bloggang.com mainmenu search

                  อีกไม่กี่วัน เราเริ่มนับถอยหลังเข้าสู่ศักราชใหม่กันได้แล้วนะคะ เด็กๆเจริญเติบโตขึ้นอีก 1 ปี ตัวเราเองก็แก่ขึ้นอีกปี ว๊าย! ทำไมเวลาช่างผ่านเลยไปรวดเร็วเช่นนี้ อันที่จริงเวลาจะผ่านเท่าไหร่ ไม่สำคัญเท่าริ้วรอยที่เพิ่มมาด้วยสิค่ะ ทำอย่างไรดีเนี่ยที่จะชะลอความชราของผิวพรรณได้น๊า

                  คนผิวมันริ้วรอยจะมาช้ากว่าผิวประเภทอื่น เพราะมีน้ำมันตามธรรมชาติหล่อเลี้ยงผิวอยู่เยอะ ยิ่งเวลาอากาศร้อนในฤดูร้อน หรือ ร้อนชื้นในฤดูฝน ต่อมไขมันจะขยันขับน้ำมันออกมามากเหลือเกิน หน้าจะมันเยิ้มไหลย้อยเลยล่ะ คนผิวมันจะต้องพกซับมันติดตัวไว้ตลอดเวลา เพราะหากไม่ซับน้ำมันส่วนเกิน ปล่อยให้หน้ามัน ความหมองจะครอบงำใบหน้าเห็นๆ แต่ในคนผิวแห้งจะมีผิวเรียบเนียน สดใส ไร้ความมัน แต่ริ้วรอยก็จะมาเร็วกว่าผิวประเภทอื่น เรามาหาตัวช่วยให้ผิวแห้งน้อยลง ริ้วรอยจึงแลดูลดลงกันดีกว่าค่ะ

                  กรดไฮยารูโลนิก (Hyaluronic Acid) หรือ HA. มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า hyaluronan เป็นส่วนผสมที่พบในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หากเป็นอาหารเสริมหรือครีมบำรุงผิว จะอยู่ในรูป sodium hyaluronate พบได้ตามธรรมชาติในเซลล์ของร่างกาย พบมากถึง 50% ในผิวหนังและคอลลาเจน มีความสำคัญต่อการรักษาโครงสร้างชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวมีความอ่อนนุ่ม กระชับ ยืดหยุ่นดี ร่างกายคนสามารถสร้างได้เอง แต่จะสร้างได้น้อยลงเมื่ออายุเกิน 25 ปีขึ้นไป พบในจุดเชื่อมต่อระหว่างอวัยวะและเซลล์ต่างๆเพื่อเพิ่มความต้านทานต่อการเสียดสีและความยืดหยุ่น โดนเฉพาะจุดเชื่อมต่อบริเวณหัวเข่า กระดูกอ่อน ผิวหนัง ดวงตาและลิ้นหัวใจ

                 กรดไฮยาลูโรนิก ถูกค้นพบครั้งแรก ค.ศ 1934 ในห้องปฏิบัติการของ Karl Friedrich Meyer นักวิทยาศาสตร์สาขาพยาธิวิทยาผู้มีชื่อเสียงระดับโลก ชาวอเมริกันเชื้อสายสวิส บางคนเรียกว่า หลุยส์ ปาสเตอร์ ของศตวรรษที่ 20 เลยทีเดียว จากการทดลองแยก Glycosaminoglycan (ทำหน้าที่รักษาระดับน้ำและลำเลียงสารอาหารไปยังโมเลกุล) ในน้ำเลี้ยงลูกตาวัว นักวิจัยชาวญี่ปุ่น ได้ต่อยอดและพัฒนากระบวนการผลิตกรดไฮยาลูโรนิกจากหงอนไก่ จดสิทธิบัตรในญี่ปุ่นและถูกจดสิทธิบัตรใช้ในอุตสาหกรรมเชิงพานิชย์ในปี 1942 จากการเพาะเชื้อจุลินทรีย์ สายพันธุ์ที่มีชื่อว่า Bacillus Subtilis

                 FDA (องค์การอาหารและยาของอเมริกา )ได้อนุมัติว่า เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดความเป็นพิษในร่างกาย สามารถใช้ได้อย่างกว้างขวาง (ในประเทศญี่ปุ่นจะเรียกว่า Natto มีการบริโภคอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก รองลงมาคือ ประเทศจีน ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตอาหารจำพวก ซอส ซีอิ้ว มีประโยชน์กับร่างกายคือ ช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้นและสร้างวิตามิน k2)

                 ในอดีตกรดไฮยาลูโรนิก จะมีขนาดโมเลกุลใหญ่ ส่งผลให้การดูดซึมในระบบทางเดินอาหารแทบไม่ได้เลย แต่ปัจจุบัน สามารถผ่านกรรมวิธีที่ทำให้มีโมเลกุลเล็กลง จึงดูดซึมได้ง่ายมากและรวดเร็วในลำไส้เล็ก

                  มีประโยชน์อย่างไร
1.บำรุงผิวพรรณให้นุ่มเนียน เต่งตึง ผิวจะนุ่มนวลไปทั่วร่างกาย
2.ลดเลือนริ้วรอยตื้นๆได้ดีมากรวมถึงริ้วรอยลึกให้แลดูอิ่มเอิบ ฟูเด้งขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์
3.เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้าและผิวกายโดยไม่ทำให้ผิวหน้าเกิดความมันเยิ้มเหมือนวิตามินอีและอีฟนิ่งพริมโรสออยล์
4.บรรเทาอาการปวดตึงบริเวณข้อต่อ
5.ลดอาการอักเสบและการบาดเจ็บกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ
6.รักษาอาการข้ออักเสบและข้อเข่าเสื่อมได้เป็นอย่างดีและเป็นยอมรับในระดับนานาชาติ
7.บรรเทาอาการตาแห้งที่เกิดจากการจ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆได้ นอกจากนี้ ยังมีอาการตาแห้งที่มักจะเกิดในผู้หญิงที่หมดประจำเดือน จากการที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนหมดไปจากร่างกาย จึงทำให้ผิวหนัง ช่องคลอดรวมถึงดวงตาแห้งไปหมด
8.ปกป้องผิวหน้าจากรังสียูวีบี ซึ่งทำให้เกิดจุดด่างดำ กระฝ้าตามมา อันนี้น่าสนใจค่ะ หากผิวหน้ามีความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา เวลาโดนแสงแดด กรดไฮยาลูโรนิกช่วยป้องกันผิวไม่ให้เสียหายจากทำลายของแสงยูวี บ้านเรามีแสงแดดแรงกล้าในทุกฤดู ป้องกันไว้ดีกว่าแก้นะคะ

                  เราอาจเคยเห็น กรดไฮยาลูโรนิก ในรูปแแบบของการฉีด ในชื่อทางการค้า Restylane หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า NASHA ย่อมาจากคำว่า Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid (กรดไฮยาลูโรนิกที่ไม่ได้มาจากสัตว์ มีความคงตัวสูง)ซึ่งผ่านการอนุมัติจาก FDA ของอเมริกา แคนาดาและยุโรป ในปี ค.ศ 2003 วงการแพทย์ผิวหนังมักใช้กรดไฮยาลูโรนิกในการเติมเต็มริ้วรอย ร่องแก้ม เสริมจมูก ริมฝีปากให้อวบอิ่ม หรือเรียกว่า Filler นั่นเอง มีหลากหลายเกรด ผลิตในอเมริกา อิตาลี สเปนและจีน

                  ฟิลเลอร์แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ       

 1.ฟิลเลอร์ชั่วคราวมี 2 ชนิดคือ
1.1 คอลลาเจน มีอายุ 2-4 เดือน ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมเพราะสกัดมาจากสัตว์ ทำให้เกิดการแพ้อย่างรุนแรงได้ง่าย เพิ่งถูกยกเลิกการใช้ Filler จากคอลลาเจนเมื่อปี ค.ศ 2010

1.2 กรดไฮยาลูโรนิก เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกาย จะมีอายุ 4-6 เดือน จากนั้นจะสลายตัวไปเองตามธรรมชาติ Restylane จัดอยู่ในกลุ่มนี้ ขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้น หากมีความเข้มข้นสูง จะอยู่ได้ในร่างกายนาน 6-12 เดือน

2. ฟิลเลอร์กึ่งถาวร ได้รับการอนุมัติจาก FDA มีชื่อทางการค้าคือ Radiesse&Sculptra มีอายุ 12-18 เดือน ใช้ฉีดเข้าผิวหนังแท้เพื่อเติมร่องลึก เติมริมฝีปากให้อวบอิ่มและใช้ในผู้ที่มีภาวะไขมันฝ่อตัว ( Lipoatophy ) พบในผู้ป่วย HIV ระยะสุดท้าย ซึ่งในระยะแรกๆจะไม่เห็น มีลักษณะไขมันใต้ผิวหนังบริเวณผิวหน้า แขน ต้นขาและน่องแฟบหายไป ถึงจะพบความผิดปกติของการกระจายตัวของไขมันเช่นนี้ ส่วนมากมักได้รับยาต้านไวรัส เราจึงพบเห็นในทีวีบ่อยๆ ผู้ป่วยมีร่างกายผอมแห้งจนเหลือแต่กระดูก จากสาเหตุนี้นั่นเอง

3. ฟิลเลอร์ถาวร มีชื่อทางการค้า ArteFill มีอายุ 5-8 ปี FDA อนุมัติให้ใช้เฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ 2006 นี่เองค่ะ

                 แป้งเลือกกิน Hyaluronic Acid 50 mg วันละ 2 เม็ด ยี่ห้อ Jarrow Formulas เพราะเกรดวัตถุดิบคุณภาพสูงแถมกระบวนการผลิตเทียบเท่ามาตรฐานการผลิตยาของสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว แค่ไม่กี่อาทิตย์ ความผุดผ่อง นุ่มเนียน น่าสัมผัส ก็บังเกิดกับผิวพรรณ อย่างเห็นได้ชัดเจน แม้กระทั่งฝ่าเท้าเลยค่ะ

Create Date :24 ธันวาคม 2555 Last Update :8 มิถุนายน 2556 8:24:38 น. Counter : 35159 Pageviews. Comments :72