ทุกวันนี้ความรักที่ปัญหาของหนุ่มสาวทั่วไปเรามักจะพบว่ามีสาเหตุมาจากการพัฒนาความสัมพันธ์อย่างไม่ถูกต้องและข้ามขั้นเร็วกว่าที่ควร ควรจะเป็น ซึ่งอาจไปไกลถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งโดยที่ยังไม่รู้จักกันดีพอทั้งที่ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม




กลับเกิดความรู้สึกว่า"ความรักคือความ ทุกข์"นั่นก็เป็นเพราะเราไม่เข้าใจและไม่ระมัดระวังให้อยู่ในขอบเขตไม่ได้รอคอยเวลาอย่างเหมาะสมตามขั้นตอนการพัฒนาความสัมพันธ์เหมือนการก้าวขึ้นบันไดทีละขั้น ละขั้นดังนั้นโอกาสที่จะพลาดตกลงมาให้เจ็บตัวเจ็บใจจะไม่เกิดขึ้นแน่




บันไดขั้นที่ 1


1 เริ่มจากความเป็นเพื่อน การข้ามขั้นดูไม่ค่อยราบรื่นและเป็นการผิดพลาดในการเดินอย่างมากเราควรที่จะเดินไปตามระดับดีกว่ารอซักนิด ค่อยเป็นค่อยไป

โดยเริ่มจากการมองคนที่เราสนใจ



เหมือนการมองเพื่อนๆคนอื่นอย่าปล่อยใจให้มีความรู้สึกว่าเขาเป็นคนพิเศษของเราต้องเริ่มจากการเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก่อพยายามรักษาสภาพของความเป็นเพื่อนเอาไว้ด้วยความบริสุทธิ์ใจก่อนเป็นอันดับแรก


บันไดขั้นที่ 2


2 ดูเขาในการเป็นเพื่อนกับคนอื่นถ้าคนที่เราคิดจะเลือกคบเป็นเพื่อนสนิทแต่ทว่าเขาเองกลับล้มเหลวในการเป็นเพื่อนกับคนอื่น กล่าวคือไม่มีใครคบหรือคิดจะเป็นเพื่อนซี้กับเขาเขาซักคน



ถ้าเป็นเช่นนี้เรารีบถอยเพราะเขาเป็นคู่รักที่ดีกับเราไม่ได้

หากตกลงปลงใจกับเขาไป ชีวิตรักก็มีแต่ความขุ่นมัวในใจ เพราะถ้าเขาไม่รู้จักการเป็นเพื่อนที่ดีกับคนอื่นเราต้องรู้ก่อนคบกันเป็นอย่างไรเมื่อคบแล้วเขาก็มีโอกาสจะเป็นเช่นนั้นแสดงว่าความมีมนุษย์สัมพันธ์ของเขาบกพร่องอย่างมาก


บันไดขั้นที่ 3


3 พัฒนาความสัมพันธ์การเป็นคู่รักครั้งละคนการพัฒนาความรักแบบเราเป็นนายสถานีรถไฟคอยสับรางเพื่อไม่ให้รถไฟซึ่งมีหลายขบวนเหลือเกินชนกันเป็นการพัฒนาขบวรความรักที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นผลดีต่อตัวเราเลยเพราะการคบพร้อมกันหลายๆคนการดูชีวิต



อีกฝ่ายจะไม่สามารถทราบรายละเอียดในตัวของเขาอย่างลึกซึ้งเพียงพอ เราจะรู้จักแต่ละคนอย่างผิวเผิน โดยส่วนใหญ่มักจะเกิดปัญหาและเป็นความกังวลที่จะต้องปิดบังอีกฝ่ายหากความลับถูกเปิดเผยเราจะสูญเสียทั้งหมด

เรียกว่าทุกคนเจ็บปวดทั้งหมด อีกทั้งยังไม่ยุติธรรมต่อผู้ที่เราคบเลย


บันไดขั้นที่4


4 พิจารณาให้มั่นใจว่าอีกฝ่ายสามารถเป็นคู่ชีวิตของเราได้หากเราคิดจะพัฒนาความสัมพันธ์กับใคร ต้องแน่ใจตัวเองเสียก่อนว่าคนที่เราจะพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไปนั้นคือคนที่เราจะแต่งงานด้วย หากไม่ได้คิดก็อย่าพัฒนาต่อไปควรหยุดอยู่แค่นั้นไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลยที่เราคบ



คบกับใครโดยไม่มีเป้าหมายที่จะใช้ชีวิตคู่กับเขาผู้ชายบางคนถือคติว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลก พยายามทำทุกอย่างให้ผู้หญิง สงสารเห็นอกเห็นใจเพื่อจะได้พัฒนาความสัมพันธ์กับตนความจริง



การสงสารเป็นเรื่องอันตรายเช่นกัน เพราะหากปราศจากความรักก็ไม่มี ประโยชน์อะไรและการที่คนพิการจะแต่งงานกับคนปกติก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่เราต้องคิดให้ดีไม่ใช่เพราะความสงสารเป็นอันดับแรกจึงตามมาด้วยเรื่องของความรัก


บันไดขั้นที่5


5 ความสัมพันธ์ต้องพัฒนาอย่างช้าๆเป็นไปอย่างปกติช้าๆได้พร้าเล่มงามสุภาษิตไทยคำนี้ดูเหมือนจะยังใช้ได้ดีเสมอ โดย เฉพาะกับการเลือกคู่ชีวิตที่มีความสำคัญมากการอดทนรอคอย ค่อยเป็นค่อยไปอย่างเป็นธรรมชาติจะทำให้เรามองอะไรได้กว้างขึ้น



และเห็นลักษณะนิสัยของอีกฝ่ายได้ครบทุกๆด้าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องระมัดระวังประคับประคองจิตใจกันและกันด้วยอย่าบังคับฝืนใจอีกฝ่ายหนึ่ง

หากอีกฝ่ายไม่พร้อมที่จะไปสู่ขั้นต่อไป เราก็ต้อง รอ เราต้องให้ความสัมพันธ์พัฒนาไปในเวลาที่ควรจะเป็น



คือสามารถคบ กันได้ เข้ากันได้จริงๆ ไม่ใช่เป็นการพยายามกระตุ้นเร้าจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือใช้วิธีบีบบังคับให้ตัดสินใจตามความต้องการของอีกฝ่ายหนึ่ง




บันไดขั้นที่6


6 การตัดสินใจทุกอย่างต้องพิจารณาตามเวลาที่เหมาะสมเป็นเรื่องที่น่าตกใจที่เห็นหนุ่มสาวตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกันเป็นสามี ภรรยาทั้งที่รู้จักกันไม่กี่เดือนหรือบางคนยังเรียนอยู่เลย แต่เดินเกี่ยวก้อย เกาะแขนกันตามสถานที่ต่างๆประกาศตัวว่าเป็นแฟนเป็นเจ้าของกันและ กัน



ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม ยังไม่ถึงวัยอันควรแต่ไปฝากรักกับใครเสียแล้วโดยเฉพาะกับคนที่ยังเรียนอยู่ควรรู้ว่าชีวิตเราต้องเจอการเปลี่ยนแปลงทั้งสถานภาพและความรับผิดชอบที่จะแปรเปลี่ยนอีกมากเราต้อง

ไม่ตามแฟชั่นที่ผิดๆเพราะเราเห็นอยู่แล้วว่ามีน้อยมากที่จะมั่นคงเป็นคู่


บันไดขั้นที่ 7
7การตกลงกันเป็นคู่รักต้องตอบคำถามเหล่านี้ก่อน



1.เรารู้จักกันมากเพียงไร



2.พิจารณาว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วหรือยัง



3.เป็นความต้องการของทั้งสองฝ่ายหรือไม่



4.เก็บการตัดสินใจของเราไว้แล้วปรึกษาผู้ใหญ่ ท่านคิดเห็นอย่างไร



5.การพัฒนาความสัมพันธ์ปล่อยให้เวลาพาไปอย่างแท้จริงหรือไม่



6.ตั้งขอบเขตที่ถูกต้อง



วางตัวอย่างเหมาะสมร่วมกันดีแล้วหรือไม่



7.พร้อมหรือยังที่จะแสดงถึงการผูกพันสนิทสนมต่อผู้อื่นโดยเปิดเผย


ขอบคุณแหล่งข่าว: love story

 


From: //variety.teenee.com/foodforbrain/1273.html