ซื้อ LTF เพื่อผลด้านภาษีและเพิ่มความเสี่ยง ชีวิตจะมีรสชาติ
ตอนต้นปี 2560 ที่เราได้รับโบนัสที่บริษัทให้มา 5 เดือน ที่ได้เล่าไว้ในนี้ xxxx..จากโบนัส ปี 2560 ทำให้ยอดรายรับทั้งปีของเรามีฐานการเสียภาษีสูงขึ้นมา ซึ่งหักอะไรหลาย ๆ อย่างก็คงยังไม่พอ คงจะยังเสียเยอะอยู่ ซึ่ง ณ ปัจจุบันตอนนี้เราเสียภาษี ณ ที่จ่ายไปแล้ว 5x,xxx บาท เราจึงต้องวางแผนเพื่อขอคืนภาษี ต้นปีหน้าที่กำลังจะมาถึงนี้ โดยเรากันเงินไว้ก้อนหนึ่งเพื่อมาซื้อกองทุน LTF ก็เริ่มหาข้อมูลมาตั้งแต่ต้นปี ว่าซื้อได้กี่ % . ซื้อกองแบบไหน LTF หรือ RMF ดี การยอมรับความเสี่ยงยังไง เลือกกองทุนฯที่นำเงินไปลงทุนแบบไหน มีการปันผลดีไหม ฯลฯ หาอ่านใน pantip บ้างว่าเค้าทำยังไงกัน แล้วเราก็ได้ไปติดต่อเปิดบัญชีกับ บล.โนมูระพัฒนสินเพื่อเป็นตัวกลางในการซื้อ เพราะสามารถซื้อได้หลาย ๆ กองใน บ/ช เดียว ทุกอย่างพวกนี่เกิดจาการหาข้อมูลในเน็ต และก็คัดเลือกกองทุนฯที่สนใจไว้ 3-4 กอง มาตัดสินใจ สุดท้ายเราจึงมาตัดสินใจซื้อกองนี้ CG-LTF (กองทุนเปิด บรรษัทภิบาล หุ้นระยะยาว) ของ UOB แบบไม่มีเงินปันผล เนื่องจากว่าดูผลงาน 5 ปี , 10 ปี หรือแม้ช่วงสั้นๆ 1-3 ปี ก็มีผลงานดีมาตลอดเลยนะ คงจะไม่แย่ลงเมื่อตอนที่เราไปถือหรอกนะ ..... ก็เพิ่งตัดสินใจ ซื้อไปเมื่อวานนี้ล่ะ (26 ธค.2560) จำนวน 100.000 บาท ตอนนั้นราคา NAV = 61.7 บาท ได้มา 1,620 หน่วย เสียดายมาก ตอนสัปดาห์ที่แล้วยังอยู่ประมาณ 55 บาทอยู่เลย ต้องซื้อให้ได้ก่อนสิ้นปี 2560 นี้ เพื่อว่าหมดปีก็จะนับไปได้อีก 1 ปี และต้องถือครอง 7 ปีปฎิทิน ดังนี้ - 26/12/2560 ปีที่ 1 ระยะเวลาหลังซื้อ 0 วัน - 1/01/2561 ปีที่ 2 ระยะเวลาหลังซื้อ 5 วัน - 1/01/2562 ปีที่ 3 ระยะเวลาหลังซื้อ 1 ปี 5 วัน - 1/01/2563 ปีที่ 4 ระยะเวลาหลังซื้อ 2 ปี 5 วัน - 1/01/2564 ปีที่ 5 ระยะเวลาหลังซื้อ 3 ปี 5 วัน - 1/01/2565 ปีที่ 6 ระยะเวลาหลังซื้อ 4 ปี 5 วัน - 1/01/2566 ปีที่ 7 ระยะเวลาหลังซื้อ 5 ปี 5 วัน จึงจะขายได้ (จะรู้สึกว่าเหมือนแค่ 5 ปีคือ 1/01/61 - 1/01/66)
ถึงจะขายได้โดยไม่กระทบกับภาษีที่ขอคืน
Create Date : 27 ธันวาคม 2560 |
Last Update : 16 มกราคม 2561 14:46:36 น. |
|
0 comments
|
Counter : 962 Pageviews. |
|
|