bloggang.com mainmenu search





หลังจากนำผลผลิตจากหญ้าไปให้ชาวเขาดู
 และแนะนำวิธีการทำให้แล้ว
   เราก็ออกเดินทางเที่ยวชมโครงการหลวง
ที่มีมากมายหลากหลาย แต่ที่ชอบมากๆคือ ดอกไม้
   และต้นไม้ที่โครงการนำมาปลูกเป็นผลผลิตขาย
  โดยเฉพาะต้นบ๊วยนั้นปลูกเป็นระเบียบสวยงามมาก
   รับรองว่าถ้าท่านได้ไปเที่ยวก็อดไม่ได้
ที่จะต้องเก็บภาพสวยๆมาแน่นอน
   แต่ถึงแม้ท่านยังไม่มีโอกาสไป 
  ก็เที่ยวกับเราก่อนก็แล้วกันนะ
   เพราะจะพยายามเล่าเรื่อง
  และเก็บภาพส่วยๆมาฝากทุกท่านให้มากที่สุด
   เมื่อเรามีความสุขแล้ว
เราก็อยากจะแบ่งปันความสุขนี้
ให้กับพี่น้องชาวไทยทุกคนด้วย 
  มาเที่ยวชมดอกไม้สวยๆ
และมีความสุขด้วยกันนะคะ




นี่คือแปลงผักกาดแก้ว 
 (เรียกอย่างนี้ใช่หรือเปล่าก็ไม่รู้)
ที่เขาใช้ทำผักสลัดน่ะ ต้นยังไม่โตเท่าไรแต่ก็งามมาก
  เมื่อโตได้ที่แล้วเขาก็จะตัดไปแพ็คส่งยังที่ต่างๆ
  ที่จำหน่ายสินค้าของโครงการหลวง
สถานที่แพ็คก็อยู่ใกล้ๆกับบ้านที่เราพักนั่นแหละ
 ห้องที่แพ็คสินค้าโครงการหลวงนั้น
เขาสะอาดสะอ้านถูกต้องตามหลัก
ของกระทรวงสาธารณสุขเลยละ
และจะมีรถบรรทุกของโครงการหลวง
ซึ่งเป็นตู้มิดชิดมาขนไปส่งจำหน่ายทุกวัน








หน้าโรงเรือนจะมีซุ้มต้นมะระแม้ว (หรือมะระหวาน)
 เลื้อยทอดยอด ออกลูกให้ชมกัน สวยงามมาก
   มะระนี้น่ะถ้าชื่อผิดอย่าว่ากันนะ
เพราะเราก็เพิ่งเคยเห็นต้น
   แต่ผลเคยรับประทานแล้วแต่ไม่บ่อย
รสชาติก็พูดได้ว่าหวานจริงๆ 
  ผัดไข่ก็อร่อย ผ่าต้มจิ้มน้ำพริกก็อร่อยเช่นกัน
   แต่ยังสงสัยว่าทำไมเรียกมะระนะ
   เพราะไม่เห็นจะมีรสขมเลย
   ถ้าท่านไปพบที่ไหน
ลองซื้อมาทำอาหารรับประทานดูนะ
อร่อยจริงๆจ้า








เมื่อเข้าไปในโรงเรือนเรา
จะเห็นต้นมะเขือเทศลูกเล็กๆเท่าลูกองุ่น 
  สมัยที่เรารับราชการอยู่ภาคเหนือ
มะเขือนี้คนเหนือเขาเรียก มะเขือส้ม 
  เขาใช้ใส่น้ำพริกอ่อง
   และใส่แกงทางเหนือหลายชนิดเชียว 
  รสชาติก็ออกเปรี้ยวนะ อร่อยอีกนั่นแหละ
  เราชอบทาน 
เป็นไม้เลื้อยที่เวลาออกลูกแล้วจะสวยงามมาก
   เอามาฝากนะจ๊ะ














เดินไปได้สักพักก็เหลือบไปเห็นต้นอะไรนะ
มีลูกเหมือนมะเขือเทศ
ขนาดเท่ามะเขือเทศสีดาลูกใหญ่นั่นแหละ
   รูปลักษณะกลมรี
แต่ทำไมต้นถึงได้สูงนักนะ
   ต้นสูงขนาดเราต้องแหงนมองลูก
และลักษณะต้นก็เป็นไม้ยืนต้น
   ไม่เลื้อยอย่างมะเขือเทศทั่วไป
มีเพียงผลเท่านั้นที่เหมือนมะเขือเทศมาก
   ด้วยความสงสัย จึงถามเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่
ว่ามันคือต้นอะไรเหมือนมะเขือเทศมาก
เจ้าหน้าที่ได้ให้ความกระจ่างว่า
   มันคือมะเขือเทศนี่แหละแต่เป็นพันธุ์ใหม่
เหมือนไม้ยืนต้นทั่วไป
   ไม่เลื้อยให้เกะกะแต่ออกลูกปกติ
และรสชาติก็คือมะเขือเทศนั่นเอง
   ไม่ได้ลองชิมหรอกเขาบอกมาเรา
ก็บอกไปก็เท่านั้น








เดินผ่านมาอีกหน่อยก็พบกับแปลงกล่ำปม
  รูปร่างต้นเราก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละ
   ปมเธอเป็นสีม่วงอมชมพูสวยเชียว
  สงสัยว่าเนื้อเธอคงจะหวานอร่อยละนะ
   ยังไม่เคยลองสักที แต่แค่เห็นต้น
เธอก็หลงความงามซะแล้ว








ใกล้ๆกัน เห็นดอกกล่ำที่เราเห็นในตลาดทั่วไป
  เธอสวยเมื่ออยู่กับต้นเลยถ่ายรูปมาให้ดูเล่น
   สวยไม๊จ๊ะ





นี่ก็ดอกสวย น่าจะเป็นดอกกวางตุ้งนะ
  เดาเอาน่ะ เห็นดอกเธอสวยอย่างนี้แล้ว
อยากปลูกไว้ชม มากกว่าปลูกไว้รับประทานนะ
   แต่ที่แน่ๆลวกจิ้มน้ำพริกน่ะ อร่อยเชียวละ











และดอกที่เป็นสีชมพูหวาน ดั่งนางในฝันนี่น่ะ
 เขาเรียกดอกท้อ ที่เรียกถูกเพราะ
เห็นลูกท้อห้อยอยู่ตรงปลายกิ่ง 
 คิดว่าคงไม่ผิดหรอก ทีนี้ก็กระจ่างแล้วซินะ
ว่า ทำไมคนจีนจึงเปรียบสาวสวยเหมือนดอกท้อ
    ก็ดูซิเธองามจนแทบไม่มีที่ติ สวยขาดบาดใจจริงๆ
เห็นด้วยไม๊จ๊ะ อย่างนี้ถ้านำไปปลูกบ้านเราละก็
  รับรองว่าไม่ว่ากี่ชาติก็ไม่ได้สัมผัส
ความงามของดอกเธอหรอกจ้า.....
ยกเว้นเธอจะเดินได้และมีลมหายใจเท่านั้น
  เหล่าชายหนุ่มทั้งหลายถึงจะเอามาขยายพันธุ์
ได้ อ้าว...เขียนไปเขียนมา 
  จากดอกท้อจะกลายเป็นสาวงามซะแล้ว
ฮิๆๆๆๆ








และนี่ก็คือต้นบ๊วย เห็นไม๊จ๊ะ
กิ่งก้านของเธอน่ะถึงแม้จะเกะกะแต่ก็งามเชียว 
  แค่ต้นก็งามจนตะลึงแล้ว ยังไม่เคยเห็นดอกเลยนะ
ไม่รู้จะงามปานใด ตามป้ายระบุว่า
ต้นเธอปลูกเมื่อ พ.ศ.2517
คงก่อนพวกคุณๆเกิดนะ แต่เธอก็อายุยืน
   แม้จะเปรียบกับคนแล้ว
ก็เข้าวัยกลางคนแล้วละ
   และอายุเธอคงจะยืนยาวต่อไป 
 ไม่น่าจะตายง่ายๆหรอก (คิดเอาเอง) 
 แต่ยังไงก็ตามเธอก็คงจะได้รับการดูแล
เอาใจใส่อย่างดีทีเดียว
   และเธอน่าจะผลิตอกออกผลมากมาย
ให้สมกับการดูแลเอาใจใส่เธอเป็นแน่แท้


























โคนต้นเธอยามเข้าสู่หน้าหนาวนี้
  เจ้าหน้าที่ยังลงไม้ดอกไว้ให้ชม
  แม้ต้นจะยังเล็กแต่ก็ออกดอก
งามตระการตามากมายเชียวละ
เขาเข้าใจนะไหนๆก็ต้องให้ปุ๋ยโคนต้นอยู่แล้ว 
  เอาดอกไม้รากตื้นมา
ปลูกให้สวยงามซะเลย เยี่ยมจริงๆ











ชมความงามของเรือนเพาะชำและต้นบ๊วยไปแล้วต่อไป
เราจะพาไปชมสวนไม้ดอกกันนะ สวยจนตะลึงเชียวละ


Create Date :28 พฤศจิกายน 2554 Last Update :10 กันยายน 2561 11:11:56 น. Counter : Pageviews. Comments :2