bloggang.com mainmenu search

ภัยจากการทะเลาะวิวาท

         การพูดขัดแย้งกัน พูดไม่ตรงกัน โต้เถียงกัน ทะเลาะวิวาทกัน พูดไม่ถูกใจกัน ขัดผลประโยชน์กัน เป็นเหตุให้เกิดความบาดหมางกัน เป็นเหตุทำร้ายร่างกาย จิตใจ ทรัพย์สิน วงศ์ตระกูลเผ่าพันธุ์และประเทศชาติของกันและกัน

ท่านกล่าวว่ามูลเหตุสำคัญๆ ของการทะเลาะวิวาท มี 3 ประการ คือ

         1.วิวาทกันเพราะทรัพย์สมบัติ ผลประโยชน์

         2.วิวาทกันเพราะเชื้อชาติ ผิวพรรณ วงศ์ตระกูล

         3.วิวาทกันเพราะลัทธิความเชื่อถือทางศาสนาและการเมือง

         ประการที่ 1 วิวาทกันเพราะทรัพย์สมบัติ เพราะคนเราต่างก็มีความโลภปรารถนาเพื่อความสุขความสบายของตนของครอบครัวของหมู่ชนของตนเอง มีความเห็นแก่ตน เห็นแก่ได้ด้วยกันเป็นส่วนมาก ถ้าการแสวงหาเพื่อให้ได้มาโดยทางธรรม โดยสัมมาชีพ ไม่แย่งชิงเบียดเบียนเอาของคนอื่นมาเป็นของตนโดยไม่ชอบธรรม การวิวาทกัน การทะเลาะกันก็ไม่เกิดขึ้น แต่ตรงกันข้าม ความวิวาทบาดหมางกันก็เกิดขึ้น เป็นภัยเบียดเบียนกัน แท้ที่จริงวัตถุสมบัติต่างๆ นี้ก็เป็นของมีประจำโลก เป็นเสมือนของที่ยืมเขามาใช้ชั่วคราว ถ้าหากว่าเราจะไปเอามาโดยไม่ชอบธรรม บาปกรรมก็จะเกิดตามเรา ไปก่อให้เกิดความทุกข์ความเดือดร้อนสิ้นกาลนาน หลายภพหลายชาติ

         ประการที่ 2 วิวาทกันเพราะเชื้อชาติ ผิวพรรณ วงศ์ตระกูล อันนี้เป็นภัยอันตรายก่อให้เกิดความไม่สงบสุข อาฆาตพยาบาทเบียดเบียนกันโดยถือว่าคนชาตินั้น คนผิวสีนั้น คนที่เกิดในวงศ์ตระกูลนั้น เคยทะเลาะกันมา เคยรบกันมา คนยุคต่อมาหรือคนรุ่นหลังบางทีก็เกิดไม่ทันเหตุการณ์เหล่านั้นก็ยังเอามาเป็นข้อพิพาทบาดหมางกัน วิวาทกันทำร้ายทำลายกันไม่มีความสงบสุข ไม่สามารถจะปรองดองสามัคคีกันได้ มีให้เห็นเป็นตัวอย่างมากมาย คนต่างเชื้อชาติกันบางทีก็รบราฆ่าฟันกันมาเป็นหลายชั่วอายุคน หลายร้อยปี บ้านเมืองอยู่กันอย่างไม่สงบสุข บางทีก็ปรารภผิวพรรณ ชาติตระกูลที่แตกต่างกัน เกิดการดูถูกกัน ทำร้ายกันไม่รู้จักจบจักสิ้น

         ประการที่ 3 วิวาทกันเพราะลัทธิความเชื่อถือทางศาสนาและการเมือง การวิวาทกันด้วยเหตุนี้ ย่อมรุนแรง ยิ่งลึก เพราะเป็นเรื่องของทิฐิมานะ อาศัยอำนาจของอวิชชาความไม่รู้เข้าต่อสู้ประหัตประหารกัน ใครที่ไม่มีความเชื่อเหมือนตน ก็กล่าววิวาทะกัน ไม่ได้พูดกันอย่างมีเหตุมีผล เอาความเชื่อเป็นที่ตั้ง เมื่อพวกชนหมู่อื่นไม่เชื่อเหมือนตนก็ถือเป็นศัตรู แม้จะไม่รู้จักกันก็ต้องเบียดเบียนรบรากันมาเป็นร้อยเป็นพันปี ขาดสันติภาพ สันติสุข องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสความวิวาทโดยความเป็นภัย เพราะย่อมก่อให้เกิดแต่ทุกข์โทษโดยประการต่างๆ สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นแก่ครอบครัว หมู่คณะ ชุมชน และประเทศชาติ

         ฉะนั้นการทะเลาะวิวาทเป็นภัยเป็นไปเพื่อความหายนะอย่างใหญ่หลวง เป็นการทำลายความสามัคคี ความสงบสุข หยุดการพัฒนา มีแต่ความหวาดระแวง การทำมาหากินก็ลำบาก เกิดความทุกข์ยาก ทำให้โลกไม่น่าอยู่เต็มไปด้วยภัยอันตราย เป็นการก่อเวรให้แก่กันและกัน ยากที่จะสงบสุขลงได้ เพราะกลายเป็นการจองเวรแก่กันและกันไป


คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด
โดย
พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ. ๙) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร


Create Date :09 กุมภาพันธ์ 2555 Last Update :9 กุมภาพันธ์ 2555 1:12:24 น. Counter : Pageviews. Comments :0