หลังจากทำเค้กเนื้อชิฟฟอนมาหลายก้อน อย่าง..
เค้กเผือก..เค้กชาไทย..เค้กใบเตย..เค้กกาแฟ..เค้กลิ้นจี่..และเค้กลำไย
และแฮปปี้กับเนื้อเค้กที่ได้
เราก็เกิดอยากลองตีเค้กเนื้อสปันจ์บ้าง

แต่ต้องเป็นสปันจ์แบบไม่ใส่ SP นะคะ

คือนอกจากเจ้าเอสพีนี่จะหาซื้อที่นี่ไม่ได้แล้ว
ต้องสั่งซื้อออนไลน์ ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ

เรามีความคิดว่า... แล้วก่อนหน้าที่จะมีเอสพีเกิดมาในโลก
คนโบราณเค้าก็ตีสปันจ์ โดยไม่มีเอสพีน่ะ
ทำไมเค้าทำเค้กได้ล่ะ

ลองเสริชหาสูตรและวิธีตีสปันจ์ โดยไม่ใส่พวกเอสพีหรือโอวาเล็ต
เจอหลายๆอัน พูดถึงตีสปันจ์แบบใช้วิธีชิฟฟอน
ก็เลยลองวิธีนี้ก่อนละกัน อย่างน้อยเราก็พอคุ้นวิธีทำชิฟฟอนแล้ว
สูตรและวิธีตีวันนี้ ใช้สูตรเค้กนมสดบลูเบอร์รี่ ของคุณบี่บี๊ นะคะ
ขอบคุณคุณบี่บี๊ มา ณ.ที่นี้ สำหรับสูตรเค้กที่อร่อยสุดๆค่ะ

ปล.ในรูปจะเห็นครีมออฟทาร์ทาร์ คุณบี่บี๊ ไม่ได้บอกให้ใส่ตอนตีไข่ขาว
เราเพิ่มเข้าไปเองค่ะ เห็นว่าไหนๆก็ตีไข่ขาวแบบชิฟฟอนแล้ว

แต่ถึงยังงั้นก็ตาม...
พอจะทำสปันจ์เค้กนี่ ใจก็ตุ้มๆต่อมๆแล้ว
คงจะเพราะเวลาอ่านๆเจอเรื่องเค้กสปันจ์ มักจะเจอว่ามันเป็นเค้กปราบเซียน เค้กอาถรรพ์ เค้กขั้นเทพ
เลยใจแป้วอ่ะค่ะ แบบฝ่อตั้งแต่เริ่มร่อนแป้งกันเลย
แถมตลอดเวลาที่ทำก็ลุ้นกันยังกะเล่นเกมส์



วันนี้ทำแบบใจเสียลงเรื่อยๆ
ได้แต่หวังว่าตอนสไลด์ออกมา จะไม่เห็นเนื้อเค้กเป็นไต

วิธีที่คุณบี่บี๊สอนไว้ บอกว่า...
ตีไข่ขาวให้ตั้งยอดอ่อนๆ แล้วเติมไข่แดงลงไปทีละฟอง ตีความเร็วสูงให้ข้นขาวอยู่ตัว ตีประมาณ 8 นาที เทสต์ ribbon stage

เราตียังไงก็ไม่ ribbon น่ะ

น้องสาว (แม่บ้านครอว์ฟอร์ด) ก็เคยพูดถึงว่าตีเค้ก ต้องเป็น ribbon stage
ribbon stage มันเป็นยังไงก็ไม่รู้ เพราะเราไม่เคยตีได้เลย

ตีไป 40 นาที ก็ไม่ ribbon...เลิกแระ!
ตีนานไปแล้ว พอแค่นี้ละกันค่ะ
เข้าเตาอบแล้ว






ตอน 15 นาที เค้กไม่ค่อยฟูมาก
ตอน 30 นาที เหมือนจะหดตัวลงนิดนึงด้วย




สุกแล้วเค้กไม่สูงมาก
แต่สำหรับเค้กที่ไม่ได้ใส่เอสพี น่าจะโอเค...มังคะ


สไลด์แค่สองชั้น ...สบายๆค่ะ

เนื้อเค้กดูดีค่ะ ไม่มีไต เย้ยยย!






ตีวิปครีม แต่ลืมใส่วนิลา
สตรอเบอรี่ซอสใช้แบบสำเร็จรูปนะคะ




ปาดวิปไม่ค่อยเรียบ ราดซอสแล้วออกมาเป็นงี้ค่ะ








มาดูเนื้อเค้กกัน


ไม่ไต




นุ่มมมค่ะ




ในรูปเนื้อดูหยาบไปนิด แต่เวลาทานอร่อยนะคะ

ความที่ทำเค้ก-ลุ้นเค้กมาก เลยไม่ได้ทานอะไรทั้งวัน
เราอีเมล์บอกคุณ K ว่าหิวมาก แต่หมดแรงแล้ว
ช่วยซื้อพิซซาถาดกลางกลับบ้านมาด้วย

คุณ K ทานข้าวที่ทำงานแล้ว เลยทานพิซซาแค่ชิ้นเดียว แล้วนั่งดูเราทานจนหมดถาด
คุณ K ใช้มุขก้มลงดูใต้โต๊ะตามเคยค่ะ


ส่วนเค้ก... คุณ K ชิมไป 2-3 คำ เพราะอิ่มมากแล้วตอนนั้น
เค้าว่า..
"For the look, I give it 10".

เราว่า..
"Never mind the look...I want to know about the taste".
(จริงๆนะคะ เวลาทำเค้กเราไม่ค่อยสนใจเรื่องหน้าตาสวยงามมั๊ยน่ะ
ขอให้เค้กฟู ไม่ไต รสอร่อย...พอใจแล้วค่ะ)

คุณ K..
"It is good...I give it 10".

April 30, 2011