อักษรภาพ ประดิษฐ์เอง ตำนานกำเนิดสรรพสิ่งแต่งเอง และอะไรๆ ที่ไม่น่าเชื่อแต่ก็ทำได้เองนะคร้าบ
<<
มกราคม 2554
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
6 มกราคม 2554

นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดพ่อเมืองแม่เมือง

นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดพ่อเมืองแม่เมือง

“พ่อเมือง-แม่เมือง” ก็คือ พระราชาและพระราชินีองค์ปฐมของราชวงศ์นั้นๆ ซึ่งมีบุญมาก ทำให้สามารถก่อตั้งราชวงศ์ใหม่ได้สำเร็จ ซึ่งจะบำเพ็ญบารมีจนได้ทรงเทพนักษัตรชนิดหนึ่งคู่บารมีของท่าน ซึ่งตามตำราพระเจ้าจักรพรรดิได้กล่าวถึงไว้ ก็คือ ช้างแก้ว, ม้าแก้ว เป็นต้น แต่ในที่นี้ จะแยกแยะรายละเอียดให้มากขึ้นอีก อนึ่ง นอกจากพ่อเมือง, แม่เมืองแล้ว พ่อใหญ่, แม่ใหญ่ หรือ ปู่ย่า-ตายาย ก็ต้องมีบุญบารมีมากพอที่จะสนับสนุนอยู่ข้างหลังด้วย ปกติ มักมีจิตวิญญาณภาคพรหมหรือโพธิสัตว์อยู่ เป็นอาทิ ในทีนี้จะกล่าวถึงในเรื่องเฉพาะสัตว์พาหนะทรงคู่บารมีเท่านั้น ซึ่งจะจำแนกไว้สามประเภทใหญ่ๆ ดังต่อไปนี้

๑) หงส์ทอง-มังกรดำ
คือ ฝ่ายชายมีบารมีทรงหงส์ทอง, ฝ่ายหญิงมีบารมีครองมังกรดำแล้วผลัดกันโปรดมังกรดำจนมังกรดำจะกลายเป็นมังกรทองจึงปลอดภัย ซึ่งมักจะก่อตั้งราชวงศ์ได้ด้วยสงคราม ซึ่งเมื่อพระราชาและพระราชินีองค์ปฐมสิ้นพระชนม์ไปแล้ว เทพพาหนะทรงจะดูแลต่อ

๒) มังกรทอง-มังกรหยก
คือ ฝ่ายชายมีบารมีทรงมังกรทอง, ฝ่ายหญิงมีบารมีครองมังกรหยก แบบนี้ไม่ต้องโปรดต่อ ก็สามารถทำกิจได้อย่างดี ถ้าโปรดต่อไป จิตวิญญาณทั้งสองจะหลุดพ้น ไม่มีเทพที่คอยคุ้มครองเมือง ทำให้เมืองอ่อนแอและล่มสลายลง ดังเช่น กรุงสุโขทัยที่ล่มสลายลง

๓) ช้างทอง-มังกรหยก
คือ ฝ่ายชายมีบารมีทรงช้างทอง, ฝ่ายหญิงมีบารมีครองมังกรหยก แบบนี้ก็ไม่ต้องโปรดต่อ ก็สามารถทำกิจได้อย่างดี ถ้าโปรดต่อไป จิตวิญญาณทั้งสองจะหลุดพ้น ไม่มีเทพที่คอยคุ้มครองเมือง (ทำให้เมืองอ่อนแอ) สามารถใช้เป็นเทพประจำเมืองอยู่ประจำได้

อนึ่ง “พ่อเมืองแม่เมือง” นี้ ผู้จะมีบารมีพอเป็นได้ ได้แก่ ๑ พุทธบิดา-พุทธมารดา ๒ พระนิตยโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญเพื่อเป็นองค์ปฐมกัป ดังเช่น กรุงรัตนโกสิน ก็มีรัชกาลที่หนึ่ง ผู้ซึ่งบำเพ็ญบารมีเป็น “พุทธบิดา” ส่วนกรุงธนบุรีนั้นก็มีพระเจ้าตากสิน ผู้ซึ่งบำเพ็ญบารมีเป็นพระนิตยโพธิสัตว์องค์ปฐมกัป (นามว่าอสุรินทราหู) สำหรับพระนิตยโพธิสัตว์ที่ไม่ใช่องค์ปฐมกัปแล้ว ยังไม่มีบารมีพอที่จะก่อตั้งอาณาจักรใหม่ได้เลย เช่น พระนิตยโพธิสัตว์ที่รอตรัสรู้ในลำดับถัดไปในกัปนั้น เช่น พระเจ้าปเสนทิโกสน เป็นต้น สำหรับอีกสามกัปต่อไปที่จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้นั้นยังไม่เป็นที่แน่นอนนักว่าพระโพธิสัตว์องค์ใดจะทรงได้เป็นองค์ปฐม เช่น กัปของพระรามเจ้า ยังไม่แน่นอน, กัปของพระยามาราธิราช ยังไม่แน่นอน แต่กัปของพระอสุรินทราหูนั้น ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าพระอสุรินทราหูจะได้ตรัสรู้เป็นองค์ปฐม (อันเป็นผลมาจากชาติที่ก่อตั้งกรุงธนบุรี) เนื่องจาก การบำเพ็ญเป็นองค์ปฐมนั้น จะ ต้องก่อตั้งราชวงศ์ใหม่ได้ด้วยบารมี ไม่ใช่ได้ด้วยบุญ ซึ่งพระรามเจ้าเอง เคยเกิดเป็นพระ ราชาองค์ปฐมราชวงศ์ชิงมาแล้วเช่นกัน ทว่า ทรงได้ด้วยผลบุญ มิใช่ด้วยบารมี การสร้างบารมีจึงบกพร่อง (มีบุญได้เกิดเป็นปฐมกษัตริย์ แต่มิใช่บำเพ็ญบารมีจนได้เป็น) ในกัปที่จะถึงต่อไปนั้นจึงเกิดปัญหาขึ้น องค์ศรีอาริยมเตตรัยได้แบ่งภาคส่วนหนึ่งลงเพื่อบำเพ็ญเป็นองค์ปฐมแทน ด้วยพระรามเจ้ามีความปรารถนาจะได้ยุคสมัยที่เหนือกว่าพระศรีอาริยเมตตรัยอยู่ จากเดิมจะได้เป็นองค์ปฐมแบบ “ปัญญาธิกะ” แล้ว จึงต้องเปลี่ยนเป็นองค์ที่ห้าของกัปนั้นแทน โดยการบำเพ็ญบารมีแบบ “วิริยธิกะ” อนึ่ง พระรามเจ้า ก็เคยเกิดเป็น “เล่าปี่” ที่ได้เป็นปฐมกษัตริย์โดยบุญ ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่อยู่เฉยๆ เลือกคนมาช่วยก็ได้เป็นปฐมกษัตริย์แล้ว แต่เมื่อทำบุญกรรมล้นเกินไป ทำให้ไม่อาจตรัสรู้เป็นองค์ปฐมได้ เพราะจะชดใช้บุญกรรมนั้นไม่หมดในสมัยปฐมนั้น จึงบำเพ็ญบารมีต่อแบบวิริยธิกะต่อไป ซึ่งการบำเพ็ญบารมีเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายนี้ จะต้องเกิดเป็นพระราชาองค์สุดท้ายของราชวงศ์ใดราชวงศ์หนึ่งด้วย แล้วทำใจที่จะเห็นการล่มสลายของราชวงศ์ให้ได้ เช่น จักรพรรดิปูยี กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ชิง ซึ่งแบ่งภาคมาจากพระรามเจ้า นั่นเอง



Create Date : 06 มกราคม 2554
Last Update : 6 มกราคม 2554 9:14:18 น. 0 comments
Counter : 323 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ฉันนะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add ฉันนะ's blog to your web]