bloggang.com mainmenu search

 Beta- carotene เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน จะเก็บสะสมไว้ที่ตับและเนื้อเยื่อไขมันต่างๆ ทำให้กำจัดออกจากร่างกายช้ากว่ากลุ่มวิตามินที่ละลายในน้ำ เช่น วิตามินบี ซี จึงเป็นสาเหตุที่วิตามินที่ละลายในไขมัน มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดพิษต่อร่างกายได้มากกว่าเมื่อรับประทานเกินขนาด แต่อย่าได้กลัวหรือรู้สึกกังวลไปเลยค่ะ เพราะหากร่างกายรับวิตามินเอมากเกินไป จะสังเกตได้ง่ายมากคือ ฝ่ามือและตัวเหลือง เหมือนตอนที่เรากินแครอทหรือมะละกอติดต่อกันเป็นอาทิตย์ วิธีแก้ง่ายๆคือ ให้หยุดกินวิตามิน 1-2 สัปดาห์ ฝ่ามือและตัวจะหายเหลืองทันที วิตามินเอ มีความจำเป็นต่อร่างกายในแง่ของผิวพรรณและความสมดุลของฮอร์โมน

 มีงานวิจัยมากมายที่พบว่า คนที่เป็นสิวรุนแรงนั้น มีระดับวิตามินเอในเลือดต่ำ ประโยชน์ของมันมีเยอะกว่าโทษหลายสิบเท่า มาดูความเป็นมาของเบต้าแคโรทีนกันนะคะ

 ถูกค้นพบใน ศตวรรษที่ 19 โดยนักวิทยาศาสตร์ ชาวเยอรมัน ชื่อ Wachen Roder H. หลังจากตกผลึกเบต้าแคโรทีนจากรากของแครอท แต่ถ้าเป็นอุตสาหกรรมเชิงพานิชย์ จะสังเคราะห์ได้จากน้ำมันปาล์ม , สาหร่าย หรือ เทคโนโลยีทางชีวภาพ

 วิตามินเอ มี 2 แบบ ขึ้นอยู่กับว่าได้จากแหล่งใดของอาหาร พืชหรือสัตว์ ดังต่อไปนี้

1.ได้จากสัตว์ เช่น ตับ ไข่ นม เนย เรียกว่า free from vitamin a ที่จะดูดซึมในรูปของเรตินอล เวลาสกัดเป็นวิตามินจะเขียนข้างขวดว่า palmitate มักจะเป็นวิตามินสังเคราะห์

2.สกัดได้จากพืช เรียกว่า pro vitamin a เวลาสกัดเป็นวิตามินจะเขียนข้างขวดว่า beta-carotene เพราะเบต้าแคโรทีนเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอค่ะ อธิบายได้ง่ายๆคือ เบต้าแคโรทีนเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอเหมือน L-cysteine ที่เป็นสารตั้งต้นของกลูต้าไทโอนนั่นเอง เบต้าแคโรทีนจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอและออกฤทธิ์ได้ดี แต่ lutein , zeaxanthin จะออกฤทธิ์ได้แค่ครึ่งหนึ่งของเบต้าแคโรทีนเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้น หากมองหาวิตามินที่ดูแลสายตา ช่วยในการมองเห็น ต้องกิน เบต้าแคโรทีนดีกว่าพวก lutein,zeaxanthin เยอะเลยค่ะ

                 มีประโยชน์อย่างไร

1.ช่วยดูแลรักษาผิวพรรณ ช่วยให้ผิวไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร ให้ผิวสดใส เรียบเนียน
2.ช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็ง ช่วยลดอนุมูลอิสระมีผลเกี่ยวข้องกับมะเร็งเนื้อร้าย เบต้าแคโรทีนให้ผลกระตุ้นเซลล์ภูมิต้านทานในร่างกายที่ชื่อ ที-เฮลเปอร์ให้ทำงานต้านสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น ให้ผลดีกับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็ง
3.ช่วยบำรุงสุขภาพของดวงตา ลดความเสื่อมของเซลล์ของลูกตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจกได้อีกด้วย
4.ช่วยชะลอความแก่
5.ช่วยลดหน้ามัน จากการที่ต่อมไขมันทำงานน้อยลง
6.ส่งเสริมให้ผิวทนต่อแสงแดดได้ดีขึ้น

 หลังจากได้ลองกิน beta- carotene 25000 iu ยี่ห้อ source naturals วันละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า เพื่อลดสิว ( หลังจากได้หยุดกิน acnotin ) เวลาล่วงเลยมาครบ 1 ปีพอดี ถึงเวลาที่ต้องตรวจสุขภาพประจำปี เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แป้งไปตรวจสายตา พบว่า สายตาสั้น 2 ข้าง 50 กับ 75 แถมเอียงอีกต่างหาก แต่มาปีนี้ กลับกลายเป็นว่า สายตาทั้ง 2 ข้างเป็นปกติ ไม่สั้นและเอียงเลยค่ะ มานั่งขบคิดว่า วิตามินเบต้าแคโรทีน นี่ดีจัง นอกจากช่วยลดการเกิดสิว หน้าไม่ค่อยมัน แล้วยังช่วยบำรุงสายตาได้อีกด้วยนะเนี่ย

 วิตามินไม่ใช่ยารักษาโรค ร่างกายมนุษย์ต้องการวิตามินที่มีคุณภาพเพื่อสังเคราะห์พลังงานเริ่มต้นในการดำรงชีวิตและมีกลไกตามธรรมชาติที่จะนำวิตามินไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ซึ่งจะเริ่มเสื่อมเมื่ออายุ 25 ปี ขึ้นไป จึงไม่มีพิษตกค้างสะสม ( หากเป็นวิตามินเกรดวัตถุดิบคุณภาพสูง)

 ถึงแม้จะมีเรื่องราวพิษของวิตามินมากมาย แต่ส่วนใหญ่มักจะเกิดในระหว่างการทดลอง ซึ่งต้องเป็นโดสที่สูงมากๆยากที่คนทั่วไปจะกินได้ เป็นเรื่องที่อาจเข้าใจได้ไม่ง่าย หากไม่ได้ศึกษาวิตามินอย่างถ่องแท้ แต่วิตามินที่แนะนำใน blog เป็นสารต้านอนุมูลอิสระคุณภาพสูงทั้งสิ้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องหยุดกินแต่ประการใด เพราะเรามีความจำเป็นต้องกินเติมเข้าไปในร่างกายอยู่เรื่อยๆ เพื่อช่วยลดปัญหาสิวและบำรุงผิวพรรณ

 การกินวิตามินร่วมกับการออกกำลังกายสม่ำเสมอ เป็นสิ่งที่ดีมาก นอกจากอายุยืน ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บแล้วยังช่วยชะลอความชราได้อีกด้วยค่ะ

Create Date :01 พฤษภาคม 2556 Last Update :30 กันยายน 2558 17:20:43 น. Counter : 17828 Pageviews. Comments :54