เปิดกรุบักกิ้งแฮม ชมศิลปะ "ฟาแบร์เช่"
เปิดกรุบักกิ้งแฮม ชมศิลปะ "ฟาแบร์เช่"
เมื่อหน้าร้อนมาเยือนในแต่ละปี สำนักพระราชวังบักกิ้งแฮมจะเปิดประตูต้อน รับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เข้าชมความงดงามของวังเมืองผู้ดี และอิ่มเอมกับนิทรรศการภายในห้องจัดแสดง
แม้ไฮไลต์ของปีนี้จะตกอยู่ที่ชุดแต่งงาน ของ เคต ดัชเชส แห่งเคมบริดจ์ หรือชุดเจ้าสาวแห่งปี แต่ผลงานของ นายปีเตอร์ คาร์ล ฟาแบร์เช่ ศิลปินช่างทองและช่างอัญมณีชาวรัสเซีย กลับสะดุดแสงสปอตไลต์เข้าอย่างจัง
เมื่อสมาชิกแห่งราชวงศ์อังกฤษโปรด ปรานกับชื่อเสียงการออกแบบและฝีมืออันประณีต เก็บสะสมเป็นคอลเล็กชั่นนับ 100 ชิ้น ไว้ในกรุราชสมบัติ 6 สมัย
ตั้งแต่ยุคของพระนางเจ้าวิกตอเรีย ถึงเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ในปัจจุบัน
จุดเริ่มต้นของศิลปะฟาแบร์เช่ ย้อนกลับไปในช่วงก่อนการล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟแห่งรัสเซีย ผู้มอบหมายภารกิจให้แก่ฟาแบร์เช่ผลิตไข่สำหรับผู้ปกครองรัสเซีย ตั้งแต่ปี 2428 จนถึงการปฏิวัติคอมมิวนิสต์ในปี 2460
ชิ้นงานที่ทรงคุณค่าที่สุดเห็นจะเป็น "ไข่โมเสก อิมพีเรียล" ที่บรรจงสร้างสรรค์ขึ้นจากชิ้นส่วนเล็กๆ ของมรกต ทับทิม และเพชร ประกอบด้วยภาพถ่ายของพระราช โอรสและพระราชธิดา ในพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 กับพระนางอเล็กซานดร้า ฟีโอโดรอฟนา ในปี 2457
เพื่อมอบเป็นของขวัญวันอีสเตอร์แด่พระชายา ก่อนจะถูกยึดไว้ในช่วงการปฏิวัติ
ต่อมาในปี 2476 พระเจ้าจอร์จที่ 5 จึงทรงซื้อจากร้านเครื่องประดับคามีโอ คอร์เนอร์ ที่กรุงลอนดอน ด้วยราคา "หั่นครึ่ง" ประมาณ 12,500 บาท
แคโรไลน์ เดอกีโต ภัณฑารักษ์ของสะสมราชวงศ์ กล่าวว่า ชิ้นนี้เป็นผลงานที่พิเศษสุด เพราะเพชรพลอยขนาดเล็กติดได้อย่างเหมาะเจาะกับช่องตัดทองคำขาว
ขณะที่ตะกร้าไข่ดอกไม้ก็เป็นอีกผลงานที่ฟาแบร์เช่ทำขึ้นตามคำบัญชาของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ในปี 2444 ก่อนตกทอดมาถึงสมเด็จพระราชินีแมรี่ ในปี 2476 ท่ามกลางบรรดาผลงานตระการตาอีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีไข่โคโลเนด ซึ่งผลิตขึ้นในปีพ.ศ.2453 ถวายมอบความสำราญเล็กๆ น้อยๆ แด่ราชินีอลิซาเบธ ในพระเจ้าจอร์จที่ 6 แห่งอังกฤษ ระหว่างช่วงศึกสงครามที่ต้องประทับอยู่แต่ในห้อง ณ พระราชวังบักกิ้งแฮม ในปี 2487
นาฬิกาที่สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ควีนองค์ปัจจุบันทรงซื้อในช่วงปี 2493 ที่ใส่น้ำหมึก เป็นของขวัญในวันอภิเษกสมรสระหว่างพระองค์และดยุกแห่งเอดิน เบอระ ในปี 2490
ขณะที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระราชทานที่เปิดจดหมายสีเงิน ของขวัญวันอภิเษกสมรสระหว่างพระองค์และเจ้าหญิงไดอาน่าในปี 2524 รวมทั้งกล่องใส่บุหรี่ รูปปั้นสัตว์นานาชนิด และนาฬิกาตั้งโต๊ะ ก็จะนำมาจัดแสดงไว้ในชุด "รอยัล ฟาแบร์เช่" ด้วยเช่นกัน
แคโรไลน์อธิบายว่า "ฟาแบร์เช่เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงมาก เพราะเทคนิคพิเศษที่ไม่เคยมีการลอกเลียนแบบ แถมยังเพิ่มมูลค่าเมื่อราชวงศ์โรมานอฟล่มสลายลง มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับรอยัลคอลเล็กชั่น จริงๆ"
ปัจจุบันราคาผลงานฟาแบร์เช่ ของตระกูลวินด์เซอร์ในตลาดผลักตัวสูงขึ้นจนมีมูลค่ามหาศาล เนื่องจากประวัติศาสตร์การผลิตของฟาแบร์เช่ ทั้งห้องทำงาน และผลงานบางส่วนถูกรัฐบาลยึดไว้เป็นของกลางในปี 2461
จุดสูงสุดของธุรกิจฟาแบร์เช่ คือมีลูกจ้างช่างฝีมือดี 500 คน ส่วนตำนานไข่อิมพีเรียล 50 ใบของฟาแบร์เช่ ฟองแรกคือ "ไข่ไก่" ในปี 2428 และ "ไข่เหล็กแบบทหาร" ของปี 2459 เป็นใบสุดท้ายในชุดดังกล่าว
แม้ไข่ฟาแบร์เช่สำหรับจักรพรรดิรัสเซีย จะเป็นการสูญเสียแนวทางจริงในธุรกิจของเขา ด้วยการผลิตของขวัญราคาแพงสำหรับเศรษฐีรัสเซียยุคใหม่ แต่ฟาแบร์เช่ก็ยังคงความเป็นตัวเอง
ผลิตผลงานจำนวน 155,000 ชิ้น ที่มีเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในโลกตามที่เขาเคยสาบานว่าจะไม่ทำซ้ำผลงานของตัวเอง
หลังการปฏิวัติรัสเซีย ครอบครัวฟาแบร์เช่สูญเสียอำนาจการใช้ชื่อบริษัท ซึ่งซื้อไปโดยบริษัทผลิตสินค้าเครื่องอาบน้ำ สัญชาติอเมริกัน ในปี 2507 ชื่อฟาแบร์เช่อันมีเกียรติ กลายเป็นบริษัทจำหน่ายที่ระงับกลิ่นกายยี่ห้อบรุต
แต่ในที่สุดชื่อของฟาแบร์เช่ ก็ได้รับการฟื้นฟูโดยความร่วมมือของสมาชิกในครอบครัว เปิดตัวเป็นบริษัทขายเครื่องประดับสุดหรู กับเพชรเม็ดงามที่สนนราคาสูงถึง 210 ล้านบาท
งานที่มีคุณค่าในชุดไข่อิมพีเรียล ยังเป็นที่หมายตาในสงครามการประมูลระหว่างเชื้อสายราชวงศ์รัสเซียรุ่นใหม่ ซึ่งต้องการนำไข่ฟาแบร์เช่กลับคืนสู่บ้านเกิด
สำหรับชาวอังกฤษและนักท่องเที่ยวในอังกฤษ ช่วงฤดูร้อนนี้จะมีโอกาสได้ยลโฉมผลงานของฟาแบร์เช่อย่างใกล้ชิด และอาจได้คำตอบว่า ทำไม จึงมีผู้ปรารถนาครอบครองผลงาน ของช่างเอกชาวรัสเซียท่านนี้อยู่ไม่เสื่อมคลาย
หน้า 25
ขอขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์
สิริสวัสดิ์ศุกรวารค่ะ
Create Date : 22 กรกฎาคม 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 12 มีนาคม 2555 14:40:12 น. |
Counter : 1506 Pageviews. |
|
|
|