งาน ชีวิต ทางเลือก ... งานจิตอาสา คือ งานบุญ
วันที่ ๑๐ ตุลาคม๒๕๖๐ .. ไปร่วมกิจกรรม ใน การประชุมโครงการ DHML ครั้งที่ ๕ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้จัดและผู้ร่วมประชุม เกี่ยวกับแนวคิด การทำงาน ชีวิต จึงนำมาแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อบันทึกเผยแผ่ เผื่อมีคนสนใจ ^_^
ตอนที่หนึ่ง : งาน ชีวิต ทางเลือก
งานเพื่อเงิน งานประจำ ผลตอบแทน เป็น ค่าจ้าง เงินเดือน ค่าตอบแทน นำมาใช้จ่ายดำรงชีวิตเลี้ยงดูครอบครัว
งานเพื่อชีวิต งานอดิเรกงานทำตามฝัน งานจิตอาสา งานอาสาสมัคร ผลตอบแทน เป็น ความสุข ความสบายใจ
มีคนน้อยมากที่ได้ ทำงาน แบบที่อยากทำ และได้เงินด้วย
ทำงานเพื่อเงิน อย่างเดียว ชีวิตก็แห้งแล้งอับเฉา เครียด ทุกข์ แต่ถ้า ทำงานเพื่อชีวิต อย่างเดียวก็อาจทำให้ตนเอง ครอบครัว เดือดร้อน ขาดเงิน .. แต่ละคนก็ต้องพิจารณาเอาเองว่าแค่ไหนจะเหมาะกับตนเองที่สุด มีเงินและมีความสุข (ตามสมควร)
ถ้าเมื่อไหร่ เราทำงานแล้วรู้สึกทุกข์ แสดงว่าต้องมีอะไรที่ผิดปกติ
ทำงานประจำ มีรายได้ เพื่อดำรงชีวิต แต่ งานไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต อย่าคิดว่า ตัวเราสำคัญกับงานจนเกินไป เพราะถ้าเราเป็นอะไรไป ไม่กี่วันก็มีคนมาทำงานแทน สุขภาพสำคัญกว่า เพราะเมื่อเวลาเจ็บป่วยเราหยุดงานทุกอย่าง เพื่อพักรักษาตัว ก็แสดงว่า สุขภาพ ชีวิตของเรา สำคัญกว่างานที่เราทำ ใช่หรือไม่ ?
เมื่อถึงเวลาต้องเลือก อะไรสักอย่าง ต้องเลือกสิ่งที่แตกต่างจากที่เคยทำมีข้อพิจารณา คือ
๑. ข้อดี ข้อเสีย ทำเป็นตาราง ด้านหนึ่งเป็นข้อดีของทางเลือกใหม่ อีกด้านเป็นข้อเสียของทางเลือกใหม่ ค่อย ๆ เขียนไปเรื่อย ๆ สัก ๑ เดือน ว่าง เมือไหร่นึกออกเมื่อไหร่ ก็เขียนลงไปทุกวัน พอครบ ๑ เดือน ค่อยนำมาเรียบเรียงพิจารณาขบคิด
๒. ข้อเสียที่เลวร้ายที่สุด ของทางเลือกใหม่ คือ อะไร ยอมรับได้หรือไม่
ถ้าพิจารณาครบถ้วนแล้ว คิดว่า ๑.ข้อดีมากกว่าข้อเสีย และ๒.ข้อเสียที่เลวร้ายที่สุด สามารถยอมรับได้ ก็ลุยได้เลย แต่ถ้ายังไม่แน่ใจก็รอไปก่อน
ถ้าตัดสินใจ เลือกเส้นทางใหม่ ต้องมีการเตรียมตัววางแผนล่วงหน้าเป็นขั้นเป็นตอน ว่า จะเปลี่ยนเมื่อไหร่ต้องเตรียมอะไรบ้าง ฯลฯ ไม่ใช่ว่า นึกอยากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนทันที
ตอนที่สอง :งานจิตอาสา งานอาสาสมัคร คือ งานบุญ
งานจิตอาสา งานอาสาสมัคร งานสาธารณะ เราทำเพราะเราอยากทำ สิ่งที่ตอบแทนก็คือ ความสุขความสบายใจ ไม่ใช่เงิน ซึ่งเปรียบได้กับ การทำบุญ ในศาสนาพุทธทำบุญแล้วได้ความสุขทางจิตใจ ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ถ้าทำแล้วเกิดความทุกข์ใจ(เบียดเบียนตนเอง) ก็ไม่ได้บุญ ทำงานจิตอาสาแล้วทุกข์ใจ แล้วเราจะทำไปเพื่ออะไร ?
ข้อคิด งานจิตอาสา งานอาสาสมัคร
๑. ก่อนจะทำ ถ้าพิจารณาแล้วว่า ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ก็ทำได้เลยคิดไว้ในใจเลยว่า ทำได้ก็ดี ทำไม่ได้ก็แล้วไป - ทำเท่าที่ทำได้ตามกำลังความสามารถที่ตนเองมี ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น
๒. เมื่อลองทำแล้ว รู้สึกว่าเป็นทุกข์ ให้กลับมาพิจารณาว่า เกิดจากอะไรลองหาหนทางแก้ไข (ทำแล้วเราไม่ทุกข์) แต่ถ้าลองพยายามแล้วไม่ได้ผลทำแล้วยังทุกข์อยู่ ก็ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร แนะนำให้เลิกทำ เอาเวลาไปทำงานอื่นยังมีอีกเยอะแยะที่ให้เราทำ เอาไว้มีโอกาสค่อยกลับมาทำใหม่ก็ยังได้
๓. เงิน คน อาจเป็นปัญหา แต่ ไม่ใช่อุปสรรคมีทุนแค่ไหนก็ทำแค่นั้น มีคนแค่ไหน ก็ทำแค่นั้น งานใหญ่แค่ไหนก็มักจะเริ่มจากคนไม่กี่คน ซึ่งต่อมามีคนเห็นมีคนรู้ ถ้างานนั้นมันดีก็จะมีคนเข้ามาเพิ่มขึ้น ( คนแบบเดียวกัน ก็จะมีแรงดึงดูด คนแบบเดียวกัน มารวมกัน)มีเงินสนับสนุนมากขึ้น สามารถขยายขอบเขตงานให้มากขึ้น แต่ถ้าไม่มีเราก็ทำไปเท่าที่เราทำได้
๔. ทำงานเอาหน้า ทำดีต้องประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่อวดดีแต่เอาดีมาอวด เผื่อมีคนอยากทำดีเลียนแบบ หรือมาร่วมทำด้วยคนที่คิดเหมือนกันเขาจะได้รู้ เป็นการ รวมคน ร่วมคิด ร่วมทำร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็นวงจรความดีที่ช่วยกันหนุนส่งให้ทุกคนดีขึ้นแต่ถ้าเราไปร่วมทำกับเขาไม่ได้ เราก็ช่วยส่งเสริม ด้วยการ ชมและแชร์ ทำหน้าที่เป็น ผู้สื่อสารความดี(ผ่านเฟส ผ่านไลน์ ฯลฯ) เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ที่ทำงานจิตอาสา เผื่อมีช่องทางช่วยเหลือกัน
๕. ในส่วน ข้าราชการ นักการเมือง นักธุรกิจ สามารถมาช่วยงานได้เราทำงาน แต่ให้เขาออกหน้า ยกย่องให้เกียรติเขา ในฐานะเป็นผู้สนับสนุน แต่ เราไม่ใช่ลูกน้องที่ต้องทำตามที่เขาสั่งทุกคนมาทำงานสาธารณะด้วยความเท่าเทียมกัน เป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีงามเหมือนกัน
๖. คิดต่างทำต่าง ไม่ได้รับรองว่าผลจะดี แต่ รับรองได้ว่าลำบากยากแน่
การคิดต่างทำต่างเหมือนการสร้างเส้นทางใหม่ จากถนนลาดยาง อ้อมไปมา เราอยากหาทางลัดผ่านป่าผ่านน้ำเพื่อให้เร็วขึ้น ก็ต้องยากลำบากเป็นธรรมดาจึงต้องอาศัยความมุ่งมั่น ทุ่มเท และ กำลังใจมากขึ้น
คิดเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม ผลก็ออกมาเหมือนเดิม จะไปหวังว่าจะเกิดอะไรใหม่ ๆ คงไม่ได้ ถ้าจะให้เกิดผลที่แตกต่างจากที่เคยเป็นมาก็ต้อง คิดต่างทำต่างก็ได้ผลใหม่ การคิดต่างทำต่างจากเดิม อาจสำเร็จได้ผลดีหรือ ล้มเหลวก็ได้ แต่ ถึงแม้ว่าจะล้มเหลว อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าสิ่งที่เราคิดต่างทำต่างไปนั้น ไม่ได้ผล
แถมท้าย : เก็บตกจากวิทยากรอ.สุรเกียรติ อาชานุภาพ และ อ.แดง ?
- กระตุก ต่อมเอ๊ะ เอ๊ะ... เอ๊ะ ... เอ๊ะ
- คิดต่างได้ แต่ คิดแล้วต้องลงมือทำ
- ดี อยู่ที่ตัวเอง ชื่นชม ตัวเอง กำลังใจ อยู่ที่ตัวเองไม่ต้องขอ ไม่ต้องรอคนอื่นเอากำลังใจมาให้ ( ประตูเปิดจากด้านใน ต้องเปิดเอง )
- ทำในสิ่งที่ คนสนใจ อยากจะทำ ( เราสนใจ ในสิ่งที่เขาสนใจ )
- ขณะปลูกดอกไม้ เราไม่ได้อยู่กับการปลูกดอกไม้แต่มักมองไปถึงดอกไม้ ละเลยความสุขกับปัจจุบัน หวังความสุขในอนาคตเลยไม่มีความสุขทั้งปัจจุบันและอนาคต
- ตั้งใจฟัง ฟังแบบไม่คิด (ต่อเติมเสริมแต่ง จากสีแว่นของเรา)ชื่นชมเขา จากความรู้สึกข้างใน
- ทุกข์ เพราะ ๔ ป : ประชุม เฟ้อ ประกวด เฟ้อ ประเมิน เฟ้อ ประจบเฟ้อ
- แก้ทุกข์ ด้วย 4 ช :ชม แชร์ เชื่อม ช่วย
- ททท + ทททท : ทำทันที ทบทวนทันที
- คาถา สู้ผี เพิ่มความกล้า ที่จะเปลี่ยนแปลง : มีหัวใจ ใฝ่เรียนรู้ สู้สิ่งยาก
เครดิตภาพ เฟส คุณหมอไพฑูรย์ อ่อนเกตุ รพ.กำแพงเพชร เจ้าของโครงการดี ๆ แบบนี้
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1659139760792537&set=a.169711416402053.37413.100000895861965&type=3&theater
แชร์ สิ่งที่ผมคิด ^_^
https://www.facebook.com/notes/พนมกร-หมอหมู-ดิษฐสุวรรณ์/งาน-ชีวิต-ทางเลือก-งานจิตอาสา-คือ-งานบุญ/1139801032718805/
โดย: สมาชิกหมายเลข 4286561 22 ธันวาคม 2560 16:25:01 น.