อักษรภาพ ประดิษฐ์เอง ตำนานกำเนิดสรรพสิ่งแต่งเอง และอะไรๆ ที่ไม่น่าเชื่อแต่ก็ทำได้เองนะคร้าบ
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
7 ธันวาคม 2553

นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดดาวมฤตยู

นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดดาวมฤตยู

“ดาวเกตุและดาวราหู” เดิมทีมีกำเนิดจากร่างเดียวกันคือ พระสังขจักร หรืออดีตชาติของพระศรีอาริยเมตตรัย เมื่อพระสังขจักรได้ตัดเศียรถวายพระพุทธเจ้านั้น ท่านได้บรรลุเป็นพระมหาโพธิสัตว์อยู่ก่อนแล้ว เมื่อตัดเศียรออกก็แบ่งภาคออกเป็นสอง คือ จิตวิญญาณที่หนึ่งสถิตอยู่ที่ส่วนหัว และจิตวิญญาณที่สองสถิตอยู่ที่ส่วนตัว ทำให้ทั้งหัวและตัวยังคงมีชีวิตอยู่ได้ยังไม่ตายในทันที หัวยังพูดได้ และตัวยังยื่นหัวไปให้พระพุทธเจ้าได้ด้วย แล้วจึงตายลง จิตวิญญาณดวงที่อยู่ส่วนหัวจุติเป็น “ดาวพระราหู” จิตวิญญาณส่วนตัว จุติเป็น “ดาวพระเกตุ” เพื่อเวียนว่ายตายเกิดแยกกัน ตามความปรารถนาพุทธภูมิของตนๆ ต่อไปซึ่งทั้งสองนั้นมีอดีตชาติเริ่มจาก “นาคาสูรย์” หรือ พญานาคหัวยักษ์ คือ เป็นพญานาคที่มีเศียรเป็นยักษ์ได้ไปดื่มกินน้ำอำมฤตที่เทพเทวดากำลังกวนกันอยู่ ทำให้เป็นอำมตะ คือ ไม่ตายด้วยอาวุธ ทันใดนั้น ถูกพระนารายจับได้จึงถูกจักรตัดที่ศีรษะจนขาดเป็นสองส่วน ส่วนหัวยักษ์คือ “พระราหู” ส่วนตัวที่เป็นพญานาค คือ “พระเกตุ” อนึ่ง ในบรรดาเทพทั้งมวล เทพที่มีฤทธานุภาพมากที่สุดคือเทพดาวนพเคราะห์ทั้ง ๙ เนื่องจากควบคุมกลไกลแห่งดวงโลกและดวงมนุษย์ทั้งมวลไว้ โดยบรรดาดาวเทพนพเคราะห์นี้ ดาว ๗ ดวงแรกปรากฏในหนึ่งสัปดาห์ (จึงมีเจ็ดวัน) แต่อีกสองดวงถูกพราหมณ์เอาไปซ่อนไว้ เพราะเป็นดาวที่ให้เคราะห์ร้ายแก่มนุษย์ คือ ดาวราหูและดาวเกตุ (ดาวเกตุ มีอีกชื่อคือ ดาวมฤตยู หรือดาวแห่งหายนะ) โดยดาว ๗ ดวงแรก ก็คือ พระยูไลไภษัชยคุรุทั้งเจ็ดพระองค์ ส่วนอีกสองดวงคือพระโพธิสัตว์สององค์คือ พระศรีอาริยเมตตรัย (พระเกตุ) และพระอสุรินทราหูโพธิสัตว์ (พระราหู) นั่นเอง ซึ่งเมื่อประสานกันเมื่อใด จะได้ชื่อว่า “ดาวมฤตยู” ทันที

รอยกรรมของพระราหู
พระราหูกำเนิดจากส่วนหัวของพระสังขจักรจึงมีความเป็นผู้นำมากและมักตั้งตนเป็นใหญ่ได้บ่อยๆ หลายต่อหลายชาติ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่วิบากกรรมเข้ามาถึงจะถูกตัดตัวออกไป คือ จะสูญเสียบริวาร (หาง) ไปนั่นเอง ทำให้ต้องโดดเดี่ยว ใช้ความคิด (ใช้หัว) ทำงานไม่มีบริวารพวกพ้องช่วยเหลืออีกต่อไป จนกว่าจะได้พบกับส่วนหางคือ พระเกตุ หรือได้อาศัยบุญบารมีของหัวหน้าอื่นๆ เช่น พระอาทิตย์หรือพระจันทร์ แล้วคอยครอบงำข้างๆ

รอยกรรมของพระเกตุ
พระเกตุกำเนิดจากส่วนตัวของพระสังขจักร จึงมีความเป็น “บริวารหรือเชลย” มาก มักจะเกิดเป็นทาสที่ต้องการอิสรภาพ, ต้องการความเป็นไท เช่น สมเด็จพระนเรศวร, มะกะโท เป็นต้น เมื่อใดก็ตามที่สองส่วนร่วมมือกันได้จะประสานเสมือนหนึ่งเป็น “พระสังขจักร” ที่มีบารมีครบส่วน จะไม่มีพระนิตยโพธิสัตว์องค์อื่นใด สามารถต้านทาน หรือมีอำนาจเหนือไปกว่าได้ ดังเช่น พ่อขุนรามฯ เคยประสานกับมะกะโท มาแล้วในอดีต จึงจะสร้างยุคของพระศรีอารยเมตตรัยได้ ไม่เช่นนั้น จะสร้างยุคให้แก่พระนิตยโพธิสัตว์องค์อื่นๆ ไปแทน

รอยกรรมของดาวมฤตยู
เมื่อใดก็ตามที่พระราหูและพระเกตุประสานกันได้ ถ้าพระเกตุทำหน้าที่เป็นหัวหน้าก็จะถูกเบื้องบนครอบเศียรให้คิดและทำแต่สิ่งดี โดยมีพระราหูอยู่ข้างๆ คอยครอบงำอยู่ด้วย แต่พระราหูจะครอบงำให้ทำกรรมต่อมวลสัตว์ เพื่อให้บาปกรรมตกแก่สัตว์ตามที่ได้กระทำไว้ตามกฎแห่งกรรม ไม่มีผิดเพี้ยน ในกรณีนี้ นับได้ว่าเป็น “พระเกตุ” ที่ถูกพระราหู ครอบงำได้ แต่เมื่อใดที่พระราหูขึ้นเป็นใหญ่ มีพระเกตุเป็นหางหรือบริวารแล้ว จะกลายเป็นนาคาสูรย์หรือ “ดาวมฤตยู” ทันที ในยุคนั้นจะมีภัยสงครามมากเช่น ยุคพระเจ้าตากสิน ซึ่งได้มีพระเจ้าตากสินตกรอยกรรม “พระราหู” ต้องสละราชสมบัติแล้วเสียบริวารไปบวชคนเดียว และบุตรชายคนโตของท่าน (ต้องโทษประหารชีวิต) ตกรอยกรรมเป็น “พระเกตุ” จะต้องเศียรขาดไป ยุคนั้นได้ชื่อว่า “ยุคทมิฬ” เมื่อมีผู้วางแผนหลอกให้บุตรชายของท่านไปทำศึกที่เขมร แล้วคนที่เหลืออยู่ก็ก่อการปฏิวัติ จากนั้น คนที่วางแผนก็ต้องมาตายแทนพระเจ้าตากสิน ความลับทั้งหมดนี้ ตกอยู่แก่พระยาพิชัยดาบหัก ที่ไม่ยอมเปิดเผยให้แก่ใคร



Create Date : 07 ธันวาคม 2553
Last Update : 7 ธันวาคม 2553 9:52:34 น. 0 comments
Counter : 947 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ฉันนะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add ฉันนะ's blog to your web]