bloggang.com mainmenu search
{afp}
Wedge Platform SandalsWomens Flat Leather Fringe SandalBlue SandalsBorn Black SandalsClark Black Patent SandalCrocs Patra SandalsDiscount Rainbow SandalsDiscount Teva SandalsHandmade Leather SandalsKeen Coronado Sandal SaleKeen Sandals Outlet StoreKeen Venice Woman SandalsMen'S Platform SandalsMexican SandalsRafe New York SandalsSam Edelman Women'S Nilla High Heel Gladiatior SandalScott SandalsThe North Face Sandals MensWide Width Sandals WomensWomen Platform SandalsBest Price Womens Crystal Rainbow SandalsBirkenstock Birki Fuji SandalsBite Orthosport SandalsBronze SandalsChaco Women'S Z1 SandalCheap Purple Wedge SandalsColumbia Pfg Dorado Sandals SaleDiscount Dunham SandalsGold Sandals For Little GirlsLadies Walking SandalsLow Heel Closed Toe Slingback SandalsLow Heeled Silver SandalsMens Fisherman SandalsMens Nike SandalsMerrell Asheville SandalsNike Comfort Thong SandalsPurple SandalsRed Huarache SandalsReef Sandals OnlineReef Stash SandalsRope Sandals InstructionsSandals For MenSandals Leather HandmadeSize 14 Mens Dress SandalsTall Gladiator SandalsThong Sandal Toe CushionsWhite Sandals For Toddler GirlsWomens Croc SandalsWomens Keen H2 SandalsYellow Sandals




เคยสังเกตกันรึเปล่าว่าในการแข่งขันกีฬาระดับโลก อย่างเทนนิสเนี่ย


พวกนักกีฬาเค้ามักจะกินผลไม้อะไรเป็นประจำในเวลาพักระหว่างเกม ... ฮี่ฮี่ ...ไม่น่าเชื่อว่ามันก็คือ "กล้วย" นั่นเอง!! กล้วย มีน้ำตาลธรรมชาติถึง 3 ชนิดเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ ซูโครส (Sucrose), ฟรุคโตส (Fructose) และ กลูโคส (Glucose) รวมไปถึงพวกไฟเบอร์หรือเส้นใยต่างๆ ซึ่งทำให้กล้วยกลายเป็นแหล่งพลังงานขนาดใหญ่ที่ร่างกายสามารถนำมาใช้ได้ทันที จากการวิจัยพบว่า กล้วยเพียงแค่ 2 ลูกก็ให้พลังงานเพียงพอสำหรับการทำงานอย่างหนักเป็นเวลา 90 นาทีได้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่กล้วยเป็นผลไม้คู่กายอันดับหนึ่งของพวกนักกีฬาชั้นนำระดับโลก





นอกจากกล้วยจะให้พลังงานมากมายแล้ว


กล้วยยังช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และเพิ่มความแข็งแรง สมบูรณ์ให้กับร่างกายของเราได้อีกด้วย อาทิเช่น โรคซึมเศร้า จากการสำรวจโดย MIND ในกลุ่มของผู้ที่มีอาการซึมเศร้า หลายๆ คนรู้สึกดีขึ้นเมื่อทานกล้วยเข้าไป นี่เป็นเพราะว่ากล้วยมีส่วนประกอบของ Tryptophan ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายของเราจะเปลี่ยนให้เป็น Serotonin ที่รู้จักกันดีว่าจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ทำให้อารมณ์ดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น





PMS (Premenstrual Sysdrome - อาการแปลกๆที่ผู้หญิงเป็นก่อนมีประจำเดือน) ลืมการกินยาไปได้เลย


กินกล้วยกันดีกว่า กล้วยมีส่วนประกอบของวิตามิน B6 ที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดของคุณให้คงที่ ซึ่งมีผลไปถึงอารมณ์ของคุณด้วย




โรคโลหิตจาง กล้วยมีธาตุเหล็กอยู่มาก ทำให้มันสามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงและช่วยรักษาอาการโลหิตจางได้


โรคเกี่ยวกับความดันโลหิต


กล้วยมีโปแตสเซียม (Potassium) สูงมากในขณะที่มีเกลือต่ำ ทำให้มันเป็นผลไม้ที่เหมาะสมที่สุดในการจัดการกับความดันเลือด มันให้ผลดีขนาดที่ว่าองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกายอมให้โรงงานผลิตกล้วยกล่าวอ้างได้ว่ากล้วยช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวกับความดันโลหิตได้





ยุงกัด


ก่อนที่จะไปหยิบเอายาทายุงกัดมาใช้ ลองเอาผิวด้านในของเปลือกกล้วยมาถูๆบริเวณที่ยุงกัดดู หลายคนพบว่ามันช่วยลดอาการบวมและคันได้อย่างไม่น่าเชื่อ (wow!!)




พลังสมอง นักเรียนกว่า 200 คนของโรงเรียน Twickenham


กินกล้วยพร้อมอาหารเช้า ช่วงพัก และอาหารกลางวันเพื่อช่วยเพิ่มพลังสมองในการสอบของปีที่ผ่านมา จากการวิจัยพบว่ากล้วยซึ่งอุดมไปด้วยโปแตสเซียมนี้ช่วยให้นักเรียนรู้สึกตื่นตัวมากขึ้นทำให้เรียนได้ดีขึ้นในที่สุด (wow!!)




โรคท้องผูก


กล้วยมีไฟเบอร์สูงช่วยให้ลำไส้ใหญ่ของเรากลับมาทำงานได้เป็นปกติโดยไม่ต้องพึ่งพาพวกยาถ่ายต่างๆอีกต่อไป







อาการแฮงค์ (เมาค้าง)


หนึ่งในวิธีรักษาอาการแฮงค์ให้เร็วที่สุดก็คือการกิน Banana milkshake ผสมน้ำผึ้ง กล้วยช่วยให้กระเพาะอาหารของเรากลับมาอยู่ในสภาพปกติน้ำผึ้งช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด และนมจะช่วยเพิ่มน้ำให้กับร่างกายของคุณได้ด้วย




อาการเจ็บเสียดหน้าอก


กล้วยช่วยให้เกิดปฏิกริยาในร่างกายที่จะไปหักล้างพวกกรดในกระเพาะอาหารที่มีเยอะเกินไปได้ (กรดพวกนี้แหละที่ทำให้เรารู้สึกเจ็บเสียดที่หน้าอก) การกินกล้วยจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดนี้ได้




Morning Sickness




(อาการคลื่นไส้และอาเจียนเวลาตื่นนอนตอนเช้าจะเป็นมากในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ระยะแรก) การกินกล้วยเป็นของว่างระหว่างมื้อจะช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดของคุณซึ่งสามารถช่วยลดอาการ morning sickness ได้




แหล่งที่มา: บอร์ดรวมเรื่องน่าอ่าน

 


From: //variety.teenee.com/foodforbrain/778.html
Create Date :10 มีนาคม 2553 Last Update :10 มีนาคม 2553 11:49:49 น. Counter : Pageviews. Comments :0