วันนี้บล็อกของเราได้มีบทความน่าอ่านเกี่ยวกับเรื่องราวของเด็กสมาธิสั้น สำหรับครอบครัวใดที่กำลังกลุ้มใจ หรือมีปัญหา กังวลว่าลูกตนเอง จะเป็นเด็กสมาธิสั้นหรือไม่ หรือถ้าเป็นแล้วควรจะทำอย่างไร ลองอ่านบทความนี้ดู จะทำให้ท่านเข้าใจและยอมรับปัญหา เด็กสมาธิสั้นเพิ่มขึ้นนะคะ

ในประเทศไทยพบว่าเด็กที่มีอาการสมาธิสั้นสูงถึง 3-7 % และพบมากในเด็กวัยเรียนแล้วผู้ปกครองจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกเป็นสมาธิสั้น จะมีการสังเกตอย่างไรเราลองมาทำความเข้าใจและศึกษาของอาการเด็กกันก่อนค่ะ

1) อยู่ไม่นิ่งเด็กจะมีอาการว่อกแว่ก ทำไรได้ไม่นาน

2) ไม่อดทนชอบทำไรวู่วาม อาจมีการกระทำหรือพูดจารุนแรงต่อคนรอบข้าง

3) ไม่มีระเบียบทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกัน

4) เหม่อลอยสนใจต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ไม่นาน

5) ลืมง่ายถ้าบอกหรือสั่งให้ทำไร แต่พอผ่านไปได้ไม่นานกลับลืมหมด

ทำไมเด็กจึงเกิด “สมาธิสั้น”

ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอนแต่งานวิจัยพบว่ามีปัจจัยทางด้านพันธุกรรมเกี่ยวข้องด้วยโดยเด็กที่เกิดจากพ่อแม่ที่เป็นสมาธิสั้นมีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคนี้ได้มากกว่าเด็กอื่นๆสิ่งแวดล้อมเป็นพิษเองก้มีโอกาสทำให้เด็กเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน

เมื่อผู้ปกครองรู้สาเหตุเบื้องต้นของโรคเด็กสมาธิสั้นแล้วและพบว่าลูกของท่านเกิดอาการเหล่านี้อยู่สิ่งสำคัญคือห้ามปฎิเสธว่าลูกของท่านไม่ได้เป็นโรคนี้แต่ควรทำความเข้าใจและยอมรับควรเริ่มศึกษาหาแนวทางช่วยเหลือ เพื่อเพิ่มสมาธิของลูกท่านให้ดีขึ้นซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆโดยการเอาใจใส่ลูกของท่านให้มากกว่าเดิม สังเกตุการกระทำการพูดจา การเคลื่อนไหว และการตอบสนองต่อคำพูดของคนรอบข้างโดยเฉพาะคนในครอบครัวเพื่อน และผู้ปกครองที่อยู่ในโรงเรียน

วิธีง่ายๆที่สมารถช่วยเพิ่มสมาธิให้กับลูกได้

1) ยอมรับและเข้าใจว่าลูกของเราป่วยมีอาการ“เด็กสมาธิสั้น”

2) ไม่ปล่อยปละระเรยให้เด็กอยู่ในสายตาเสมอ

3) ควบคุมอาการไม่ให้โมโหง่ายเพื่อให้เด็กเอาเป็นแบบอย่าง

4) ไม่โต้เถียงกับเด็กหมั่นให้คำชมเมื่อเด็กทำความดี

5) ทำตารางงานเพื่อสร้างให้เด็กเกิดระเบียบวินัย

6) สร้างกิจกรรมขึ้นภายในครอบครัวให้เด็กมีส่วนร่วม

7) ปรับสิ่งแวดล้อมภายในบ้านเด็กได้รู้สึกปลอดภัยไม่ระแวง

8) หาโรงเรียนที่มีสภาวะแวดล้อมเหมาะกับเด็ก

9) ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลเด็กด้วยวิธีที่ถูกต้อง

โดยสรุปแล้วเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นนั้นไม่ได้แตกต่างจากเด็กอื่นๆทั่วไปมากมายเท่าใดเพียงแต่ขอให้ท่านยอมรับ เข้าใจปัญหา สาเหตุ และอาการ ดูแลใส่ใจอย่างเพียงพอก็จะสามารถช่วยเพิ่มความสามารถพัฒนาความคิดทักษะทางกาย ทางสมองเพื่อฟื้นฟูสิ่งที่เขาด้อยกว่าเด็กทั่วไปให้กลับมารู้สึกเหมือนเด็กปกติและดำเนินชีวิตประจำวันต่อไป สู่อนาคตที่ดีของเด็กในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ต่อไป

ถ้าหากคุณคิดว่าบุตรหลานของท่านอาจจะมีปัญหาเป็นเด็กสมาธิสั้น คุณสามารนำบุตรหลานของท่านมาขอรับคำปรึกษาได้ฟรีที่สถาบันหรือโทรมาขอรับคำปรึกษาเบื้องต้นได้ที่ หมายเลข 02656 9938 – 9  หรือกรอกข้อมูลที่ท่านต้องการสอบถามได้ที่ ContactForm ด้านขวามือแล้วเราจะติดต่อท่านกลับไปให้เร็วที่สุดค่ะ

BrainFit Studio ขอเป็นผู้แก้ปัญหาเด็กสมาธิสั้นให้บุตรหลานของท่าน คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ เลยค่ะ www.adbkk.com