กุมภาพันธ์ 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
27 กุมภาพันธ์ 2552
 

กว่าจะมาเป็น expat ตอน 5

ค่าครองชีพ ที่นี่หน่ะ เค้าว่าสูง
สูงจริงหรือ


ก่อนอื่นต้องขอออกตัว (แก้ตัว) ก่อนว่า หลังจาก กว่าจะมาเป็น expat ตอนที่ 4 ออกไป ดิฉนกะว่าคงไม่มีความพยายามที่จะเขียน blog ต่อซะแล้ว เพราะช่วงนั้น เป็นช่วงที่ดิฉันเห่อเล่นคอมพิวเตอร์อย่างหนัก ทั้งแต่งรูปภาพ ทั้งเล่น blog ทั้งดูหนัง/ละครทางคอมพิวเตอร์ ดิฉันรู้สึกปวดประสาทตาเป็นอย่างมาก เลยไปหางานอดิเรกอย่างอื่นทำแทน นั่นก็คือการออกไปพบะสังสรรค์เพื่อนฝูงนอกบ้าน และต่อจิ๊กซอว์(ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะดีกว่าการนั่งเล่นคอมฯอย่างไร 55555 ปวดตาพอกัน)

แต่แล้วก็ต้องกลับมานั่งเขียน blog อีกครั้งนึง เพราะความว่างมันเกาะกินดิฉันไปหมดแล้ว ในที่สุดต้องวกกลับมาทำงานถนัด คือนั่งเม้าท์ อาศัยว่างานนี้ดิฉันตั้งใจพิมพ์แบบไม่มองหน้าจอ เอาชนิดที่ว่าก้มหน้าก้มตาดูแต่แป้นดีดอย่างเดียว คงจะช่วยถนอมสายตาได้บ้างไม่มากก็น้อย (คิดเอง เออเอง ตลอด)
++++++++++++++++


วันนี้จะมาบ่นเรื่อง ใครว่ามาอยู่เมืองจีน โดยเฉพาะในซั่งไห่ แล้วคิดว่าข้าวของเครื่องใช้ อาหารการกิน คงถูกกว่าเมืองไทยหลายเท่า อนุญาติให้คิดได้อีก หนึ่งรอบค่ะ

มาอยู่ที่นี่ 1 ปี กับ 2 เดือนแล้ว ชีวิตลงตัวหมดแล้ว วันดีคืนดีอยากจะลองมานั่งทำบัญชีรายรับรายจ่ายดู โอ้โห.......เอาแค่ค่าซื้อของทานในครอบครัวนะคะ ดิฉันย้ำว่าของกินของทาน เพราะด้วยอุปนิสัยของสมาชิกทุกคนในบ้านแล้วไม่มีใครฟุ่มเฟือย ลำพังค่าซื้ออาหารทาน 3 มื้อ เพื่อเลี้ยงปากท้องสมาชิก 4 คนในครอบครัว ก็ตกสัปดาห์ละหมื่น (บาท)เป็นขั้นต่ำ ย้ำนะคะว่าขั้นต่ำ ถ้าขั้นสูงดิฉันก็จ่ายมาแล้วเป็นสัปดาห์ละ สองหมื่น เข้าไปนั่น

เฮ้ย.....โม้ล่ะมั๊ง

ไม่ได้โม้

ไม่ได้เว่อร์


ดิฉันควักกระเป๋าสำหรับค่ากินอยู่เท่านี้จริงจริง

ก็เลยมานั่งคิดสะระตะว่า เอ้....แล้วไอ้ที่เค้าบอกกันว่าของถูกที่เมืองจีนหน่ะมันคืออะไร

ก็มานั่งหลับตาหาคำตอบได้ว่า อ๋อ....แน่ล่ะซิ ก็เพราะเอาไปเปรียบกับเมืองไทย เปรียบกับราคาขายที่เมืองไทย

ทำไมงั้นหรอ

อย่างแรก....ของเล่นเด็กต่างๆที่ขายกันเกลื่อนในเมืองไทยก็เอามาจากจีน อ๊ะ...มีหรือที่เมืองจีนจะไม่ถูกกว่า
อย่างที่สอง....ของก๊อป เกลื่อนบ้านเกลื่อนเมืองก็เอามาจากเมืองจีน เมืองจีนก็ต้องถูกกว่าดิ
อย่างอื่น.....อุปกรณ์ไฟฟ้า อิเลคโทรนิคส์ก็พี่จีน พี่แกก็ถูกกว่าอยู่แร้วววว

ซึ่งเอาเข้าจริง เวลามาอยู่ที่นี่ ไอ้สามรายการที่ว่า ก็มิได้จะถูกกว่าบ้านเราเลยนะคะ ดิฉันไม่เคยหาของได้ถูกกว่าเมืองไทยเลย มาถึงบางอ้อ ตรงที่มีผู้รู้บอกว่า ก็ของที่เมืองไทยเอาเข้าไปขายกัน เค้าก็มีตัวแทนไปขนตรงจากโรงงานซึ่งตั้งอยู่ที่ หางโจว บ้าง เมืองอื่นๆบ้าง แต่ไม่ใช่ซั่งไห่ แล้วตัวแทนพวกนี้ เค้าก็ทำธุรกิจเป็นล่ำเป็นสัน ขนเข้าไปทีเป็นคอนเทนเน่อร์ ราคาก็ถูกติดดินเลยทีเดียว.....ไอ้ดิฉัน หรือแม้แต่ท่านท่านที่คาดว่าจะมาเที่ยวซั่งไห่ หาของถูกละก็ ฮึ่มมมมมมม คิดผิดมหันต์

แต่ก็ไม่เคยมีใครมารู้ว่า ข้าว ผัก ผลไม้ สบู่ แชมพู ร้านอาหารที่นี่ เค้ามีราคาซื้อขาย กันเท่าไหร่ เพราะเราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปรู้ใช่ไหมคะ

แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ ย่านที่ดิฉันอยู่มันเป็นย่านที่พวก expat เค้าอาศัยกันอยู่ ทำให้ฝรั่งมังค่า หัวแดง เกลื่อนถนนยิ่งกว่าคนที่นีเองซะอีก ทำใหราคาข้าวของเครื่องใช้ได้ถูกดันให้สูงกว่าชาวบ้านปกติ แต่ถึงกระ้นั้น เท่าที่ดิฉันได้คุยกับน้องน้องคนไทยที่มาเรียนที่ซั่งไห่ ซึ่งแกก็ไม่ได้อยู่ย่านเดียวกับดิฉัน แกก็บ่นอุบเหมือนกันว่า แพงจริงจริง

เพราะฉะนั้น เอาเป็นว่าใครที่มีญาติ หรือคิดว่าน่าจะส่งลูกหลานมาเรียนที่เมืองจีน ดูดูว่าน่าจะถูกกว่าส่งไปทางตะวันตก อาจจะต้องมานั่งคิดกันใหม่นะคะ

เอาหล่ะ เดี๋ยวจะหาว่าพูดไม่จริง เอาเป็นว่าดิฉันเอาอัตราค่าเช่า apartment มาให้ดูกันพอน้ำลายค้างคาปากกันก่อนนะคะ เอา apartment นะคะ ไม่ใช่บ้าน....เอามาให้ดูซักนิดซักหน่อย คละคละทำเลกันไป

1.) 150 - 180 ตรม......ค่าเช่า 1.5 หมื่น - 2.5 หมื่น rmb
2.) 200 - 300 ตรม......ค่าเช่า 2 หมื่น - 3.5 หมืน rmb

ถ้าอยู่เป็นบ้านอย่างที่ดิฉัน และ expat หลายหลายท่านอยู่ก็ยิ่งไม่ต้องคิดเลยค่ะ ถ้าไม่ได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัทฯ ก็อย่าหวังเลยว่าชาตินี้จะมีปัญญาจ่ายค่าเช่าได้บ้ำระห่ำขนาดนั้น

แต่....ข้อมูลข้างบนนี้เป็นข้อมูลคร่าวคร่าว ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่ทำให้ราคาเปลียนไปจากนี้ นั่นก็ได้แก่ ทำเล ที่ตั้ง รวมถึงผู้เช่า ถ้าเป็นฝรั่งหัวทองมานี่ พี่เอเจนซี่ในซั่งไห่ก็จะฟันหัวแบบไม่ปราณี หรือถ้าพี่แกรู้ว่าบริษัทมีงบมาให้เท่าไหร่ แกก็จะจัดหาให้แบบดันติดเพดานเลยทีเดียว

ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังมี local apartment อีกหลายแห่งที่จัดสรรให้คนชั้นกลาง ราคาก็เบาลงมา เอาแบบที่เราเราน่าจะอยู่ได้นะคะ ก็ประมาณ 3 - 5 พัน rmb

หรือถ้าจะเอาแบบที่คนงานขายแรงงานอยู่กันเลยทีเดียวก็มีนะคะ แบบว่าอัดกันเข้าไปในหลืบในซอกเลย มีถึงขนาดที่ ห้องละ 400 rmb ต่อเดือน นี่คือที่ดิฉันสืบทราบมาได้ต่ำสุดแล้วนะเนี่ยะ

หมายเหตุ.....(1 rmb = 5 บาท)

ดูเอาเถิด แค่ค่าอยู่อาศัยซุกหัวนอน ถ้าไม่มีสปอนเซอร์ให้ ดิฉันจะดำรงชีวิตอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

หลายท่านที่พอมีอันจะกินในบ้านเรา ได้ส่งลูกหลานมาเรียนภาษาจีนที่นี่ ดิฉันได้มีโอกาสพบน้องคนไทยที่มาเรียนคอร์สภาษาจีนที่นี่ น้องเค้าเช่าหอพักในมหาวิทยาลัยอยู่ น้องก็ยังบ่นอุบเรื่องค่าใช้จ่าย


เอาเป็นว่าแค่ค่าที่พัก ซึ่งเป็นปัจจัย หนึ่งในสี่ ก็ทำเอาเงินในกระเป๋าหายไปแล่ว หนึ่งในสี่เหมือนกันหล่ะค่ะ

++++++++++++++++++++++


ราตรีสวัสดิ์ และสวัสดีชาวไทยทั่วโลกนะคะ









 

Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2552
1 comments
Last Update : 5 ตุลาคม 2552 7:47:10 น.
Counter : 1517 Pageviews.

 
 
 
 
เคยไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้เมื่อสองปีก่อน ฟลุ๊คไปสองรอบเลยค่ะปีนั้น เจริญดี และก็แพงดีจริง ๆ เลยค่ะ แอบไปเที่ยวแบบลืมว่าเป็นมนุษย์เงินเดือน งบบานปลายมากถึงมากที่สุด เพราะดันลืมจัดงบช็อป กลับมาก็มาปั่นงานหนักเหมือนเดิม
 
 

โดย: Bananarumba วันที่: 11 ตุลาคม 2552 เวลา:4:30:29 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

rptperfect
 
Location :
Shanghai China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




นักเรียนนอก ทำงานไฟแรงอย่างดิฉันเมื่อ 15 ปีก่อน ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะมีวันที่ต้องมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว ...สามีเองก็เอ่ยปากเองแท้แท้ว่าไม่ชอบภรรยาที่อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ชอบผู้หญิงทำงาน
แต่...ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด เมื่อลูกคนแรกคลอดออก เราทั้งคู่ไม่ต้องคิดอะไรมากไปกว่า การได้ดุแลลูกด้วยตัวเอง

ตัดสินใจลาออกจากที่ทำงานโดยไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง ด้วยเงินเดือน 3 หมื่นบาท ใน 15 ปีก่อน ทิ้งทุกอย่างไว้ตรงนั้น ไม่รู้ซะด้วยซ้ำว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ถามสามีแค่ว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะเลี้ยงเรากับลูกไปได้ตลอดรอดฝั่ง

ถามไปอย่างนั้น ไม่ต้องการคำตอบ เพราะได้ตัดสินใจไปแล้ว

เพราะลูก คำเดียว

[Add rptperfect's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com