"พระราชธรรมโกศล" เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี ลงนามขับ "เณรคำ" จากปกครองแล้ว จ่อดันเรื่องส่งต่อมหาเถระสมาคมขับจากความเป็นพระไทย...
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 ก.ค. 56 ที่กุฏิเรืองรังษี พระราชธรรมโกศล เจ้าอาวาสวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ และเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี ในฐานะต้นสังกัด พระวิรพล ฉายา ฉตฺติโก แถลงการณ์และลงนามในคำสั่งคณะสงฆ์วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ ที่ 1/2556 เรื่องให้พระในปกครองออกจากสังกัดวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ กรณีพระวิรพล ฉายา ฉตฺติโก อายุ 34 ปี 13 พรรษา สังกัดวัดพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ ออกจากสังกัดวัด เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าประพฤติตนไม่เหมาะสมกับสมณะสารูป มีการละเมิดวินัยเป็นอาจิณ เสพเมถุน ฟอกเงิน เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงมีหนังสือให้เข้ามาชี้แจงภายในวัยที่ 12 ก.ค. 56 เพื่อแก้ข้อกล่าวหา แต่บัดนี้พ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่าพระวิรพลไม่เข้าพบ จึงอาศัยอำนาจตามความใน พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) หมวด 5 มาตรา 38 วงเล็บ 2 ความว่า เจ้าอาวาสมีอำนาจสั่งให้บรรพชิต หรือคฤหัสถ์ ซึ่งไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาส ออกเสียจากวัด ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทำให้พระวิรพลต้องหาสังกัดใหม่ภายใน 3 วัน
ทั้งนี้ หลังจากพระราชธรรมโกศลเซ็นคำสั่งดังกล่าวแล้ว พระครูจิตวิสุทธิญาณคุณ เจ้าคณะอำเภอม่วงสามสิบ และเป็นพระเลขาฯคณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานี จะได้นำหนังสือดังกล่าวส่งไปให้เจ้าคณะภาค 10 ฝ่ายธรรมยุต และมอบให้ นายฉลอม ทีสี นักวิชาการศาสนาชำนาญการ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อส่งต่อให้มหาเถระสมาคม แจ้งวัดในสังกัดทั้ง 77 จังหวัด ไม่รับเณรคำเข้าสังกัด ส่งให้เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ทั้งเจ้าหน้าที่กองปราบปราม เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ พร้อมแจ้งให้ พระสุนาถมุนี เจ้าคณะอำเภอพิบูลมังสาหาร ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ ทราบว่ามีหนังสือขับออกจากสังกัดแล้ว เพื่อให้ดำเนินการออกหนังสือให้พ้นจากความเป็นลูกศิษย์ (พระสิทธิวิหาริ) ต่อไป โดยพระครูจิตวิสุทธิญาณคุณ ในฐานะเป็นพระเลขาฯ คณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานี กำลังเร่งออกหนังสือในเณรคำพ้นจากความเป็นลูกศิษย์ ให้พระสุนาถมุนีลงนามคำสั่ง เมื่อพระสุนาถมุนีลงนามแล้วก็ถือว่าเณรคำไม่ใช่พระสงฆ์ไทยอีกต่อไป.