เบอร์ลินได้กลายเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิเยอรมัน
เบอร์ลินได้กลายเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิเยอรมัน ใน ค.ศ. 1871 หลังการประกาศก่อตั้งใน Versailles-France (บิสมาร์คอยู่ตรงกลางในชุดขาว)
คริสต์ศตวรรษที่ 17 และ 19 สงครามสามสิบปีระหว่าง ค.ศ. 1618 - 1648 ทำให้เบอร์ลินได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง บ้านเรือนหนึ่งในสามเสียหาย และประชากรลดเหลือครึ่งเดียว
เฟรเดอริก วิลเลียม เจ้าชายผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งสืบอำนาจเป็นผู้ปกครองต่อจาก จอร์จ วิลเลียม ผู้บิดาใน ค.ศ. 1640 ได้ริเริ่มนโยบายส่งเสริมการอพยพย้ายถิ่นและเสรีภาพในการนับถือศาสนา
ด้วยกฤษฏีกาแห่งพอทสดัม (Edict of Potsdam) ใน ค.ศ. 1685 เฟรเดอริกได้เสนอที่ลี้ภัยให้กับพวกฮิวเกอโนต์ ซึ่งเป็นพวกโปรเตสแตนท์ชาวฝรั่งเศส
ฮิวเกอโนต์มากกว่า 15,000 คนได้มายังบรานเดนบวร์ก ในจำนวนนั้น 6,000 คนตั้งถิ่นฐานในเบอร์ลิน
ใน ค.ศ. 1700 ประมาณร้อยละยี่สิบ ของผู้อยู่อาศัยในเบอร์ลินเป็นชาวฝรั่งเศส และอิทธิพลทางวัฒนธรรมของพวกเขาแก่เมืองนั้น มีมหาศาล ผู้อพยพอื่น ๆ จำนวนมากมาจากโบฮีเมีย โปแลนด์ และซาลซ์บูร์ก
คริสต์ศตวรรษที่ 20
หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง เมืองเบอร์ลินถูกแยกเป็นสองส่วน ระหว่างปี พ.ศ. 2492-2533 คือ เบอร์ลินตะวันออก และ เบอร์ลินตะวันตก ฝั่งตะวันออกปกครองโดยสหภาพโซเวียต ส่วนฝั่งตะวันตกปกครองโดย สหรัฐอเมรีกา สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส
โดยในช่วงแรก การแบ่งเขตเป็นไปอย่างไม่เคร่งเครียดนัก ประชาชนของทั้งสองฝั่งสามารถไปมาหาสู่กันได้ จนกระทั่งสงครามเย็นถึงจุดตึงเครียด รัฐบาลเบอร์ลินตะวันออกได้สร้างกำแพงเบอร์ลินขึ้นเมื่อ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2504 ล้อมรอบเบอร์ลินตะวันตก ตัดขาดสองฝั่งของเมืองออกจากกันอย่างสิ้นเชิง
ช่วงที่เยอรมนียังถูกแบ่งออกเป็นสองประเทศ ประเทศเยอรมนีตะวันออกถือเอาเบอร์ลินตะวันออกเป็นเมืองหลวงของตน (แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากชาติพันธมิตรตะวันตก) ส่วนเมืองหลวงของประเทศเยอรมนีตะวันตกคือบอนน์
(และโดยฐานะอย่างเป็นทางการแล้ว เบอร์ลินตะวันตก ก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนีตะวันตก)
หลังจากการรวมประเทศเมื่อ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2533 เบอร์ลินก็กลับมาเป็นเมืองหลวง ของประเทศเยอรมนีอีกครั้งหนึ่ง
ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สวัสดิ์ศุกรวารประสบ ดั่งส่องภพด้วยรัศมีรุจีฉานนะคะ
Create Date : 03 ธันวาคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 3 ธันวาคม 2553 9:58:54 น. |
Counter : 1538 Pageviews. |
|
|
|