Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
22 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 

ย้อนมอง 30 ปี ของก้าวย่างการปฎิรูปจีน

     เติ้ง เสี่ยวผิง ผู้นำในการปฏิรูปจีนสู่ยุคใหม่ ภายใต้นโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศ ซึ่งแนวคิดนี้ยังคงเป็นแบบแผนในการปกครองและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศจีนจวบจนวันนี้ และในเดือนธันวาคมนี้ จะครบรอบ 30 ปีแห่งการเปิดประเทศและปฏิรูปประเทศจีน ทีมงาน "มุมจีน" ได้เสนอลำดับเหตุการณ์ มองย้อนการพัฒนา เปลี่ยนแปลงต่างๆจากนโยบายดังกล่าว

ปี 1966-1976-จีนตกอยู่ในสภาพวุ่นวายใหญ่ระหว่างการปฏิวัติวัฒนธรรมของผู้นำเหมา เจ๋อตง ที่ต้องการเปลี่ยนการเมืองและสังคมจีนอย่างถอนรากถอนโคน สู่สังคมเสมอภาคแบบยุคพระศรีอาริย์ เติ้ง เสี่ยวผิง เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกกวาดล้างทางการเมือง


ภาพเมื่อปี พ.ศ. 2517 (1974) ประธานเหมา เจ๋อตง(ซ้าย) ผู้นำการปฏิวัติสร้างจีนใหม่ กำลังจับมือกับผู้นำเติ้ง เสี่ยวผิง ผู้สืบทอดการนำนาวารัฐจีนต่อจากประธานเหมา


ธันวาคม ปี 1978 ภายหลังผู้นำเหมา เจ๋อตง อสัญกรรม เติ้ง เสี่ยวผิง ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำจีน และได้ประกาศนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจระบบตลาด ค่อยๆสลายระบบนารวมของเหมา เจ๋อตง ที่สร้างความเสียหาย โดยในที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ชุดที่ 11 เต็มคณะ ครั้งที่ 3 ได้รับผ่านร่างข้อเสนอนโยบายเปิดและปฏิรูปประเทศของเติ้ง เสี่ยวผิง

ปี 1979- 1980 คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ และคณะมุขมนตรี ได้ผ่านระเบียบว่าด้วยการก่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองเซินเจิ้น ในมณฑลกวางตุ้ง ทางภาคใต้ของจีนเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งแรก ต่อมา ก็ขยายเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นที่เมืองจูไห่, เซี่ยเหมิน และซ่านโถว(ซัวเถา) ระหว่างนั้น เซินเจิ้นเป็นจุดสาธิตทดลองนโยบายปฏิรูปของเติ้ง และดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติไหลเข้าสู่ประเทศ

1979- จีน-สหรัฐอเมริกา สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต, ดำเนินนโยบายลูกคนเดียว

1982- ประชากรจีน มีจำนวนเกิน 1,000 ล้านคน

ช่วงต้นทศวรรษ 1980 นับเป็นช่วงที่เศรษฐกิจในแผ่นดินจีนเริ่มเติบโต และยังกลายเป็นประเทศที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในช่วง 30 ปีให้หลัง ขณะเดียวกัน ก็สร้างผลข้างเคียงด้านลบ ได้แก่ เงินเฟ้อ คอรัปชั่น และความป่วยไข้ทางสังคมอื่นๆ


ชาวจีนยุคทศวรรษที่ 1980 กินข้าวปริมาณมาก กินกับแต่น้อย


1986- เติ้งผลักดันนโยบาย “เปิดประตู” เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ

1988- เงินเฟ้อควงสว่าน และคอรัปชั่น ทำให้จีนจำกัดยั้งกระแสเงิน และการลงทุนจากต่างประเทศ

เดือนเมษายน- เดือนมิถุนายน ปี 1989 มีชุมนุมการประท้วงของกลุ่มนักศึกษา และผู้เรียกร้องประชาธิปไตยซึ่งอยู่ในปลายยุคของผู้นำเติ้ง เสี่ยวผิง โดยกลุ่มนักศึกษามองว่านโยบายเปิดและปฏิรูปประเทศของเติ้ง ควรที่จะรวมถึงสิทธิเสรีภาพทางการเมืองด้วย แต่ทว่าเหตุการณ์ก็จบลงอย่างน่าเศร้าเมื่อทางการจีนปราบปรามผู้ประท้วงด้วยกำลังทหารอย่างนองเลือด

กลางทศวรรษ 1990 เริ่มปรับโครงสร้างหรือปิดรัฐวิสาหกิจที่ไม่มีประสิทธิภาพ หันมาใช้ระบบไม่ทำไม่มีกิน ส่งผลให้คนงานนับล้านคน สูญเสีย “ชามข้าวเหล็ก” จากระบบการจ้างงานตั้งแต่นอนเปลยันฝังศพ

พฤศจิกายน ปี 1990 ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (SSE) เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการอีกครั้ง นับตั้งแต่ปิดตลาดปิดตลาดไปในปี 1949 หลังจากพรรคคอมมิวนิสต์เข้ามามีอำนาจและบริหารประเทศ ในเดือนถัดมา ก็เปิดตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น

ปี 1992 ขณะที่กระแสวิพากษ์วิจารณ์นโยบายเปิดและปฏิรูปประเทศจากกลุ่มอนุรักษ์กำลังร้อนแรง เติ้ง เสี่ยวผิง วัย 88 ปี ได้เดินทางไปตรวจงานทางภาคใต้ อาทิเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น ,เขตเศรษฐกิจพิเศษจูไห่ และเซี่ยงไฮ้ ลั่นวาจายืนยันการปฏิรูป ด้วยคำพูดที่ทิ่มแทงหัวใจกลุ่มผู้นำคอมมิวนิสต์หัวเก่า ว่า “ความมั่นคั่งเป็นเกียรติภูมิ”

1994 จีนเชื่อมต่อกับโลกอินเทอร์เน็ต

1996 ค่าเงินจีน เหรินหมินปี้ หรือหยวน สามารถแลกเปลี่ยนกับสกุลเงินต่างประเทศ

กุมภาพันธ์ 1997- เติ้ง ถึงแก่อสัญกรรม เจียง เจ๋อหมิน ขึ้นครองอำนาจแทน

กรกฎาคม ปี 1997 เกาะฮ่องกงกลับคืนสู่อ้อมอกการปกครองจีนแผ่นดินใหญ่ หลังอยู่ภายใต้อาณานิคมของสหราชอาณาจักร มาตั้งแต่ปีค.ศ.1842 (สมัยราชวงศ์ชิง ค.ศ.1644-1911) หลังจีนพ่ายแพ้ในสงครามฝิ่น(ค.ศ.1840-1842) ตามสนธิสัญญานานกิง ที่ราชสำนักราชวงศ์ชิงทำกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรแห่งสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย

1998- จีนอัดฉีดเงิน 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้แก่ภาคธนาคารที่กำลังซวนเซ

1999- จีนประกาศห้ามกลุ่มลัทธิฝ่าหลุนกง เป็นลัทธินอกกฎหมาย

กรกฎาคม ปี 2001 จีนได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพในการจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ปักกิ่ง 2008

11 ธันวาคม ปี 2001 จีนได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอ


ปัญหาท้าทายจีนในการปฏิรูปยุคต่อไป คือช่องว่างในสังคมจีนนับวันยิ่งถ่างกว้าง ในภาพ :มุมหนึ่งในกรุงปักกิ่งระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปักกิ่ง-เอเอฟพี


2002-ผู้นำคอมมิวนิสต์ รับรอง “หลักทฤษฎีสามตัวแทน” ไฟเขียวให้กลุ่มผู้ประกอบการเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์”

2003- หู จิ่นเทา ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แทน เจียง เจ๋อหมิน , โรคทางเดินหายใจฉับพลัน หรือซาร์ส ระบาดในประเทศจีน และลุกลามไปยังประเทศต่างๆ สังหารผู้คน ราว 800 รายทั่วโลก,

จีนส่งปฏิบัติการอวกาศที่มีมนุษย์อวกาศไปด้วย ส่งให้จีนกลายเป็นจ้าวอวกาศชาติที่สาม รองจากสหรัฐอเมริกา และรัสเซีย

2004- สหประชาชาติ ประมาณว่า ชาวจีน 1 ล้านคน ติดเชื้อ เอชไอวี

2005- เศรษฐกิจจีนขยายใหญ่ เป็นอันดับสี่ของโลก, รัฐบาลยกเลิกการตรึงอัตราแลกเปลี่ยนหยวนกับดอลลาร์สหรัฐฯ ปล่อยให้ค่าเงินลอยตัวแบบมีการจัดการ

ธันวาคม ปี 2005 รัฐบาลจีนยกเลิกระบบตรึงอัตราแลกเปลี่ยนแบบตายตัว ระหว่างค่าเงินหยวนกับดอลลาร์สหรัฐฯ

กุมภาพันธ์ ปี 2006 ทุนสำรองสกุลเงินตราระหว่างประเทศของจีนสูงเป็นอับดับหนึ่งของโลก ด้วยมูลค่า 1.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ แซงหน้ามหาอำนาจเศรษฐกิจแห่งญี่ปุ่น


จีนใช้เวที โอลิมปิก ปักกิ่ง 2008 ประกาศจีนยุคใหม่ ทันสมัย มั่งคั่ง ผุดตึกที่มีการออกแบบล้ำสมัยนับสิบหลัง จนกลายเป็นสนามประลองฝีมือของสถาปนิกมือหนึ่งของโลก ในภาพ สนามกีฬาแห่งชาติ ที่มีชื่อตามแบบว่า “รังนก”


2006- เขื่อนสามโตรก หรือซันเสีย ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเส้นทางรถไฟสู่ทิเบต แล้วเสร็จในปีนี้ ทุนสำรองเงินตราสกุลเงินต่างประเทศ มากถึง 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำสถิติสูงที่สุดในโลก

2007-จีนมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดในโลก เท่ากับ 210 ล้านคน จีดีพีต่อหัวประชากร แตะระดับ 18,900 หยวน (2,760 เหรียญสหรัฐฯ)

พฤษภาคม 2008 แผ่นดินไหวเสฉวน สังหารคน ราว 70,000 คน

สิงหาคม ปี 2008 ผู้คนทั่วโลกจับตามองปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีนในฐานะเจ้าภาพโอลิมปิก ปักกิ่ง เกมส์ 2008


สุวิมล เชื้อชาญวงศ์: รายงาน

ขอขอบคุณ
ที่มา :
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 ธันวาคม 2551

H O M E




 

Create Date : 22 ธันวาคม 2551
0 comments
Last Update : 22 ธันวาคม 2551 21:13:33 น.
Counter : 1878 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.