รักยกกำลังสอง บทที่ 24 แสงสว่างกับความมืด (Lighten and Darkness)
ฆ่า! ไอ้พวกมนุษย์เฮงซวย! ข้าจะฆ่าพวกแกให้หมด ไอ้พวกหนอนสกปรก! ถ้าข้าได้มาเรียกลับคืนมาเมื่อไหร่ข้าจะขยี้พวกแกให้เละเลย เพื่อโลกที่มาเรียรัก เพื่อมาเรียที่รักของข้า เสียงคำรามที่แฝงไว้ด้วยความอาฆาตแค้นแผดดังออกมาจากส่วนที่ลึกที่สุดของถ้ำ แล้วดวงตามหึมาสีแดงฉานก็เบิกโพลงขึ้น ทำให้พื้นเบื้องบนสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งป่า!?!
ขณะเดียวกันเรนะตัวปลอมก็พูดขึ้นว่า เอย์จิคุง ชั้นจะเป็นคนอยู่ที่นี่เองจ๊ะ
ไม่ได้นะเรนะ เธอพาเรกะจังออกไปเถอะ ชั้นจะอยู่เอง เอย์จิตัวปลอมปฏิเสธ
เอย์จิคุง! เรนะร้องเรียกเขาแล้วทั้งคู่ก็โผเข้ากอดกันแน่น
ส่วนเรกะที่ยืนมองภาพบาดตาบาดใจอยู่ตรงหน้านั้นก็กัดฟัน! กำมือแน่น! แขนขาเหยียดเกร็งสั่นระรัว
เรนะ ชั้นขอเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายได้มั้ย เอย์จิมองตาแฟนสาวแล้วขออะไรบางอย่างจากเธอ เรนะเองก็แหงนมองเขาตอบอย่างไร้เดียงสา
และแล้วเอย์จิก็ค่อย ๆ โน้มตัวลงจูบที่ริมฝีปากของเธอ เรนะเองก็ช่วยเขย่งขาขึ้นแล้วเอามือกอดไหล่เขาแน่น ทั้งสองบรรจงจูบกันอย่างดูดดื่มลึกซึ้งจนเรกะที่ยืนมองอยู่รู้สึกจี๊ดขึ้นในอก แต่ทั้งคู่ก็ทำเหมือนกับเธอไม่มีตัวตน***
อีกฟากหนึ่งของถ้ำเรนะตัวจริงก็ได้แต่ยืนซึม ๆ มองภาพลวงตาของพี่สาวกับเพื่อนสนิทที่กำลังกอดกันอยู่ตรงหน้า เรกะจัง เอย์จิเอามือเช็ดน้ำตาเธอเบา ๆ แล้วพูดว่า อย่าร้องไห้สิ น้ำตาไม่เหมาะกับเธอหรอก
เรกะพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้แต่ก็สุดจะทนไหว เธอเลยสะอื้นออกมา เอย์จิคุง ฮึก ๆๆๆ
เอย์จิเอามือลูบแก้มเธออย่างอ่อนโยนพร้อมยิ้มให้แล้วพูดว่า ชั้นรักเธอนะ แล้วเขาก็ประคองเธอไปที่หน้าประตูหินตรงที่เรนะยืนอยู่
พอเขาจะปล่อยมือเธอ เรกะก็ฝืนรั้งเอาไว้และส่ายหน้าไม่ให้เขาไป เอย์จิคุงไม่นะ
เอย์จิมองตาเธอแล้วก็พูดว่า เธอต้องเข้มแข็งไว้นะ เพื่อเรนะจังด้วย แล้วเขาก็แกะมือเธอออก
ไม่นะ อย่าทิ้งชั้นไว้คนเดียว เรกะพยายามฝืนสุดฤทธิ์ แต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้
เรนะจังฝากดูแลเรกะด้วยนะ เอย์จิหันมาสั่งเสีย แต่เรนะที่กำลังยืนเจ็บจี๊ดอยู่ในอกก็ไม่รู้จะตอบเขายังไง เธอได้แต่ทิ้งแขนลงข้างลำตัว ยืนโซไปเซมาจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่เหมือนคนหมดแรง
เอย์จิแกะมือเรกะออกแล้วเดินกลับไปที่แท่น เรนะก็ค่อย ๆ กระเถิบเข้าไปกุมมือพี่สาว พอเอย์จิเปิดประตูกลไกได้ เขาก็ยิ้มให้ทั้งสองคนแล้วพูดว่า รีบไปเถอะ
แต่ทันใดนั้นเรกะก็ผละออกจากเรนะ แล้วกระโดดเข้าไปจูบเอย์จิทันที!!! เอย์จิเองก็จูบตอบเธอแบบไม่ทันตั้งตัวเช่นกัน ทั้งสองกอดจูบกันอยู่นาน เรนะที่ยืนมองอยู่นั้นก็รู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจตัวเองกำลังร่วงหล่นลงไปในหุบเหวลึก ตอนนี้เธอไม่สามารถสัมผัสถึงก้อนเนื้อที่เต้นอยู่ในอกตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว***
ทางด้านเรกะตัวจริงที่กำลังยืนนิ่งดูเรนะจูบกับเอย์จิก็รู้สึกไม่ต่างกัน ทั้งสองกอดจูบกันอยู่นานกว่าจะคลายออก แล้วเรนะตัวปลอมก็หันมามองพี่สาวทั้งน้ำตา พี่คะหนูขอโทษ!?!
อย่านะเรนะ เรกะเค้าไม่เกี่ยวอะไรด้วย เอย์จิรีบห้ามราวกับรู้ว่าเธอกำลังจะพูดอะไร ส่วนเรกะก็ได้แต่ยืนเหงื่อซึมกำมือแน่น ทว่ามือทั้งสองข้างนั้นกลับเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง
ถึงแม้เอย์จิจะห้ามเธอ แต่เรนะก็ยังหันมาขอร้องพี่สาวด้วยน้ำตาอาบแก้มว่า ขอโทษนะคะพี่ หนูอยู่ไม่ได้จริง ๆ ถ้าไม่มีเอย์จิ ได้โปรดปล่อยพวกเราไปได้มั้ยคะ
พอได้ฟังที่น้องสาวพูด เรกะก็จิกเล็บเท้าลงกับพื้นราวกับอยากตรึงร่างของตัวเองเอาไว้ ก่อนที่จะควบคุมไม่ได้แล้วเผลอทำอะไรรุนแรงออกไป เธอจ้องหน้าน้องสาวฝาแฝดที่กำลังขอร้องให้เธอตายอยู่ที่นี่เพื่อให้ตัวเองรอดไปมีความสุขกับคนรัก แล้วหันไปมองหน้าเอย์จิเพื่อดูว่าเขาจะพูดยังไง
เอย์จิเองพอสบตากับเรกะแวบนึง เขาก็หลบสายตาหนีแล้วหันไปบอกเรนะว่า ชั้นเองก็อยู่ไม่ได้เหมือนกันถ้าไม่มีเธอ แต่เธอต้องเข้มแข็งไว้นะ เรกะเค้าเป็นคนนอก จะให้เค้ามารับเคราะห์แทนเราไม่ได้หรอก
พอเอย์จิพูดจบ เรกะก็รู้สึกเหมือนกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง เธอไม่มีสติรับรู้แล้วว่ากำลังยืนอยู่ที่ไหนหรือกำลังทำอะไร ในหัวเธอตอนนี้มีเพียงคำพูดที่ซ้ำวนไปวนมาว่า ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา! เป็นแค่คนนอก! ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา! เป็นแค่คนนอก!
ขณะที่เรกะกำลังช็อกอยู่นั้น เรนะตัวปลอมก็เข้ามากุมมือเธอแล้วขอร้องว่า พี่คะได้โปรดเถอะค่ะ
เรนะอย่าไปดึงคนอื่นเข้ามาลำบากเพราะเราเลย ภาพลวงตาของเอย์จิร้องห้ามแต่คำพูดของเขากลับยิ่งทิ่มแทงใจเรกะมากขึ้นไปอีก***
อีกฟากหนึ่งเรนะตัวจริงก็กำลังยืนมองพี่สาวกับเอย์จิจูบกันอยู่ พอทั้งสองคลายตัวออกจากกัน เรกะก็หันมาน้ำตาคลอขอร้องน้องสาวว่า เรนะพี่ขออะไรเธออย่างได้มั้ย
ค่ะ เรนะตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเหมือนคนหมดแรง
ขอโทษนะ พี่ทนไม่ได้จริง ๆ ถ้าต้องเสียเอย์จิคุงไป
หนูทราบค่ะ เรนะก้มหน้าตอบเบา ๆ
พี่ขอโทษเธอจริง ๆ ได้โปรดทำเพื่อพวกเราได้มั้ย
พอเรนะได้ยินสิ่งที่พี่สาวขอ เธอก็นิ่งเงียบ
อย่านะเรกะ นั่นน้องสาวเธอนะ! เอย์จิทำเสียงดุ
ชั้นเองก็ไม่อยากให้มันเป็นอย่างงี้เหมือนกัน แต่จะให้ชั้นทำยังไง! ชั้นรับไม่ได้นี่ ถ้าต้องเสียเธอไป เรกะตะคอกกลับแล้วก็ร้องไห้โฮ ฮือออ ๆๆๆ เธอจะโกรธจะเกลียดพี่ก็ได้ จะด่าว่าพี่เห็นแก่ตัวก็ได้ พี่ยอมทุกอย่าง แต่ได้โปรดเถอะนะ แล้วเรกะก็เข้าไปกุมมือน้องสาว
เรกะ! เอย์จิเข้ามาโอบกอดเธอจากด้านหลังแล้วพูดว่า ชั้นเองก็อยู่ไม่ได้เหมือนกันถ้าไม่มีเธอ แต่อย่าทำร้ายเรนะจังเลยนะ อย่าให้เค้าต้องมาเสียสละเพราะพวกเราเลย
เอย์จิคุง ฮือออ ๆๆๆ เรกะได้แต่ร้องไห้กุมมือเอย์จิไว้
เรนะยืนนิ่งมองทั้งสองคนแล้วภาพเก่า ๆ ในความทรงจำก็ค่อย ๆ ผุดขึ้นมา
{{อรุณสวัสดิ์เรนะ วันนี้เธอเป็นเวรดูแลกระต่ายเหรอ,จ๊ะ เลยต้องมาแต่เช้าเลย แล้วเธอรู้ได้ไงอ่ะ,เรกะบอกหน่ะ เมื่อเช้าชั้นเจอเค้ากลางทาง,เช้านี้ทาคุมิคุงมาพร้อมกับพี่เรกะเหรอ,อื้อ,ดีจังที่เธอเดินมาโรงเรียนเป็นเพื่อนพี่เรกะ ปกติพวกเราจะมาพร้อมกันหน่ะ}}
{{เปล่า แค่มาดูว่าเธอเป็นไงมั่งอ่ะ,เค้าไม่เป็นไรแล้วแหละ,แล้วกับตาคนนั้นหล่ะ, เค้าก็ไม่รู้เหมือนกัน,พี่ก็เข้าใจเธอนะ แต่เธอน่าจะลองฟังเหตุผลของเค้าหน่อย จริง ๆ แล้วเธอก็ไม่คิดว่าเค้าเป็นคนไม่ดีใช่มั้ยล่ะ}}
{{สัญญานะว่าจะไม่บอกใคร โดยเฉพาะเรนะ,แล้วถ้าเรนะจังมารู้ทีหลังหล่ะ,ก็ห้ามไม่ให้รู้สิยะ เหยียบไว้เลยนะ,เข้าใจแล้ว ๆ}}
ระหว่างที่เรนะกำลังนึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ เรกะก็ขอร้องแกมบังคับอีกครั้งว่า นะ ๆ เรนะเห็นแก่ความสุขของพี่เถอะ พี่เองก็ดูแลเธอมาตลอด ดีกับเธอมาตลอดไม่ใช่เหรอ ทำเพื่อพี่ซักครั้งเถอะนะ
คะ ค่ะ เรนะตอบเหมือนคนไร้สติ ตอนนี้ในจิตใจของเธอเริ่มขุ่นมัวขึ้นทีละน้อย ๆ เธอเริ่มรู้สึกไม่ดีกับพี่สาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าที่จ้องมองเหมือนกับรักใคร่แต่แฝงไว้ด้วยความเห็นแก่ตัว ความรู้สึกจงเกลียดจงชังค่อย ๆ พอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้หูของเธอไม่สามารถได้ยินอะไรอีกต่อไปแล้ว
สิ่งที่อยู่ในหัวเธอมีเพียง ให้หนูเสียสละแล้วจะไปมีความสุขกันสองคนใช่มั้ย จริง ๆ แล้วหนูเป็นตัวเกะกะสินะ ทั้ง ๆ ที่หนูเป็นห่วงพี่มากขนาดนี้ แต่จะทิ้งหนูไว้งั้นสินะ!?!
ระหว่างที่หัวใจของเรนะกำลังถูกย้อมด้วยความเกลียดชังนั้น เธอก็เงยหน้ามองเอย์จิ แล้วนึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมา!?!
{{คือว่าเรื่องเมื่อวานตอนกลางวันหน่ะ,คือว่าเรื่องที่ชั้นพูดกับเธอหน่ะ,คือว่าเธอ เอ่อ...เธอจะรังเกียจมั้ยถ้าชั้นจะขอคบกับเธอแบบมากกว่าเพื่อนหน่ะ}}***
ด้านเรกะตัวจริงก็กำลังยืนมองน้องสาวที่กุมมือเธออยู่เช่นกัน น้องสาวฝาแฝดที่อยู่กับเธอมาตั้งแต่เกิด ใบหน้าที่เหมือนกับเธอราวกับส่องกระจกกำลังร้องไห้อ้อนวอนขอให้เธอเสียสละเพื่อชายคนรัก ใบหน้าที่น่ารักใสสะอาดแต่ภายในจิตใจกลับโหดร้าย ยอมได้แม้กระทั่งจะแลกชีวิตพี่สาวแท้ ๆ เพื่อให้ตัวเองได้สมหวังกับชายหนุ่มที่เพิ่งพบกันไม่นาน และชายหนุ่มคนนั้นก็ดันเป็นคนที่ทำให้หัวใจของเธอต้องหวั่นไหวเป็นครั้งแรกในชีวิต
เพียงแค่ผู้ชายคนเดียว ทั้ง ๆ ที่ชั้นยอมทำเพื่อเธอได้ทุกอย่าง แต่กับแค่ผู้ชายคนเดียว เรกะพูดเสียงสั่นแต่แฝงความก้าวร้าวอยู่ในลำคอ
ระหว่างที่เรกะกำลังพึมพำอยู่นั้น เรนะก็ถามย้ำว่า พี่คะ ได้มั้ยคะ?
หึหึหึ!?! ในส่วนที่ลึกที่สุดของถ้ำดวงตาสีแดงก็ยิ้มเยาะอย่างสะใจ ใช่ จงเกลียดชังเข้าไป เปิดใจรับตัวตนที่แท้จริงของตัวเองซะ เนื้อแท้ของมนุษย์มันก็แค่ก้อนความชั่วเท่านั้นแหละ หึหึหึ เพื่อที่ข้าจะได้มาเรียกลับคืนมาชั่วนิจนิรันดร์ ฮ่า ๆๆๆๆ
แล้วในที่สุดเรกะก็สะบัดมือน้องสาวที่กุมมือเธอทิ้งไปแล้วกึ่งพูดกึ่งตะคอกว่า เรนะ เอย์จิคุง!!!
ในเวลาเดียวกันเรนะตัวจริงที่อยู่อีกฟากของถ้ำก็พูดกับเรกะและเอย์จิตัวปลอมว่า พี่คะ เอย์จิคุง!!!
แล้วสองพี่น้องฝาแฝดก็พูดขึ้นพร้อมกันว่า หนูจะอยู่ที่นี่ให้เองค่ะ /// พวกเธอมันเลวที่สุดดดด!!!
พอเรกะตวาดจบเธอก็หันหลังกระทืบเท้าแล้ววิ่งหนีไปทั้งน้ำตา!!!
ชิ! ได้แค่คนเดียวเรอะ แต่ไม่เป็นไร ร่างที่เปี่ยมด้วยพลังขนาดนี้ถึงจะแค่คนเดียว ก็เกินพอที่จะทำให้มาเรียกลับคืนมา หึหึหึ!?!
อีกด้านหนึ่งในถ้ำส่วนที่ลึกเข้าไปก็มีแท่งน้ำแข็งขนาดพอ ๆ กับประตูบานใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ มันมีลักษณะเหมือนแท่งคริสตัล 6 เหลี่ยมที่ถูกตัดจนเรียบคม ด้านล่างมีลักษณะเป็นปลายแหลม 6 เหลี่ยม ส่วนด้านบนก็มีลักษณะเป็นปลายแหลมเช่นกันแต่มุมป้านกว่าด้านล่างพอสมควร แท่งน้ำแข็งปักอยู่บนพื้นโดยมีแผ่นน้ำแข็งบาง ๆ จับตัวประคองเอาไว้ ภายในมีร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งแช่แข็งอยู่ราวกับถูกสต๊าฟ
สายลมที่พัดลอดผ่านอุโมงค์ถ้ำเข้ามาก็นำพาเสียงกระซิบแผ่วเบามากระทบกับแท่งคริสตัลจับใจความได้ว่า ตื่นเถอะ! ถ้าเธอไม่รีบลืมตาขึ้นมา คนสำคัญของเธออาจจะไม่กลับมาอีกเลยนะ เสียงนั้นพยายามปลุกเด็กหนุ่มให้รู้สึกตัว
แต่ก็ไร้ผล
ทางด้านเรกะที่วิ่งร้องไห้หนีออกมาจากภาพลวงตาของเอย์จิกับเรนะก็เดินหลงเข้าไปในความมืดผ่านทางแยกน้อยใหญ่สลับซับซ้อนตามที่ปีศาจร้ายต้องการ ตลอดทางเธอจะเห็นเพียงทางเดินตรง ๆ และต้นปะการังสีชมพูที่คอยส่องแสงอยู่เท่านั้น ทั้งหมดเป็นภาพลวงตาที่ปีศาจสร้างขึ้นเพื่อชี้นำเธอ พอเริ่มเหนื่อยเธอก็หยุดพักแล้วเอามือพิงกำแพงถ้ำกึ่งพูดกึ่งหอบว่า แฮ่ก ๆๆ เลวที่สุด! ชั้นไม่มีวันยกโทษให้พวกเธอเด็ดขาด เอย์จิ!!! เรนะ!!!
แววตาของเรกะตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธแค้นชิงชัง ต่างกับแววตาที่น่ารักสดใสของเด็กสาวคนเดิมอย่างสิ้นเชิง
ดวงตาสีเลือดคู่นั้นเฝ้ามองเรกะจากส่วนที่ลึกที่สุดในถ้ำ มันจ้องทะลุเข้าไปข้างในหัวใจของสาวน้อยแล้วก็คำรามว่า หึหึหึ ดีมาก! หัวใจสีชมพูกำลังค่อย ๆ ถูกย้อมด้วยความมืด ใช่แล้ว! จงเปิดรับความเกลียดชังเข้าไปเรื่อย ๆ จงปล่อยให้ความมืดเข้าครอบงำทั้งร่างกายและวิญญาณ แล้วเมื่อนั้นเจ้าก็จะเป็นของข้าอย่างสมบูรณ์ ฮ่า ๆๆๆๆ
เมื่อความมืดเริ่มแทรกซึมเกาะกินหัวใจ อำนาจของปีศาจร้ายก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้น จนมันสามารถบันดาลให้เธอได้ยินเสียงต่าง ๆ ข้างในสมองเธอได้ตามที่มันต้องการ
{{คิก ๆๆ เอย์จิคุงจ๊ะระหว่างเค้ากับพี่ใครน่ารักกว่ากัน
แหมถามแบบนี้ ก็แน่อยู่แล้วสิ สำหรับชั้นหน่ะไม่มีใครน่ารักเกินเรนะหรอกจ้ะ
แหม แต่พี่เรกะเป็นฝาแฝดกับเค้านะ
หึ! ถึงจะหน้าเหมือนกันแต่นิสัยต่างกันคนละขั้วเลยนะ ผู้หญิงหยาบกระด้างพรรค์นั้นใครจะไปสน
พูดจริงอ๊ะ งั้นให้รางวัลหนึ่งที เอ้าจุ๊บบบ!!!
อ๊ะ แต่ว่าเอย์จิคุงห้ามไปพูดแบบนี้ให้พี่เค้าได้ยินนะ
บ้าสิ! ใครจะไปพูดหล่ะ แต่ว่าเราอย่ามัวไปสนใจคนอื่นเลย ที่นี่มีแค่เราสองคนแล้วนะ อิอิอิ
บ้า! เอย์จิคุงอะ ทำอะไรไม่รู้ ทะลึ่ง ลามก คิก ๆๆ
}}
เสียงที่ปีศาจร้ายบันดาลให้เธอได้ยินยิ่งทำให้ความมืดลุกลามเกาะกินหัวใจเธอเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว ใบหน้าของเรกะเริ่มเขม็งเกลียวดุดันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เธอขบฟันแน่นดังกรอด ๆ เอย์จิ!!! เรนะ!!! แล้วเจ้าปีศาจร้ายก็ครอบงำจิตใจเธอหนักขึ้นเรื่อย ๆ
{{เรกะ ฮิเมะอะเหรอ บอกตามตรงนะ ถ้าเลือกได้ชั้นไม่อยากคบด้วยหรอก คราวนี้เธอได้ยินเสียงคูมิยะในหัว
นั่นสิ เจ้าอารมณ์ ขี้โวยวาย เอาแต่ใจตัวเอง ไม่เห็นมีอะไรดีซักอย่าง เวลาอยู่ด้วยแล้วอึดอัดชะมัด เสียงนายะดังขึ้นบ้าง
โอ้ยยย เรกะอะเหรอ เห็นว่าเป็นพี่สาวเรนะจังหรอกนะถึงยอมเป็นเพื่อนด้วย เสียงคอนจิแว่วขึ้นมาอีกคน
ใช่ ๆ ไม่งั้นอย่างยัยนั่นชั้นไม่มีวันเข้าใกล้หรอก ยี๊!!! คราวนี้เป็นเสียงของฟูจิบ้าง
อ๊ะ! พูดปุ๊บมาปั๊บเลย พวกเราหลบเร็ว! คูมิยะบอกทุกคน แล้วทั้ง 4 ก็รีบแยกย้ายกันไป}}
หัวใจของเรกะดำมืดลง ๆ จนเกือบจะเป็นสีดำสนิททั้งดวง เธอกำลังจะตกเป็นทาสของปีศาจร้ายเต็มที!?!
ขณะเดียวกันในถ้ำอีกฟากหนึ่งก็เหลือเพียงเรนะนั่งพับเพียบหลับตาพิงกำแพงคิดทบทวนอะไรบางอย่างอยู่ในความมืด...
{{คือว่าเรื่องเมื่อวานตอนกลางวันหน่ะ,คือว่าเรื่องที่ชั้นพูดกับเธอหน่ะ,คือว่าเธอ เอ่อ...เธอจะรังเกียจมั้ยถ้าชั้นจะขอคบกับเธอแบบมากกว่าเพื่อนหน่ะ}}
{{เปิดให้ดูหน่อยสิจ๊ะเอย์จิคุง,จะ จะดูทำไม,ก็เค้าอยากเห็นนี่ว่ามันใหญ่แค่ไหน!?!, งั้นถ้าดูแล้วขอใส่นะ, บ้าใส่ตอนนี้ได้ไง เดี๋ยวใครมาเห็นหรอก, นี่! พวกเธอทำอะไรกันยะ!!!, แบร่!!! รู้นะว่าแอบฟังเค้าอยู่}}
{{ไม่ใช่นะไม่ใช่! ชั้นไม่เคยมีแฟนหรอก, นั่นแน่! ท่าทางมีพิรุธนะ คำอ้างของจำเลย ศาลฟังไม่ขึ้นเจ้าค่ะ, จริง ๆ นะ สาบานด้วยเกียรติของลูกเสือเลยครับศาล!!!, งั้นศาลจะขังจำเลยไว้ก่อนละกัน รอจนกว่าจะมีหลักฐานน่าเชื่อถือแล้วค่อยตัดสินอีกที, ศาลครับได้โปรดเมตตาผมเถอะ}}
ความรู้สึก
ในตอนนั้น เรนะพูดเบา ๆ แล้วเอามือกุมหน้าอกตัวเอง เธอหันไปสบตาเอย์จิแล้วพูดในใจว่า ตอนนั้น...ชั้น...มีความสุขมากจริง ๆ ขอบใจนะ แล้วเธอก็หันไปมองหน้าพี่สาว พี่เองก็คงต้องการความสุขเหมือนกับเราสินะ แล้วภาพเก่า ๆ ก็ค่อย ๆ ผุดขึ้นมา
{{ไว้กลางคืนเราไปขับมอไซด์เหล่หญิงกันนะพวก อิอิ, แต่อย่างทาคุมิคุงคงไม่ไปทำอะไรอย่างนั้นหรอกใช่มั้ยจ๊ะ, ชั้นไม่ทำแน่นอน!!!}}
{{เรียกเรนะก็ได้จ๊ะ,เรียกฮิเมะก็เลยไม่รู้กันพอดีสิว่าคุยกับใคร,ขอโทษนะ เร...เรกะ,เป็นไรแค่เรียกชื่อทำไมต้องอายด้วย,ปะ ปะ เปล่า ไม่ใช่หยั่งงั้น}}
{{เอาหล่ะ! พร้อมออกทะเลรึยังจ๊ะ, แหะ ๆ อย่าให้ล่มแบบไททานิคละกัน, ไม่รับรองความปลอดภัยนะ อิอิ}}
{{ระหว่างที่พายเรือเรนะก็เอามือลูบผมเอย์จิแล้วยิ้ม หลับหยั่งกะเด็กเลย คงเหนื่อยมาทั้งวันสินะจ๊ะ}}
{{รู้มั้ยจ๊ะตั้งแต่เธอย้ายมา ชั้นมีความสุขทุกวันเลย ขอบใจนะจ๊ะ, เธอจะรู้ตัวรึเปล่าน้าว่าเธอเป็นเพื่อนชายที่ชั้นสนิทที่สุด สบายใจที่สุด และก็รู้สึก... ประโยคสุดท้ายเรนะพูดต่อแค่ในใจ แล้วเธอก็ก้มลงจูบที่ริมฝีปากเอย์จิที่กำลังหลับอยู่เบา ๆ!!!}}
เรนะย้อนนึกถึงความทรงจำเก่า ๆ แล้วก็นึกถึงคืนที่ไปค้างที่บ้านคูมิยะ
{{ทั้ง ๆ ที่พี่คือคนที่ชั้นรักที่สุดในโลก ชั้นเป็นน้องที่เลวมากเลยใช่มั้ย ชั้นเป็นคนที่เลวมากใช่มั้ย}}
เสร็จแล้วเธอก็หันไปมองหน้าเรกะกับเอย์จิ ใบหน้าของคนสำคัญของเธอทั้งสองคนที่ขอร้องให้เธอเสียสละเพื่อพวกเค้า และในที่สุดเธอก็ตัดสินใจได้
เรนะทำสายตาแน่วแน่คิดในใจว่า พี่คะ! หนูเองก็อยากให้พี่ได้รับความสุขแบบนั้นเหมือนกันค่ะ
แล้วเธอก็ยิ้มบอกกับภาพลวงตาทั้งสองว่า พี่คะ เอย์จิคุง!!!
หนูจะอยู่ที่นี่ให้เองค่ะ พอเธอพูดจบน้ำหยดนึงก็ไหลลงมาจากหางตา มันไหลเป็นทางทิ้งคราบไว้เป็นหลักฐานลงบนแก้มขาว ๆ
ขอบใจนะ เรกะตัวปลอมบอกกับเธอแล้วแกล้งยิ้มเยาะที่มุมปาก
พวกเราจะไม่ลืมเธอเลย เอย์จิตัวปลอมพูดแล้วหันไปยิ้มให้เรกะ
แต่ไม่ว่าภาพลวงตาของปีศาจร้ายจะพยายามยั่วเธอเพียงไร มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เธอตัดสินใจไปแล้วได้ พอเรนะกดแท่นกลไก ประตูหินก็ถูกยกขึ้น แล้วเอย์จิกับเรกะก็เดินผ่านประตูออกไป เรนะยืนมองส่งทั้งสองจนประตูเลื่อนปิดลงมา แล้วเหล่าต้นปะการังสีชมพูที่เป็นภาพลวงตาก็กลายเป็นสีดำ ทำให้ในถ้ำเหลือแต่ความมืดมิดเท่านั้น แล้วเรนะก็นั่งพับเพียบลงกับพื้น เอาหลังพิงแพงหลับตาลงเพียงลำพัง
ในห้วงแห่งความคำนึงนั้นเรนะก็นึกถึงภาพของเขา ใบหน้าของเขาตอนที่กอดเธอกระโดดลงมาจากบันจี้จั้มป์ รอยยิ้มของเขาตอนที่นั่งอยู่ในเรือพายด้วยกันสองต่อสอง คำพูดที่เขาสารภาพกับเธอท่ามกลางแสงสนธยา ความทรงจำต่าง ๆ ที่เขากับเธอมีร่วมกัน สองมือของเธอที่กุมอยู่ตรงหน้าอกนั้นสัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจเต้นตุบ ๆ แล้วเธอก็ถามตัวเองเบา ๆ ว่า ความรู้สึกนั้นมัน...ใช่...ความรัก...รึเปล่านะ!?!
ณ เวลาปัจจุบันเรนะที่นั่งหลับตาพิงกำแพงอยู่ในความมืดนั้นก็ลุกขึ้นเหมือนกับเพิ่งรวบรวมเรี่ยวแรงเสร็จ เธอเอามือเช็ดคราบน้ำตาที่แก้มแล้วบอกกับตัวเองว่า เอาหล่ะ! จากนี้ไปจะทำไงต่อดีหล่ะ แต่ทว่าเธอก็ไม่สามารถเดินไปไหนได้ เพราะรอบ ๆ ข้างมีแต่ความมืด
ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียง ๆ หนึ่งแว่วเข้าหู ใช่แล้วหล่ะจ๊ะ เธอต้องเข้มแข็งไว้สิ ก็สัญญากับชั้นแล้วนี่ แล้วซายะก็ปรากฏกายขึ้นตรงหน้าเธอ! หญิงสาวในชุดกิโมโนขาวส่องแสงขาวนวลออกมารอบ ๆ ตัวราวกับหิ่งห้อย เธอแบมือเอาสันมือทั้งสองประกบติดกัน ในอุ้งมือนั้นมีเศษแก้วสีดำเป็นเกล็ดเล็ก ๆ อยู่นับสิบชิ้น
คุณซายะ!?! เรนะทำหน้าตกใจ
เธอบอกชั้นเองไม่ใช่เหรอว่าถึงจะทำไม่สำเร็จแต่ก็จะขอสู้ให้ถึงที่สุดหน่ะ
คะ
ค่ะ ตะ แต่ว่าพี่กับเอย์จิคุงออกไปแล้ว แล้วหนูก็เปิดประตูนั้นไม่ได้ด้วย
หึ ซายะมองหน้าบ้องแบ๊วของสาวน้อยแล้วเธอก็ยิ้มที่มุมปาก แล้วเธอได้สู้จนถึงที่สุดรึยังหล่ะ
พอฟังคำถามของซายะก็ทำให้เรนะคิดได้ ยะ ยังค่ะ
แล้วซายะก็ยื่นมือทั้งสองที่มีเศษแก้วเข้ามาใกล้ ๆ พร้อมพูดว่า นี่เป็นของขวัญจากชั้นจ๊ะ
ทันใดนั้นเศษแก้วเกล็ดเล็ก ๆ สีดำก็ส่องสว่างออกมาเป็นแสงสีชมพู แสงนั้นสว่างจ้าจนทำให้ทั่วทั้งถ้ำกลับมาสว่างไสว แสงนั้นแยงเข้าตาจนเรนะต้องเอามือมาบังไว้ แล้วพอความสว่างค่อย ๆ ลดลง เศษแก้วในมือของซายะก็กลับกลายเป็นสร้อยคอสีชมพู มันเป็นสร้อยเส้นเดียวกับที่น่าจะหล่นแตกไปแล้วตรงปากถ้ำ
เรนะได้แต่นิ่งยืนงง ซายะเลยเอาสร้อยเส้นนั้นสวมให้กับเธอ มันค่อย ๆ เลื่อนลงไปคล้องรอบคอขาว ๆ ของเด็กสาวได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ
สร้อยของมิยูกิจะปกป้องเธอ รักษามันให้ดี ๆ หล่ะ พอพูดจบร่างของซายะก็ค่อย ๆ จางลง ๆ จนมองทะลุได้
เดี๋ยวค่ะคุณซายะ! เรนะร้องเรียก
แต่ร่างของซายะที่เลือนรางจนแทบจะมองไม่เห็นก็ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน แล้วส่งเสียงแผ่วเบาบอกเธอว่า จริง ๆ ชั้นก็อยากจะช่วยเธอมากกว่านี้ แต่ชั้นใช้พลังที่เหลือเพื่อทำให้สร้อยกลับมาเหมือนเดิมจนหมดแล้ว รักษามันให้ดี ๆ หล่ะ พยายามให้ถึงที่สุดนะ โชคดีจ๊ะ แล้วซายะก็จางหายไป
แต่เรนะก็ยังคงชะเง้อถามว่า แล้วหนูจะทำยังไงต่อไปดีคะ
มองความจริงให้ดีสิ คนที่เธอรักที่สุดเค้าจะทำอย่างงี้กับเธอจริง ๆ เหรอ เสียงสุดท้ายของซายะบอกกับเรนะ แล้วในที่สุดก็เหลือเพียงเธอยืนอยู่ตามลำพัง
มองความจริงให้ดีงั้นเหรอ คนที่เรารักที่สุด
เรนะคิดทบทวนคำพูดสุดท้ายของซายะ แล้วเธอก็ฉุกคิดขึ้นได้ พี่! เอย์จิคุง!
เธอรีบหันไปตรงประตูกลที่ภาพลวงตาทั้งสองเดินออกไป พอเข้าไปใกล้แสงจากสร้อยปะการังก็ส่องกระทบผนังถ้ำ กำแพงหินส่วนที่เคยเป็นประตูกลก็กลายเป็นแค่ผนังหินธรรมดา ๆ แท่นยืนที่เธอกดเปิดประตูเมื่อกี๊ก็กลายเป็นแค่แท่นหินที่ไม่มีกลไกอะไรทั้งสิ้น
นี่มัน หมายความว่าไง???
ทันใดนั้นเรนะก็สะดุ้งตัวลอยร้องเสียงหลง ว้ายยยยย! เพราะจู่ ๆ ก็มีอะไรบางอย่างมากุมข้อมือเธอไว้ พอมันกำรอบข้อมือได้ มันก็ฉุดลากเธอไปอย่างรวดเร็ว ว้ายยยย เรนะถูกลากไปอย่างถูลู่ถูกัง แขนขวาของเธอถูกดึงกางออกไปในอากาศ แต่ทว่าเธอกลับมองไม่เห็นใครแม้แต่คนเดียว
อย่าน้าาาา! ช่วยด้วยยยยย!!! เรนะได้แต่ร้องไปพลางรีบก้าวขาตามให้ทัน เพราะไม่งั้นเธอจะต้องถูกลากครูดไปกับพื้นเป็นแน่ เธอรู้แค่ว่ามือล่องหนที่กำลังลากเธออยู่นั้นสูงจากพื้นแค่ระดับหัวเข่าราวกับมีเด็กแรงเยอะกำลังลากเธออยู่ยังไงยังงั้น
พอถึงทางแยกเธอก็ได้ยินเสียงเด็กแว่วเข้าหูว่า พี่ชายอยู่ทางนี้ค่ะ!?! แล้วเด็กคนนั้นก็ฉุดเธอเข้าไปในอุโมงค์ทางขวามือ
ดะ เดี๋ยวก่อน! เธอเป็นใครหน่ะ เรนะร้องถาม แต่เด็กหญิงล่องหนก็ไม่ตอบอะไร เธอเอาแต่ฉุดเรนะไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง จนเธอต้องก้าวเท้าให้เร็วขึ้นจนแทบจะกลายเป็นวิ่ง
เรนะถูกฉุดไปจนกระทั่งเห็นใครบางคนยืนอยู่ไกล ๆ ทันใดนั้นเด็กน้อยก็ร้องเตือนว่า หยุดก่อนค่ะ หลบเร็ว!?! แล้วมือที่ฉุดก็เปลี่ยนเป็นผลักเพื่อให้เธอเบรกแทน
แต่เรนะก็เบรกไม่ทัน แล้วพอเข้าไปใกล้เธอก็เห็นหน้าคน ๆ นั้นอย่างชัดเจน พี่!?!
เรกะที่ได้ยินเสียงน้องสาวก็หันไปมองแล้วพูดว่า ยังจะมีหน้าตามมาอีกนะนังน้องชั่ว ทำไม! อยากให้ชั้นเปิดประตูให้จนตัวสั่นรึไง
เรนะฟังแล้วก็ทำหน้าเหรอหราด้วยความงง พี่คะ!?!
แล้วเสียงของปีศาจร้ายก็กระซิบบอกที่ข้างหูเธอว่า ดูสิน้องสาวตัวดีของเธอ เค้าอยากจะกลับขึ้นไปกับแฟนหนุ่มใจจะขาด จนต้องมาตามเธอถึงที่นี่เลย มองดูดี ๆ สิ ทำเป็นหน้าตาน่ารักไร้เดียงสา แต่ในใจกลับชั่วช้าเห็นแก่ตัว ปีศาจร้ายร่ายคำสาปใส่เรกะ
เรกะมองน้องสาวด้วยแววตาเคียดแค้นแล้วพูดว่า บอกไว้เลยนะต่อให้ชั้นตาย ชั้นก็ไม่มีวันยอมให้เธอหนีเอาตัวรอดไปมีความสุขกับเอย์จิหรอก!!!
พอเรนะได้ฟังที่พี่สาวพูด เธอก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทันที พี่คะ พี่กำลังถูกหลอกอยู่นะคะ เธอพยายามเตือนสติพี่สาว แต่มันกลับยิ่งเป็นการราดน้ำมันเข้ากองไฟมากขึ้น
ใช่ซิ! ชั้นถูกหลอก! ถูกน้องสาวแท้ ๆ ที่อยู่ด้วยกันมา 16 ปีหลอกไงหล่ะ ขอบใจนะที่ทำให้ชั้นรู้ว่าการถูกคนที่เรารักหักหลังมันเป็นยังไง
ไม่ใช่นะคะ พี่กำลังเข้าใจผิด
เข้าใจอะไรผิด! จนป่านนี้แล้วยังจะมาตีหน้าซื่ออยู่อีก สิ่งที่ชั้นเข้าใจผิดมาตลอดก็คือเธอนั่นแหละ เรนะ ฮิเมะ!!! เรกะตะคอกเสียงดัง
ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะพี่ เรนะพยายามพูดให้พี่สาวใจเย็นลง แต่เสียงของปีศาจร้ายก็ยังคงคอยเสี้ยมอยู่ในสมองของเรกะไม่หยุดหย่อน
อย่าเผลอไปหลงคำพูดหวาน ๆ กับใบหน้าไร้เดียงสานั่นเชียวนะ เธอคงไม่อยากโดนหลอกซ้ำอีกใช่มั้ย ปีศาจร้ายกระซิบบอกอย่างใกล้ชิด
พี่คะ! ฟังหนูก่อน เรื่องทั้งหมดหนูอธิบายได้
ยังไม่ทันที่เรนะจะพูดจบก็มีเสียงดัง เพี๊ยะ!!! เกิดขึ้น เสียงนั้นก้องสะท้อนจนได้ยินชัดไปทั่วทั้งถ้ำ ภาพที่เห็นตอนนี้คือมือขวาของเรกะค้างอยู่บริเวณไหล่ซ้ายของเธอ ท่อนแขนขวาเรียวขาวพาดผ่านเหนือหน้าอกไปยังไหล่ ใบหน้าของเรนะก็หันเอี้ยวไปทางไหล่ขวาของตัวเอง แก้มซ้ายขาวนวลของเธอมีรอยช้ำเป็นสีแดงห้อเลือด แล้วเด็กสาวก็ล้มลงกับพื้น
เรกะยืนจ้องน้องสาวที่นั่งกองอยู่แทบเท้าด้วยสายตาเหยียดหยามแล้วพูดว่า หึ! สมหน้า
จากนี้ไปเธอกับชั้นขาดกัน ไม่ต้องมาเรียกชั้นว่าพี่อีก ชั้นไม่มีน้องเลว ๆ อย่างเธอ พอพูดจบเธอก็สะบัดก้นหนีเดินหายลับเข้าไปในความมืด
พี่คะ!!!!!!! เรนะทำได้แค่ส่งเสียงเรียกตามหลังพี่สาวไป
และแล้วหัวใจของเรกะก็ถูกย้อมเป็นสีดำสนิททั้งดวง หึหึหึ ในที่สุดข้าก็ได้ครอบครองร่างที่เปี่ยมไปด้วยพลังเวท ปีศาจร้ายที่คอยเสี้ยมอยู่ก็หัวเราะอย่างสะใจ
ในถ้ำบริเวณที่เอย์จิถูกแช่แข็งอยู่นั้น เสียงของหญิงสาวก็ยังคงพยายามปลุกให้เอย์จิรู้สึกตัวตื่น ได้โปรดลืมตาขึ้นเถอะ ก่อนที่จะสายเกินไป คนสำคัญของเธอกำลังจะถูกทำร้ายนะ
แต่เอย์จิก็ไม่ขยับเขยื้อน ทว่าหญิงสาวคนนั้นก็ยังไม่ละความพยายาม ได้โปรดตื่นขึ้นเถอะ เรกะจังกำลังจะแย่แล้วนะ
ทันใดนั้นก็เหมือนกับมีเสียงครางเบา ๆ ออกมาจากในแท่งน้ำแข็ง เร
กะ!?! พริบตานั้นเหมือนกับร่างของเอย์จิจะกระดุกกระดิกอยู่ชั่วแวบนึง
ใช่จ๊ะ เรกะจังไง รู้สึกตัวเถอะ แล้วรีบไปช่วยเค้า หญิงสาวเร่งปลุกอย่างมีหวัง แต่เอย์จิก็แน่นิ่งไปราวกับที่เค้าขยับตัวเมื่อกี๊เป็นเพียงแค่ตาฝาด
เรกะเดินต่อไปด้วยความโมโห เธอไม่รู้ว่าขาของตัวเองกำลังก้าวพาเธอไปที่ไหน รู้แค่ว่าอยากจะหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้เท่านั้น เธอเดินลึกเข้าไปในถ้ำผ่านทางแยกต่าง ๆ มากมาย โดยตลอดทางจะมีแสงสีชมพูคอยชักนำจนกระทั่งเธอเห็นใครบางคนยืนอยู่
พอเข้าไปใกล้เธอก็พบว่าคน ๆ นั้นเป็นชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงผิวขาวแต่ไม่ได้ขาวแบบคนญี่ปุ่น เขาดูเหมือนฝรั่งมากกว่า และอีกอย่างเพราะเขาสูงเกือบ 190 เซนติเมตร ซึ่งสูงกว่าคนญี่ปุ่นทั่ว ๆ ไป ด้วยรูปร่างที่เท่สมาร์ทนี้ทำให้เขาดูราวกับเป็นนายแบบที่เดินออกมาจากนิตยสารแฟชั่น
เรกะค่อย ๆ พิจารณาใบหน้าของชายหนุ่มอย่างละเอียดลออ เขามีรูปหน้าเรียวยาว คางแหลม คิ้วบาง จมูกโด่ง ดวงตาสีน้ำเงินเข้มเหมือนท้องทะเลยามค่ำคืน ผมยาวรองทรงสีทองปลิวไสว ดูหล่อเหลาคมคายมีเสน่ห์ดึงดูดเกินห้ามใจ
ชายหนุ่มปริศนาใส่ชุดคล้ายขุนนางอังกฤษโบราณ เสื้อแขนยาวกำมะหยี่สีกรมท่า ข้างในมีผ้าพันคอสีขาวพับเป็นลวดลายริ้ว ๆ เสื้อกั๊กข้างในสีเหลืองอ่อน กางเกงขายาวกำมะหยี่สีเดียวกับเสื้อ ที่เข็มขัดด้านซ้ายมีถุงมือสีขาวคู่หนึ่งเหน็บอยู่
มานี่สิ ชั้นรอเธออยู่นานแล้ว!?! ชายหนุ่มยิ้มให้แล้วมองเข้าไปที่ดวงตาของเรกะ
พอเธอมองที่ดวงตาของเขาตอบ สติสัมปชัญญะของเธอก็เลือนหายไปราวกับต้องมนต์ ค่ะ เรกะเดินเข้าไปหาชายหนุ่มแปลกหน้าอย่างว่าง่าย
ชายหนุ่มเอานิ้วขาว ๆ เรียวยาวเชยคางของเธอขึ้นอย่างนุ่มนวล เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ ใบหน้าของสาวน้อย แล้วเอาจมูกไซร้ที่แก้มนุ่ม ๆ ของเธอเพื่อเชยชม เรกะเองก็ยอมให้เขาทำทุกอย่างโดยไม่มีท่าทีจะขัดขืน หึหึหึ สาวน้อย เธอคือคนที่จะทำให้ฝันของชั้นเป็นจริง
ฝัน...คุณคือ...ใคร เรกะพยายามเรียกสติตัวเองกลับมาแต่ก็ได้เพียงครึ่งหลับครึ่งตื่นเท่านั้น
ชายหนุ่มผมทองยิ้มอย่างมีเลศนัย พลันดวงตาสีน้ำเงินเข้มของเขาก็ส่องแสงสีแดงออกมาราวกับเลือด แล้วเขาก็พูดว่า ตามชั้นมาสิ พอพูดจบเรกะก็ไม่รู้สึกตัวใด ๆ อีก เธอเดินตามเค้าไปราวกับคนละเมอ
ทางด้านเรนะที่นั่งซึมอยู่กับพื้นเพราะเพิ่งโดนพี่สาวประกาศตัดพี่ตัดน้อง จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนกับมีอะไรบางอย่างจิ้ม ๆ เข้าที่หลังเธอ ว๊ายยยยย! ด้วยความตกใจเธอจึงสะดุ้งถอยหนีตามสัญชาติญาณ และเผลอเอามือสะบัดไปทางด้านหลังเพื่อป้องกันตัว แต่ทว่ามือที่ปัดไปนั้นกลับไปโดนหน้าเด็กน้อยคนหนึ่งเข้าอย่างจังจนกระเด็นล้มลงกับพื้น
อุ๊ย! ขอโทษจ๊ะ! เป็นอะไรรึเปล่า พอเห็นว่าเป็นเด็กผู้หญิงตัวน้อย ๆ เรนะก็ตั้งสติได้ แล้วรีบเข้าไปดูอาการเธอทันที แต่เด็กคนนั้นก็เอามือกุมหน้าตัวเองไว้แล้วทำท่าเหมือนจะร้องไห้
พี่ขอโทษนะจ๊ะ เจ็บมากรึเปล่า เรนะค่อย ๆ แกะมือของเด็กน้อยออกมาเพื่อดูแผล แต่ก็ไม่เห็นรอยช้ำหรือรอยแผลอะไร เธอจึงเอามือลูบบริเวณหน้าผากของหนูน้อยอย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า โอ๋ ๆ ไม่เป็นไรนะจ๊ะ หายแล้วนะ ๆ เพี้ยง! เธอเป่าหน้าผากราวกับร่ายมนต์
เด็กหญิงยืนมองตาแป๋วเหมือนกับลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้กำลังจะร้องไห้ เรนะเองก็มัวแต่สนใจเธอจนลืมเรื่องที่ทะเลาะกับพี่สาวไปชั่วขณะเช่นกัน หนูชื่ออะไรจ๊ะ
เด็กน้อยยืนทำหน้างง ๆ มองเธอ เรนะเลยถามอีกว่า เป็นไงมั่งยังเจ็บอยู่เหรอ เด็กน้อยก็ตอบด้วยการส่ายหัว เรนะเลยหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดตามใบหน้าที่มอมแมมของเธอแล้วพูดว่า พี่ชื่อเรนะจ้ะ แล้วหนูหล่ะจ๊ะชื่ออะไร
เด็กน้อยก็อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ก้มหน้าพูดเบา ๆ ว่า กลัว
ชื่ออะไรนะจ๊ะ
เด็กน้อยก็พูดต่อว่า พี่สาวไม่กลัวหนูเหรอคะ
พอเรนะได้ฟังดังนั้นเธอก็ยิ้มตอบว่า หนูคือคนที่ฉุดพี่มาเมื่อกี้ใช่มั้ยหล่ะ เด็กน้อยก็พยักหน้าหงึก ๆ เรนะเลยตอบว่า แสดงว่าหนูรู้จักกับคุณซายะใช่มั้ยจ๊ะ แล้วพี่จะกลัวหนูทำไมหล่ะ
พอเห็นท่าทางอ่อนโยนของเรนะ หนูน้อยก็เลยบอกชื่อตัวเองเบา ๆ ว่า ลิ...ลิธ
เอ๋? อะไรนะ
หนูชื่อลิลิธค่ะ เด็กน้อยทำหน้าเหมือนกลัวว่าจะโดนครูตี
เรนะเลยเอามือลูบหัวเธอเบา ๆ ดีจ๊ะลิลิธจัง ลิลิธก็เลยยิ้มออก
แล้วเมื่อกี๊ลิลิธจังจะพาพี่ไปที่ไหนเหรอ
ลิลิธก็เงยหน้าตาแป๋วอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ตอบว่า พะ พี่ชาย
พี่ชาย? พี่ชายหนูอยู่ที่นี่เหรอจ๊ะ เรนะทำหน้างงมองตาแป๋วบ้าง
แต่ลิลิธก็หลับตาปี๋ส่ายหน้าเร็ว ๆ แล้วพูดว่า พี่ชาย เอ...เอย์จิ
เอย์จิคุงเหรอ!?! เรนะถามด้วยน้ำเสียงตกใจ ลิลิธก็หลับตาปี๋พยักหน้ารัว ๆ
พี่ชายกำลังแย่ พี่สาวรีบไปช่วย ลิลิธพูดแบบไม่ปะติดปะต่อ
เอย์จิคุงกำลังแย่งั้นเหรอ แล้วเค้าอยู่ที่ไหน ลิลิธจังช่วยพาพี่ไปหน่อยได้มั้ยจ๊ะ เรนะลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ลิลิธก็พยักหน้าหงึก ๆ แล้วรีบจูงมือเรนะไป
ทางด้านเรกะที่เดินตามชายหนุ่มแปลกหน้าไปนั้นจู่ ๆ พื้นถ้ำที่เธอเดินไปก็เปลี่ยนเป็นทางเดินสีขาวที่ปูด้วยพรมแดง ผนังถ้ำก็กลายเป็นผนังห้องสีขาวที่ประดับประดาด้วยโคมไฟ รูปภาพ แจกันดอกไม้ และรูปปั้นงานศิลปะต่าง ๆ ราวกับว่ากำลังเดินในโรงแรมหรู ๆ หรือคฤหาสน์ของมหาเศรษฐี
แล้วจู่ ๆ ชุดที่เรกะใส่ก็แปรสภาพไป มันกลายเป็นชุดเจ้าสาวเกาะอกสีขาวพอดีตัว กระโปรงลูกไม้ฟูฟ่องลากยาวจรดพื้น ผมสีทองของเธอมีมงกุฎเพชรเม็ดเล็ก ๆ ระยิบระยับราวกับเอาดวงดาวมาเรียงร้อยกันสวมอยู่ ตุ้มหูทั้งสองข้างก็มีเพชรเม็ดใหญ่เกือบเท่าผลองุ่นห้อยอยู่ มันรายล้อมไปด้วยทับทิมเม็ดเล็ก ๆ สีชมพูอมม่วงนับสิบ ที่คอขาวเรียวระหงก็มีสร้อยเพชรน้ำงามที่เป็นลวดลายดอกไม้คล้องอยู่ เพชรเม็ดใหญ่นั้นห้อยพาดลงมาจนเกือบจะถึงร่องอก รองเท้าที่ใส่อยู่ก็กลับกลายเป็นรองเท้าส้นสูงทำจากแก้วเจียระไนขนาดพอเหมาะพอเจาะ
ด้านชายหนุ่มที่พาเธอมาก็เช่นกัน ชุดของเขาเปลี่ยนจากชุดขุนนางอังกฤษสีกรมท่าเป็นชุดสูททักซิโด้สีขาวทั้งตัว โดยเสื้อกั๊กกับหูกระต่ายเป็นสีครีมอ่อน ที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายมีชายผ้าเช็ดหน้าแหลม ๆ โผล่ขึ้นมาเล็กน้อยเป็นสีครีมเข้ากับชุด
ชายหนุ่มนั่งคุกเข่าลงบนพรมตรงหน้าเธอแล้วยื่นมือไปจับที่ปลายมือของเรกะ เขาจุมพิตลงที่หลังมือของเธออย่างนุ่มนวลแล้วพูดว่า ชั้นเฝ้ารอเธอมาตลอด แต่งงานกับชั้นนะมิยูกิ!?!
แล้วเรกะก็สะลึมสะลือตอบเขาไปว่า ค่ะ เอ็ดเวิร์ดที่รัก!?!
Create Date : 13 กันยายน 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 13 กันยายน 2553 11:56:25 น. |
Counter : 314 Pageviews. |
|
|