bloggang.com mainmenu search





เดินทางจากดอยอ่างขาง ถึงตัวเมืองเชียงใหม่
ก็เป็นเวลาเย็นแล้วเราจึง เช็คอินเข้าที่พักก่อน 
  ซึ่งได้จองไว้แล้ว ชื่อโรงแรม U
ตั้งอยู่ติดกับที่เทศบาลนครเชียงใหม่
จัดเป็นถนนคนเดินทุกวันอาทิตย์น่ะ
สภาพโรงแรมมองจากภายนอกเหมือนบ้านโบราณเก่าๆ
  เพราะเขายังคงอนุรักษ์เรือนหลังเก่าเอาไว้ให้ชื่นชมกัน
  โรงแรมนี้เสียอย่างเดียวไม่มีที่จอดรถ
   เราเข้าพักวันอาทิตย์ซึ่งมีถนนคนเดิน 
 มาถึงเขาก็เกือบจะปิดถนนแล้ว ต้องเอากระเป๋าลง
  จากนั้นทางโรงแรมก็จัดการเอารถไปจอดให้ที่ในวัด
   ตกเทียงคืนเมื่อการค้าบนถนนจบสิ้นแล้ว
จึงได้นำรถมาจอดให้ที่หน้าโรงแรม
  แต่ก็มียามคอยดูแลให้ตลอดทั้งคืนนะ





เมื่อเดินเข้ามาจึงได้เห็นว่าภายในนั้น
เป็นอาคารที่พักแบบโรงแรมทั่วไป 
  ฟร้อนด้านหน้าจัดแบบโล่งโปร่งนั่งรอสบาย 
 อาจจะเป็นด้วยพื้นที่จำกัดด้วย 
  ต้องชื่นชมสถาปนิคนะเขาเก่งจริงๆ
เรื่องการจัดตกแต่งสถานที่ให้สมกับพื้นที่ที่ไว้ใช้สอย 
  ด้านข้างจะมีสระวายน้ำ
ซึ่งถูกโอบล้อมไปด้วยตัวอาคารโรงแรม สูง 3 ชั้น
 เราได้ห้องพักอยู่ใกล้สระว่ายน้ำ
  แค่เดินไปสักหกก้าวก็ถึงแล้ว เราพักอยู่ชั้นล่าง
โรงแรมนี้ดีนะ เราเช็คอินเวลาใดเราก็เช็คเอ๊าเวลานั้น
ไม่จำเป็นต้องตอนเที่ยงวันเหมือนโรงแรมทั่วไป


ห้องอาหารซึ่งอยู่ทางด้านหน้าติดกับถนนนั้น
  แม้จะเล็กแต่การบริการของพนักงานนั้นประทับใจทีเดียว
   อาหารหนึ่งมื้อที่โรงแรมบริการให้นั้น
ท่านสามารถเข้ามาทานเวลาใดก็ได้
  ให้เวลาจนถึง 4 ทุ่มเลยละ
และเมื่อเข้าไปนั่งรับประทาน
  จะมีพนักงานเข้ามาบริการแนะนำอาหารต่างๆให้
   เราสั่งได้เขาจะนำมาบริการเราเอง
   แต่ถ้าเราอยากจะลุกไปตักทานเองก็ได้ไม่ขัดข้อง
    เราขอชมพนักงานที่นี่นะยิ้มแย้มแจ่มใส
บริการดีเยี่ยม แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว
   และร้านอาหารอร่อยๆในเมืองเชียงใหม่ให้
พร้อมทั้งมอบแผนที่ร้านเหล่านั้นให้เราด้วย ดีจริงๆ
คงอยากจะรู้แล้วซินะว่าราคาค่าที่พักที่นี่คืนละเท่าไร 
  บอกให้ก็ได้ว่าคืนละ 3,550 บาทเท่านั้น
  ไม่แพงเลยจริงๆ...





เมื่อเดินเข้าห้องพักก็จะเห็นว่า
เหมือนโรงแรมทั่วๆไปที่เราเคยไปพัก
  แต่ที่ชอบกลับเป็นโทรศัพย์แบบโบราณ
ตรงหัวเตียงด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งเหมือนรู้ใจ
   เป็นที่เปิดเพลงฟัง MP 3
เขาได้โหลดเพลงมาให้ฟังมากมาย เพราะๆทั้งนั้น
  ทันสมัยนะ ปลายเตียงก็มี ทีวี มีตู้เย็นเล็กๆ
  และมีโต๊ะเล็กให้ บนโต๊ะเขาจะมีผลไม้มาวางให้ทุกวัน
  วันละสองลูก ตู้เย็นนั้นเราจะหยิบอะไรดื่มก็ได้
ให้คนละหนึ่งอย่าง นอกจากนี้ต้องจ่ายเงิน 
  สำหรับน้ำดื่มแน่นอนยังไงก็ต้องมีให้คนละขวด
  แต่วางไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียง (เค็กน่ะของหลานนะจ๊ะ)


























หลังทีวีก็จะเป็นห้องน้ำ ก็ใช้ได้นะสะอาดสะอ้าน
เสียอย่างเดียวไม่มีที่ล๊อคประตู
  เดี๋ยวนี้โรงแรมเขาสร้างห้องน้ำแปลกๆนะ
เขาจะคำนึงถึงแต่คนพักที่เป็นคู่นอนกันมั้ง
  เราเห็นที่พัทยาก็เช่นกัน
บางโรงแรมห้องน้ำเป็นกระจกใสหมด
   มีแค่บังตาเล็กๆ คงอยากจะให้ดู
ตอนแก้ผ้าอาบน้ำมั๊ง ฮ่าๆๆๆ เอาละๆ
 แค่เอามาให้ชม แต่กุหลาบในห้องน้ำน่ะ
ของเราเอามาจากดอยอ่างขางนะ
  โรงแรมนี้ไม่มีดอกไม้ให้ชื่นชมหรอก
    เสียชื่อเมืองดอกไม้งามหมด










ข้างๆห้องจะมีระเบียง เดินออกไปสระว่ายน้ำได้
   ที่ระเบียงมีม้านั่งพร้อมหมอนให้
   ชอบตรงที่มีหมอนให้หลายใบนี่เอง
   ตรงนี้แหละเราใช้นั่งพักอ่านหนังสือ ทำการฝีมือ
   ฟังเพลงเบาๆตามชอบ
ถือว่าเป็นมุมที่วิเศษจริงๆ
   ข้างๆก็จะมีน้ำใสไหลเย็นไหลผ่านมา
แต่ไม่มีปลาว่ายนะ
  น่าจะเป็นระบบน้ำวนของสระน้ำมากกว่า
  แต่ก็สดชื่นดี
เขาปลูกต้นไม้ไว้ให้สดชื่นด้วย เราชอบจังมุมนี้
   มองออกไปก็จะพบกับสระว่ายน้ำ
   มีฝรั่งออกมานอนอาบแดดด้วย
   พูดถึงฝรั่งได้ยินหลานเล่าให้ฟังว่า
  ฝรั่งที่มาเที่ยวนั้นเขาจะต้องพยายามอาบแดด
ให้ตัวเองเป็นสีแทน เพราะเมื่อกลับไปแล้ว
ใครพบเห็นก็จะมองว่าเขาเป็นคนรวย 
 สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวไกลๆได้
  หลานบอกว่าสมัยเรียนอยู่ที่อังกฤษได้ฟังมา 
 น่าจะจริงเพราะเธอไปเรียนที่อังกฤษ
ตั้งแต่เด็ก จนโต ก็คงพอรู้ระแคะระคาย
ความคิดของพวกฝรั่งมังค่าบ้างหรอกน่า





















ที่เห็นนี้คือห้องสมุด ซึ่งอยู่ชั้นสองของบ้าน
ด้านหน้าที่เขาอนุรักษ์ไว้น่ะ
  มีบันไดขึ้นไปชันมากเวลาเดินต้องระวัง
เขาทำเป็นห้องสมุดซึ่งมีแต่หนังสือต่างชาติทั้งนั้น
และมีคอมพิวส์เตอร์ ให้ใช้ได้สองเครือง
  มีรูปของเจ้าของบ้านเก่าติดไว้ให้ชม
บอกที่มาที่ไปของสกุลเจ้าของบ้านเก่านี้ด้วย
  เราแค่อ่านแต่ไม่ได้จำ
เราทดลองเปิดคอมดู โอ๊ะแม่จ้าว....
blog....tangkay นี่นา
เราจำหนุ่มหล่อคนนี้ได้
แหมตามมาส่งยิ้มหวานให้
ถึงเชียงใหม่เชียวนะจ๊ะเธอ ฮ่าๆ 

ไปเดี๋ยวจะพาไปเดินที่ถนนคนเดินกันนะ
   เพราะนี่ก็ใกล้ค่ำแล้วเห็นร้านค้า
มาตั้งขายกันมากมายแล้ว เราต้องรีบออกไปเดิน
ก่อนที่จะค่ำ เพราะสินค้าบางอย่าง
ต้องมองสีสันจากธรรมชาติเพราะ
ยามต้องแสงไฟสีอาจจะเปลี่ยนไปได้









ออกจากโรงแรมก็ถึงถนนคนเดินแล้ว
เพราะตลอดสายด้านหน้าโรงแรม
จะปิดถนนวันอาทิตย์เพื่อทำเป็นถนนคนเดิน
  เพื่อนชอบมาก เธอเดินเก่งเดินแบบไม่รู้จักเมื่อยล้า
  กระฉับกระเฉงมาก
แต่เรา.....ไม่อยากจะเอ่ยอยากจะพร่ำบอกว่า
  "เนื้อตัวจ๋า ขาลาก่อน"
เพื่อนเดินเพลินจนลืมไปว่าเรามาด้วย
   เมื่อเธอนึกได้เธอจึงถามเราว่า
เป็นไงบ้าง เหนื่อยไม๊ เมื่อยไม๊
  เราได้แต่ส่ายหน้า เพื่อนบอกว่า
เค้าน่ะยังเดินได้อีกนาน เดินจนกว่าจะพอใจ 
  มันเป็นการออกกำลังกายด้วยนะ
   ไม่เป็นไรเพื่อนก่อนกลับเข้าโรงแรม
เราจะไปนวดเท้ากันก่อน


จากนั้นเธอก็เดินชมสินค้าต่อไปอย่างมีความสุข
  เหอๆๆๆๆๆเมื่อท้องชักร้องเตือนถึงอาหารมื้อเย็น
ซึ่งยังไม่ได้รับประทานกัน 
 เราจึงได้ชักชวนกันไปลองทานอาหาร
ที่เขาจัดไว้ในบริเวณวัดอะไรก็ไม่รู้
เป็นซุ้มอาหารแบบเดินซื้อแล้วเอามานั่งรับประทานกัน
   มันก็น่าลองดูนะ
   เพื่อจะได้เข้ากับบรรยากาศถนนคนเดินไง
   มื้อนี้เราจึงรับประทาน
อาหารหลากหลายตามที่อยากลอง 
  เราซื้อยำแหนม กับข้าวไข่เจียว
สำหรับเพื่อนก็ข้าวน้ำพริกอะไรก็ไม่รู้ 
  ส่วนหลานก็หมูสะเต๊ะ
ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน ซื้อมาลิ้มลองกัน
 ส่วนมากก็ทานไม่หมดหรอก
ฝีมือก็พอทานได้ เป็นอาหารมื้อที่ถูกจริงๆ
แต่ต้องชื่นชมเทศบาลเขานะ
   เขาจัดถังขยะมาให้โดยให้แยกขยะก่อนทิ้งกันด้วย
ซึ่งเราก็เห็นทุกคนปฏิบัติตาม ก็เป็นที่น่าชื่นชม


จากนั้นพวกเราก็ออกมาเดินกันต่อ
   เพื่อนซื้อเสื้อกั๊กที่ถักจากใยกันชงมาสองตัว
   แล้วเราจะให้ชมกันว่าเพื่อนเอามาสร้างสรรอย่างไร
 รับรองว่าท่านจะต้องไม่ผิดหวัง
จากการติดตามอ่านแน่นอนจ้า....ก็บอกแล้วไง
ว่าเธอน่ะอัจฉริยะทางด้านการฝีมือทีเดียวละ ฮิๆๆๆๆ
หลังจากเดินจนเธอเริ่มรู้สึกเป็นห่วงเราแล้ว
   เธอก็พาเราเข้าไปยังร้านนวดฝ่าเท้า
ซึ่งก็อยู่ใกล้ๆกับโรงแรมที่พักนั่นแหละ
  ร้านนี้สะอาดและมีชาวต่างชาติมาใช้บริการกันมาก
   ต้องรอคิว มีรายการที่ต้องการ
จะให้นวดไว้หลายรายการ 
  สำหรับเรานั้นนวดแค่เท้ากับไหล่
  ซึ่งก็เหมือนกันกับเพื่อน เราขอนั่งนวดที่ข้างล่าง
เพื่อจะได้ชมผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมา
เพื่อชมสิ่นค้าตามท้องถนนกัน 
 ยิ่งดึกคนยิ่งแน่น ก็ดีนะ
กิจการค้าจะได้เจริญรุ่งเรือง 
 และช่วยผู้ค้ารายย่อยได้มีรายได้ด้วย


นักเรียนก็ยังออกมาแสดงดนตรีร้องเพลง
เพื่อหาค่าขนมและเป็นทุนการศึกษาได้ด้วย
   เหล่าทหารก็ออกมาแสดงร้องเพลงหารายได้
ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมกัน
    เราขอปรบมือดังๆให้กับคนที่คิดไอเดียนี้จริงๆ























หลังจากนวดเสร็จแล้ว
  ก็ถึงเวลาที่จะต้องกลับที่พักเสียที
เราเดินลุยคนออกมาไม่นานก็ถึงโรงแรมที่พัก
   จัดการกับตัวเองเรียบร้อยแล้ว
ก็นอนคุยกับเพื่อนจนหลับไป 
 ราตรีสวัสดิ์นะจ๊ะทุกท่าน
ขอให้หลับฝันดี......พรุ่งนี้เจอกันใหม่นะจ๊ะ



Create Date :01 ธันวาคม 2554 Last Update :10 กันยายน 2561 13:01:44 น. Counter : Pageviews. Comments :2