bloggang.com mainmenu search
มนต์เสน่ห์มัดใจด้วยธรรมะ กับ เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ



ทุกวันนี้ถ้าพูดถึงเรื่องเสน่ห์ คนส่วนใหญ่จะมองกันเพียงที่รูปร่าง หน้าตา บุคลิก ลักษณะภายนอกเป็นอันดับแรก ทำให้หลายคนปรารถนาที่จะมีเสน่ห์เหมือนกับคนอื่น ตั้งคำถามว่าจะสร้างเสน่ห์เกิดขึ้นได้อย่างไร คำตอบที่ได้คือส่วนใหญ่คือ การเสริมแต่งหน้าตา รูปร่างให้ดูดี จึงจะสามารถมีเสน่ห์ต่อคนรอบข้างได้


ซึ่งความเป็นจริงในปัจจุบันนี้เป็นแบบนี้จริงๆ แต่มีแนวทางหนึ่งในการประพฤติปฏิบัติธรรม ที่จะทำให้เรามี "มนต์เสน่ห์มัดใจ" โดย พระราชรัตนาภรณ์ เจ้าคณะเขตบางซื่อ และเจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้าจุฬามณี เขตดุสิต กรุงเทพ มหานคร บรรยายให้แก่ผู้ร่วมฟังธรรม ตามโครงการ "เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่น" ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของ บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย ณ อาคารซีพี ทาวเวอร์ ชั้น 11 ถนนสีลม

พระราชรัตนาภรณ์สอนว่า คำ "มนต์เสน่ห์มัดใจ" มนต์ก็เปรียบเสมือนธรรมะที่ มีความขลังและความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว ส่วนเสน่ห์ทุกคนคงรู้กันอยู่แล้วว่าเป็นการทำให้เกิดความน่ารักหรือเกิดความ รักต่อคนที่พบที่เห็น ส่วนการมัดใจคือทำให้คนชอบ ทำให้คนหลง

ถามว่าเสน่ห์เกิดขึ้นเองได้ไหม เราจะต้องสร้างเสน่ห์จึงจะเกิดขึ้น โดยเสน่ห์มี 2 แบบคือ เสน่ห์ดลตา หมายถึง มองเห็นแล้วรู้สึกสวย หล่อ มองแล้วชอบ มองแล้วหลงใหล แต่จะไม่มีความยั่งยืน สักวันหนึ่งก็จะเปลี่ยนแปลง เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ในขณะที่เสน่ห์ดลใจนั้นสามารถคงอยู่ตลอดไป แต่ต้องสร้างขึ้นมา วิธีการสร้างเสน่ห์ดลใจในทางพระพุทธศาสนาสามารถนำหลักธรรม 4 ประการมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างเสน่ห์ขึ้นได้

พระราชรัตนาภรณ์กล่าวว่า ประการแรกรู้จักให้ (ทาน) แบ่งปันสิ่งของของตนที่มีอยู่ เอื้อเฟื้อเกื้อกูลต่อบุคคลที่ลำบาก รวมถึงการให้อภัยถือว่าเป็นสุดยอดของทาน ประการที่สองรู้จักพูด (ปิยวาจา) พูดด้วยถ้อยคำที่อ่อนหวาน นิ่มนวล และชวนฟัง ถ้าพูดกระโชกโฮกฮาก แม้แต่คนที่รักกันก็จะขัดใจกันได้ ฉะนั้น ควรรู้จักพูดดีกับคนรอบข้าง ประการที่สามรู้จักทำประโยชน์ (อัตถจริยา) ประพฤติแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบุคคลอื่น หมายความว่าเราไม่ได้คำนึงถึงตัวตนของเรา เรานึกถึงแต่คนอื่น แม้ตนเองไม่ได้แต่ขอให้คนอื่นได้ เป็นคนไม่เห็นแก่ตัว ประการสุดท้ายรู้จักวางตน (สมานัตตตา) การวางตนเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ถือตัว สามารถคบค้าสมาคมกับใครก็ได้ ถึงแม้ได้ดีแล้วก็ไม่เคยลืมตัว

ธรรมะทั้งสี่ประการนี้มาจากสังคหวัตถุธรรม เป็นธรรมที่ยึดเหนี่ยวใจผู้อื่นได้ หากเราต้องการสร้างเสน่ห์ให้ตนเอง เป็นที่รักแก่บุคคลรอบข้าง ควรปฏิบัติตัวให้ได้แบบนี้ ฉะนั้น การที่เรารู้วิธีการแล้ว เราต้องนำไปปฏิบัติด้วยจึงจะเกิดผล

สำหรับ การสร้างเสน่ห์อีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจคือ "การฟังธรรม" การฟังธรรมที่จะให้ได้ผลนั้น บางคนฟังมาหลายสิบปี ถ้าเราไม่รู้จักวิธีฟังก็จะไม่เกิดผล เสมือนทัพพีที่อยู่ในหม้อแกงคนแกงอยู่ทุกวัน แต่ไม่เคยรู้รสแกงเลย ฉะนั้น วิธีที่จะฟังธรรมให้ได้เกิดประโยชน์จะต้องปฏิบัติให้ครบองค์ประกอบ 5 ประการดังต่อไปนี้ ประการที่หนึ่งคือจะต้องตั้งใจฟัง เพราะถ้าเราไม่ตั้งใจฟัง ก็เปรียบเสมือนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ในทางพระบอกว่าฟังด้วยดี หรือโยนิโสมนสิการ เมื่อฟังด้วยดีแล้วจึงจะเกิดปัญญา ประการที่สองต้องตั้งใจจำ คิดตามคำที่พระท่านพูดแล้วก็จำ ประการที่สามเราจะต้องตั้งใจถาม ถามเพื่อให้เกิดความเข้าใจ คลายข้อสงสัย ประการที่สี่ต้องตั้งใจจด เพราะความจำของเราอาจจะเลอะเลือนบ้าง การจำได้ดีกว่าจด แต่ถ้าจำไม่หมดจดก็ดีกว่าจำ

สำหรับประการสุดท้ายต้องตั้งใจนำไปปฏิบัติ ธรรมะใดๆ ก็ไร้ค่าหากรู้แล้วไม่นำไปปฏิบัติ ถ้าหากปฏิบัติได้ครบทั้ง 5 ประการนี้จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ในด้านสติปัญญาให้กับตนเองได้เป็นอย่างดี

ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเป็น อกาลิโก หมายความว่า เป็นสิ่งที่ไม่ประกอบด้วยกาลและเวลา ถ้าเราปฏิบัติตอนเช้า ผลก็เกิดในตอนเช้า ปฏิบัติตอนสาย บ่าย ค่ำ ผลก็เกิดในเวลาที่เราปฏิบัติ "ธรรมะจะเกิดผลได้ก็อยู่ที่บุคคลนำไปปฏิบัติ แต่ถ้าเราไม่นำไปปฏิบัติ ธรรมะจะดีแค่ไหนอย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถที่จะบังเกิดผลต่อบุคคลนั้นได้เลย" พระราชรัตนาภรณ์กล่าวสรุปทิ้งท้าย

สำหรับผู้ที่สนใจข้อคิดดีๆ แบบนี้ เข้ารับฟังธรรมบรรยายโครงการ "เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ" ได้ที่อาคารซีพี ทาวเวอร์ ชั้น 11 ถนนสีลม ทุกวันศุกร์ เวลา 12.00-13.30 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่โทร. 0-2677-1901

ข่าวพระพุทธศาสนา นำมาจาก //www.itti-patihan.com/มนต์เสน่ห์มัดใจด้วยธรรมะ-กับ-เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ.html

Create Date :24 กันยายน 2556 Last Update :24 กันยายน 2556 6:35:19 น. Counter : 1369 Pageviews. Comments :0