาย เมื่อยาละลายจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว ยาจึงออกฤทธิ์ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้น  8.แผ่นปิดและแบบฝังใต้ผิวหนัง จะให้สารอาหารในปริมาณที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง การปลดปล่อยตัวยาในรูปแบบนี้จะทำให้มีระดับยาในเลือดคงที่สม่ำเสมอมากกว่าการรับประทานยาทางปาก เข้าใจตรงกันนะคะ
Create Date :13 พฤษภาคม 2557 Last Update :13 พฤษภาคม 2557 22:11:22 น. Counter : 7460 Pageviews. Comments :5