bloggang.com mainmenu search
กลับหัวคิด 49 : เส้นชัยไม่ได้วิ่งมาหาเรา

ผมได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรงานสัมมนาทางวิชาการของศศินทร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทางศศินทร์เชิญผมไปเป็นวิทยากร ต้องบอกว่าผมอยากมาที่สถาบันแห่งนี้มานานแล้ว เพราะชื่นชมผลงานของอาจารย์ที่นี่หลายท่านไปคราวนี้ ไปพูดเรื่องยอดฮิตแห่งยุคคือ AEC ครับ เพราะวันนี้ Index กับ AEC กลายเป็นของคู่กันไปแล้วครับ ผู้ฟังส่วนใหญ่ เป็นผู้ประกอบการ ผมก็เลยเป็นที่สนใจมากหน่อย เพราะผมไปบุกพม่าก่อนใคร ๆ และบุกหนักขึ้นทุกวัน และไปแบบเริ่มต้นนับหนึ่งเลย พอลงมาจากเวทีก็มีหลายท่านมาขอแลกนามบัตร และขอนัดมาคุยเพื่อขอคำแนะนำ ที่จะบุกไปในภูมิภาคนี้ ว่าจะต้องทำอย่างไรก่อนที่ประตู AEC กำลังจะเปิด ในปี 2015 เพราะผมก็คือตัวอย่างที่ธุรกิจเล็ก ๆ ของคนไทย ที่กล้าที่จะไปบุก ไปเผชิญปัญหามากมาย จึงมีหลายท่านมาถามว่าผมทำอย่างไร มันทำให้ผมนึกถึงเพลงหนึ่งของวงดนตรี หิน เหล็ก ไฟ ที่เขียนเพลงที่ชื่อศรัทธา เนื้อหาเป็นการให้กำลังใจคนที่กำลังต่อสู้ชีวิตอยู่ ผมชอบประโยคหนึ่งในเพลงนี้มาก “เส้นชัย ไม่มาต้องไปหามัน รางวัลมีไว้ให้คนตั้งใจ” มันสะท้อนการใช้ชีวิตของคนหลายคนได้ดีมาก ทั้งแง่มุมที่ดี และแง่มุมตรงข้าม เพราะทุกคนคงมีเป้าหมายในชีวิตที่ต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นชีวิตการงานหรือชีวิตส่วนตัว แล้วแต่จะวางเป้าหมายกัน บางคนตั้งเป้าจะเป็นเศรษฐี บางคนวางเป้าจะเป็นนายรัฐมนตรี ผู้หญิงบางคนอยากได้สามีรวย ผู้ชายบางคนก็อยากได้ผู้หญิงสวยมาเป็นภรรยา แล้วแต่ว่าเราอยากได้อะไร

เป้าหมายบางคนยิ่งใหญ่ และไกล จนฟังแล้วก็ต้องบอกว่ากล้าฝันจริง ๆ บางคนก็วางเป้าหมายใกล้ จนแค่ขยับตัวอีกนิดก็ถึงแล้ว ผมมองว่าการมีความฝันนั้น เป็นสิ่งที่ช่วยให้เรามีความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ เพราะพื้นฐานชีวิตแต่ละคนต่างกัน จึงมีความฝันมีเป้าหมายที่ต่างกันไป ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก แต่ประเด็นที่จะได้มา ซึ่งเป้าหมายที่เราฝันเอาไว้นั้น เป็นสาระสำคัญ บางคนมุ่งมั่นที่จะไปถึงเป้าหมาย จะใช้เวลาเท่าไหร่ก็แล้วแต่คนอย่างเช่น คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายรัฐมนตรีของเรา ท่านก็มีเป้าหมายชีวิต ตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าต้องการเป็นนายกรัฐมนตรี และแนวทางชีวิตของท่าน ตั้งแต่การเลือกเรียนในวิชาที่ใช่ เลือกงานพื้นฐานที่ถูก และเลือกที่จะวางตำหน่งชีวิตที่เป็นทางที่จะปูพื้นฐานไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ขอเป็นผู้ติดตามท่านพิชัย รัตตกุล และท่านชวน หลีกภัย ตั้งแต่ท่านอภิสิทธิ์ ยังเรียนในระดับปริญญาตรี จนมาเป็นอาจารย์ที่ธรรมศาสตร์ เมื่อจบปริญญาโทจากอังกฤษ ก็เข้ามาทำงานการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ และเข้าสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่อายุ 27 ปี และหลังจากนั้นก็ไม่เคยแพ้เลือกตั้งเลย แม้กระทั่งวันที่พรรคแพ้เลือกตั้งแบบทั้งกรุงเทพฯ เหลือแค่หนึ่งเดียว ซึ่งคน ๆ นั้นก็คือ คุณอภิสิทธิ์ และหลังจากนั้นก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ด้วยวัย 44 ปีเศษ ๆ ก็ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นี่คือตัวอย่างของคนที่มีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน และมุ่งมั่นที่จะทำมันให้เป็นจริง แน่นอนครับพื้นฐานแต่ละคนไม่เท่ากัน หลายคนอาจบอกว่าคุณอภิสิทธิ์มีทั้งชาติตระกูล มีทั้งฐานะทางเศรษฐกิจถึงมาถึงตรงนี้ได้ ตรงนั้นคงเป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจเถียงได้ แต่ก็เป็นเพียงแค่แต้มต่อเท่านั้น ที่ทำให้เส้นชัยอาจจะใกล้กว่าคนอื่น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอุปสรรค ไม่มีระยะทางที่ต้องวิ่ง เพราะอย่างน้อยนับตั้งแต่ ด.ช.อภิสิทธิ์ มีความฝันว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เขาก็อายุแค่สิบกว่าปีเอง หลังจากนั้น ก็ต้องใช้เวลากว่าสามสิบปีถึงจะสำเร็จดังฝัน

ผมก็เชื่อว่าหลาย ๆ คนวันนี้ ก็มีเส้นชัยที่มองเห็นอยู่ แต่หลายคนฝันว่า เส้นชัยมันจะมาถึงเรา แต่ถ้าไม่เคยออกแรงที่จะไปหามันเลย จำไว้ครับเหมือนที่พี่โป่งหินเหล็กไฟ บอกไว้ เส้นชัยมันไม่มาเรานะครับ เราต้องวิ่งไปหามัน เมื่อคุณกล้าฝัน คุณก็ต้องกล้าที่จะต้องเผชิญอุปสรรค อาจต้องพบ ความเหนื่อยยากระหว่างทาง แต่แล้ววันหนึ่ง คุณก็จะไปถึงเส้นชัยของคุณเองแน่นอนครับ.

Create Date :23 ตุลาคม 2556 Last Update :23 ตุลาคม 2556 9:34:54 น. Counter : 4084 Pageviews. Comments :0