อักษรภาพ ประดิษฐ์เอง ตำนานกำเนิดสรรพสิ่งแต่งเอง และอะไรๆ ที่ไม่น่าเชื่อแต่ก็ทำได้เองนะคร้าบ
 
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
18 สิงหาคม 2553

นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดแผ่นดินไทย

นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดแผ่นดินไทย

โลกเรานั้นมีวัฎจักรแห่งความไม่เที่ยง เกิดและดับเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิศาสตร์อยู่ตลอด เวลา ในสมัยหนึ่ง โลกอาจถูกไหม้ด้วยไฟ เมื่อดับลงแล้วจึงเกิดเป็นลมพายุใหญ่ จนเมื่อลมพายุได้กลั่นตัวเป็น “น้ำฝนตกลงมา” โลกก็ถูกท่วมด้วยน้ำ จากนั้น “แผ่นดินใหม่” จึงค่อยๆ ถูกยกขึ้นจากแผ่นน้ำทะเลนั้น แผ่นดินส่วนใดของโลกที่ยังมี “เกลือใต้ดิน” อยู่ทั้งที่อยู่ใกล้ทะเล แสดงว่าแผ่นดินแผ่นนั้นเป็นส่วนที่ยกตัวขึ้นจากทะเล เช่น แผ่นดินในอ่างกระทะภาคอีสานของไทย นับเป็นแผ่นดินที่เก่าแก่ ทั้งยังขุดพบ “ซากไดโนเสา” ในบางจังหวัดอีกด้วย นี่แสดงถึงความเก่าแก่ของแผ่นดินภาคอีสานนั้น อนึ่ง เมื่อแผ่นดินได้ยกตัวขึ้นจากทะเลแล้ว ก็ได้เกกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อีกมากมายเช่น การระเบิดของภูเขาไฟ, การเคลื่อนตัวของแผ่นดินผืนต่างๆ ทำให้ตำแหน่งเปลี่ยนแปลงไป,การชนกันของแผ่นดินสองแผ่น, การพังทลาย, การตกตะกอนดินที่ไหลลงมาจากภูเขา, การทับถมกับของตะกอนดิน ฯลฯ ทำให้แผ่นดินเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ดังนั้นถ้าจะเอาแผ่นดินที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน เป็นเครื่องวัดกะเกณฑ์ดูศูนย์กลางแผ่นดินก็ไม่อาจทำได้แล้ว เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมาแล้วนั่นเอง แต่เราสามารถตรวจดูดินได้ว่าดินมีลักษณะอย่างไร เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของผืนแผ่นดินนั้น เช่น ที่ภาคอีสาน มีเกลือใต้ดินอยู่มาก, มีซากไดโนเสา จึงนับว่าเป็นแผ่นดินที่เก่าแก่มากที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนักจากในอดีต จึงมีสภาพใกล้เคียงดินในยุคเริ่มกำเนิดแผ่นดิน นี่จึง สันนิษฐานได้ว่าแผ่นดินอีสานเป็น “สะดือแผ่นดิน” โดยใช้หลักการศึกษา แบบเดียวกับการหา “สะดือแม่น้ำ” นั่นเอง อนึ่ง แผ่นดินไทย กำเนิดจากแผ่นดินสองส่วนเข้ามาชนกัน ได้แก่ “แผ่นดินภาคอีสาน” ส่วนหนึ่งและ “แผ่นดินส่วนภาคเหนือ, กลาง และใต้ อีกส่วนหนึ่ง จุดที่ชนกันคือ “เทือกเขาดงพญาเย็น” ในปัจจุบัน ในส่วนแผ่นดินฝั่งตะวันตกนั้นมีหลักฐานเก่าแก่ที่สำคัญมาก ก็คือ “รอยพระพุทธบาทสี่รอย” ปรากฏอยู่ อันแสดงถึงการเสด็จมาโปรดสัตว์ของพระพุทธเจ้าสี่พระองค์ในภัทรกัปนี้ นั่นแสดงให้เห็นว่าแผ่นดินฝั่งตะวันตกของไทย เป็นแผ่นดินที่เก่าแก่เช่นกัน ไม่น้อยไปกว่าฝั่งตะวันออก แต่สิ่งที่ต่าง กันอย่างชัดเจนคือแผ่นดินฝั่งตะวันตกเป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์แต่แผ่นดินฝั่งตะวันออกเป็นแผ่นดินที่แห้งแล้งและยังคงสภาพเป็นดินเค็มไม่แตกต่างจากแผ่นดินในสมัยโบราณ

จากตำนานการสร้างแม่น้ำยังได้กล่าวถึงการสร้างแม่น้ำแข่งกันของพญานาคสองตระกูล คือ “อนันตนาคราช” และ “พญาศรีสุทโธ” (พญานาคที่ปกครองเมืองบาดาลในโลกนี้ มีทั้งหมดห้าตระกูลใหญ่ แต่ละตระกูลเดิมมีสีกายที่แตกต่างกัน) โดยอนันตนาคราช จะอยู่ฝั่งตะวันตก (ภาคเหนือ, กลาง, ใต้) ส่วนพญาศรีสุทโธ จะอยู่ฝั่งตะวันออก (ภาคอีสาน) คล้ายกับพระยูไลบนสุขาวดี ที่มีอยู่สองฝั่ง คือ “พระไภษัชยคุรุ” จะอยู่ฝั่งตะวันออก ส่วน “พระอมิตาภะ” อยู่ฝั่งตะวันตก ฝั่งตะวันออก มีพระยูไลองค์ใหญ่ประสานงานกัน ๗ องค์ ส่วนพระยูไลอมิตาภะฝั่งตะวันตกมีเพียงองค์เดียว ครองอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ กล่าวได้ว่า พญานาคตระกูลอนันตนาคราช ได้สร้างแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้น จากการรวมกันของแม่น้ำสี่สาย คือ ปิง, วัง, ยม และน่าน ส่วนพญานาคตระกูลศรีสุทโธ ได้สร้างแม่น้ำโขงขึ้น จากน้ำที่ไหลจากหลังคาโลกคือหิมะที่ละลายจากเทือกเขาหิมาลัยลงมากลายเป็นแม่น้ำโขง กล่าวได้อีกนัยยะหนึ่งว่าประเทศไทย เปรียบเหมือน “สุขาวดี” ทั้งสองฝากฝั่ง คือ ทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกมาบรรจบรวมกัน มีแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญสองสายดังกล่าว

หากจะอุปมาแผ่นดินฝั่งตะวันตกเหมือนสิ่งมีชีวิตแล้ว จะพบว่า “ภาคเหนือเปรียบเหมือนศีรษะ” ส่วน “ภาคกลางเปรียบเหมือนลำตัว” ส่วน “ภาคใต้เปรียบเหมือนขาสองข้าง” ที่ลูกหลานชาวใต้ต้องเดินทางเพื่อหากินอยู่เสมอ นั่นคือ เดินทางสู่ทะเลเพื่อจับปลาทุกวัน ในแผ่นดินภาคกลางนั้น “สุโขทัย” นับว่าเป็น “หัวใจ” ของลำตัวแผ่นดินทีเดียว เพราะว่าสุโขทัยนี้ เป็นราชธานีแห่งแรกของไทยที่ก่อกำเนิด “เสรีภาพ” ที่ได้มาจาก “กษัตริย์” มิ ใช่ได้มาจาก “รัฐสภา” อย่างทุกวันนี้ นับเป็น “หัวใจของการปกครองของไทย” แห่งแรก (จำต้องย้ำเรื่องนี้ เพื่อมิให้ท่านหลงระบบประชาธิปไตยแบบฝรั่ง ทั้งที่เราก็มีมานานแล้ว)




 

Create Date : 18 สิงหาคม 2553
1 comments
Last Update : 18 สิงหาคม 2553 10:09:29 น.
Counter : 516 Pageviews.

 

 

โดย: โลกธรรม8 2 กันยายน 2553 0:10:54 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ฉันนะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add ฉันนะ's blog to your web]