ยล"ผ้าไหมยกทอง" "จันทรโสมา" ผืนละเฉียดแสน
โดย ขจรศักดิ์ สิริพัฒนกรชัย
ขั้นตอนการทอผ้าไหมยกทองของจันทรโสมา
| กล่าวถึง "บ้านท่าสว่าง" ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมืองสุรินทร์ ผู้คนทั่วไปอาจจะไม่รู้จัก
แต่ถ้าพูดว่า "หมู่บ้านผ้าไหมเอเปค" คงน่าจะเป็นที่คุ้นหูของใครหลายคนขึ้นมาบ้าง เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง มาจากการได้รับคัดเลือกให้ทอผ้าไหมยกทองโบราณ ไว้ใช้สำหรับตัดเสื้อและผ้าคลุมไหล่ให้กับผู้นำและคู่สมรส เมื่อครั้งที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคในปี พ.ศ.2546
ไม่เพียงแค่นั้น เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี หมู่บ้านแห่งนี้ก็ยังได้รับความไว้วางใจ ให้ออกแบบและทอผ้าไหม เพื่อนำไปเป็นผ้าคลุมพระอังสาแด่พระราชอาคันตุกะที่เสด็จฯ มาทรงร่วมฉลองการครองราชย์ครบ 60 ปี ของในหลวง อีกด้วย
ซึ่งผู้ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการพัฒนาคิดค้นวิธีการทอผ้าและควบคุมการผลิตในทุกๆ เซนติเมตรของผ้าไหมที่นี่ก็คือ อาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย หัวหน้ากลุ่มจันทรโสมา หมู่บ้านท่าสว่าง
และนอกจากนี้ อาจารย์วีรธรรม ยังเป็นอาจารย์พิเศษของมูลนิธิศิลปาชีพพิเศษ สวนจิตรลดาอีกด้วย
อาจารย์วีรธรรมเล่าให้ฟังว่า กลุ่มจันทรโสมาเกิดขึ้นมาได้เพราะ พระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเคยรับสั่งไว้กับอาจารย์สมิทธิ ศิริภัทร์ และ คุณหญิงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี ในเรื่องคุณภาพของผ้าไหมไทยที่ปัจจุบันมีความกระด้าง ไม่มีความนุ่มนวลเหมือนผ้าไหมในสมัยโบราณ ผ้าไหมยกทอง ลายตราสัญลักษณ์งานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
|
"เมื่อได้รับฟังพระราชเสาวนีย์ดังกล่าวจากอาจารย์สมิทธิ ด้วยความที่ผมเป็นคนสุรินทร์ ตั้งแต่เล็กก็จะเห็นการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมไว้ใช้ทอผ้ามาโดยตลอด ผมก็เลยรับอาสาท่านกลับมาที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อดูว่าที่นี่ยังมีการทอผ้าไหมแบบโบราณอยู่หรือเปล่า
"ซึ่ง ณ ตอนที่รับอาสาจากอาจารย์สมิทธิ ชาวบ้านที่ยังคงทอผ้าแบบโบราณนั้นเหลือน้อยเต็มที เนื่องจากชาวบ้านนิยมทอผ้าแบบสมัยใหม่มากกว่าคือ ใช้ไหมโรงงาน ใช้สีเคมีย้อมผ้า เป็นต้น แต่ก็ยังคงหลงเหลือชาวบ้านที่ทอผ้าแบบโบราณอยู่บ้าง ผมจึงรวบรวมชาวบ้านเหล่านั้นมาแล้วฟื้นกรรมวิธีการทอไหมแบบโบราณขึ้น ตั้งแต่การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การสาวไหมและวิธีการย้อมสีแบบดั้งเดิม จนกระทั่งได้ผ้าไปทูลเกล้าฯ ถวาย สมเด็จพระบรมราชินีนาถทอดพระเนตร" อาจารย์วีรธรรมเล่า
อาจารย์วีรธรรมเล่าต่อ พระองค์ท่านโปรดผ้าของเราเป็นอย่างมาก จึงมีรับสั่งให้เชิญชาวบ้านหมู่บ้านท่าสว่างกลุ่มนั้นเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาสอนกระบวนการผลิตผ้าไหมโบราณที่สวนจิตรลดา ทำให้หลังจากนั้นเป็นต้นมา จันทรโสมาได้ทูลเกล้าฯ ถวายผ้า แด่สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสมอมา ซึ่งคนทั่วไปจะรู้จักเราก็ตอนที่ได้รับคัดเลือกให้ทอผ้าไว้สำหรับตัดชุด ของบรรดาผู้นำในการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค วีรธรรม ตระกูลเงินไทย
|
"ความโดดเด่นของผ้าไหมจันทรโสมาก็คือ เป็นผ้าที่มีการผสมผสานกันระหว่างสองวัฒนธรรมคือ วัฒนธรรมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การย้อมสี การทอและการผลิตแบบดั้งเดิมของคนจังหวัดสุรินทร์ กับวัฒนธรรมการใช้ลวดลายชั้นสูงแบบราชสำนักโบราณ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า ผ้ายกราชสำนัก"
ซึ่ง อาจารย์วีรธรรมยังได้เล่าประเภทและเรื่องราวของผ้าราชสำนักให้ฟังเพิ่มเติมว่า ผ้าในราชสำนักมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท คือ ผ้าปูม (ผ้ามัดหมี่) ผ้ายก และผ้าลาย อย่างการนุ่งผ้าในราชสำนักเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องจากลวดลายของผ้าที่นุ่ง จะกำกับหรือบอกบรรดาศักดิ์ของขุนนางคนนั้นได้ พูดอย่างง่ายๆ ก็คือว่า ขุนนางที่บรรดาศักดิ์น้อยก็จะนุ่งผ้าที่มีลวดลายน้อย แต่ถ้าขุนนางที่มีบรรดาศักดิ์สูงก็จะนุ่งผ้าที่มีลวดลายมากนั่นเอง
"ผ้าในราชสำนักเป็นผ้าเฉพาะ เป็นเครื่องแบบของขุนนางและข้าราชการ ฉะนั้น การนุ่งหรือการใช้ใช่ว่าใครก็จะนำไปทำเลียนแบบได้ ซึ่งผ้าราชสำนักยังมีความสัมพันธ์กับผ้าไหมโฮล ผ้าพื้นเมืองของจังหวัดสุรินทร์อีกด้วย" อาจารย์วีรธรรมกล่าว
หลังจาก จันทรโสมา กลุ่มทอผ้าไหมยกทอง บ้านท่าสว่าง จังหวัดสุรินทร์ เริ่มมีชื่อเสียงจากการได้รับคัดเลือกให้ทอผ้าไว้ใช้สำหรับในพิธีการสำคัญๆ ของประเทศ ทำให้เริ่มมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเข้าชมกระบวนการผลิตเป็นจำนวนมาก
"นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมเราเยอะ อีกทั้งทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และทางจังหวัดได้เข้ามาส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ด้วย ทำให้ปัจจุบันตำบลท่าสว่าง จึงมีผ้าจากทั่วทั้งจังหวัดสุรินทร์มารวมกันอยู่ที่นี่ พื้นที่ตรงนี้จึงเป็นแหล่งซื้อขายผ้าไหมไปโดยปริยาย" อาจารย์วีรธรรมกล่าว
สำหรับผู้ที่สนใจเดินทางไปสถานที่ทอผ้าไหมยกทอง บ้านท่าสว่าง จังหวัดสุรินทร์
ล่าสุด มติชนอคาเดมี กำลังจะพาท่านไปที่จันทรโสมา เพื่อเข้าชมกระบวนการผลิตผ้า ตั้งแต่การย้อมสีผ้าไปจนถึงวิธีการทอผ้าไหมกันอย่างใกล้ชิดสุดสุด ในทัวร์ศิลปวัฒนธรรม "เที่ยวปราสาทหิน ถิ่นอีสานใต้ สุรินทร์-บุรีรัมย์" กับ ผศ.ดร.ศานติ ภักดีคำ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ไทย-เขมร ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 ตุลาคม
นอกจากไปชมกระบวนการผลิตผ้าไหมที่จันทรโสมาแล้ว ทัวร์นี้ยังพาไปเที่ยวชมปราสาทหินสำคัญๆ ในอีสานใต้อีกด้วย ปราสาทหินพนมรุ้ง, ปราสาทเมืองต่ำ จ.บุรีรัมย์ กลุ่มปราสาทตาเมือน, ปราสาทบ้านพลง จ.สุรินทร์
ผู้ใดสนใจเดินทางเรียนรู้วัฒนธรรมขอมโบราณ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มติชนอคาเดมี โทร.0-2954-3977-84 ต่อ 2113, 2114, 2123 และ 2124
หน้า 20,มติชนรายวัน ฉบับวันศุกร์ที่ 28 กันยายน 2555
ขอบคุณ มติชนออนไลน์ คุณขจรศักดิ์ สิริพัฒนกรชัย สิริสวัสดิ์ศุกรวารค่ะ
Create Date : 28 กันยายน 2555 |
Last Update : 28 กันยายน 2555 11:11:18 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3379 Pageviews. |
|
|