ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
23 ตุลาคม 2552
 

ลูกเป็นอะไร ตอนที่ 12

ดิฉันปล่อยเวลาให้ผ่านไปอีก เกือบ 2 ปี จนถึงตอนที่ 12 นี้ น้องซันอายุได้ 8 ขวบแล้วค่ะ

ช่วงที่ผ่านมา 2 ปี ดิฉันไม่ได้นั่งตีขา ตีปีก สบายใจเฉิบนะค ดิฉันดู progress ของอาการลูกตลอด
ทุกอย่างไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างคงเส้นคงวา

แต่มาจนถึงตอนนี้ ดิฉันจะสรุปอาการให้สำหรับบางท่านที่ไม่ได้ติดตามตั้งแต่ตอนแรกนะคะ

อาการของน้องซันคือ
1.) ศีรษะเอียงมาทางซ้าย และในางครั้งจะออกแนวสะบัดศีรษะ มาทางซ้าย
2.) ท่าที่น้องซันดู relax ที่สุด คือท่าที่คนอย่างเราเรา ไม่ relax ที่สุด คือการนั่งดูทีวีแล้วเอาศีรษะ เอียงปักไปที่ส่วนที่เป็นที่วางแขนของโซฟา
3.) อาการ ข้อ 1+2 จะไม่ค่อยแสดงออกในช่วงเช้า ช่วงที่สนุกสนานร่าเริง ช่วงที่ร่างกาย fresh....
แต่จะแสดงออกมากในช่วงบ่าย หรือร่างกายอ่อนเพลีย หรือเกิดอาการกังวล เครียด
4.) มีเสียงในลำคอ เหมือนคนกลืนน้ำลายดังอึ๊กกก ให้คนได้ยิน
5.) บุคลิกและนิสัยสาวนตัวของน้องซัน จะเป็นคนตลก สนุกสนาน ไม่ซน ขี้กลัว ขี้กังวล เจ้าระเบียบ เรียนปานกลางค่อนมาทางต่ำค่ะ


............

2 ปีที่ผ่านมา ดิฉันต้องเข้าไปทำการพูดคุยกับคุณครู ให้เข้าใจการที่คุณครูน้องซันเอียงศีรษะ ไม่ได้หมายความว่า น้องซันขี้อาย (ลูกทั้ง2 คนอยู่ รร.นานาชาติ ซึ่งคุณครูฝรั่งจะชอบมองว่า น้องซันขี้อาย)

ดิฉันต้องไปทำความเข้าใจกับคุณครูทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนชั้นเรียน หรือเปลี่ยนครูผู้สอน จำได้ว่า มีคุณครูท่านนึง เอาคำพูดของดิฉันใส่ใจเป็นอย่างมาก ขอเอ่ยนามแล้วกันนะคะ Mr. Jones (จำนามสกุลไม่ได้ แถมกลับประเทศแกไปแล้วซะอีก)

Mr. Jones ใช้วิธีให้น้องซันนั่งในกลุ่มโต๊ะเรียนที่ไกลจาก white board เพราะการที่เกคอยแต่จะเอียงศีรษะ ทำให้ยากที่จะมอง white board ได้

หรือบางครั้งถ้ามีกิจกรรมการเรียนการสอน ที่ต้องนั่งพื้น Mr.Jones จะให้น้องซันนั่งเก้าอี้ แต่แกยังไม่วายเอาใจใส่ จับเพื่อนเพื่อนอีก 3-4 คนมานั่งด้วย เพื่อไม่ให้เห็นว่าน้องซันต่างจากเพื่อน โดยอ้างเหตุผล นู่นนี่นั่นของแกไปตามเรื่อง

ฝรั่งคนนี้ น่ารักมากค่ะ แถมพอแกจะกลับประเทศ แกยังอุตส่าห์เขียนโน๊ต บอกคุณครูท่านต่อไปให้ดูแลแบบนี้อีก ...น่ารักมากกกกก

..............

อุปสรรคยังมีต่อในเรื่องของการเล่นกีฬา น้องซันชอบเล่น เทนนิสมาก ดิฉันต้องแอบไปกระซิบโค้ช ว่าน้องซันมีอาการที่ก้มศีรษะ รบกวนโค้ชช่วยส่งลูกช้าช้า คอยดูจังหวะแกนิ๊ดนึง พอจับจังหวะกันได้ ก็แล้วแต่โค้ชกันก็แล้วกัน

หนักกว่านี้ก็เป็นแบดมินตัน เพราะลูกจะมาเร็วกว่าเทนนิส อันนี้เล่นเอาแม่อย่างดิฉันลุ้นเต็มที่ โค้ชก็เข้าใจ ส่งลูกให้น้องซันใน speed ที่ช้ากว่าคนอื่นหน่อยนึง น่ารักอีกแล้ว


ยังไม่หมดค่ะ เรื่องของการว่ายน้ำ..ดิฉันต้องไปบอกครูฝึกว่า น้องซันชอบเอียงมาทางซ้าย รบกวนฝึกให้แกหันหน้าหายใจมาทางขวา (5555) แอบหวังไว้ว่าจะไปขืนกล้ามเนื้อน้องซันได้

............

สิ่งที่ดิฉันรับรู้ได้จากอาการของน้องซันคือ ดิฉันมองเห็นความรักที่พี่สาวมีต่อน้อง ปกติเวลาอยู่บ้าน ย่อมเป็นที่รู้รู้กันดี พี่กับน้องทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวัน
แต่ลูกสาวเองจะเป็นคนที่คอยตอบคำถามทุกครั้ง ถ้ามีเพื่อนฝูงของตัวเองมาถามว่า "น้องของเธอเป็นอะไร" ลูกสาวจะตอบว่า "กล้ามเนื้อคอไม่ดีนิ๊ดหน่อย ไม่มีปัญหา"

แล้วจะเป็นเดือดเป็นแค้นทุกครั้งที่มีใครมาทำท่าล้อเลียนน้อง จะต้องกลับมาฟ้องดิฉันประจำ....

***************







Create Date : 23 ตุลาคม 2552
Last Update : 29 ตุลาคม 2552 9:12:14 น. 0 comments
Counter : 478 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

rptperfect
 
Location :
Shanghai China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




นักเรียนนอก ทำงานไฟแรงอย่างดิฉันเมื่อ 15 ปีก่อน ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะมีวันที่ต้องมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว ...สามีเองก็เอ่ยปากเองแท้แท้ว่าไม่ชอบภรรยาที่อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ชอบผู้หญิงทำงาน
แต่...ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด เมื่อลูกคนแรกคลอดออก เราทั้งคู่ไม่ต้องคิดอะไรมากไปกว่า การได้ดุแลลูกด้วยตัวเอง

ตัดสินใจลาออกจากที่ทำงานโดยไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง ด้วยเงินเดือน 3 หมื่นบาท ใน 15 ปีก่อน ทิ้งทุกอย่างไว้ตรงนั้น ไม่รู้ซะด้วยซ้ำว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ถามสามีแค่ว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะเลี้ยงเรากับลูกไปได้ตลอดรอดฝั่ง

ถามไปอย่างนั้น ไม่ต้องการคำตอบ เพราะได้ตัดสินใจไปแล้ว

เพราะลูก คำเดียว

[Add rptperfect's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com