bloggang.com mainmenu search
ธรรมะย่อมชนะอธรรม

บุคคลผู้ประกอบด้วยหลักธรรม 4 ประการ อันได้แก่ 1.สัจจะ 2.ธรรมะ 3.ธิติ 4.จาคะ ย่อมชนะอธรรม คือข้าศึกหรืออุปสรรคปัญหาต่างๆ ได้

1.สัจจะ ได้แก่ ความจริง แบ่งเป็น 2 อย่าง คือ 1.จริงใจ 2.จริงวาจา

จริงใจ ได้แก่ การตั้งใจมั่น คือ มีจิตจำนงที่จะทำการสิ่งใด ก็พยายามทำไปจนการสิ่งนั้นสำเร็จสมประสงค์ แม้จะมีอุป สรรคอันใดเข้ามาขัดขวาง ก็ไม่ย่อท้อ หวาด หวั่นต่ออุปสรรคอันตรายนั้นๆ ดุจภูเขาศิลาล้วนมีแท่งทึบ ไม่หวั่นไหวเพราะลมและแดด ฉะนั้น

ส่วน จริงวาจา คือ เจรจาแต่คำจริง ไม่นำเอาสิ่งเท็จมาหลอกลวงให้ชาวโลกลุ่มหลง เจรจาคำใดไปแล้วก็มั่นคงไม่กลับกลอก เป็นวาจาที่คงที่

การ เจรจาถ้อยคำจริงนั้น ง่ายกว่าการพูดเท็จ ไม่ต้องกลัวจะผิด แต่การพูดเท็จนั้นต้องระวังตัว เพราะว่ากลัวเขาจะจับพิรุธได้ คน ที่ชอบพูดเท็จมักจะเอาตัวไม่รอด สักวันหนึ่งเขาต้องจับได้ ต่อไปก็ไม่มีใครเชื่อถือ ยิ่งคำเท็จนั้นเป็นการหลอกลวงให้ผู้อื่นเสื่อมเสียจากประโยชน์ด้วยแล้ว ก็จะทำให้ผู้คนหมดความเคารพนับถือ คุณธรรมใดๆ ที่เคยมีอยู่ ก็จะพลอยสูญสิ้นไปด้วย เพราะตนเองขาดสัจจะคือความจริง

2.ธรรมะ แปลว่า สภาพผู้ทรงไว้ คือทรงผู้ปฏิบัติไว้ ผู้ใดประพฤติธรรม ธรรมก็ย่อมรักษาผู้นั้นไว้ ไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว

ความ จริง คำว่า ธรรมะ เป็นคำกลางๆ มีมาแล้วแต่โบราณกาล หากแต่ขาดผู้ปรีชาญาณเลือกสรรเอามาใช้ เป็นได้ทั้งส่วนดีและส่วนชั่ว ถ้าต้องการหมายความข้างดีก็เติมคำว่ากุศล เข้าเป็นกุศลธรรม หมายถึงธรรมส่วนข้างดี เมื่อกล่าวโดยทางธรรมก็คือสุจริต เช่น ความประพฤติชอบด้วยกาย วาจา และใจ ถ้าต้องการหมายความข้างชั่ว ก็เติมคำว่า อกุศล เข้าเป็นอกุศลธรรม หมายถึงธรรมส่วนข้างชั่ว เมื่อกล่าวโดยทางธรรม ก็คือ ทุจริต เช่น ความประพฤติชั่วด้วยกาย วาจาและใจ

3.ธิติ แปลว่า ความเพียรเป็นเครื่องตั้งมั่น ได้แก่ความพยายาม ความบากบั่น ความก้าวหน้า บุคคลผู้พากเพียรเพื่อจะตั้งตัวในทางใดทางหนึ่ง ถ้ายังไม่ทันได้ลุถึงสิ่งนั้นๆ ไม่ควรถอยหลังควรพยายามต่อไป เพราะมีบางท่านว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น เมื่อพยายามทำไปแล้วแม้จะไม่สำเร็จผลที่หมายก็ยังได้รับความสบายใจว่า ตนเองได้ทำจนสุดกำลังความสามารถแล้ว

ผู้ปฏิบัติธรรมก็เหมือนกัน เมื่อได้สมา ทานศีลอย่างเคร่งครัดแล้วบำเพ็ญปฏิบัติภาวนาอย่างแข็งแรงแล้ว ก็ไม่ควรละการสมาทานนั้นๆ ควรพากเพียร บากบั่นต่อไป ประพฤติให้ยั่งยืนจนกว่าจะได้รับผล

4.จาคะ ได้แก่ การบริจาคทรัพย์ ธรรม ดาผู้คนอยู่ด้วยกันเป็นหมู่ ต้องมีการสง เคราะห์เกื้อกูลกันตามฐานะ ในตระกูลหนึ่ง มารดาบิดากับบุตร สามีกับภรรยา ญาติกับญาติ มิตรกับมิตร ยังต้องเจือจานกันด้วยการให้สิ่งของ การให้อย่างนี้ นับว่าการสงเคราะห์เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจกัน เพราะบุคคลผู้ให้ย่อมผูกไมตรีไว้ได้

หลักธรรมทั้ง 4 ประการนี้ คือ สัจจะ ธรรมะ ธิติ จาคะ นี้ เมื่อมีในบุคคลผู้ใด ย่อมทำให้บุคคลผู้นั้น เป็นผู้มีความสัตย์ มีธรรม เมื่อจะประกอบกิจการใดๆ ก็ตั้งใจทำจริงไม่ย่อท้อ มีความพากเพียรพยายาม ไปจนกว่าประโยชน์จะสำเร็จ บุคคลเช่นนี้ ย่อมไม่เป็นที่รังเกียจของใครๆ แม้ผู้ที่เป็นศัตรูอยู่ก่อน เมื่อได้ประสบอัธยาศัยอันดีงาม ย่อมละจากความเป็นศัตรู มีแต่จะอุปถัมภ์ค้ำชูให้ได้รับความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป

ดังนั้น ท่านผู้ที่ได้ยึดถือ ประพฤติ ปฏิบัติตนตามหลักธรรมดังกล่าวมานี้ ย่อมได้ชื่อว่า เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบยิ่ง มีปกติประพฤติตามธรรมแล

คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด


พระเครื่อง |ศูนย์พระเครื่อง|หลวงพ่อกวย|ตลาดพระ|ตลาดพระเครื่อง|หลวงปู่โต๊ะ|หลวงปู่ผาด| พระซุ้มกอ | พระรอด
Create Date :14 มีนาคม 2555 Last Update :14 มีนาคม 2555 9:26:54 น. Counter : Pageviews. Comments :0