(‿✿) จากทะเลมุ่งสู่ยอดดอย ตอนที่ 2 จากเชียงใหม่ขึ้นดอยอ่างขาง ✿ แค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เราก็เดินทางถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่แล้วด้วยความโล่งใจ แต่ก็ไม่ลืมหยิบขนมชิ้นเล็กนั้นมาด้วย หลังจากได้รับกระเป๋าเดินทางใบเขื่องแล้ว ก็พาร่างยักแย่ยักยัน(เฉพาะเราคนเดียวนะเพราะเพื่อนบอกว่าเธอยังไม่แก่ ใครอยากแก่ก็แก่ไปก็แล้วกัน ฮะเอ๊ย..)เดินออกมารอรถ แค่อึดใจเดียวราชรถก็มาเกยตรงหน้า อ้อ...ลืมบอกไปว่าราชรถนี้น่ะเขาขึ้นมารอเราอยู่ก่อนแล้ว เพราะลูกเพื่อนต้องตามบริษัทซึ่งย้ายหนีน้ำขึ้นมาทำงานที่อำเภอเชียงดาว เพื่อนเลยให้เอารถเพื่อนขึ้นมาใช้ โดยอ้างความสะดวกสบาย และอีกหลายเหตุผลเพื่อให้ลูกเปลี่ยนใจเอารถแม่ขึ้นมาใช้แทนรถตัวเองซะงั้น แต่เราคิดเองว่าเพื่อนน่ะคงวางแผนแล้วว่าไหนๆ ลูกก็ต้องขึ้นมาทำงานแล้ว ถือโอกาสตามขึ้นมาเที่ยวให้สะใจซะเลยมากกว่าเหตุผลอื่น หลังจากรถเคลื่อนออกจากท่าอากาศยานได้ไม่นาน วิญญาณนักชิมก็เริ่มเข้าสิงในร่างของเพื่อนทันที เริ่มต้นจากส้มตำร้านขึ้นชื่อ ซึ่งเจ้าหล่อนจำได้แม่นยำว่าเคยมากินแล้วอร่อยใช้ได้เชียวละ เธอพยายามถามลูกว่าจำร้านได้ไหม ลูกอัจฉริยะก็ไม่ย่อท้อบอกแม่ว่าจำได้ขอเพียงรู้ชื่อร้านเท่านั้น เธอก็จะนำพาแม่ไปรับประทานได้ สองคนแม่ลูกพยายามนึกชื่อร้านกันใหญ่ ในที่สุดก็นึกได้ จากนั้นลูกก็ทำการพิมพ์ชื่อร้านลงไปใน GPS ไม่นานเกินรอเจ้าเครื่องพิเศษก็เริ่มส่งเสียงพูดเจื่อยแจ้ว สั่งเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ตรงไปอีก กลับรถ ฯลฯ ในที่สุดก็ถึงร้านเป้าหมายเพื่อนหันมาคุยโขมงให้เราฟังว่า ร้านนี้น่ะมาเชียงใหม่ครั้งใดต้องมากินให้ได้เพราะอร่อยแซ่บมาก เราอดแย้งไม่ได้ว่าไหนเพื่อนบอกกลัวอ้วนไงถ้าพูดแต่เรื่องรับประทานละก็กลับบ้านเมื่อไรต้องได้ของแถมกลับไปด้วยแน่นอน เพื่อนหันมาพูดแบบจริงจังว่าเรื่องอื่นไว้ทีหลัง ครานี้ขอกินของอร่อยก่อน จากนั้นก็เริ่มสั่งอาหารซึ่งมีทั้งข้าวเหนียว ไก่ย่าง ส้มตำ ลาภปลาช่อน (ใช้ปลาช่อนทอดทั้งตัว) หมูแดดเดียว และอะไรอีกนั้น เราจำไม่ได้แล้ว อาหารนั้นจานเล็กๆ เช่นส้มตำก็จะต้องสั่งของใครของมันเพราะจานหนึ่งก็มีให้ทานประมาณ 5 - 6 คำเล็กๆ เท่านั้น สำหรับรสชาติก็พอใช้ได้เนื่องจากเพื่อนรับประทานรสจัดแต่ไม่เผ็ด ดังนั้นอาหารจึงมีรสเปรี้ยวนำแม้แต่พริกเธอก็ไม่ให้ใส่ แต่ราคาเท่านั้นที่โดดเด่นชวนจำเชียวละ (แพงเกินเหตุ) แต่จะไม่แพงเลยสำหรับคนที่นานๆมารับประทานสักครั้งรับประทานข้าวเหนียวส้มตำกันเสร็จ ยังไม่ทันเดินออกจากร้านเพื่อนก็นำเสนอร้านเค็กอร่อยอีก จากนั้นไก๊นำทาง GPS ก็บอกทางพาเราไปยังร้านเค็กอร่อยทันที (เราไม่บอกชื่อร้านนะ เพราะเป็นชื่อฝรั่ง ถ้าจะให้แปลแบบโดน...ก็น่าจะแปลว่า"รักเธอตั้งแต่คำแรกที่ชิมแล้ว"ประมาณนี้แหละ ฮ่าๆๆฝรั่งข้างรั้วแปลเอง)สำหรับราคาก็ไม่อยากพูดถึงหรอก ก็รู้ๆกันอยู่ แค่ชื่อก็บอกราคาได้แล้วว่าอย่าเอาเงินบาทไปเทียบเงินดอลล์ หรือ เงินยูโร เชียวนะคุณจะหนาว แต่เค็กเขาก็อร่อยใช้ได้เชียวนะ ถ้าไม่กลัวอ้วนก็น่าลองชิมแต่คนที่ร้องซื้อนั้นเธอรับประทานแค่อย่างละคำสองคำเท่านั้นฮิๆๆ เรารู้ทันหรอกน่ากลัวอ้วนเหมือนกัน สำหรับเรานั้น ได้แต่พูดว่า"เค็กจ๋า..ฉันลาก่อน" ฮ่าๆๆๆ เพื่อนซื้อเค็กหลายชนิดตามชอบ ครั้งนี้ใส่ถุงไปโดยไม่นั่งกินเพราะต้องรีบขึ้นดอยอ่างขางก่อนจะค่ำ การเดินทางอาจจะไม่สะดวก ถ้าค่ำก่อนถึงดอยอ่างขาง เพราะเราไม่ชินเส้นทาง ได้แด่อาศัย GPS บอกทางไปตลอดทาง การเดินทางจากเชียงใหม่ ไป เชียงดาวนั้นไม่ยากเพราะลูกเพื่อนทำงานอยู่ที่นั่นพอจะชินเส้นทางบ้างแล้ว และยังมี GPS พูดคุยบอกเส้นทางไปโดยตลอด เจ้าเครื่อง GPS นี่มันมหัสจรรย์จริงนะ แสนรู้ไปหมดน่าทึ่งจริงๆ ถามหลานว่ามันรู้จริงแค่ไหน หลานบอกว่าสามารถบอกทางได้ทั่วโลก และสามารถพูดได้หลายภาษาด้วย แล้วแต่เราจะอยากให้เขาพูดภาษาอะไร แต่ที่แน่ๆ GPS น่ะไม่ชอบเดินทางตามเส้นทางที่ยากลำบากหรอกตอนต่อไปท่านจะได้รู้ว่าเมื่อถึงทางยากลำบากเจ้าGPS นั้นจะบอกว่าอย่างไร เดินทางถึงอำเภอเชียงดาว ลูกเพื่อนได้พาแวะพักดื่มกาแฟสดข้างทาง เป็นการพักยืดเส้นยืดสาย แต่ขอบอกว่ากาแฟร้านนี้อร่อยมาก ราคาก็ไม่แพง บริเวณร้านก็ปลูกต้นไม้ประดับสวยหรูชวนดูเชียวละ ถ้าท่านเดินทางผ่านเส้นทางนี้ลองแวะชิมกาแฟร้านนี้หน่อยนะจ๊ะไม่ผิดหวังแน่นอนจ้า...... Create Date :24 พฤศจิกายน 2554 Last Update :10 กันยายน 2561 9:37:50 น. Counter : Pageviews. Comments :0 twitter google Comment *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก