ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 ตุลาคม 2552
 

ลูกเป็นอะไร ตอนที่ 4

ดิฉันพาน้องซันกลับไปโรงพยาบาลอีกครั้งในสองสัปดาห์ต่อมาเพื่อทำฟิล์มเอ๊กซ์เรย์ ตอนนั้นภาวนาในใจว่า ขอให้เจอ ขอให้เจอ ขอให้เจอ ความผิดปกติทีเถอะ แต่ ขอให้เป็นความผิดปกติที่เล็กน้อย สาธุ

คือมีแอบบนขอให้เรารู้สาเหตุ แต่เป็นสาเหตุนิ๊ดเดียว แบบว่าลูกทานยาน้ำก็หาย อะไรประมาณนี้แหล่ะค่ะ

จุดประสงค์ของการตรวจฟิล์มเอ๊กซ์เรย์ในครั้งนี้ ก็เพื่อตรวจดูว่า กระดูกต้นคอของน้องซันมีความผิดปกติตรงไหน หรือไม่ อย่างไร

นั่งรอผลตรวจไม่นาน แต่เหมือนเป็นปี เป็นชาติ งานนี้พบแพทย์เฉพาะทางกระดูกและข้อ คุณหมอเรียกเข้าไปแจ้งผลการตรวจว่า "ป ก ติ" อีกแล้วววววววววววว

ดิฉันเกลียด คำนี้จริงจริง


แล้วดิฉันจะทำอย่างไรต่อไป????



เอาน่า เดี๋ยวลูกจะมาทำ EEG ใหม่ ...เดี๋ยวดิฉันจะพาลูกมาใหม่ คราวนี้คงเจอ มันใช้คอมพิวเตอร์ตรวจ มันคงตรวจละเอียด ดิฉันคงจะรู้สาเหตุล่ะ

++++++++++


กลับมาพบคุณหมออีกครั้งตามนัด วันนี้เป็นวันตรวจ EEG ตอนนั้นน้องซันอายุประมาณ 6 ขวบ แกยัง งงงง ว่าวันนี้จะมาทำอะไรที่ รพ. แม่บอกแค่ว่า เดี๋ยวคุณหมอจะให้ลูกทานยา แล้วเราไปนอนในห้องกัน คุณหมอจะจัดห้องพักให้ชั่วคราว ลูกก็งอแง เพราะเค้าไม่ง่วงนอน แต่ก็สู้ไม่ไหว เพราะคุณหมอให้ยา Chloral Hydrate ซึ่งเป็นยากล่อมประสาทชนิดนึง ออกฤทธิ์ไม่นานนัก พอลูกเริ่มหลับ ทางทีมงานก็รีบเร่งมือ แปะนู่น แปะนี่ตามศีรษะลูก (ดิฉันจำไม่ได้ว่ามีตามลำตัวด้วยหรือไม่) อุปกรณ์ส่วนใหญ่จะเน้นมาที่ศีระษะเป็นส่วนใหญ่

ดิฉันอยู่ในห้องกับลูกตลอด ใช้เวลาไม่นานมาก แต่มันเหมือนเป็นชาติ

ใครเคยมีความรู้สึกหรือประสพการณ์ตรงนี้บ้างคะ ....เวลาไปเยี่ยมไข้ คนที่เรารัก แล้วเค้ามีสายระโยงระยาง แล้วมีไอ้จอคอมพิวเตอร์หนึ่งจอ มันมีเส้นกราฟ ยึกไป ยักมา เราภาวนาขอยาให้เส้นกราฟนั้นมันราบเป็นเส้นตรง ซึ่งนั่นหมายถึงว่า คนที่เรารักจะจากเราไป คือแทบไม่สามารถละสายตาจากจอมอนิเตอร์ได้เลย ว่างั้นเหอะ......

แต่ในกรณีน้องซัน ดิฉันก็ไม่ละสายตาจากจอ แต่เป็นการภาวนา ให้เส้นกราฟนั้นอย่ากระโดดพุ่งขึ้นสูง โดดไปมา แกว่งไปมามากเกินไป

คือ ณ เวลานั้น ดิฉันไม่รู้หรอกว่าเ ส้นกราฟมันควรจะเป็นอย่างไร รู้แต่เพียงว่า ลูกกำลังจะตรวจวัดอาการชัก ถ้าลูกมีอาการชัก กราฟก็น่าจะกระโดด ไม่ใช่คลื่นสวยงามเช่นคนปกติ


++++++++++



รอผลไม่นานอีกเช่นกันค่ะ........คุณหมอเรียกเข้าไปอ่านค่าและแสดงผลให้ทราบ ผลคือ ....ป ก ติ.....

ดิฉันยังจำสีหน้าคุณหมอได้ดีว่าท่านก็มาหนักใจไปกับดิฉันด้วย ดิฉันถามคุณหมอว่า จะทำอย่างไรต่อไป
คุณหมอแนะนำต่อแล้วค่ะ ว่าขอให้ไปพบอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งมีความชำนาญด้านระบบประสาทของเด็ก ท่านประจำอยู่ที่ รพ. รามา แต่ออกตรวจที่ รพ.วิชัยยุทธ นอกเวลาราชการ

ดิฉันเริ่มกลัวมากขึ้น เพราะนี่ ไม่ใช่เรื่องของกระดูกและข้อแล้วหล่ะ ดิฉันไม่สามารถแค่เพียงเอาเฝือกมาดามคอลูกแล้วหายได้แล้วหล่ะ

ดิฉันไม่อยากไปหาคุณหมอเลย ดิฉันกลัวมากกกกก

สามีดิฉันเองก็คงกลัว แต่เนื่องจากความเป็นผู้ชาย ถ้าขืนมาช่วยกันกลัว ก็คงหาหลักกันไม่เจอ

สามีให้ข้อคิดว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เราต้องมีสติให้ได้ เราต้องมีหน้าที่หาเงินให้มาก ถ้าลูกเป็นอะไรจริง ลูกจะหายได้ ถ้าเรามีเงิน ......เราต้องมีสติ สติ สติ

ดิฉันจะมีสติค่ะ แต่มันยากเหลือเกิน

**************


ปล. เพิ่งไปย้อนอ่าน ตอนที่ 1 มา ขอแก้ข้อความนิ๊ดนึงนะคะ ดิฉันเขียนว่าน้องซันเกิดปี พ.ศ. 2552 (สงสัยเบลอไปหน่อย) ขอแก้ให้ถูกต้องเป็น 2542 นะคะ เพราะปัจจุบันนี้อายุ 10 ขวบ เป็นหนุ่มน้อยแล้วค่ะ





โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ


บล็อคของดิฉันวันนี้หน้าตาเริ่มมีลูกเล่น อ่อนอ่อนขึ้นมาบ้างแล้ว ดิฉันเริ่มเข้าไปศึกษาจากบล็อคป้ามด คนอะไรใจดีเช่นนี้อธิบายรายละเอียดในการตกแต่งบล็อคให้คนเข้าใจอะไรยากอย่างดิฉันเข้าใจได้ ...ขอบคุณนะคะ ป้ามด






Create Date : 08 ตุลาคม 2552
Last Update : 9 ตุลาคม 2552 15:12:40 น. 0 comments
Counter : 568 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

rptperfect
 
Location :
Shanghai China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




นักเรียนนอก ทำงานไฟแรงอย่างดิฉันเมื่อ 15 ปีก่อน ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะมีวันที่ต้องมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว ...สามีเองก็เอ่ยปากเองแท้แท้ว่าไม่ชอบภรรยาที่อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ชอบผู้หญิงทำงาน
แต่...ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด เมื่อลูกคนแรกคลอดออก เราทั้งคู่ไม่ต้องคิดอะไรมากไปกว่า การได้ดุแลลูกด้วยตัวเอง

ตัดสินใจลาออกจากที่ทำงานโดยไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง ด้วยเงินเดือน 3 หมื่นบาท ใน 15 ปีก่อน ทิ้งทุกอย่างไว้ตรงนั้น ไม่รู้ซะด้วยซ้ำว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ถามสามีแค่ว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะเลี้ยงเรากับลูกไปได้ตลอดรอดฝั่ง

ถามไปอย่างนั้น ไม่ต้องการคำตอบ เพราะได้ตัดสินใจไปแล้ว

เพราะลูก คำเดียว

[Add rptperfect's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com